"พี่ศิลป์ วันนี้พี่นัดอะไรกับเราไว้จำได้มั้ย~"
ร่างสีขาวขยับเข้าหาเจ้านายตัวเองที่นั่งจกป๊อปคอร์นดูละครน้ำเน่าอย่างสบายใจ เมื่อเจ้าตัวถูกงูขาวทักขึ้นมาเลยหันมองตาพร้อมนึกคิด
จะว่าไปแล้วหอศิลป์ก็เหมือนจะไปตกลงอะไรสักอย่างกับเจ้าน้องไว้จริงๆ
"เอ่อ..พี่ นัดอะไรกับเธอไว้นะคะ"
หอศิลป์รีบหรี่เสียงละครของตัวเองลงเพื่อที่จะได้คุยกับเจ้าน้องได้สะดวก งูขาวที่ได้ยินว่าอีกคนเหมือนจะลืมนัดกับตัวเองเลยมุ่ยหน้าอย่างไม่พอใจพร้อมกับแยกเขี้ยวเตรียมจะฉกมนุษย์ตรงหน้า
"เธอขาใจเย็นพี่ผิดไปแล้ว! พี่แก่แล้วค่ะเธอขาไว้ชีวิตพี่ด้วย สมองพี่เลอะเลือนตามอายุ เธออย่าทำพี่!"
ร่างสูงรีบยกถังป๊อปคอร์นมาเป็นโล่กำบัง แต่สำหรับงูขาวแล้วสิ่งนั้นไม่ได้ช่วยให้มนุษย์ตรงหน้าปลอดภัยมากขึ้นเลย
"พี่ศิลป์ขี้เวอร์ที่สุด เรายังไม่ทันได้ทำอะไรพี่เลย"
ร่างสีขาวว่าพลางดึงถังป๊อปคอร์นไปวางที่โต๊ะ ส่วนตัวเองก็เลื้อยไปนอนทับเจ้านายไว้พลางซบอกอีกคนไปกระดิกหางไป
หอศิลป์ไม่รู้ว่าตอนนี้ตัวเองอยู่หรือรอด แต่ที่แน่ๆเขาคงจะโดนเจ้าน้องงอนแล้ว มือหนาเอื้อมไปลูบเส้นผมนิ่มของอีกฝ่ายเจ้าน้องเลยช้อนตามองขึ้นมา
"วันนี้พี่สัญญาว่าจะพาเราไปเล่นเกมกับเพื่อนจำได้มั้ย"
เจ้าของร่างสีขาวว่าพลางเอื้อมมือไปคว้าป๊อปคอร์นมากินบ้าง หนุ่มมนุษย์เลยถึงบางอ้อว่าตัวเองนัดอะไรกับเจ้าน้องไว้
ก่อนหน้านั้นหอศิลป์ลองสอนไวท์เดย์ใช้คอมพิวเตอร์และเล่นเกม งูขาวเองก็ดูจะสนใจไม่น้อย เจ้าน้องเห็นเจ้านายกดๆจิ้มๆเจ้าหน้าจอนั้นมาตลอด แต่ก็ไม่ค่ยรู้วิธีใช้มันเท่าไหร่นัก
หอศิลป์พาเจ้าน้องนั่งตัก สอนตั้งแต่ขึ้นเริ่มต้นอย่างชื่อเรียกปุ่มต่างๆ ไปจนกระทั่งสูตรการกดคีย์บอร์ดเพื่อให้เจ้าน้องใช้งานสะดวก
ดีหน่อยที่ไวท์เดย์มีความจำเป็นเลิศ สอนไม่กี่ครั้งก็เข้าใจไม่ต้องย้ำให้มากเรื่อง แต่ในเรื่องของตัวหนังสือหรือการอ่านคำ ภาษาไทย ภาษาอังกฤษ ที่ยากๆก็ยังเป็นปัญหาสำหรับงูขาวอยู่
เมื่อรู้จักวิธีการใช้คอมคร่าวๆแล้วขั้นตอนต่อไปคือการพาเจ้าน้องเล่นเกม แน่นอนว่านี่คือเหตุผลหลักที่เขาเอางูขาวมาฝึก เพราะเจ้าน้องเคยเฝ้ามองเจ้านายมาตลอดไม่ได้เล่นเองก็คงเหงาไม่น้อย
หอศิลป์เริ่มจากการเล่นเกมเองให้ดูก่อน เริ่มจากเกมเริ่มต้นที่ไม่ต้องไปสู้ประลองกับใครอย่างเกมสร้างบ้านที่ทุกอย่างรอบตัวเป็นสี่เหลี่ยม เขาสอนการใช้ปุ่มเดินการใช้เมาท์ คีย์ลัดต่างๆและเทคนิคการเล่นเกมพร้อมกับศัพท์เฉพาะไปเรื่อยๆ
ช่วงแรกสำหรับงูขาวอะไรๆก็ใหม่ไปหมด แน่นอนว่าหอศิลป์ไม่คิดจะให้เจ้าน้องเล่นเกมทันทีทันใด แต่ค่อยๆฝึกเจ้าตัวชินไปเรื่อยๆเพื่อที่วันนึงเราสองคนอาจจะมีโอกาสได้มานั่งเล่นเกมด้วยกันยามว่าง
หอศิลป์เป็นไกด์ให้เจ้าน้องอยู่หลายเดือนพอสมควร เนื่องจากการที่จะทำให้นิ้วสามารถสัมผัสแป้นได้โดยไม่ต้องมองต้องใช้ความคุ้นชินโดยระยะเวลานาน เจ้าน้องจึงค่อยเป็นค่อยไปตามที่เจ้านายจะป้อนข้อมูลให้
แต่ตอนที่หอศิลป์สตรีมคุยกับคนดูและคุยสื่อสารกับเพื่อน เจ้าน้องก็คอยมองสังเกตเงียบๆอยู่ข้างกายแทนการเข้าไปเล่นด้วย
หอศิลป์เองก็อธิบายว่าจะมีคนอื่นๆเข้ามาดูพี่เล่น แล้วใครที่ชอบคารมคมคายหรือสกิลการเล่นเกมของพี่ก็จะมาให้การสนับสนุน
ส่วนเพื่อนๆที่คุยกันในเกมส่วนใหญ่ก็เป็นคนที่น้องเคยเจอเวลาพี่พาไปงานทั้งนั้น
เมื่อเวลาผ่านไประยะนึงที่เจ้าน้องสามารถเล่นเกมได้อย่างไม่ติดขัดแล้ว หอศิลป์จึงสัญญากับเจ้าน้องว่าจะพามาสตรีมเล่นกับเพื่อนด้วยโดยที่เขาจะเป็นคนคอยดูอยู่ข้างๆเอง
"อ้อใช่ๆ ตอนนี้กี่โมงแล้วเธอ"
"ทุ่มนึงแล้ว พี่นัดเพื่อนไว้กี่โมงล่ะ"
"อ่า..เวลาประมาณนี้แหละ ป้ะๆ เดี๋ยวพี่เปิดสตรีมรอก่อน"
คนตัวสูงว่าพลางช้อนอุ้มร่างสีขาวที่นอนทับตัวเองด้วยสองแขนแข็งแรง ก่อนจะพางูขาวกลับเข้าห้องที่มีคอมเฉพาะไว้สตรีมเกมของตัวเอง
คนตัวสูงนั่งลงตรงเก้าอี้ประจำตัว มุมเดิมที่เดิมในทุกๆวัน ส่วนเจ้าน้องก็นั่งอยู่บนตักพี่อย่างที่ทำประจำเช่นกัน
การสตรีมแต่ละครั้งสามารถเลือกได้ว่าเราจะเปิดกล้องหรือปิดกล้อง ในช่วงนี้ที่หอศิลป์มีไวท์เดย์มานั่งบนตัก เวลาเขาสตรีมก็จะปิดกล้องไว้เพื่อไม่ให้ใครได้เห็น
"พี่รู้ว่าเราจะไม่พูดอะไรเรื่อยเปื่อยอยู่แล้ว แต่ถ้าใครถามอะไรก็ตอบว่าเป็นรุ่นน้องพี่ศิลป์นะ"
"อื่ม!"
ร่างสีขาวตอบอย่างตื่นเต้นส่วนหางน้อยๆเองก็ขยับไปมาอย่างอารมณ์ดี หอศิลป์ที่เห็นเจ้าน้องน่ารักน่าชังไม่ไหวก็อดไม่ได้ที่จะเข้าไปหอมสักฟอด งูขาวที่ถูกมอบรักจนหน้าแทบทิ่มก็ได้แต่ยู่ปากปล่อยให้มนุษย์ตามใจ
"พี่ศิลป์หนวดขึ้นแล้ว"
"ผู้ชายมีหนวดเธอไม่ชอบหรอคะ"
"พี่หอมเราแล้วมันเจ็บแก้มอ่า.."
