เธอตัดสินใจบอกเลิกกับธามไททางไลน์ และไม่ได้รับโทรศัพท์จากเขาหรือไม่อ่านข้อความด้วยซ้ำไป ต่อให้ไม่มีเรื่องพี่เขย เธอก็เลิกกับเขาอยู่ดี แต่ที่คิดจะทำต่อไปคือหาที่อยู่ใหม่ เธอคงทำหน้าหนาอยู่ที่นี่ต่อไม่ได้แน่ อาจจะหางานพิเศษทำจะได้มีค่าที่พักของตัวเอง
“คิดอะไร”
“ปะ...เปล่าค่ะ”
“คิดถึงแฟนเหรอ” เขาถามยิ้มๆ มั่นใจว่ารสรักที่เขามอบให้ทำให้เธอสลัดไอ้แมงดาตัวนั้นได้แน่นอน
“เปล่าค่ะ” เธอส่ายหน้าไปมาหน้าตาตื่น
“กังวลเรื่องของเรา?” เขาถามแล้วกินข้าวต้มไปด้วย เหมือนพูดคุยเรื่องดินฟ้าอากาศไม่สำคัญอะไร แต่คำตอบที่ได้คือท่าทีกระอักกระอ่วน เขายิ้มและไม่คิดบอกความจริงให้เธอรู้
“เธอไม่พูด พี่ไม่พูด ไม่มีใครรู้หรอก”
“แต่ว่า...”
“หรืออยากเห็นพี่ทะเลาะกับคำรัก” เขาขู่และดูเหมือนจะได้ผลทำให้คำหวานยอมปิดปากเงียบ “เรื่องของพี่ไม่ต้องห่วงหรอก หวงเรื่องของตัวเองเถอะ”"
“เรื่องอะไรคะ”
“กับไอ้ธามไทนั้นไง” เขาเค้นเสียงพูดอย่างไม่พอใจนัก แสดงความหึงหวงออกมา
“ก็ไม่มีอะไรนี่คะ” เธอไม่ได้บอกว่ากดส่งข้อความบอกเลิกไป
“ไม่รู้หรือไงว่าตัวเองถูกหลอก”
“หลอกอะไรคะ พี่รบพูดเรื่องอะไรกัน” คำหวานเอียงคอมองอย่างแปลกใจ
“ไอ้หมอนั้นมันหลอกหวานอยู่นะ” เขาไม่อยากเชื่อเลยว่าน้องเมียจะใสซื่อได้ขนาดนี้ “ไม่เชื่อพี่เหรอ จะพาไปให้เห็นกับตาเลยดีไหม”
คำหวานไม่แน่ใจว่าพี่นักรบหมายถึงเรื่องอะไร เท่าที่คบกันถ้าไม่นับเรื่องที่ธามไทละเลยความรู้สึกเธอ เขาก็ไม่เคยหลอกเอาเงินหรือให้เธอไปทำอะไรไม่ดีเลยนี่ เธอเห็นสีหน้ามั่นใจของนักรบแล้วก็พยักหน้ารับ เธอก็อยากรู้เหมือนกันว่าธามไททำอะไรที่ไม่รู้บ้าง
นักรบหยิบชุดกระโปรงสีดำยาวเหนือเข่าให้คำหวานผลัดเปลี่ยน มันเป็นชุดเดรสสีดำแขนกุดที่ดูเรียบร้อยที่สุดเท่าที่คำหวานพอจะนึกออก เพราะชุดเที่ยวกลางคืนของพี่คำรักเซ็กซี่มากกว่านี้ ที่เธอรู้ว่าเธอเป็นคนซักรีดเสื้อผ้าให้คนในบ้าน
“ใส่ไปก่อน เอาไว้พี่ซื้อให้ใหม่” เขาพูดยิ้มๆ แล้วดึงมือเล็กมากุมไว้พลางพาเดินไปที่รถ ไม่ใช่ครั้งแรกที่ขึ้นรถของเขาแต่อาจเพราะเป็นครั้งแรกที่ได้ออกไปข้างนอกด้วยกันแบบนี้
คำหวานนั่งเงียบไปตลอดทาง เธอไม่รู้ว่าเขาจะพาเธอไปไหน ได้แต่เตรียมทำใจไว้ก่อน คนที่คบหากันก็อาจไม่ได้รู้จักกันทุกแง่มุม เหมือนที่เธอ...มีใจให้พี่เขย
รถเก๋งคันหรูไปสู่จุดหมายที่ผับแห่งหนึ่ง นักรบเปิดประตูให้คำหวานลงมา เขาเอื้อมมือไปดึงยางรัดผมออกปล่อยให้เส้นผมยาวสยายแล้วโอบไหล่หญิงสาวเข้าไปในผับ พนักงานต้อนรับยกมือไหว้ราวกับคุ้นเคยกับแขกที่มาใหม่ นักรบแค่พยักหน้ารับ เธอไม่ได้ยินว่าเขาพูดอะไร แต่พนักงานผายมือเชิญเข้าไปด้านใน ทั้งคู่เดินขึ้นบันไดเล็กๆ ที่พาไปสู่ชั้นสองเป็นห้องรับรองแบบVIP ด้านหนึ่งเป็นกระจกใสมองเห็นเหล่านักเที่ยวที่กำลังเต้นรำอยู่ด้านล่าง คำหวานไม่เคยมาเที่ยวแบบนี้ เพราะเธอไม่มีเงินและไม่ชอบเสียงดังจึงดูแตกตื่นอยู่บ้าน นักรบรอจนพนักงานนำเครื่องดื่มมาเสิร์ฟแล้วจึงเดินไปดึงคนตัวเล็กมานั่งบนโซฟาหนังสีแดงสดซึ่งสามารถมองเห็นด้านล่างได้ถนัดเต็มตา
