บทที่2 ผู้ชายน่ารังเกียจ

2857 Words
หนึ่งสัปดาห์ต่อมา น้ำกำลังนั่งเลื่อนดูข่าวสารผ่านหน้าเฟสบุคของตัวเองภายในร้านเสื้อผ้าของเข็มเพื่อนสนิท เลื่อนไปเลื่อนมาก็เจอข่าวของภูมิ เนื้อข่าวเขียนว่า "ไฮโซหนุ่มถูกแฟนสาวบอกเลิกไม่กี่วันก็ควงผู้หญิงไม่ซ้ำหน้า จัดปาร์ตี้มั่วเซ็กส์พริตตี้สาวสวยทุกคืนในผับชื่อดังของตัวเอง" เลื่อนลงมาถัดจากเนื้อข่าวก็มีรูปของภูมิกำลังโอบกอดผู้หญิงที่นั่งอยู่ข้างๆด้วยความสนิทสนมกัน พอน้ำเห็นอย่างนั้นก็รีบกดออกจากข่าวของชายหนุ่มทันที พร้อมกับยกมือขึ้นมาจับปากของตัวเอง เธอไม่น่าโชคร้ายเสียปากจูบกับผู้ชายเจ้าชู้มั่วผู้หญิงอย่างนั้น เธอไม่น่าเจอเขาตอนเมาเลยน้ำคิดในใจ "น้ำเธอเป็นอะไรทำไมทำหน้าเบื่อโลกอย่างนั้นล่ะ" เข็มถามขึ้น "เปล่าฉันแค่เซ็งๆนิดหน่อย" "แล้วที่มาหาฉันถึงที่ร้านมีอะไรหรือเปล่า" "ฉันจะชวนเธอไปทานข้าวเป็นเพื่อนสักหน่อยอ่ะ" "ได้สิ ไปกันเลยไหม" "อืม" ระหว่างที่นั่งทานข้าวไปในหัวของน้ำก็มีแต่ภาพตอนที่ภูมิปล้ำจูบเธอที่ผับในคืนนั้นอาการเหม่อลอยของน้ำ มันทำให้เข็มอดที่จะสงสัยเพื่อนไม่ได้ น้ำต้องมีเรื่องอะไรปิดบังเธออยู่แน่ๆ เข็มคิดในใจ "น้ำฉันถามจริงๆเถอะ เธอเป็นอะไรกันแน่ใจลอยๆชอบกล" "เปล่า ฉันขอถามอะไรเธอหน่อยสิ" "ถามมาสิ เรื่องอะไรล่ะ" "ถ้าบังเอิญเกิดอุบัติเหตุทำให้เธอจูบกับผู้ชายแปลกหน้าเธอจะทำยังไง" "อะไรเข้าสิงเธอ ถึงได้ถามอะไรแบบนี้"เข็มส่ายหน้า "ตอบมาเถอะน่า ฉันอยากรู้ว่าเธอจะทำยังไง" "จะให้ตอบยังไงดีล่ะ ผู้ชายแปลกหน้างั้นก็แสดงว่าต่างคนก็ต่างไม่รู้จักกันใช่ไหม" "ใช่ แต่ผู้ชายเป็นไฮโซมีข่าวกับผู้หญิงไม่ซ้ำหน้าตลอดเลยนะ มีแต่ฝ่ายหญิงที่รู้จักเขาแค่ฝ่ายเดียว" "เรื่องของเธอหรือเปล่าเนี่ยน้ำ เธอไปจูบกับใครเหรอ" "เปล่ามันแค่เรื่องสมมุติรีบตอบมาสิเสียเวลา" "ก็ได้ ถ้าเป็นฉัน ฉันไม่ทำอะไรหรอกต่างคนก็ต่างไม่รู้จักกัน อีกอย่างมันเป็นแค่อุบัติเหตุไม่มีใครตั้งใจสักหน่อย และคงจะไม่ซวยไปเจอผู้ชายคนนั้นอีกครั้งหรอกมั้ง ถึงเจอก็ทำเป็นไม่เคยเห็นหน้ากันเลยจะดีกว่า" เข็มตอบไปตามที่คิด "อืม มันก็จริงของเธอ ขอบใจนะเข็ม"น้ำยิ้มกว้าง "เธอจะขอบใจฉันทำไม แค่เรื่องสมมุติไม่ใช่เหรอ" "ก็ฉันเป็นคนถามเธอ ฉันจะขอบใจเธอมันแปลกตรงไหน" "อืม