ในส่วนของ *เล่มหลัก*
คำโปรย...
อามันต์ยังคงท่องเที่ยวไปตามหมู่บ้านต่างๆ อย่างไม่คิดหยุดพัก ความสุขของเขานอกจากดูแลสัตว์น้อยใหญ่ในป่าดงดิบ เรือนร่างของหญิงสาวทั้งหลายแหล่นี่แหละคือสิ่งเดียวที่เขายังคงปรารถนา อย่างไม่จบสิ้น หรืออาจจนกระทั่งลมหายใจสุดท้ายของเขานั่นแหละ...
----------------------------
พบกับเรื่องราวน่าตื่นเต้น เร้าใจ ของเจ้าป่าหนุ่มนามว่าอามันต์ แห่งป่าอาถรรพ์ กับเรื่องราววุ่นวายทั้ง 18 Ep กับบรรดาสาวๆ ของเขา หลากหลายอารมณ์ หลากหลายเหตุการณ์ ที่จะพาท่านผู้อ่านท่องเที่ยวไปกับเจ้าป่าหนุ่มผู้นี้ด้วยความสนุกสนาน...
Ep1 – สาวน้อยจันดา Ep10 – นางสาวมุตา
Ep2 – ดาหลาหลงไพร Ep11 – เดือนแก้ว
Ep3 – ไอราทาร์ซานสาว Ep12 – เวียงดาว
Ep4 – ธารายอดเสน่หา Ep13 – มะลิดอกงาม
Ep5 – ช่อม่วง นางผู้มากับสายหมอก Ep14 – นางแมงมุมป่า
Ep6 – มณีจันทร์ผลัดถิ่น Ep15 – อยามีเมียข้า
Ep7 – เอื้องคำนางในฝัน Ep16 – ดาวฉายแห่งยาคี
Ep8 – ความลับในป่าใหญ่ Ep17- ศรีจันทร์
Ep9 – ภูมิสาวแห่งรัติกาล Ep18 – ดวงฤทัย
(นิยายจบในตอน)
------------------------------------------------------------
นางละแวงน้อย
อากาศยามเช้าในเขตพื้นป่าดงดิบค่อนข้างจะหนาวเหน็บเอาการ สัตว์ป่าน้อยใหญ่ต่างพากันเคลื่อนตัวออกจากแหล่งกบดานเพื่อออกหาแหล่งอาหาร กลิ่นดิน กลิ่นเน่าอับจากซากใบไม้หลุดร่วงสะสมอยู่บนพื้น ลอยอบอวลไปทั่วทั้งผืนป่าซึ่งยังคงไว้ถึงความเขียวขจีและความอุดมสมบูรณ์ ...
ที่เป็นเช่นนั้นเพราะป่าดงดิบแห่งนี้มีเจ้าป่าหนุ่มที่ชื่อ อามันต์ เป็นผู้ปกป้อง คุ้มครอง สัตว์น้อยใหญ่ล้วนตกอยู่ใต้อาณัติของชายหนุ่มนามนี้แต่เพียงผู้เดียวมาช้านาน รวมทั้งภูตผีวิญญาณร้าย ต่างก็ไม่อาจหาญต่อกรกับเจ้าป่าหนุ่มผู้นี้ได้เลย พวกมันต่างรู้ดีถึงอำนาจลึกลับในตัวหนุ่มเจ้าแห่งป่าร้ายแรงเพียงใด
“อา...เช้าแล้วหรือนี่...”