“ไม่ต้องกลัว ข้างนอกมองไม่เห็นในนี้หรอก” เขายกเบียร์ขึ้นจ่อริมฝีปากสวย “ดื่มสิ”
“หวานดื่มไม่เป็นนะคะ” เธอพูดไปตามตรง
“อยากลองไหมล่ะ” เขาไม่บังคับ แต่ท่าทางอยากรู้อยากเห็นทำให้เขาหัวเราะแล้วให้เธอดื่มเบียร์จากแก้วของเขา
รสขมทำให้คำหวานเบ้หน้า เธอส่ายหน้าไปมาแล้วหันไปหยิบถั่วทอดขึ้นมากินแทน “พี่รบชอบมาเที่ยวแบบนี้เหรอคะ”
“เมื่อก่อนบ่อย” เขายอมรับ “ก็เจอคำรักที่แบบนี้แหละ”
คำหวานมองเขาอย่างแปลกใจ เธอไม่ค่อยรู้ชีวิตของพี่สาวเท่าไรนัก
“แล้ว...ให้หวานมาดูอะไรคะ”
นักรบหยิบมือถือขึ้นดูเวลาแล้วพยักหน้าให้มองไปที่ด้านนอก หญิงสาวโน้มตัวไปใกล้จนหน้าแทบชิดกระจก กวาดตามองไปทั่วๆ แรกทีเดียวก็ไม่เห็นมีอะไรผิดปกติ นักเที่ยวนักดื่มเต้นรำกันสนุกสนาน แต่ครู่ต่อมา เธอก็เห็นคนคุ้นตาเดินเข้ามาแล้วโอบกอดหญิงสาวคนหนึ่งท่าทางสนิทสนม
“ธาม...” เธอเรียกชื่ออดีตแฟนอย่างแปลกใจ เธอไม่เคยรู้ว่าธามไทเที่ยวกลางคืน จะว่าไปก็ไม่แปลกหรอกถ้าธามไทจะมาเที่ยวที่แบบนี้ แต่ที่สะดุดตาก็คือเขานัวเนียกับผู้หญิงอีกคนอยู่
หญิงสาวพูดไม่ออก เธอหันไปมองนักรบที่ยกเบียร์ขึ้นดื่มแล้วขยับตัวมาใกล้ โอบเอวของเธอไว้ ส่วนอีกมือลูบไล้หน้าขาของเธอเบาๆ แต่ทำให้ร่างกายหญิงสาวร้อนวูบวาบขึ้นมา เธอเหลือบมองไปทางประตูอย่างระแวงแล้วพยายามดันแขนของเขาออก แต่พี่เขยกลับหัวเราะชอบใจ จูบแก้มนุ่มเบาๆ
“ไม่มีใครเข้ามาหรอก ห้องVIP จะทำอะไรก็ได้” มือข้างนั้นเลื่อนเข้าไปแตะกลีบดอกไม้ของน้องเมีย “แยกขาให้พี่หน่อยสิครับ”
“ไม่เอาค่ะ” คำหวานส่ายหน้ารัวๆ “นี่ไม่ใช่ที่บ้านนะคะ”
“เปลี่ยนบรรยากาศบ้าง สนุกดีออก” เขายิ้มแล้วจูบต้นคอของหญิงสาว “ไอ้หมอนั้นไม่เคยสอนเหรอ”
คำหวานส่ายหน้าไปแล้วก็สะดุ้งเฮือกเมื่อนิ้วกลางเรียวยาวแทรกเข้าไปในร่องรัก ถึงปากจะปฏิเสธแต่ถูกกระตุกจุดอ่อนไหว ร่างกายก็อ่อนระทวยและเผลอครางออกมา
“พี่รบ...เบา..เบามือหน่อยค่ะ”
“ฮือ? เธอชอบแรงๆ ไม่ใช่เหรอ” เขาแสร้งทำเป็นไม่เข้าใจ เพิ่มนิ้วเป็นสองนิ้ว “พี่รู้ว่าเราชอบ”
“อือ...” คำหวานครางออกมา พยายามยื้อสติไม่ให้เตลิดไปเพราะเขา “พี่รบรู้เรื่องธามมาก่อนแล้วเหรอคะ”
“อืม...มันไม่ได้คบหวานคนเดียว...ก็รออยู่ว่าเมื่อไหร่หวานจะรู้ตัว” เขาตอบเอื้อมมือไปหยิบแก้วเบียร์ขึ้นดื่ม เขายังต้องขับรถกลับจึงไม่อยากเมามากไป นิ้วที่สอดเข้าไปในช่องรักชุ่มฉ่ำด้วยน้ำรัก
“หวานคงดูโง่มากสินะคะ” เธอพูดกระท่อนกระแท่น สะโพกส่ายไหวตามแรงเสียดเสียวที่ได้รับ “อ่าส์...สะ เสียวจัง”
“ซื่อจนไม่อยากคิดว่าเป็นน้องของคำรักต่างหาก”
เขาขบติ่งหูของเธอเล่นพลางแย่งลิ้นตวัดเลียใบหู เขารูดนิ้วเข้าออกช่องรักรัวๆ น้ำรักยิ่งหลั่งออกมาจนเยิ้มออกมาที่ปากถ้ำ
“ผับที่นี้รู้กันในหมู่นักเที่ยวนัดกันมามีเซ็กส์ พี่เองก็เจอคำรักที่นี่ เหมือนกับที่มาเจอไอ้หมอนั้นนั้นแหละ”