ม่านหมอกค่อยๆจางห่างก่อนร่างอรชรจะปรากฏตัวขึ้น อามันต์เงยหน้ามองด้วยแววตาเข้มจัด ไม่คิดว่าจะมีใครกล้ามาขัดจังหวะสุขอุราของเขา สะโพกแกร่งที่กำลังส่งตัวกระแทกกระทั้นจึงลดระดับความรุนแรงลง ทำเอาหญิงสาวที่ใกล้จะเดินทางสู่สวรรค์ฉิมพลีส่งเสียงเว้าวอน
“อูย...ซีด...แรงอีกจ้ะ พี่อย่าเพิ่งหยุดกระเด้าฉันนะจ๊ะ เอาฉันให้แรงๆ”
สำเภาร้องโอดโอย ร้องขออย่าให้ชายหนุ่มเจ้าของลีลาเด็ดดวงหยุดสาดความเสียวซ่านห้ำหั่นในตัวเธอ ให้ตายเถิด...เขาเป็นใครมาจากไหนสำเภาไม่รู้ รู้เพียงแค่ว่าเขาเอาเธอมันซะเหลือเกิน
มันกว่าพี่คล้าว แล้วก็เจิด สองหนุ่มที่ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนมาหาความสุขจากเธอเสมอ พอได้นึกถึงสองหนุ่มต่างวัย อารมณ์สำเภายิ่งพลุ่งพล่าน สองมือน้อยจึงยกคว้าหมับตรงก้นเนื้อแน่น กระชากให้ลงมากระแทกกระทั้นกลีบสวาทหนักหน่วงขึ้น
สีหน้าอามันต์บิดเบี้ยวเสียวรัญจวน เขาจึงดึงสายตากลับมาหาแม่สาวลีลาเด็ด บุ้ยปากให้คนขัดจังหวะเดินไปนั่งรอตรงมุมหนึ่งของห้อง
ลอออองกลอกตากลิ้ง ด้วยเพราะเธอนั้นเคยเห็นภาพตรงหน้าจนชินชาเพราะพี่ชายต่างสายเลือดของเธอคนนี้ มักมีงานอดิเรกเป็นการเดินทางไปสถานที่ต่างๆ ร่วมสวาทกับหญิงงามมากหน้าหลายตาเป็นอาจิณ
ปรัก ปรัก ปรัก สะโพกแกร่งทะยานเข้าใส่ไม่ลดละ หน้าอกเต่งตึงไหวสะเทือนไปตามแรงโยก ปากร้อนจึงครอบแล้วดูด สำเภากรีดเสียงร้องราวกับสัตว์ได้รับบาดเจ็บ ลอออองต้องเบือนหน้าหนีพลางยกมือปิดหูกันเสียงแหลมปรี๊ดของสำเภา อามันต์ปล่อยหัวนมสลับมาดูดอีกข้าง นิ้วมือบดขยี้กับเม็ดกระสัน สำเภาน้ำแตกล้นปากรู ส่วนเขาเองก็ใกล้เดินทางมาถึงวิมานฉิมพลี
“อร๊าย / โอ้ว!” เจ้าแห่งป่าเร่งสะโพกอัดเข้าใส่รูเล็กเพียงไม่กี่ที เขาก็เดินทางมาถึงจนได้ ลาวาร้อนถูกปล่อยออกมามากมาย สำเภานอนหอบหายใจกระชั้น แววตาสุขสมเลื่อนลอย พอเห็นว่าร่างหนาโน้มตัวลงมา เธอจึง เปิดริมฝีปากรับจูบหนักๆเป็นการส่งท้ายจากเขา
อามันต์จูบจนพอใจ เขาดึงปากตัวเองออกห่าง ก่อนที่เขาจะนวดเคล้นเต้านมจนสำเภาหลุดเสียงคราง เขาก็ทำปากขมุบขมิบร่ายคาถา สำเภาก็หลับเป็นตายในบัดดล
ลอออองถอนหายใจเฮือก นึกว่าจะต้องให้รอจนถึงพรุ่งนี้
อามันต์คว้าชิ้นผ้าบนพื้นมาสวม เดินมาหาแขกผู้ไม่รับเชิญด้วยแววตาอ่อนใจ...