เจ้าแห่งป่าหนุ่มฉกรรจ์ผู้มีใบหน้าคมคร้ามหล่อเหลาราวเทพบุตรบ่นเสียงงึมงำในลำคอ เขางัวเงียลืมตาตื่นในขณะข้างกายเขายังมีสาวงามนอนทอดกายเหนื่อยล้าซึ่งมีผลมาจากอาการอ่อนเพลีย
บนเรือนร่างขาวลออปรากฏร่องรอยแดงเป็นจ้ำ ปลายจะงอยสีหวานยังคงชุ่มฉ่ำด้วยน้ำลายเหนียวหนืด ตรงบริเวณกึ่งกลางกลีบสาวเองก็บวมช้ำ สองกลีบแบะอ้ายังหลงเหลือลาวาขาวขุ่นไหลซึมอยู่เลย คงเป็นตอนนอนกระมัง เจ้าป่าหนุ่มที่อดใจไว้ไม่ไหวคอยไล้ปลายนิ้ววนเวียนไปทั่วเกสรบวมช้ำ
อามันต์บิดตัวอย่างเกียจคร้าน เขายันตัวลุกขึ้นนั่งโดยปล่อยให้ผ้าห่มผืนบางหลุดร่วงไปกองไว้ใต้เอวสอบ อวดกล้ามหน้าท้องแข็งโป๊กขึ้นเป็นลอนสวยงาม เขาก้มหน้าพลางยกมือทุบลงบนต้นคอแกร่งให้คลายอาการเมื่อยล้า
เมื่อคืนเขาดันโหมกำลังลงมือจัดการกลืนกินแม่สาวงามช่างยั่วตะกละตะกลามมูมมามไปสักหน่อย
ก็แหม่นะ...ของสด ของใหม่ ใครเขาค่อยๆกลืนเข้าท้องกัน มีแต่จะฉีกเนื้อกินกันซะมากกว่า
-------------------------------------------
เรื่องราวมันเริ่มต้นขึ้นตั้งแต่เขากำลังนั่งชมแสงจันทร์ท่ามกลางแมกไม้ไหวสะบัดไปตามแรงลมพัดเอื่อยเฉื่อย ปลายจมูกโด่งสูดดมกลิ่นหอมของดอกไม้ป่าอย่างเพลิดเพลินอุรา แต่แล้วจู่ๆหูของอามันต์พลันได้ยินเสียงการเคลื่อนไหวบางอย่างไม่ห่างจากระเบียงกระท่อม
น้ำหนักเท้าบ่งชี้ว่าการเคลื่อนไหวนั้นหาใช่สัตว์ร้ายแต่อย่างใด ต้องเป็นมนุษย์หรือไม่ก็ภูตสาวสักตน มาเยี่ยมเยียนเขาในเวลาเช่นนี้ชายหนุ่มพอจะเดาออกได้ไม่ยาก มนุษย์หรืออมนุษย์ตนนั้นปรารถนาสิ่งใดจากตัวเขา
อามันต์จึงรีบเคลื่อนย้ายตัวมายังระเบียง มือเท้าลงบนขอบไม้ เพ่งสายตาดุกร้าวไปยังทิศทางของเสียงเคลื่อนไหว
‘กลิ่นอะไร ทำไมถึงหอมแปลกๆเช่นนี้...’
อามันต์ยังไม่เห็นว่าเป็นผู้ใด มีเพียงปลายจมูกโด่งที่ได้กลิ่นหอมแปลกประหลาด กลิ่นนั้นเป็นตัวเร่งเร้าให้สองเท้าเจ้าป่าหนุ่มก้าวพรวดลงจากกระท่อมไม้ ตรงไปยังต้นสักป่าสูงตระหง่านต้นหนึ่งซึ่งใกล้กับสายตาอามันต์มากที่สุด ยิ่งเดินเข้าใกล้ต้นไม้นั่นมากขึ้นเท่าใด กลิ่นหอมแปลกประหลาดยิ่งทำให้หัวใจเจ้าป่าหนุ่มเต้นระรัว
และแล้วอามันต์ก็เจอที่มาของกลิ่นหอม ดวงตาเขาหรี่แคบมองสิ่งนั้นด้วยอาการหวั่นไหวอย่างไม่เคยรู้สึกมาก่อน
‘เอ็งเป็นผู้ใดกันถึงได้มายืนหลบซ่อนอยู่หลังต้นไม้ ต้นนี้’
หลังต้นไม้ใหญ่อายุนับร้อยปี ปรากฏร่างสาวงามรูปร่างอรชรอ้อนแอ้น ซึ่งมีใบหน้างดงามราวกับนางฟ้านางสวรรค์ เจ้าหล่อนยืนกระมิดกระเมี้ยนเขินอายต่อสายตาหื่นกระหายของชายที่ตนหมายมั่นเพียงต้องการมาสมสู่ เพราะได้ยินคำเล่าลือจากพวกพ้องถึงความเก่งฉกาจ
‘เอ้า!ว่าอย่างไรเล่า เอ็งมีธุระสำคัญอะไรถึงได้มาเยือนถึงกระท่อมกลางป่าของข้าเอาซะดึกดื่นปานนี้? ว่าแต่...มาถึงแล้วไยเอ็งถึงไม่ขึ้นไปหาข้าบนกระท่อมนั่นล่ะ มายืนทำลับๆล่อๆ ซ่อนตัวอยู่ตรงนี้จะให้ข้าเข้าใจว่าอย่างไรดี?’ เจ้าป่าหยั่งเชิงถามโดยไม่นึกเกรงกลัวต่อสาวงามลึกลับตรงหน้าสักนิด
ส่วนคนถูกถามยืนกระสับกระส่าย ไม่กล้าสบตาเอาแต่ยืนก้มหน้างุด
‘หรือเอ็งมีจุดประสงค์ไม่ดีต่อข้า...’
‘เปล่าจ้ะเปล่า...ฉันมาดี ไม่ได้มาร้าย...ฉันมีชื่อว่าละแวงจ้ะ เดินทางมาจากป่าทางฝั่งเหนือ...’ ป่าทางฝั่งเหนือแฝงเร้นไปด้วยเรื่องเหนือธรรมชาติ
อามันต์เดินเข้าหานางละแวงน้อย กวาดสายตาหื่นกระหายจับจ้องเรือนร่างอรชรบอบบางด้วยความรู้สึกพึงพอใจ
‘ชื่อไพเราะ ช่างเหมาะสมกับตัวเอ็งเสียจริง ไหนเอ็งลองขยับเข้ามาใกล้ๆ มาให้ข้าดูใบหน้าเอ็งให้ชัดๆสักหน่อยสิ ที่บอกว่ามาดีน่ะ มาดีอย่างไร?’
ละแวงน้อยก้าวเท้าเดินหน้าเข้ามาใกล้ชายผู้ที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นเจ้าแห่งป่าอาถรรพ์อย่างกล้าๆกลัวๆ ต่อให้คราแรกเธอจะทำเป็นอาจหาญ กล้าบุกมาหาเขาถึงที่ป่าแห่งนี้เพียงลำพัง พอเอาเข้าจริงด้วยประสบการณ์อ่อนด้อย ยังน้อยปีกับการออกสู่โลกกว้าง ละแวงน้อยจึงยังอดรู้สึกหวาดหวั่นขึ้นมาครามครันไม่ได้
ชายหนุ่มผู้ได้ขึ้นชื่อลือชาถึงความอาจหาญ ยื่นปลายนิ้วยาวเชยปลายคางมนขึ้นสูง ใช้สายตาเจ้าเล่ห์กวาดมองด้วยความรู้สึกชื่นชมในความงดงาม ไหนจะกลิ่นกายหอมแปลกประหลาดนี่อีก เป็นกลิ่นที่เขาไม่เคยสัมผัสมาก่อน
ตัวกลิ่นช่วยเร่งเร้ากำหนัดในตัวเขาให้รุกกระพือรุนแรง
คงเป็นกลิ่นหอมจากผสมสมุนไพรบางตัวกระมัง อาการภายในกายเขาถึงได้รู้สึกกระสับกระส่ายพิกล อีกทั้งเขายังเคยได้ยินเสียงเล่าลือถึงป่าทางฝั่งเหนือมักนิยมปลูกสมุนไพรเสริมกำลังวังชา
‘ละแวงอยากมารับใช้นายจ้ะ พี่ๆของละแวงบอกว่า นายใจดี...’
‘ข้านี่นะใจดี?...’ อามันต์ย้อนถาม ใบหน้าพึงพอใจไม่น้อย จะว่าไปโดยส่วนมากเขาก็ใจดีกับบรรดาสาวๆทุกคนนั่นแหละ
‘ว่าแต่เอ็งจะมารับใช้ข้าอย่างไร! พี่สาวเอ็งได้บอกไว้หรือไม่?...’
‘บอกจ้ะ...’ พี่สาวในฝูงบอกให้เธอใช้เรือนร่างปรนเปรอความสุข
‘แล้วนางพวกนั้นบอกละเอียดหรือไม่...วิธีการรับใช้ข้าต้องทำอย่างไร?’
‘บอกจ้ะ...ละแวงต้องทำให้นายท่านมีความสุขด้วยเรือนร่าง’
อามันต์ยิ้มพอใจ รั้งร่างงามขาวอวบอัดเข้ามาสวมกอด แนบลำตัวเข้าหาอย่างสนิทชิดเชื้อ แสดงความปรารถนาร้อนแรงโดยผ่านทางกึ่งกลางลำตัวที่กำลังโปร่งพองขึ้นตามแรงกำหนัดรุกเร้า
‘ดีมาก...ไม่เพียงแต่ข้าจะมีความสุข เอ็งก็มีความสุขร่วมไปกับข้าด้วย’
‘อุ๊ย!...นายท่าน...’
