หายไปแล้ว
ฝันงั้นเหรอ
ร่างกายสะบักสะบอมฝืนตัวขยับลุกขึ้นในยามเช้า ดวงตาสดใสเต็มไปด้วยรอยแห้งกรังของน้ำตา เรียวขาที่สั่นระริกขยับออกจากหมอนข้างที่ตัวเองก่ายอยู่ ก่อนที่เธอจะถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่
เหมือนว่าเธอจะป่วยเลย
ฝันสินะ
ฝันนั่นแหละ
เมื่อคืนเธอฝันว่ามีเซ็กซ์กับซาตานหน้าตาหล่อเหลา ร่างกายกำยำ กว่าจะคลานลงจากเตียงได้ก็เกือบเช้าของอีกวัน ความเหนื่อยระบมทำเอาแทบลากขาออกจากเตียงไม่ไหว ผิดกับซาตานหนุ่มที่ผงกหัวขึ้นมามองเธอเพียงเล็กน้อย แล้วไม่ได้สนใจท่อนขาสั่นระริกที่กำลังก้าวลงจากเตียงเลย
ในความฝันเธอจำได้ว่าหลังจากบทรักที่เร่าร้อนตามสัญญา เขาทำเพียงเอนกายลงบนเตียงเพื่อฟื้นพลังกาย ที่หายไปจากการเคี่ยวกรำมนุษย์สาวอย่างเธอ ซึ่งร่างกายของเธอรับมันได้อย่างดี จนซาตานหนุ่มตื่นเต้นกับเรื่องแปลกใหม่
กิเลส ตัณหา และราคะลุกโชนขึ้นในดวงตาสีแดง แล้วเขาก็มลายหายกายเป็นควันหายไป
ที่เธอปวดตัวมันเป็นเพราะกำลังจะเป็นประจำเดือนและรู้สึกป่วยสินะ
ตุ้บ!
“โอ๊ยยย”
ความเจ็บแปลบที่กลางระหว่างขา และเรี่ยวแรงที่เหือดหายทำให้หญิงสาวล้มลงทันทีที่เท้าแตะพื้น สีหน้าซีดเผือดหันมองผ้าห่มและผ้าปูเตียงที่มีคราบเลือดประปราย ก่อนจะวิ่งไปที่กระจกขนาดใหญ่ จ้องภาพที่เนื้อตัวเต็มไปด้วยรอยขบเม้มทั้วทั้งตัว สีผิวขาวแต้มด้วยรอยกุหลาบช้ำตั้งแต่ลำคอจนกระทั่งโคนขาอ่อน
“นั่นมัน...” ร่างเล็กหมุนมองทั่วห้องพร้อมใจที่กำลังเต้นกระตุกรุนแรง ยกข้อมือเรียบเนียนที่ไม่มีร่องรอยของรอยกรีดของสัญญาอย่างหวาดกลัว
ทันใดนั้นกลิ่นคาวคลุ้งของสัมพันธ์สวาทก็อบอวลทั่วห้อง
ไม่ได้ฝันงั้นเหรอ!
“แก้ว! นี่ดอกแก้ว!!! มาทำงานนะไม่ใช่มานั่งเหม่อ ที่ฉันถามไปน่ะตกลงว่าได้รึเปล่า”
เจ้าของชื่อสะดุ้งเฮือกแล้วหันมองอย่างไม่เข้าใจ
“หมายถึงอะไรเหรอ”
“เป็นบ้าอะไรของเธอเนี่ย น่ารำคาญชะมัด” แฟ้มเอกสารถูกกระแทกลงบนโต๊ะของดอกแก้ว
ผ่านไปสามวันแล้วเธอยังไม่เห็นซาตานตนนั้นเลย
รอยบนร่างกายจางลง แต่จ้ำเลือดยังมีให้เห็นอยู่ประปราย
“งานที่ฉันขอให้ทำน่ะได้รึเปล่า เย็นนี้ฉันไม่ว่างทำโอทีเธอก็ทำแทนหน่อยแล้วกัน นะดอกแก้วเดี๋ยวพรุ่งนี้ฉันเลี้ยงข้าวเธอเอง” ดอกแก้วเงยหน้ามองเจ้าของน้ำเสียงอ่อนหวานอย่างไม่เข้าใจ
เมื่อกี้ยังจะกินหัวเธออยู่เลย แต่พอจะใช้ให้ทำโอทีแทนกลับเสียงอ่อนหวาน จนจำไม่ได้เลยว่าเป็นคนเดียวกัน ลียามักจะใช้ท่าทางแบบนี้ในการใช้คนอื่น ๆ อยู่โอทีเสมอ ซึ่งมันใช้ได้ดีกับพวกผู้ชายแต่ไม่ใช่กับเธอ
“ฉันเองก็มีธุระเหมือนกัน คงอยู่แทนไม่ได้หรอก”
“แต่ธุระฉันสำคัญจริง ๆ นะ ตอนนี้ฝ่ายปรู๊ฟทีมเราน่ะมีแค่ฉันกับเธอนี่ จะให้คนอื่นอยู่แทนก็ไม่ได้”
“วันก่อนเธอบอกว่าฉันเป็นอินโทรเวิร์ตไม่ใช่เหรอ ฉันก็อยากกลับบ้านไปนอนสิ ก็ฉันทำงานเสร็จแล้วนี่” ดอกแก้วพูดอย่างไม่ยีระ สีหน้าเรียบเฉยใต้กรอบแว่นทำให้คนฝั่งตรงข้ามได้แต่มองเธออย่างสนใจ
ทำไมอยู่ดี ๆ ก็เปลี่ยนเป็นคนละคน
“วันนี้ฉันก็อยู่นะ” ตะวันเอ่ยขึ้นพลางยิ้ม
“อ๋อ...สู้ ๆ นะ”
“...” ก่อนรอยยิ้มที่ถูกสร้างขึ้นจะหุบลง เพราะคนที่ตัวเองทอดสะพานสำเร็จทุกครั้งทำเพียงมองกลับมาอย่างเฉยเมย
ถ้าเทียบกับตะวันกับซาตานหนุ่มที่ทอดกายอยู่บนเตียงเธอในคืนนั้น คนตรงหน้าเทียบไม่ติดเลยแม้แต่นิดเดียว ร่างกายผอมแห้งสูงชะลูด กับกล้ามเนื้อกำยำและปีกสยายที่พาเธอโบยบินได้แม้กระทั่งยามมีอะไรกันจะเทียบได้ยังไง
ไม่รวมแก่นกายที่ขยายออกได้ดั่งใจอีก
ให้ตายเถอะ!!!
กระแสไฟประหลาดแล่นขึ้นที่กลางระหว่างขาไปจนถึงใบหน้าแดงก่ำ มือที่จับเมาส์สั่นเล็กน้อยหลังออกแรงบีบมากขึ้น
ถ้าไม่ใช่ความฝันแล้วทำไมเขาถึงหายไปเลยนะ
“ดอกแก้วก็ดูเขินมึงไม่ใช่เหรอวะ ทำไมทำท่าเหมือนไม่สนใจมึงเลยวะไอ้ตะวัน” เอกกระซิบถามแววตาเต็มไปด้วยความสงสัย
“หรือว่าไม่ได้ชอบไอ้ตะวันแล้ว”
“คนเราเปลี่ยนไปได้เร็วขนาดนี้เลยเหรอ กูว่าเรียกร้องความสนใจ”
“ก็ถ้าเจอคนใหม่ที่ดีกว่าก็ได้ไม่ใช่รึไง” ซันเอ่ยก่อนจะจับตามอง ใบหน้าเปล่งปลั่งที่กำลังแดงก่ำ ดวงตากลมโตที่กะพริบปริบจ้องมองเขาไปในคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก แต่กลับไม่รับรู้เลยว่าเธอกำลังมีสมาธิ “ว่าแต่มองดี ๆ ก็น่ารักอยู่นะ”
“พูดบ้าอะไรกัน นังนั่นเนี่ยนะ”
ซันยักไหล่ “หึงเหรอเบบี๋”
“บ้านนายสิซัน ฉันยิ่งหงุดหงิดอยู่นะบอกว่ามีธุระสำคัญไง” ลียาพึมพำตวัดสายตามองกลุ่มเพื่อน แล้วตะโกนถามดอกแก้วอีกรอบ “เธอแลกเวรโอทีกับฉันไม่ได้จริง ๆ เหรอดอกแก้ว”
“ฉันต้องรีบกลับบ้านน่ะ”
ปัง!!!
“โอ๊ยยยหงุดหงิด!!!” ลียาคว้าแก้วน้ำกระแทกลงบนโต๊ะอย่างไม่พอใจ คนที่หัวอ่อนสั่งอะไรก็ทำตอนนี้กลายเป็นหัวแข็งไม่ยอมท่าเดียว นัดเดตสำคัญของเธอก็ปล่อยให้หลุดมือไม่ได้ แล้วยังมาต้องทำโอทีกับคนพวกนี้อีก
“เกิดอะไรขึ้นเหรอครับคุณลียา”
“ไม่มีอะไรเลยค่ะคุณคิน”
คิน?
ดอกแก้วขมวดคิ้วก่อนดวงตาใต้กรอบแว่นจะเหลือบขึ้นมองร่างสูงใหญ่ในชุดสูท ทำไมเธอถึงรู้สึกคุ้นเคยกับเขาจังนะ
“พนักงานในบริษัทเรามีคนชื่อคินด้วยเหรอคะ”
“ผู้อำนวยการฝ่ายคนใหม่ไง เห็นว่าบริษัทแม่ส่งมาจากสาขาใหญ่” ตะวันส่งยิ้มให้พร้อมกับเลื่อนเก้าอี้นั่งข้างดอกแก้ว
“แล้วพี่อ้อล่ะ”
“ไม่รู้สิน่าจะโดนจ้างออกไปแล้ว เพราะอยู่ ๆ ก็หายไปแล้วคุณคินมาแทนน่ะ”
“งั้นเหรอ”
ไม่แปลกไปหน่อยรึไง
“สวัสดีครับผมอคินฝากตัวด้วยครับ” ร่างสูงหมุนตัวกลับก่อนความสูงกว่าหนึ่งร้อยแปดสิบห้า จะทำให้คนที่นั่งอยู่ต้องเงยหน้าขึ้นมอง
สันกรามแกร่งที่รับกับเรือนผมสีดำสนิท สีเดียวกับดวงตา หากแต่กลิ่นความตายกลับฟุ้งกระจายอยู่รอบตัวเขา ดอกแก้วอ้าปากค้างเมื่อยามเขากะพริบตา เธอกลับเห็นนัยน์ตาสีแดงก่ำของเขาค่อย ๆ เลือนหายกลายเป็นสีดำ พร้อมกับรอยยิ้มกว้าง
“ทำไมคุณถึงมาอยู่ที่นี่!!!”
ซาตานหมายเลข 069!!!
“รู้จักกันเหรอ”
“คุณมาคุยกับฉันเดี๋ยวนี้เลย”