“พี่เคยเตือนเอ็งแล้วมิใช่หรือ สิ่งที่เอ็งคิดจะแลกมันไม่คุ้มค่า”
“แต่ฉันรักเขา...รักมาก แล้วก็คิดว่าจะรักเขาแค่คนเดียว”
ลอออองระบายความรู้สึกอัดอั้นออกมา น้ำตาพานจะไหลริน ในขณะที่เธอรักเขาแทบจะบ้า แต่เขาไม่แม้แต่จะคิดรักเธอ
“แล้วนี่พี่เคยห้ามเอ็งแล้วว่าอย่าใช้ญาณวิเศษ มันจะส่งผลร้ายให้ตัวเอ็งได้ในภายหลัง”
“ก็ฉันมีเรื่องร้อนใจให้พี่ช่วย...” อามันต์ยกมือห้าม
“พี่ทำให้เอ็งไม่ได้หรอกลออ เพราะมันจะกลายเป็นบาปติดตัวเอ็งไปตลอดทุกภพทุกชาติ...เรื่องของพรหมลิขิต ต้องปล่อยให้มันเป็นไปตามนั้น”
“พี่อามันต์!...ฉันไม่กลัวบาป ต่อให้ฉันต้องตกนรกหมกไหม้ฉันก็ยอม”
ความรักบดบังสติความรู้ผิดรู้ชั่ว ลอออองไม่นึกหวั่นแม้นจะต้องถูกส่งไปรับกรรมยังนรกภูมิ อามันต์เองก็ไม่มีทางยอมให้น้องสาวตกทุกข์เพียงเพราะแค่ผู้ชายที่ไม่รัก โบราณน้ำกำลังเฉี่ยวอย่าเพิ่งเอาเรือไปขวาง อามันต์จึงรับปากว่าจะช่วยลอออองไปก่อน
“เอ็งกลับไปก่อน ประเดี๋ยวพี่จะหาทางช่วย ไม่เกินสองวันผัวเอ็งจะต้องรักเอ็งแต่เพียงผู้เดียว”
“จริงหรือจ๊ะพี่อามันต์...พี่จะช่วยฉันจริงๆนะ” ลอออองหยุดร้องหาย
“เอาเถอะ...จะหาวิธีที่ไม่ทำให้ฝ่ายใดเสียหายก็แล้วกัน”
“ฉันขอบใจพี่อามันต์มากนะจ๊ะ อ้อ...นอกจากนังสำเภา ยังมีนังบัวคลี กับบัวแย้ม สองสาวฝาแฝดที่ลีลาเด็ดไม่แพ้กัน เรือนมันอยู่ถัดห่างจากเรือนฉันไปสักสามหลังคา พี่อามันต์จะลองแวะไปดูไหม?”
ลอออองได้รับคำตอบพอใจจึงคิดจะหาทางตอบแทนผู้เป็นพี่ อามันต์เลิกคิ้วพร้อมแววตาระยิบระยับ
“เอาไว้วันพรุ่งพี่จะลองแวะไป...”
ลอออองแบะปากให้กับความมักมากในกามของพี่ชายต่างสายเลือด ก่อนจะไหว้วานให้เขาช่วยส่งเธอกลับเรือนที ญาณทิพย์ที่เธอใช้นั้นใกล้หมดกำลัง เก็บเอาไว้ใช้ในยามจำเป็นดีกว่า...
พอส่งน้องหัวดื้อกลับเรือนไปแล้ว อามันต์สูดกลิ่นหอมคาวคละคลุ้งในห้อง เลียกลีบปากยามเพ่งสายตามองมายังเรือนร่างอร้าอร่ามของสำเภา เขาร่ายมนตร์อีกครั้ง สำเภาก็สะดุ้งตื่น
“มาต่อกันเถอะ ข้ายังไม่อิ่ม...”