"โอ๋ๆ เธอขาพี่ขอโทษ"
แม่พิกกี้บูตัวน้อยหดหน้าหดคอไม่ยอมให้หอมต่อเพราะคนตัวสูงมีตอหนวดขึ้นมายุบยิบพอหอมแก้มขาวๆของเจ้าน้องมันเลยสากไม่น้อย
หอศิลป์คิดว่าตัวเองคงต้องไปโกนหนวดโกนเคราออกบ้างซะแล้ว ไม่อย่างงั้นงูขาวคงไม่ยอมให้เขาหอมอีกแน่ๆ ยิ่งได้เห็นหน้างอแงตอนเจ็บแก้มยิ่งรู้สึกแกล้งไม่ลง ได้เวลาบอกลาตอหนวดซะแล้ว
"พวกมึงวันนี้กูพาคนมาเล่นด้วยนะ"
"ใครวะ"
หลังจากทำการเปิดคอมเข้าดิสเพื่อโทรคุยสื่อสารกับเพื่อนได้ หอศิลป์ก็ไม่รอช้าที่จะแนะนำตัวเจ้าน้องให้เพื่อนรู้จัก รวมถึงเหล่าผู้ติดตามที่ทยอยเข้ามาหลังจากเขาเปิดสตรีม คนอื่นๆเลยจะได้รู้พร้อมกันโดยที่เขาไม่ต้องพูดหลายรอบ
วันนี้คนที่มาเล่นกับหอศิลป์มี ใต้ฝุ่น กับ เมษ คนที่เคยพูดถึงในงานกิจกรรมครั้งก่อน ส่วนคนที่เพิ่มเข้ามาเป็นคนที่4(รวมหอศิลป์) คือสตรีมเมอร์ชื่อดังอีกคนที่ชื่อไลเดน เพื่อนรุ่นเดียวกับหอศิลป์เช่นกัน
เดิมทีทั้งสี่คนค่อนข้างสนิทกันและเล่นเกมตั้งตี้ด้วยกันบ่อย แต่ก็ยังมีบางครั้งที่ต่างคนต่างผลัดไปเล่นเกมกับเพื่อนอีกกลุ่ม
สังคมของคนเล่นเกมค่อนข้างกว้าง เรารู้จักและสนิทกันได้จากเกมที่เล่นด้วยกัน แม้ไม่เคยรู้จักสนิทชิดเชื้อมาก่อน แต่หากเล่นเกมด้วยกันได้ก็จะสนิทกันได้ไม่ยากเลย
"เธอขาแนะนำตัวกับเพื่อนพี่เร็ว"
"ไวท์ครับ รุ่นน้องพี่ศิลป์"
เมื่อมนุษย์ตัวโตให้สัญญาณเจ้าน้องเลยพูดตามที่อีกคนบอกแบบไม่ขาดตกบกพร่อง ไวท์เดย์รับบทเป็นรุ่นน้องของหอศิลป์ที่ชื่อไวท์ โดยที่วันนี้เองหอศิลป์จะมาสอนน้องเล่นเกม
"เอ๋ รุ่นน้องจริงป่าวพี่ศิลป์"
ใต้ฝุ่นรุ่นน้องคนเดียวในกลุ่มพูดขึ้นมา ทางช่องแชทของหอศิลป์เองตอนนี้ก็เริ่มไหลขึ้นมาแล้วเนื่องจากเขาก็เปิดสตรีมไว้สักพักใหญ่ๆได้
"แล้วเห็นไปไรล่ะ"
หอศิลป์ตอบกลับแล้วเบี่ยงประเด็นไปทางอื่นต่อ
"ไปๆเข้าเกมๆ 4คนดบดลใช่ป้ะ"
ดบดล จะอ่านว่า ดบ-ดล หรือชื่อเต็มๆคือ เกมบายเดย์ไลท์ เกมที่จะใช้ผู้เล่น4คนโดยประมาณเพื่อนเป็นผู้รอยชีวิต กับอีก1ฆาตกรในการเล่น
เกมจะไม่ได้ซับซ้อนเพียงแค่ต้องพยายามปั่นไฟฟ้าเพื่อหาทางออกจากพื้นที่ โดยระหว่างเกมจะมีฆาตกรคอยตามสังหาร
