บทนำ
“ปิดจ็อบไปได้อีกหนึ่ง เก่งมากทุกคน”
หญิงสาวที่นั่งเด่นเป็นสง่าประดับหัวโต๊ะ เอ่ยชื่นชมทีมงานทุกคนที่ร่วมมือกันอย่างดีตลอดเวลาหนึ่งเดือนที่ผ่านมา ดวงตาโตเฉี่ยวกวาดมองลูกน้องทุกคนที่อยู่ด้วยกันมาตั้งแต่บริษัทยังเป็นแค่บริษัทโนเนมไม่มีใครรู้จัก จวบจนปัจจุบันที่ถ้าใครนึกถึงบริษัทหาคู่ จะต้องนึกถึงที่นี่เป็นที่แรกด้วยความภาคภูมิใจ
“ไปฉลองกันมะ ชาบู ปิ้งย่าง เต้นจนเอวเคล็ดที่ผับ หรือนั่งชิลในบาร์ที่เปิดเพลงเพราะ ๆ ดี”
“เอ่อ.. คืองี้ค่ะพี่ลิษา”
น้องคนหนึ่งเอ่ยขึ้นอย่างลำบากใจ เธอชื่อน้ำตาล สาวอวบผู้มีหน้าที่หาโลเคชั่นออกเดทมือหนึ่งของบริษัท
“หืม มีอะไรจ๊ะน้ำตาล”
“คือ แฟนตาลเขาชวนไปกินข้าวน่ะค่ะ”
“แหมมมม พูดด้วยสีหน้าแบบนั้นพี่อิจฉานะ ว๊าา แบบนี้น้ำตาลก็อดไปฉลองกับพี่น่ะสิ"
อลิษาเย้าอย่างเป็นกันเอง จำได้ว่าปลายปีก่อนน้ำตาลยังโสดเป็นเพื่อนเธออยู่เลย เข้าปีใหม่ได้ไม่กี่วันก็สละโสดกับเพื่อนที่รู้จักกันมานานซะแล้ว
“ก็วันนี้มันวันวาเลนไทน์นี่คะ”
“เอ๊ะ!”
อลิษาชะงักไปอึดใจ บ่งบอกว่าเธอเพิ่งจะรู้ว่าวันนี้คือวันวาเลนไทน์ วันแห่งความรัก..
“วัน.. วันนี้วันวาเลนไทน์เหรอ?”
“ครับ นึกว่าพี่รู้ คุณต้นเขาวางแผนขอคุณแพรเป็นแฟนวันนี้นี่ครับ” เมศ ฝ่ายไอทีของบริษัทพูดขึ้นบ้าง
“พี่รู้แค่ว่าเป็นวันที่สิบสี่อะ..”
คำสารภาพของผู้บริหารบริษัทหาคู่ชื่อดัง ทำเอาน้อง ๆ ทั้งหกคนถอนหายใจออกมาอย่างปลงตก อลิษาน่ะเก่งเรื่องทำให้คนรักกัน แต่เรื่องความรักหรือความโรแมนติกของตัวเองติดลบสุด ๆ แค่วันวาเลนไทน์ยังจำไม่ได้
“นี่! กะ ก็งานมันเยอะนี่” อลิษารีบแก้ตัว ก่อนจะบ่นพึมพำเบา ๆ กับตัวเอง “ก็ว่า.. ทำไมมีตั้งสามคู่จะออกเดทกันวันนี้”
“พี่ลิษาทำงานหนักไปแล้วนะคะ ถึงกับลืมวันลืมคืนแบบนี้มันไม่ดีเลย จำได้แต่เรื่องงาน เรื่องอื่นพี่ลืมหมด” มะปราง ผู้ช่วยที่ทำสารพัดหน้าที่อดเตือนไม่ได้
ในหัวอลิษาเหมือนมีแต่งาน ยิ่งบริษัทเริ่มมีชื่อเสียง อลิษาก็ยิ่งทุ่มเทเวลาทั้งหมดให้กับงาน จนบางครั้งน้อง ๆ ก็อดเป็นห่วงไม่ได้
เพราะอลิษาไม่ได้เป็นแค่เจ้านาย แต่เธอเป็นเหมือนพี่สาวคนหนึ่ง
“นั่นสิคะ ตอนนี้บริษัทเราอยู่ตัวแล้ว พี่ลิษาควรมีเวลาให้ตัวเองบ้าง”
“หรือเปิดรับสมัครพนักงานเพิ่มก็ได้ เรามีกันน้อยไป อย่างวันนี้เราก็ต้องเลือกลูกค้าแค่คู่เดียวเพราะทีมงานไม่พอ ถ้าเรามีคนมาช่วยคงดูแลลูกค้าได้ทั่วถึง พี่ลิษาจะได้มีเวลาพักผ่อนด้วย”
ธุรกิจหาคู่ต่อให้เป็นบริษัทดังแค่ไหนก็ไม่ได้ยิ่งใหญ่อะไรมากมาย เพราะมันเป็นธุรกิจที่ค่อนข้างเฉพาะกลุ่ม บริษัทของอลิษานับว่าใหญ่โตมากแล้วในแวดวงเดียวกัน แต่ก็อย่างที่เห็น ทีมงานน้อยนิด ซื้อทาวน์โฮมสามชั้นทำออฟฟิศง่าย ๆ และรับงานได้จำกัด
ผู้บริหารสาวทนสายตาทั้งหกคู่ไม่ไหว สายตาของน้อง ๆ ไม่มีอะไรแอบแฝงนอกจากความรักและเป็นห่วง
อยู่ด้วยกัน สนิทกันเหมือนพี่น้องแท้ ๆ ไม่แปลกเลยที่อลิษาจะได้รับความห่วงเป็นใยมากขนาดนี้
“ก็ได้จ้ะ พี่จะรีบรับสมัครพนักงานเพิ่ม พี่ใช้งานพวกเรามากเกินไปจริง ๆ มีคนมาช่วยจะได้ไม่ทำงานหนักเกินไปเนอะ”
“ที่จริงพวกเราไม่ได้เหนื่อยมากขนาดนั้น แต่เป็นห่วงพี่ลิษามากกว่า อยากให้พี่พักบ้าง”
“ใช่ค่ะ พวกเราแค่อยากให้พี่พัก”
“ถ้าพี่ลิษาล้มป่วย พวกเราคงไม่สบายใจ”
“ขอบใจนะ” อลิษายิ้มรับ “ก็ดีเหมือนกัน พี่กำลังคิดเรื่องจะมีลูกพอดี”
“ลูก!?”
“อาฮะ”
อลิษาหมุนเก้าอี้ด้วยท่าทางงดงาม ยกยิ้มหวานที่คนสนิทเห็นแล้วรู้สึกขนลุกแจกจ่ายไปทั่ว
“พี่กำลังจะมีลูก”
“แล้วสามี? แฟน? คนรัก?”
“ไม่มีจ้ะ”
“ละ แล้ว..”
“พี่จะเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว หาซื้อสเปิร์มผู้ชายโพรไฟล์ดี ๆ ซักคนมาฉีดเข้ามดลูก เอ้อ.. เกือบลืมไปเลยว่าพรุ่งนี้พี่มีนัดปรึกษากับคุณหมอ หมอคนนี้คุณน้ำ ลูกค้าที่แต่งงานไปเมื่อสองปีก่อนแนะนำให้ คอนเฟิร์มว่าติดชัวร์”
“พี่ลิษา เอาจริงเหรอครับ”
อลิษาพยักหน้ารับอย่างมั่นใจ ไม่มีอะไรที่เธอจะมั่นใจไปมากกว่านี้แล้ว ริมฝีปากสีสดยกยิ้มหวาน แค่นึกถึงวันที่จะได้มีลูกเป็นของตัวเองก็รู้สึกมีความสุขขึ้นมาโดยไม่มีสาเหตุ
ลูกของเธอจะหน้าตาแบบไหนนะ แต่จะต้องน่ารักแน่ ๆ เพราะเธอสวย และเธอก็จะหาพ่อพันธุ์หล่อ ๆ อืม.. ต้องจมูกโด่งและตัวสูงด้วย เผื่อได้ลูกชายจะได้หล่อจนสาว ๆ ตามเป็นพรวน
ไม่มีใครกล้าขัดความฝันของอลิษา น้อง ๆ ทั้งหกคนได้แต่มองหน้ากันด้วยความเป็นห่วง
แฟนสักคนก็ไม่เคยมี แต่ประกาศกลางที่ประชุมว่าจะเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว นี่แหละ.. เจ้าของบริษัทหาคู่ชื่อดังอย่างอลิษา