ไม่เป็นไรหรอกฉันเต็มใจตอบ ฉันรู้สึกว่าเธอจะจริงจังมากไปแล้วนะ" "เธออย่ามาสงสัยอะไรฉันเลย ไม่มีอะไรหรอกน่า" น้ำรีบกลบเกลื่อน หลังจากที่น้ำทานข้าวเสร็จก็ไปช้อปปิ้งกับเข็มต่อจากนั้นก็กลับคอนโดตัวเอง นั่งดูทีวีกับทานขนมไปเพลินๆ เพื่อฆ่าเวลาช่วงนี้ไม่ค่อยจะมีงานเข้ามาเลยเพราะเธอเป็นแค่ช่างภาพอิสระไม่มีสังกัดเธอรับงานด้วยตัวเองโดยตรงเท่านั้น แต่ลูกค้าที่คอยจ้างเธอก็เอ่ยปากชมกันหลายรายแล้วว่าภาพที่เธอถ่ายสวยถูกใจพวกเขาอยู่พอสมควร นอนเล่นไปสักพักเธอก็เผลอหลับไป ด้านภูมิกำลังเดินอยู่ในสนามบินเพราะว่าพึ่งมาถึงหลังจากที่ไปญี่ปุ่นมา แต่กลับระดุดตาเข้ากับผู้หญิงคนหนึ่งกำลังนั่งร้องไห้อยู่คนเดียว เขาจึงเดินเข้าไปหาพร้อมกับยื่นผ้าเช็ดหน้าให้ "รับไปสิครับ" "ขอบคุณค่ะ" รับมาเช็ดหน้าตัวเองทันที "ไม่ว่าคุณจะเจอเรื่องอะไรมา ผมหวังว่าคุณจะผ่านมันไปได้นะครับ"  "ขอบคุณค่ะ " "งั้นผมขอตัวก่อนนะครับ"  "ค่ะ"  พอพิมพ์รวบรวมความกล้าและสติขึ้นมาได้ ก็เดินลากกระเป๋าออกไปตรงหน้าสนามบินเพื่อจะโบกแท็กซี่กลับบ้าน แต่อยู่ๆ ก็มีผู้ชายสูงวัยคนหนึ่งเดินมาหยุดตรงหน้าเธอทำท่าเหมือนจะล้มลง พิมพ์จึงรีบเข้าประคองและพาไปนั่งพัก "คุณลุงหน้ามืดจะเป็นลมหรือเปล่าคะ"  "จ้ะหนู อยู่ๆลุงก็หน้ามืดขึ้นมา แต่ลุงไม่ได้เป็นอะไรแล้ว ขอบใจนะ" บรรพตเอ่ยขึ้น "ไม่เป็นไรค่ะ หนูเต็มใจ"  "หน้าหนูดูเศร้าๆ หมองๆ นะ มีอะไรให้ช่วยก็บอกได้นะ รับไปสิ" บรรพตยื่นนามบัตรให้พิมพ์ "เอ่อ ขอบคุณค่ะ" ยื่นมือไปรับนามบัตรมาเก็บไว้ "คุณท่านครับ เป็นอะไรหรือเปล่าครับ"คนขับรถวิ่งมาทางนายของตัวเอง "ฉันไม่เป็นไร แล้วลูกชายฉันล่ะ"  "ผมยังไม่เห็นเลยครับ" "งั้นหนูขอตัวกลับก่อนนะคะ สวัสดีค่ะ" พิมพ์ยกมือขึ้นไหว้บรรพตอย่างนอบน้อม "เดี๋ยวก่อนหนูอย่าพึ่งไป มาทำความรู้จักกับลูกชายลุงก่อน ว่าแต่หนูชื่ออะไรล่ะ" "ชื่อพิมพ์ค่ะ" "คุณภูมิเดินมาโน้นแล้วครับท่าน"คนขับรถเอ่ยขึ้น พิมพ์หันไปมองคนที่กำลังเดินเข้ามาทางเธอ แล้วก็ต้องเลิกคิ้วขึ้นเพราะเป็นคนเดียวกัน กับคนที่ยื่นกระดาษเช็ดหน้าให้เธอเมื่อกี้  "คุณพ่อเป็นอะไรหรือเปล่า" ภูมิถามขึ้น "พ่อหน้ามืดนิดหน่อย โชคดีที่ได้หนูพิมพ์เขาช่วยไว้" บรรพตหันไปมองหน้าพิมพ์ "คุณนั้นเองขอบคุณนะครับ ที่ช่วยคุณพ่อไว้"  "ไม่เป็นไรค่ะ"  "นี้ภูมิลูกชายของลุงเอง พึ่งกลับมาจากญี่ปุ่น"บรรพตแนะนำ "ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ " "ผมก็เช่นกันครับคุณพิมพ์"  "งั้นฉันขอตัวกลับก่อนนะคะ" "ผมหวังว่าเราจะได้พบกันอีกนะครับ" ภูมิมองหน้าพิมพ์ไม่วางตา "ค่ะ"  ภูมิประคองบรรพตพ่อของตัวเองขึ้นไปบนรถด้วยความเป็นห่วงกลัวความดันจะขึ้นสูงอีก ไม่รู้จะมารอรับเขาให้ลำบากทำไมอากาศก็ร้อน ระหว่างที่รถกำลังแล่นออกไปจากสนามบินบรรพตก็หันไปทางลูกชายคนเดียวของตนเองเพื่อถามเรื่องจินนี่ ที่ลูกชายเขาอุตส่าห์ตามไปเคลียร์ใจถึงที่โน้นเพื่อให้หายคาใจสาเหตุของการบอกเลิกสักที "ว่ายังไงตกลงแฟนเก่าแกเขาเลิกกับแกทำไม" "จินนี่ท้องครับ" พูดด้วยความผิดหวัง "โชคดีของแกแล้วที่ไม่ถูกจับให้เป็นพ่อของเด็ก"บรรพตส่ายหน้าแสดงว่าผู้หญิงไม่คิดที่จะจริงจังอะไรกับลูกชายของเขาตั้งแต่แรก ถึงได้ไปท้องกับผู้ชายอีกคนได้ "จริงๆจินนี่จะบอกความจริงกับผมตรงๆแล้ว แต่เธอกลัวผมเสียใจไปมากกว่านี้ก็เลยไม่ได้บอกว่าท้องกับคนอื่น" "ก็ดีแล้ว อย่างน้อยเขาก็บอกความจริงกับแก จะได้ตัดใจแล้วเริ่มต้นใหม่สักที หนูพิมพ์คนที่เจอที่สนามบินเมื่อกี้ก็ไม่เลวนะ ว่าไหม" "ใจคอคุณพ่อจะหาเมียให้ผมจริงๆเหรอ" "เออ ฉันจะหาให้แกฉันอยากจะอุ้มหลานเร็วๆแล้ว ไม่รู้ว่าฉันจะตายวันไหน" "โธ่! คุณพ่ออย่าเอาความตายมาพูดเล่นกันสิครับ" "ใครบอกว่าฉันพูดเล่นฉันพูดจริงๆ" ภูมิได้ยินอย่างนั้นก็เงียบกริบเขาไม่อยากจะตอบโต้กับพ่อตัวเองไปมากกว่านี้เดี๋ยวความดันจะขึ้นสูงอีก เขายังไม่อยากจะแต่งงานหรือสร้างครอบครัวกับใครทั้งนั้นแหละ พึ่งจะเลิกกับจินนี่จะให้เขาเปิดใจรับใครเลยมันคงจะยาก แต่ถ้าคบสนุกไปวันๆมันก็อีกเรื่องหนึ่ง เขาไม่คิดเลยว่าจินนี่จะแอบนอกกายนอกใจเขาไปมีความสัมพันธ์กับชายอื่นจนตั้งท้องขึ้นมาได้ พอกลับถึงบ้านภูมิก็เอาแต่หมกตัวอยู่แต่ในห้องพร้อมกับขวดเหล้าดื่มย้อมใจตัวเอง จินนี่ทำให้เขากลัวเรื่องความรักไปเลย ทำให้เขาไม่กล้าจะมอบหัวใจให้ใครอีก หรือว่าผู้หญิงจะชอบคนเลวๆ ได้ต่อไปนี้เขาจะเลวให้มันสุดๆไปเลย โดยเฉพาะกับผู้หญิงทุกคน ภูมิยกยิ้มมุมปาก กระดกแก้วเหล้าลงคอรวดเดียว ช่วงเย็นของวันเสียงกริ่งหน้าคอนโดน้ำดังขึ้นเธอจึงรีบออกมาเปิดประตู