กวนเฉินหลางรู้ว่าหญิงใบ้หิวและสิ่งที่เขาหามาคือดอกไม้กินได้และผลไม้ลูกเล็กสีแดงและม่วงเข้มสดรสหวานอมเปรี้ยว (เบอร์รี่) เขากินให้นางดู ซึ่งนางก็ลังเลมิน้อย แต่ท้องนั้นร้องหิวจึงฝืนกลืนลงไป กระทั่งหยิบผลไม้ดังกล่าวลงท้องจนหมดดวงตากลมโตก็สำนึกบุญคุณต่อเขา
“หากอยากกินให้อิ่มกว่านี้และปรารถนารสชาติอันยอดเยี่ยม คงต้องเป็นความหวานมันซึ่งปลดปล่อยจากตัวข้าเท่านั้นที่เจ้าสมควรกลืนลงท้อง”
อวิ๋นมู่หลันไม่ได้นึกขำหรือสนุกกับสิ่งที่เขากล่าว นางตกใจมาก กว่า มัจจุราชกวนคงเป็นบ้าไปแล้วถึงกล่าววาจาเย้าหยอกนาง กระนั้นสิ่งที่ลอยเข้าหูสัปดนยิ่งนัก ทว่าเหตุใดนางถึงเขินอายจนหน้าแดง
“เมื่อครู่เจ้าขึ้นไปข้างบนเขาได้สิ่งใดมา”
หญิงสาวยิ้มกว้าง นางเก็บเห็ดมาหลายดอกรวมถึงหน่อไม้หวาน
“เจ้าทำให้ข้าทึ่งมิน้อย”
หญิงสาวรู้สึกว่าตนมีประโยชน์อยู่บ้าง นางเติบโตจากก้นครัวและยังหาของป่าเก่งเป็นที่หนึ่ง เรื่องให้งอมืองอเท้าและอดตายย่อมมิใช่ อวิ๋นมู่หลันคนนี้
จากนั้นนางแกะก็เปลือกหน่อไม้แล้วส่งยอดอ่อนให้เขา
“กินสดเลยหรือ”
‘ของดีเช่นนี้ เหตุใดไม่รู้จัก’ นางมองเขาด้วยสายตาไม่อยากเชื่อ ก่อนทำเป็นตัวอย่าง ด้วยการกัดหน่อไม้และเคี้ยวอย่างเอร็ดอร่อย
กวนเฉินหลางรู้จักหน่อไม้อยู่บ้างแต่ไม่ชำนาญ พอเห็นนางหามาและส่งให้เขาจึงรู้สึกดีเป็นพิเศษ
เขามองสตรีตรงหน้า นางเป็นธรรมชาติยังรู้จักเอาตัวรอด นี่กระมังถึงทำให้ยังมีลมหายใจและผ่านอันตรายต่าง ๆ ได้หลายหน
“รสชาติ มัน หวานนิด ๆ เจ้าทำได้ดี เช่นนี้ข้าควรมอบรางวัล” เมื่อเขาเอ่ยจบก็ส่งรังผึ้งสดใหม่ให้นาง
“กินสักหน่อยและเก็บบางส่วนไว้ หากต้องอยู่ที่นี่นานเราอาจต้องพึ่งรังผึ้งนี้เพื่อประทังความหิว”
อวิ๋นมู่หลันอดอมยิ้มไม่ได้ อย่างไรกวนเฉินหลางก็มีคุณธรรมต่อนาง และคำว่า ‘ปีศาจ’ ที่เคยได้ยินจากปาก อวิ๋นหยวนม่านผู้เป็นพี่สาวยามเอ่ยถึงเขาอาจไม่ใช่ความจริงเสียทั้งหมด!