---------------------------------------
คล้าวเป็นคนลงมารับห่อยาจากหมอเจิดด้วยสีหน้าดีขึ้นกว่าเมื่อวาน อาการของเมียรักทุเลาเบาลงมากกว่าเริ่มแรกที่เป็นไข้จับสั่น ตอนนี้หลงเหลือเพียงแค่อาการอ่อนเพลีย ได้นอนพักสักวันศรีบานก็กลับมาแช่มชื่นได้เหมือนเดิม
เจิดเดินกระสับกระส่ายอยู่ใต้ถุนเรือนของคล้าว ใจเอาแต่นึกเป็นห่วงพะวงถึงอาการเจ็บป่วยของศรีบาน โดยลืมนึกถึงไปว่า...สาวเจ้านั้นก็มีผัวคอยดูแลอยู่ไม่ห่าง หาใช่อยู่ตัวคนเดียวเหมือนสมัยตอนรักกันกับเขา
คล้าวเดินลงบันไดเรือนมาถึงแคร่ไม้เขายกมือขึ้นตบบ่าเจิดอย่างเป็นกันเอง สังเกตเห็นถึงอาการห่วงใยจากดวงตาของอีกฝ่าย อดจะเห็นใจอยู่ไม่น้อย
“ข้าต้องขอบใจสำหรับห่อยาพวกนี้ แต่ศรีบานมันไม่ยอมให้เอ็งขึ้นเรือนเข้าไปเยี่ยมอาการของมันในห้อง”
เจิดก็เดาความเอาไว้ว่าต้องเป็นเช่นนั้น ชายหนุ่มจึงไม่ดึงดัน พยักหน้าว่าเข้าใจ ยกห่อยาทั้งหมดมอบให้คล้าวพร้อมด้วยการอธิบายถึงวิธีการต้มยาแต่ละห่อ จนกระทั่งมาสะดุดตากับยาห่อสุดท้าย เจิดถึงกับนิ่วหน้า จำได้ว่ายาห่อนี้เขาไม่ได้เป็นคนหยิบมาสักหน่อย มันมารวมอยู่ในนี้ได้อย่างไร
เจิดจึงคลี่ห่อยาออกมาดู สมุนไพรตัวนี้เพียงใช้จมูกดมก็รู้ว่าเป็นตัวยาอันตรายไม่เหมาะจะใช้กับพวกคนเป็นไข้จับสั่น สีหน้าชายหนุ่มเปลี่ยนเป็นถมึงทึง ถ้าเขาไม่ใช่คนหยิบห่อยานี้มาแล้วจะเป็นใครได้อีก?
เจิดรีบขอตัวกลับโดยสายตายังคอยเอาแต่เหลือบมองพื้นเรือน ห่วงหาอาวรณ์ทว่าก็รู้ตัวดีเขาไม่มีสิทธิ์นั้นในตัวศรีบานอีกแล้ว ทว่าความรักระหว่างเขากับศรีบานยังถูกเก็บเอารักษาไว้ในก้นบึ้งของหัวใจอย่างดี เขาจะไม่มีวันรักใคร โดยเฉพาะผู้หญิงแพศยา ต่อให้ลมหายใจสุดท้าย หัวใจเขามันจะยังคงมั่นคงไม่สั่นคลอน
ศรีบานน้ำตาไหลริน ส่งสายตามองเพียงแผ่นหลังที่กำลังก้าวเดินห่างออกไปเรื่อยๆ ก่อนจะลับสายตาศรีบานจึงค่อยพยุงร่างอ่อนล้า คลานกลับมาล้มตัวนอนบนฟูกหนา พอดีกับผัวรักต้มยาสมุนไพรกลับเข้ามาในห้อง
“ดื่มยาสมุนไพรสักหน่อย เอ็งจะได้มีเรี่ยวมีแรง”
ศรีบานส่งยิ้มให้ผัว กลบความรู้สึกทุกอย่างไว้จนหมดสิ้น...