พอเห็นว่าเป็นพิมพ์เธอก็แอบแปลกใจเล็กน้อยเพราะตั้งแต่เรียนจบพิมพ์ก็หายหน้าไปเลย "อ้าว! พิมพ์เข้ามาก่อนสิ" น้ำเพื่อนสมัยเรียนเอ่ยขึ้น พิมพ์ลากกระเป๋าเข้าไปในห้องแล้วนั่งลงบนโซฟา น้ำจึงนั่งลงข้างๆแอบสงสัยที่อยู่ๆ พิมพ์ก็โผล่มาทั้งๆที่หลังจากเรียนจบก็ไม่เคยติดต่อกับเธออีกเลย "พิมพ์มีเรื่องอะไรหรือเปล่า ทำไมจะมาไม่โทรมาบอกกันก่อน"  "คือฉันมีเรื่องจะขอให้เธอช่วยหน่อย" "เรื่องอะไรเหรอ" "คือฉันอยากจะไปไกลๆจากที่นี้ แล้วก็อยากทำงานด้วย" "ทำไมล่ะ งานแถวนี้ก็มีเยอะแยะ เธอมีปัญหาอะไรก็บอกฉันได้นะ"  "เปล่า ฉันแค่ไม่อยากจะอยู่ที่นี้อีกแล้ว" "ก็ได้ฉันจะช่วย ว่าแต่เธอหายไปไหนมาตั้งหลายเดือนไม่ติดต่อมาหาฉันบ้างเลย อยู่ๆก็โผล่มาวันนี้"  "คือฉันไปทำงานต่างประเทศมาน่ะ เพิ่งจะกลับมาวันนี้เอง"  "จริงเหรอ แล้วทำไมไม่บอกไม่กล่าวกันบ้างเลย"  "คือมันกระทันหันฉันก็เลยไม่ได้บอกใคร"  "แล้วงานที่โน้นเงินเดือนน้อยเหรอ เธอถึงได้กลับมา" น้ำถามด้วยความสงสัย "เปล่าหรอก ฉันแค่อยากจะกลับมาหางานทำที่นี้บ้าง"  "งั้นเหรอ เธอจบภาษามา งั้นก็ทำงานโรงแรมก็แล้วกัน ฉันจะโทรถามลุงให้" น้ำพูดพลางหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรออก น้ำคุยโทรศัพท์กับลุงสักพักก็วางสาย "มีตำแหน่งพนักงานต้อนรับโรงแรมทางภาคใต้สนใจไหม" น้ำนั่งลงข้างพิมพ์ "สนใจสิ จะงานอะไรฉันก็ทำได้หมดแหละตอนนี้" "ส่วนที่พักเธอต้องหาเองนะ" "ได้สิ พรุ่งนี้เช้าฉันจะไปเอง แต่คืนนี้ฉันขอค้างกับเธอก่อนได้ไหม"  "ได้สิ ตามสบายเลย"  "ขอบใจนะ ที่ช่วยฉัน" พิมพ์หันไปส่งยิ้มให้น้ำเป็นการขอบคุณ "แล้วพ่อแม่เธอล่ะ ว่ายังไง เธอมาหาฉันท่านรู้เรื่องหรือเปล่า" "คือฉันไม่ได้บอกใครทั้งแหละ เธอไม่ต้องบอกใครนะ ว่าฉันมาหาเธอ" "ทำไมล่ะ เธอมีเรื่องอะไรจะต้องปกปิดอย่างนั้นเหรอ"  "เปล่า ฉันแค่อยากจะอยู่คนเดียวสักพัก" "มีอะไรไม่สบายใจระบายให้ฉันฟังได้ทุกเรื่องนะ ฉันไม่บอกใครหรอก" น้ำยื่นมือไปจับกุมมือพิมพ์ให้กำลังใจ "ฉันรู้ว่าเธอไว้ใจได้ แต่ฉันขอเก็บไว้คนเดียวดีกว่า" "ก็ได้ เอาที่เธอสบายใจก็แล้วกัน" น้ำส่ายหน้าให้พิมพ์ วันต่อมา หลังจากที่พิมพ์ออกจากคอนโดไป น้ำก็ไปเข้าฟิตเนสที่อยู่ใกล้ๆคอนโดของเธอ โดยวันนี้เธอสวมใส่ชุดออกกำลังกายเหมือนกับผู้หญิงทั่วๆไป โชว์ช่วงเอวเล็กน้อย กำลังวิ่งอยู่บนลู่วิ่งไม่กี่นาที ก็มีสายเข้ามาเธอจึงหยุดวิ่งและรับสายทันที "ฮัลโหลค่ะ พี่นุช" "ว่างไหมช่วงนี้" "ว่างคะ มีงานใช่ไหมคะ" น้ำยิ้มกว้าง "ใช่จ้ะ พอดีมีงานถ่ายโฆษณาน้ำหอมสนใจจะมาเป็นตากล้องให้พี่ไหม " "สนใจคะ ว่าแต่มีทีมงานกี่คนคะ" "ก็ประมาณสี่ห้าคนเนี่ยแหละ" "โอเคน้ำรับงานนี้ค่ะ " "งั้นเจอกันพรุ่งนี้เช้านะจ้ะ ที่สตู" "ค่ะ" หลังจากที่น้ำออกกำลังกายเสร็จก็ตรงกลับคอนโดจากนั้นก็ไปเดินช้อปปิ้งต่อ กำลังนั่งทานไอศกรีมไปเพลินๆ โดยที่เธอนั่งหันหน้าออกมานอกร้านผ่านกระจกใส พร้อมกับทานไอศกรีมไปด้วย แต่ต้องสะดุดตาเข้ากับภูมิที่เดินควงแขนแพทผ่านหน้าเธอไป จากที่อารมณ์ดีๆ อยู่ ก็เปลี่ยนไปทันที ความโกรธเคืองผู้ชายที่ปล้ำจูบเธอในคืนนั้นยังคงฝังใจอยู่ไม่เคยเลือนหายไป ร่างบางรีบลุกขึ้นเดินออกจากร้านตรงไปยังห้องน้ำ ก็ยังไม่วายมาเจอคนทั้งคู่กำลังยืนอยู่ตรงหน้าห้องน้ำอีก เธอจึงรีบก้มหน้าก้มตาเดินผ่านคนทั้งคู่เข้าไปในห้องน้ำ เธอไม่รู้ทำไมจะต้องมาบังเอิญเจอเขาอีก คงมีแต่เธอสินะที่จำเขาได้ ส่วนเขาจำหน้าเธอไม่ได้ด้วยซ้ำ หลังจากที่น้ำออกมาจากห้องน้ำก็ตรงไปหาเข็มเพื่อนสนิทที่ร้านเสื้อผ้า พอไปถึงก็เจอคริสเพื่อนสนิทของภูมิกำลังควงผู้หญิงหน้าตาสะสวยคนหนึ่งมาเดินเลือกซื้อเสื้อผ้าในร้านของเข็มอยู่ โดยมีเข็มคอยบริการอยู่ห่างๆ น้ำจึงเดินตรงเข้าไปหาเพื่อนทันที "เข็มวันนี้ลูกค้าเยอะไหม" "อืม ก็มีเรื่อยๆ แหละ" "ว่าแต่นั้นมันคุณคริสเพื่อนคุณภูมิใช่ไหม" น้ำถามขึ้น "ใช่ คนอะไรหล่อวัวตายควายล้ม แถมยังเป็นลูกครึ่งอีก" เข็มยิ้มกว้าง "เข็มเธออย่าบอกนะ ว่าเธอชอบเขา" "เปล่าสักหน่อย " "ไม่ชอบก็ดี เธอก็รู้ว่าเขาเจ้าชู้จะตาย" "ฉันรู้แล้วน่า" คริสพาเด็กที่ควงมาชั่วคราวเลือกเสื้อผ้าเสร็จก็ตรงไปยังเคาร์เตอร์เพื่อจ่ายเงิน โดยเข็มเป็นคนรับหน้าที่ทั้งหมด ระหว่างที่เข็มกำลังจัดพับเสื้อผ้าใส่ในถุง คริสก็ลอบมองใบหน้าเนียนไม่วางตา เพราะเธอสวมใส่ชุดเดรสเกาะอกสีครีมรัดรูป เผยให้เห็นเนินอกอวบอิ่มและผิวขาวเนียนชวนมองยิ่งนัก เขากำลังคิดหาคำพูดที่จะคุยกับผู้หญิงตรงหน้าอยู่ในหัว "เสื้อผ้าร้านนี้สวยดีนะครับ ผมชักอยากจะเห็นหน้าคนออกแบบแล้วสิ" คริสเอ่ยขึ้น "ฉันเป็นคนออกแบบเองค่ะ" เข็มเงยหน้าขึ้นมองคริสตรงๆ "จริงเหรอครับ อย่าบอกนะว่าคุณเป็นเจ้าของร้านด้วย" "ใช่แล้วค่ะ ฉันเป็นเจ้าของร้านเอง" เข็มส่งยิ้มบางๆให้คริส "สงสัยผมคงต้องมาบ่อยๆแล้วล่ะ เจ้าของร้านมาบริการด้วยตัวเองขนาดนี้" "ยินดีค่ะ" "เสร็จหรือยังคะ จะได้กลับสักที" หญิงสาวที่ยืนกอดแขนแกร่งของคริสเริ่มแสดงอาการไม่พอใจ "เสร็จพอดีเลยค่ะ" เข็มยื่นถุงใส่เสื้อผ้าไปตรงหน้าชายหญิงทั้งสองคน "ขอบคุณครับ ไว้ผมจะมาใหม่ก็แล้วกัน" คริสพูดพลางมองเข็มตาเป็นมัน แล้วเดินควงหญิงสาวข้างกายเดินออกจากร้านไป "เข็มเธออย่าไปหลงกลผู้ชายคนนั้นนะ ฉันดูออกว่าเขามองเธอเป็นแค่เหยื่อตัวหนึ่งเท่านั้น" น้ำเอ่ยเตือนเพื่อน "ใครกันแน่ที่จะเป็นเหยื่อ ฉันรู้น่าว่าควรจะรับมือยังไง" เข็มยกยิ้มมุมปาก "ขอให้มันจริงเถอะ เธออย่าพลาดตกเป็นเหยื่ออย่างที่พูดก็แล้วกัน" "แต่บางทีฉันก็อยากจะเป็นเหยื่อก็ได้นะ" "อย่าเด็ดขาดเลยนะเข็ม" "ฉันล้อเล่นน่า เธออย่าคิดมากสิน้ำ" "ฉันก็แค่เป็นห่วงเธอ เพราะคุณคริสไม่น่าไว้ใจเลย" "จ้ะ ขอบใจนะ" เข็มส่งยิ้มให้น้ำ ทางด้านคริสระหว่างทางที่เดินกลับมาที่รถหรูก็สลัดแขนแกร่งออกจากมือหญิงสาวที่เขาควงมาทันทีด้วยความไม่พอใจที่เธอคิดจะเป็นเจ้าข้าวเจ้าของในตัวเขาจนเก็บอาการไม่อยู่ "คุณคริสเป็นอะไรคะ" "อย่ามาแสดงท่าทางเป็นเจ้าของในตัวฉันอีก ที่เธอได้มายืนอยู่ข้างๆ ตัวฉัน ก็เพราะเงินที่ฉันจ่ายเป็นค่าตัวของเธอเท่านั้น พอหมดเวลาเธอก็หมดหน้าที่ไม่มีสิทธิ์ในตัวฉันจำไว้" "ค่ะ" "ฉันหวังว่าเงินที่ฉันจ่ายกับเสื้อผ้าที่ซื้อมามันจะพอค่าตัวของเธอเมื่อคืนที่ผ่านมานะ" "ค่ะ" "หมดหน้าที่ของเธอแล้ว ขึ้นแท็กซี่กลับเองก็แล้วกัน" คริสพูดจบก็เดินขึ้นรถคันหรูแล้วขับออกไปจากลานจอดทันที หญิงสาวที่ขายเรือนร่างไปวันๆ ได้แต่ยืนมองรถหรูที่แล่นออกไปตาระห้อยเท่านั้น อาชีพอย่างเธอคงไม่มีใครเขาอยากแต่งงานหรือต้องการให้เป็นแม่ของลูกได้หรอก ยิ่งคนอย่างคริสโตเฟอร์ยิ่งแล้วใหญ่คนระดับเขาก็ต้องคู่ควรกับผู้หญิงที่มีระดับเดียวกันกับเขาเท่านั้นที่จะได้ครอบครองหัวใจของเขา ส่วนผู้หญิงอย่างพวกเธอเป็นได้แค่คู่นอนเท่านั้น
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD