“เธอรู้จักคุณอคินเหรอ บริษัทแม่ส่งมาเลยนะ เคยเจอหรือเป็นเพื่อนสมัยเด็กเหรอ หรือว่าคนรู้จัก” ล้อของเก้าอี้ลียาเลื่อนมาถึงโต๊ะของดอกแก้วไม่ทันตั้งตัว สาวสวยประจำออฟฟิศเกาะโต๊ะถามด้วยความอยากรู้
ใครจะไปคิดว่าสาวเฉิ่มและวัน ๆ เอาแต่ตรงกลับห้องอย่างดอกแก้วจะรู้จักคนระดับนั้น
“คือ...”
“รวยไหม” ลียาถามตาวาว “เป็นลูกเจ้าของบริษัทหรือว่าเป็นลูกซีอีโอคนไหนเหรอ”
เป็นซาตาน!
ดอกแก้วพยายามห้ามตัวเองไม่ให้ตอบกลับไป มือที่ดันกรอบแว่นปิดริมฝีปากที่เม้มสนิท เธอยังหงุดหงิดกับการไม่ได้ปลดปล่อยไม่หาย
นัยน์ตามีน้ำตาเคลือบฉ่ำเหลือบมองลียา ก่อนจะสะดุดกับตะวันที่จ้องมองมาด้วยสายตาอยากรู้ในแบบเดียวกัน หนุ่มหล่อที่เธอเคยชอบ ในตอนนี้พอขยับออกห่างดูเหมือนเขาจะเข้าใกล้มาเรื่อย ๆ
แต่พอคิดถึงคำพูดของเขาหัวใจเธอก็บีบรัดแน่น
ท่าทางแบบนั้นแค่คิดว่าต้องจูบกันก็ขนลุกแล้ว
ถึงจะมีอคินแล้วแต่ก็ปฏิเสธไม่ได้หรอกว่าเธอจะไม่รู้สึกแย่กับคนที่ตัวเองชอบ
“แล้วตกลงเป็นอะไรกันเหรอ”
“ทำไมมึงสนใจดอกแก้วจังวะ” เอกหัวเราะเมื่อได้ยินคำถามของตะวัน
“ก็แค่อยากรู้ เหมือนจะสนิทกันมากเลย ปกติไม่เคยเห็นแก้วมีเพื่อนสนิทคนอื่นนี่” ตอนกลางวันดอกแก้วก็มักจะไปกินข้าวคนเดียว ถ้าเขาชวนเธอก็ไปกับกลุ่มเขาบ้าง แต่อยู่ดี ๆ ก็สนิทกับอคินราวกับเป็นคนละคน สำหรับเขามันแปลกจนอดเสียมารยาทไม่ได้
“ฉันเจอกับคุณอคินเมื่อสองสามวันก่อน ก็เลยพอรู้จักกัน”
บนเตียงและในห้องนอนของเธอ
“แต่ดูสนิทมากเลยนะ นึกว่าเป็นเพื่อนสมัยเด็กกันซะอีก อีโธ่เอ๊ย! ก็แค่เคยเจอกัน” ยิ้มเหยียดปรากฏขึ้น “นึกว่าดอกแก้วของเราจะมีอะไรดี ๆ กับเขาบ้าง ไม่มีเลยนี่”
ดอกแก้วยิ้มพลางกำหมัด
ไม่เข้าใจเลย
ทำไมเธอต่อปากต่อคำกับซาตานหนุ่มได้ฉะฉาน แต่กลับต้องพ่ายแพ้ให้กับคนในที่ทำงานด้วย น้ำเสียงหัวเราะแหลมของลียาทำให้คนที่กำลังหงุดหงิดได้สติ นัยน์ตากลมโตฉายแววพร้อมกระตุกริมฝีปาก
“อือ พอดีอยู่คอนโดเดียวกันแล้วเขามาจีบน่ะ ไม่ได้สนิทกันหรอก”
ไหน ๆ ก็มาทำสัญญากับเธอแล้วก็ช่วยหน่อยแล้วกัน
“ห๊ะ!!! โกหก คุณคินเนี่ยนะจะจีบคนอย่างเธอ”
“วันนั้นที่ไม่ได้ไปกับพวกเธอ บังเอิญเจอคุณคินแล้วเขาเข้ามาขอเบอร์ เลยได้ดื่มด้วยกันนิดหน่อย...ก็น่าจะจีบนะ” น้ำเสียงแผ่วเบาพร้อมกับดวงตาที่ไม่มีแววของความมั่นใจทำให้คนที่มองอึ้งไปชั่วขณะ คนทั้งกลุ่มอ้าปากค้างไม่เชื่อสายตา ตะวันนิ่งเงียบเขาระบายยิ้มบาง ๆ แต่ในหัวกลับคิดไปถึงคำของซัน ที่บอกว่าดอกแก้วเมินตัวเองเพราะมีคนเข้ามาจีบ ความขุ่นมัวในใจตีขึ้นมาในอกอย่างไม่ทันตั้งตัว
“โกหกแน่ ๆ”
“ก็คงงั้นแหละ เขาอาจจะแค่อยากบันทึกเบอร์ของฉันลงเครื่องไว้เฉย ๆ เลยมาขอ ไม่น่าจะอยากได้จริง ๆ หรอก” หญิงสาวระบายยิ้มด้วยสีหน้าใสซื่อ
แต่มันกลับยิ่งเติมเชื้อไฟให้ลียาเข้าไปอีก
“งั้นก็เอาเบอร์เขามาให้ฉันดู”
ดอกแก้วส่ายหน้าแล้วคว้าโทรศัพท์มือถือก่อนที่ลียาจะแย่งมันไป “ฉันไม่มี”
“ไหนบอกเขามาจีบไงถ้าจีบจริงก็ต้องมีสิ แชตหรืออะไรก็ได้ อย่ามาโกหกหน้าด้าน ๆ สิ”
“ก็ฉันไม่ได้ให้เบอร์คุณคินไปนี่ ต้องมีเหรอ” เธอยิ้มเหนือกว่าหลังจากเห็นใบหน้าซีดของลียา สาวสวยประจำออฟฟิศร้องเฮอะอย่างไม่ถูกใจ
“ทำเป็นผยองไปเถอะ”
“ฉันยังไม่ได้ทำอะไรเลยนะ” คิ้วเรียวขมวดมุ่นอย่างไม่เข้าใจ เธอรวมไอเดียสำหรับการประชุมพรุ่งนี้เช้าก่อนจะถอนหายใจเมื่อแต่ละคนพากันกลับโต๊ะ มีเพียงซันทีหันมายกนิ้วโป้งให้เธอ ดอกแก้วเลยยกกลับอย่างงง ๆ อะไรของคนพวกนี้นะ
ออฟฟิศฝ่ายโฆษณาและฝ่ายขายขนาดหนึ่งชั้น มีพนักงานไม่เกินยี่สิบคน ถ้าไม่ใช่สาขาใหญ่คนใหญ่ที่สุดก็คือผู้อำนวยการอย่างอคิน
เธอแอบเห็นเขาเดินไปเดินมาในห้อง แล้วเปิดม่านมองเธอ ดูท่าจะหาทางยกเลิกสัญญาอย่างขะมักเขม้นมากกว่ามาทำงานอย่างจริงจัง
แต่พอได้บ่ายโมงก็ดูเหมือนซาตานหนุ่มจะเริ่มขี้เกียจ เขาเดินออกมาจากห้อง ก่อนฝีเท้ามั่นคงจะถูกรั้งไว้ด้วยเสียงของลียา
“คุณคินคะ ฉันมีเรื่องจะถามค่ะ”
“เชิญครับ”
“ดอกแก้วบอกว่าคุณจีบเธอ ดอกแก้วโกหกใช่ไหมคะ คนอย่างคุณคินจะจีบดอกแก้วได้ยังไง” น้ำเสียงดังกังวานตั้งใจจะให้ดอกแก้วอาย ลียากระหยิ่มยิ้มย่องในใจ
กล้าดียังไงมาโกหกเธอจะทำให้อายทั้งออฟฟิศเลย
ดวงตาดำสนิทที่เป็นม่านปิดดวงตาแดงก่ำเหลือบมองดอกแก้ว เขาเกาคางอย่างพิจารณา ดอกแก้วเองก็แยกเขี้ยวขู่ฟ่อราวกับเตือน ว่าถ้าหากทำเธอขายหน้าเธอจะข่วนหน้าเขาอย่างนั้นแหละ
ซาตานหนุ่มถอนหายใจ
“คนปกติมีเซ็กซ์กันเรียกจีบเหรอ งั้นก็คงจีบแหละครับ”
!!!
“ผมขอตัวก่อนนะ พอดีได้เวลาเลิกงานแล้วน่ะ” ร่างสูงกระตุกยิ้มหวานก่อนจะเร่งฝีเท้าออกจากออฟฟิศ
ทิ้งให้ดอกแก้วอ้าปากค้างกับคำตอบ
เธอจะบ้าตายกับไอ้ซาตานนี่รายวัน!!!