กระทั่งท้องไม่ได้ร้องหิวจนเกินไปเขาจึงพานางลัดเลาะไปเรื่อย ๆ โดยยึดลำธารเป็นจุดในการหาค้นหาทางออก กระทั่งเห็นร่องรอยการต่อสู้เอาตัวรอดของเหล่าเชลยซึ่งทิ้งไว้
“ระวังตัว อาจมีคนดักซุ่มอยู่”
เขาบอกหญิงใบ้แล้วให้นางหลบด้านหลัง เบื้องหน้านั้นมีเชลยหลายคนที่กลายเป็นศพ และกวนเฉินหลางมั่นใจว่าทหารของเขาคงเข้าใกล้เมิ่งถูแล้ว
หญิงสาวไม่ได้กลัวศพ แต่ที่นางก้าวขาไม่ไหวเป็นเพราะสภาพพวกเขาไม่น่ามอง อีกทั้งยังมีเสียงร้องโอดโอยขอชีวิต และบางคนยังมีลมหายใจอยู่
‘อย่าให้พวกเขาต้องทรมานเลย’
อวิ๋นมู่หลันเอ่ยเช่นนั้นก่อนหลับตาลง นางสวดอ้อนวอนขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์เมตตาผู้บาดเจ็บ
ขณะเดียวกันร่างสูงใหญ่ก้าวไปยังร่างซึ่งนอนหายใจรวยริน เสียงตวัดดาบ เสียงร้องครางเบา ๆ ดังสลับกันไปมา
หญิงสาวรู้ว่าการกระทำของกวนเฉินหลางโหดเหี้ยมก็จริง แต่คงดีกว่าปล่อยให้คนเหล่านั้นถูกสัตว์ป่ารุมทึ้งร่าง ทั้งที่ยังมีลมหายใจอยู่
เมื่อนางลืมตาขึ้น ก็เห็นว่าชายหนุ่มยืนห่างออกไปหลายจั้ง และยังมีเชลยอีกหลายคนพยายามดิ้นรนเอาตัวรอด นางไม่อยากเห็นภาพดังกล่าวอีกเลยหมุนตัวแล้วเลี่ยงเดินไปทางอื่น
ขณะที่หญิงสาวสืบเท้านางต้องสะดุ้งโหยงก่อนเสียหลักล้ม เมื่อมีมือเปื้อนเลือดของคนผู้หนึ่งจับข้อเท้านางไว้
ดวงตากลมโตมองอย่างพินิจ ก่อนเห็นใบหน้าของสตรีคนดังกล่าว นางมีแผลเป็นซึ่งเหวอะหวะและส่งกลิ่นเน่าเหม็น
“พะ… พี่สาว... อย่าทิ้งข้า!”
คนบาดเจ็บที่เลือดท่วมตัวส่งเสียงขอร้องอวิ๋นมู่หลัน และเสียงนั้นทำให้กวนเฉินหลางหยุดนิ่ง เขาหันมาจ้องหญิงใบ้เขม็ง
“เราจะต้องรอดชีวิตด้วยกัน... องค์ชายจะพาเราออกจากที่นี่ เชื่อข้า... องค์ชายไม่ทิ้งใครไว้เบื้องหลัง!”
อีกฝ่ายกล่าวราวกับคนกำลังเพ้อ เป็นตอนนั้นที่อวิ๋นมู่หลันคืนสติ นางรีบถอยหนีจากเด็กสาว และขวัญเสียอยู่มาก
หัวใจของกวนเฉินหลางหดเกร็ง เขาไม่อยากเอ่ยถ้อยคำนั้นออกมา ด้วยเกิดความผิดหวังท่วมท้น กระนั้นความโกรธเกรี้ยวก็พลุ่งขึ้นจนยากระงับ เสียงตวาดจึงดังลั่นและอวิ๋นมู่หลันพลันหยุดหายใจชั่วขณะ
“หญิงใบ้ เจ้าเป็นชาวหนานหยางหรอกหรือ!?”
อวิ๋นมู่หลันปฏิเสธทันที นางส่ายศีรษะเร็วแรง พลางโบกมือเป็นพัลวัน
“พี่สาว... เหตุใดถึงทำเหมือนไม่รู้จักกัน ก็ท่านคือ...!”
นางเอ่ยจบได้เพียงเท่านั้นก็มีลูกเกาทัณฑ์พุ่งทะลุลำคอนาง ซึ่งเลือดบางส่วนของอีกฝ่ายกระเซ็นเปรอะใบหน้าอวิ๋นมู่หลัน
ชีวิตของคนเบื้องหน้าปลิดปลิวอย่างรวดเร็ว หญิงใบ้ก็เหมือนคนเสียสติ ดวงตากลมโตเบิกกว้าง นางกลัว หวาดผวาร่างสั่นเทาไปหมด
อีกฝ่ายคือคนที่เคยช่วยนางให้พ้นจากเงื้อมมือทหารเลว และตอนนี้ลมหายใจสุดท้ายได้หลุดหายจากร่างต่อหน้าอวิ๋นมู่หลัน
กวนเฉินหลางย่างสามขุมเข้ามาหาอวิ๋นมู่หลัน ใบหน้าเขาที่เคยแต้มยิ้มให้นางเห็นแปรเปลี่ยนสีเป็นดำคล้ำ ดวงตาคมกริบประหนึ่งมีลูกไฟแผดเผาทุกอย่างให้มอดไหม้!
“เจ้าเป็นชาวหนานหยางเยี่ยงนั้นหรือ!”
เขาถามนางอีกครั้งน้ำเสียงเข้มจัดแฝงด้วยการบีบบังคับ
อวิ๋นมู่หลันอยากปฏิเสธเขาเต็มกำลัง แต่ถ้อยคำใดเล่าจะสามารถสื่อสารผ่านริมฝีปากซึ่งสั่นระริกนั้นได้!