"น้องมึงไหวแน่นะ ไม่เอาแบบผีไล่ล้มเครื่องแรกนะ"
ผี หรือชื่อเรียกอีกอย่างของฆาตกรในเกมตั้งขึ้นมาเพื่อที่จะให้เรียกง่ายๆสั้นๆ ส่วนการล้มเครื่องแรกจะหมายถึงการที่เราถ่วงเวลาผีได้แค่เครื่องปั่นไฟเครื่องเดียว โดยปกติแล้วคนที่โดนผีไล่จะต้องหนีผีเพื่อให้เพื่อนคนอื่นๆได้ปั่นไฟ ถ้าหนีหรือจู๊คเก่งๆเพื่อนก็จะปั่นไฟออกได้สบายๆ
"อย่าดูถูกเด็กกูนะเว่ย กูสอนเองกับมือ"
หอศิลป์ว่าอย่างมั่นใจ แต่เหมือนคนเล่นเองจริงๆจะไม่มั่นใจสักเท่าไหร่
"พี่ศิลป์เราไม่มั่นใจเลย"
ไวท์เดย์หันมาทำหน้าอ้อนใส่มนุษย์ตัวสูง หอศิลป์เลยลืมตัวพูดปลอบใจเจ้าน้องแบบที่ตัวเองชอบทำ
"เธอขาของพี่เก่งที่สุดแล้วค่ะ ถึงจะล้มตั้งแต่2วินาทีแรกก็เก่งค่ะ"
คำพูดนี้ของหอศิลป์ได้ยินไปถึงเพื่อนๆที่เหลือและช่องแชท เหล่าคนที่คอลกันอยู่เลยเอ่ยแซวกันพร้อมกับช่องแชทที่รัวจนแทบแตก
'เราว่าพี่ศิลป์กับน้องไม่น่าเป็นแค่พี่น้องกัน'
'อันนี้คือไรอะเปิดตัวแฟนหรอ'
'โหหห เธอคะเธอขาขนาดนี้'
'ยังไงก็แฟนอะ ฟันธงเลย พี่แกเอาแฟนมาเล่นด้วย!'
ช่องแชทตอนนี้พูดท็อปปิคเดียวกันไม่เว้นแม้แต่ช่องแชทของสตรีมเมอร์คนอื่นๆที่แฟนคลับคะยั้นคะยอให้มาถามเจ้าตัว แน่นอนว่าเพื่อนๆอย่างพวกเขาที่ไม่เคยเห็นแม้แต่หอศิลป์เดทกับใครก็ต้องสงสัยไม่น้อย ถึงกระนั้นพวกเขาก็ไม่ได้อยากลุกล้ำความเป็นส่วนตัวของอีกคนจนดูเสียมารยาท
"เอ่อ..คือ มึงพาคนมาเปิดตัวหรอ คำพูดคำจานี่ก็ว่าไม่น่าใช่แค่พี่น้องอะ "
คนที่เริ่มถามก่อนคือไลเดนเนื่องจากเจ้าตัวอายุเท่าหอศิลป์การที่จะให้ใต้ฝุ่นรุ่นน้องถามก็ดูจะข้ามเส้นไปหน่อย ส่วนเมษรายนั้นอายุเท่ากันจริงแต่เจ้าตัวค่อนข้างสันโดดมาก ไม่ค่อยยุ่งกับใครจะคุยกับเพื่อนแค่เรื่องงเกม เพราะงั้นเรื่องส่วนตัวแบบนี้คนสนิทที่พอถามได้คงมีแค่ไลเดนแล้ว
"หื้ม เปิดตัวไรวะ"
"เปิดตัวแฟนมึงไง น้องไวท์อะ "
คำตอบนี้ทำให้หอศิลป์ถึงกับนิ่งไปพักหนึ่ง แต่ก็หัวเราะตามมาในทีหลัง งูขาวถึงกับมองตามอย่างสงสัย หอศิลป์เลยรวบกอดเจ้าน้องไว้แน่น
ถ้าเป็นแฟนกันจริงๆก็ดีสิ งูขาวของเขาน่ารักขนาดนี้
"เออ แฟนกู อย่ามายุ่งล่ะ"
หะ..เห้ยพิ้ศิลป์ แฟนเลยเบ๋อ