--------------------------------
ลอออองคลานหนีมาจนสุดมุมห้องหากร่างบอบช้ำก็ยังถูกมือหนาของผัวรักลากเข้าไปหา จับกดกระแทกด้วยลำดุ้นอันโตโดยไร้ความปรานี
สวบ
“อืม...พอแล้ว ฉันรับไม่ไหวแล้วจ้ะพี่เจิด”
เจิดแสยะยิ้มร้าย รวบเอวคอดไว้ด้วยสองมือก่อนจะส่งแรงกระหนำสะโพกหวดบั้นท้ายเข้าหากลีบสวาทจนเกิดเสียงดัง ปรัก ปรัก ปรัก
ลอออองกรีดเสียงร้องโหยหวน สองมือไขว่คว้าฝาผนังเรือน
แววตาของเจิดวาวโรจน์ ผู้หญิงคนนี้ร้ายกาจไม่สมควรจะได้รับการให้อภัยโดยง่าย เขาต้องสั่นสอนให้เจ้าหล่อนได้สำนึก อย่าได้หมายคิดรังแกผู้หญิงที่เขารักสุดหัวใจ
“เอ็งอยากได้สิ่งนี้จากข้าจนตัวสั่นมิใช่หรือ ข้าก็สนองให้เอ็งถึงใจแล้วไง เอ็งต้องยิ้มสิ ต้องมีความสุขบนความทุกข์ของศรีบานมันมากๆ”
ร่านจนอยากได้เขาเป็นผัว โดยไม่คำนึงนึกถึงว่าตัวเขามีคนที่รักอยู่ทั้งคน เจ้าหล่อนยังใช้ความแพศยาหลอกล่อให้เขาหลงกล ทำให้ศรีบานต้องร้องไห้ เจ็บปวดหัวใจเพียงแค่ความเห็นแก่ตัว
คำพูดของเจิดไม่ต่างจากใบมีดคมกริบ ลอออองส่ายหน้า น้ำตาพรั่งพรู
“ฉันก็แค่รักพี่...”
“แต่ว่าข้าเกลียดเอ็ง เกลียดจนถึงขั้นขยะแขยง”
“อะ...อะ...อะ...หยุดนะพี่...อ้า...”
ลอออองหมายถึงให้ผัวหยุดพูดว่าเกลียดเธอสักที หัวใจเธอชักจะรับอีกไม่ไหว ร่างงามโยกคลอนลื่นไถลไปตามแรงกระเด้าไม่ออมแรง กลีบสาวแบะอ้าแดงเถือกเพราะถูกเสียดสีจากลำดุ้นมาเป็นเวลานาน เจิดกัดฟันกรอด กระชากสะโพกงอนสวนดุ้นเอ็นกระชั้นระรัว
ลอออองน้ำแตก เจิดก็ตัวกระตุกเกร็ง ไม่กี่วินาทีสงครามสวาทก็เริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง ลอออองถูกเจิดลากมายังระเบียงไม้ บังคับให้เจ้าหล่อนเงยหน้ามองจันทร์ครึ่งเสี้ยว โดยเขาตามประกบเข้าด้านหลัง ส่งดุ้นเนื้อผ่านตามรอยแยกโดยไม่สนใจว่าลอออองจะพร้อมรับอารมณ์กระสันอยากนี้อีกหรือไม่
ดุ้นเนื้อถูกปักเข้าใส่รูเล็ก กลีบสาวบวมช้ำ แล้วเจิดก็ตั้งหน้าตั้งตาร่วมรักกับเมียแสนชิงชังอย่างดุเดือดเลือดพล่านทุกท่วงท่า ลอออองแทบสลบไสลหากถึงกระนั้นเธอก็ยังมอบความสุขให้เจิดไม่เคยขัดขืน ยอมเจ็บ ยอมมอบกาย เพียงแค่หวังว่าสักวันเขาจะนึกรักเธอได้แม้นเพียงเล็กน้อย
นับจากวันนั้น ลอออองต้องคอยรับอารมณ์ดิบเถื่อนอีกด้านของเจิดเพียงแค่คำว่ารัก โดยไม่ยอมตัดใจแล้วกลับหมู่บ้านที่ฝังตัวเองอยู่ในเขตพื้นป่าอาถรรพ์ตามคำแนะนำของอามันต์ ซึ่งที่สุดแล้วสิ่งที่เขาช่วยลอออองได้ก็แค่ทำให้หญิงสาวตั้งท้องลูกคนแรกได้อย่างมนุษย์ปกติ...
---------------------------------