ละแวงมีอาการสะดุ้งเล็กน้อยไม่คิดว่าจะถูกเจ้าแห่งป่าหนุ่มจู่โจมรวดเร็ว ผิวสาวร้อนผะผ่าวเมื่อรู้สึกถึงท่อนใหญ่กึ่งกลางลำตัวของเขาทิ่มเข้าหา
ละแวงตัวน้อยเงยหน้าขึ้นมองเขาด้วยแววตาตื่นตระหนก ก่อนจะระงับไว้ด้วยใบหน้าใส่ซื่อราวกับน้ำค้างคืนแรม
‘ละแวงมาจากแดนไกล ปรารถนาให้นายท่านช่วยเอ็นดูด้วยนะจ๊ะ’
ใบหน้างามซบลงบนหน้าอกแกร่งเพื่อต้องการฝากเนื้อฝากตัว
อามันต์ยกมือขึ้นลูบแผ่นหลังเนียน ถือเป็นการตอบรับคำขอโดยไม่ต้องคิดมาก ยังไงเขาก็เอ็นดูพวกสาวๆมากกว่าพวกไอ้ลิงป่าทั้งหลาย ไอ้พวกนั้นมีแต่จะสร้างเรื่องให้เขาปวดหัว
‘เอ็งกลัวข้าหรือไม่ละแวง?...’
เสียงแหบพร่าสั่นกระเส่าเอ่ยถาม โดยมือไม้หยาบกระด้างเริ่มจะไต่ตามสัมผัสไปบนผิวกายเรียบลื่น บางจังหวะมีการหยุดเคล้นคลึงหมุนวนไปตามส่วนเว้าส่วนโค้งอันน่าพึงใจ หรือยามเขารู้สึกดีก็จะหยุดหยอกเย้าใช้เวลาอยู่ตรงส่วนนั้นนานอยู่สักหน่อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งแถวบั้นท้ายงอนงาม
อ๊า…รู้สึกดีจัง!
อามันต์ลงน้ำหนักมือบีบขย้ำย้ำๆ จนกายสาวขาวโพลนเริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดงระเรื่อ กำนัดอัดแน่นในอารมณ์พลุกพล่าน เกิดจากความรู้สึกรุ่มร้อนด้วยไฟราคะเผาไหม้
นางแมวป่าตัวน้อยออกอาการสั่นสะท้าน เบียดตัวเข้าหาร่างกายบึกบึน จนเศษชิ้นผ้าคาดหน้าอกซึ่งปกปิดทรวงงามขนาดใหญ่ทำท่าจะหลุดร่วงได้ตลอดเวลา ทว่าอามันต์ยังทำใจเย็น ยังไม่คิดดึงรั้งในสิ่งน่าปรารถนาซุกซ่อนไว้เพียงผืนผ้าบางเบา
‘ฉันไม่กลัวหรอกจ้ะ พวกพี่สาวบอกว่านายท่านใจดี...ถ้าทำตัวว่านอนสอนง่าย นายท่านมีแต่จะมอบความสุขให้จนล้นปรี่’ ละแวงบอกตามที่ได้ยินมา
‘พวกพี่สาวเอ็งมันพูดถูก ถ้าเอ็งอยากมีความสุข ก็ต้องทำตัวว่านอนสอนง่ายต่อข้า เข้าใจใช่ไหม?’
‘เข้าใจจ้ะ...ละแวงจะไม่ทำตัวดื้อด้านกับนาย...’ นางแมวยั่วสวาทเงยหน้าเอ่ยปากขึ้นประจบสอพอ หวังจะให้เขารักใคร่ไยดี
เจ้าแห่งป่าหนุ่มทนต่อความน่ารักน่าเอ็นดูไม่ไหว จึงก้มหน้าลงมามอบจูบแสนหวานให้กับสาวน้อยละแวง...หัวอ่อนว่าง่ายแบบนี้สิเขาชอบ เขาจะได้มอบความสุขให้เจ้าหล่อนถึงพริกถึงขิงกันไปข้าง
ถึงเขาจะไม่เคยอดอยากปากแห้งกับการเสพสมกามา ของสวยๆงามๆเช่นนี้ถือเป็นของชอบของเขานักแล..
จูบแสนหวานที่ละแวงน้อยได้รับนั้นช่างเนิ่นนานแทบขาดใจ สาวเจ้าถึงกับขาอ่อนตัวอ่อน หมดแรงจนต้องเอนซบแนบลำตัวขนานไปกับร่างกายกำยำ อามันต์ตวัดปลายลิ้นลิ้มเลียไปตามซอกหลืบแสนหวานละมุนละไม แล้วค่อยๆช้อนร่างอรชรอ่อนแรงอุ้มมาวางพาดไว้บนเตียงไม้ใต้ต้นจามจุรี
‘นายท่าน...’ เสียงของละแวงน้อยสั่นพร่า เจ้าตัวนอนทอดกายหายใจระทวยเฝ้ารอเวลาแห่งความหฤหรรษ์ กลีบสาวของเธอเต้นหนุบหนับ มันเป็นความรู้สึกแปลกใหม่ที่ละแวงน้อยไม่เคยเป็นมาก่อน
‘ไยเอ็งช่างน่ากินไปทั้งเนื้อทั้งตัวเช่นนี่หนอ...คอยดูเถอะ ข้าจะกินเอ็งไม่ให้เหลือแม้แต่ซาก...’
อามันต์เอ่ยปากชมหลงในรูปลักษณ์งามพริ้ง มือใหญ่หยาบกระด้างรีบกระตุกกางเกงให้พ้นสะโพกกำยำ ลำโด่ซึ่งแข็งขยายอยู่ก่อนหน้าดีดตัวพุ่งทะยานออกมาประกาศศักดา ส่วนปลายหัวเห็ดบานแดงก่ำชี้โด่เด่ตรงหว่างขาแข็งแกร่งล่ำสันน่าสะพรึงกลัว
ละแวงน้อยที่เห็นชัดถึงกับเบิกตาโต ตะลึงตะลานกับความใหญ่โตมโหฬาร
นี่น่ะเหรอที่เขาเรียกกันว่าอวัยวะเพศของผู้ชาย ทำไมมันถึงช่างดูน่ากลัวสยดสยองเช่นนี้หนอ...
อกละแวงเกือบกระดอนจนอยากจะถอดใจแล้ววิ่งกลับเข้าฝูงมันเสียบัดนั้น ทั้งขนาดทั้งความยาวจะเข้ามาในตัวละแวงได้อย่างไร?
ละแวงไม่ตายก่อนจะโตเต็มวัยพอดีหรอกหรือ?
หรือพวกพี่ๆในฝูงแมวป่าจะโกหก หลอกให้ละแวงมาให้นายท่านจับฆ่าด้วยอาวุธคู่กาย
นางแมวป่าตัวละอ่อนเริ่มสับสน แววตาตื่นตระหนกจนเจ้าแห่งป่าหนุ่มสังเกตเห็น คงเป็นความอ่อนวัยด้วยกระมังเจ้าหล่อนถึงได้แสดงท่าทางตื่นกลัวจนน่าสมเพช แต่ถ้าถูกของใหญ่ของเขากระทุ้งเข้าหาเพียงไม่กี่ที ขี้คร้านจะเปลี่ยนอาการตื่นกลัวเป็นคลั่งไคล้เรียกร้องให้เขากระทุ้งแรงๆ
ทว่ากว่าจะถึงเวลาสุขสันต์เยี่ยงนั้น เขาต้องใช้คำพูดหลอกล่อนางแมวป่าตัวละอ่อนเสียก่อน
‘ไม่ต้องกลัวไปหรอก ไอ้สิ่งนี้ของข้า มันไม่เคยฆ่าใครตายสักที นอกจะให้ความสุขจนล้นทะลักเท่านั้น เชื่อข้าเถอะสาวน้อย...’ เจ้าแห่งป่าหนุ่มขยับเข้ามาใกล้ รวบข้อเท้าเล็กด้วยสองมือยกขึ้นมาจูบด้วยกิริยานุ่มนวล
ละแวงน้อยสะท้านหวามไหวต่อสิ่งที่ถูกกระทำ เสียวลึกเข้าไปถึงแก่นกลางหัวใจดวงน้อย ขนในกายเธอลุกชัน อามันต์จูบเท้าเล็กขาวสะอาด เหลือบสายตาเร่าร้อนขึ้นมองเจ้าของเรือนกายอ่อนนุ่ม
‘เอ็งทั้งสวย แล้วก็มีกลิ่นหอมถูกใจข้ายิ่งนัก’
เอ่ยจบก็วางเท้าเล็กขาวสะอาดลงบนพื้นเตียงไม้ เอื้อมมือปลดชุดงามซึ่งเป็นเพียงชิ้นผ้าผืนเล็กๆออกจนเหลือเพียงกายสาวผุดผาด
แววตาหื่นพราวระยับ อู้ว!ผิวขาวเรียบเนียนน่ากินไปทุกสัดส่วน โดยเฉพาะสองกลีบชบา ทั้งอวบใหญ่แล้วก็ปราศจากไรขนให้ระคายตา
ละแวงน้อยสุดแสนจะอาย เจ้าหล่อนรีบหนีบเรียวขาเข้ามากำบังของสงวนทว่าก็ไม่เป็นผล...
---------------------------------------