"เจ้าไม่ต้องห่วงนะ ข้าทำผิดข้ายอมรับโทษ และคนที่ทำผิดพวกนั้นข้าจะทวงคืนโทษให้เจ้าเอง"
เสี่ยวเหลียนคุกเข่ากอดขาของเมิ่งลี่เฟยทั้งก้มหน้าสะอึกสะอื้น
"ลำบากคุณหนูแล้ว บ่าวคิดว่ามาอยู่ที่นี่จะดีเสียอีก เหตุใดท่านอ๋องใจร้ายเยี่ยงนี้ ลำบากกว่าอยู่ที่จวนเรามากนัก"
เมิ่งลี่เฟยกลับหัวเราะเสียงแห้ง มุมปากยกขึ้นคล้ายจะเย้ยหยันชะตาตน มือเรียวลูบแผ่นหลังสาวใช้เบา ๆ เพื่อปลุกปลอบ
"ชีวิตข้าก็เป็นเช่นนี้ เจ้ายังไม่ชินอีกหรือ เขาจะร้ายก็ช่างจะดีก็เรื่องของเขา ข้าทำผิดข้ายอมรับเจ้าไม่ต้องร้องไห้ไป หยุดร้องไห้แล้วไปทำหน้าที่ของเจ้าเถิด ข้าบอกเจ้ากี่หนแล้ว น้ำตามิใช่จะหลั่งให้ผู้ใดก็ได้ อย่าได้อ่อนแอนักเลย"
เสี่ยวเหลียนกลั้นสะอื้น ปาดน้ำตาออกจากสองแก้ม เมื่อคิดได้ว่าต้องไปรับอาหารมาให้คุณหนูแล้ว จึงลุกขึ้นยืนด้วยท่าทางองอาจดั่งที่คุณหนูเคยสอนเอาไว้ เสี่ยวเหลียนจัดเก็บถ้วยยาแล้วเอ่ยเบา ๆ
"บ่าวเข้าใจแล้วเจ้าค่ะ คุณหนูรอบ่าวสักครู่นะเจ้าคะ ประเดี๋ยวบ่าวไปยกอาหารมาให้"
เสี่ยวเหลียนออกไปแล้ว เมิ่งลี่เฟยถอนหายใจออกมายามนี้ไหล่ที่เคยยกขึ้นกลับลู่ลงเล็กน้อย นางมิใช่คนที่เข้มแข็งเลยสักนิด แต่ก็ไม่เคยแสดงออกว่าตนอ่อนแอให้ผู้ใดเห็น
ในชีวิตของเมิ่งลี่เฟยที่ผ่านมา ทุกคนล้วนมองนางว่าเป็นสตรีใจหิน ภายใต้ความเฉยเมยที่นางแสดงออก ผู้ใดจะรู้ว่านางผ่านบาดแผลมาเท่าใดบ้าง
หนึ่งชั่วยามผ่านไปแล้ว ยังไม่เห็นว่าเสี่ยวเหลียนจะกลับมา เมิ่งลี่เฟยใจคอไม่ดี นางเดินมาที่ประตูหน้าเรือนทหารสองคนส่งสายตาห้ามปราม ด้วยนางยังถูกกักขังจึงไม่อาจก้าวขาออกจากที่นี่ได้ คำสั่งของอ๋องเจ็ดคือให้นางสำนึกผิดเจ็ดวันเวลาเพียงแค่นี้ไม่ได้นานเลยนางย่อมทนได้
เมิ่งลี่เฟยลากสังขารที่ยังไม่สู้ดีเดินออกมาที่ประตูอีกครั้ง ด้วยไม่อาจนั่งรอเฉย ๆ ต่อไปได้ ต้องเกิดเรื่องกับเสี่ยวเหลียนเป็นแน่ แม้ว่าตนเองจะอ่อนแรงเพียงใดกระนั้นในยามที่เอ่ยกับทหารก็ยังคงมีท่วงท่าสูงศักดิ์เป็นอย่างยิ่ง
"พวกเจ้าสองคน ผู้ใดก็ได้ไปดูบ่าวของข้าเสียหน่อย เหตุใดนางยังไม่กลับมา"
ทหารสองคนกลับทำใบหน้านิ่งเฉย ไม่ขยับเลยแม้แต่น้อย เมิ่งลี่เฟยจึงเอ่ยเสียงต่ำทั้งดุดันน่ากลัว
"ถึงข้าจะถูกลงโทษ แต่โทษนี้ไม่นานก็หมดสิ้น เจ้าก็คอยดูเถิดเมื่อข้าออกไปจากที่นี่แล้วตำแหน่งของเจ้าในจวนนี้ยังจะรักษาได้อีกหรือไม่"
ทหารสองคนต่างมองหน้ากัน ไตร่ตรองถี่ถ้วน สองสามวันที่ผ่านมาไม่เคยเห็นพระชายาหลั่งน้ำตาเลยสักหน แม้ว่าจะถูกกักขังเช่นนี้ก็ยังไม่หวาดกลัว สตรีนางนี้มีชื่อเสียงเรื่องความโหดเหี้ยมพวกเขาเองได้ยินมาไม่น้อย ดังนั้นแล้วจึงรู้สึกหวาดกลัวอยู่บ้าง
"พ่ะย่ะค่ะ"
ในที่สุดหนึ่งในสองก็รับคำ เขาประสานมือก่อนจะเดินออกจากตำหนักเย็น ทว่ายังไม่ทันพ้นตำหนักเสี่ยวเหลียนก็ถูกองครักษ์นายหนึ่งหิ้วปีกเข้ามาที่เรือนเย็น
นางสลบไปแล้วแผ่นหลังมีเลือดไหลซึมออกมา เห็นได้ชัดว่าถูกทำโทษโดยการโบย ร่างของเสี่ยวเหลียนถูกโยนลงพื้นเมิ่งลี่เฟยทรุดลงเขย่าร่างของบ่าวคู่ใจ เสี่ยวเหลียนกลับไม่ได้สติ มือสั่นจนควบคุมไม่อยู่ ดวงตาวาวโรจน์แดงก่ำ นางหันขวับไปมองทหารที่หิ้วปีกเสี่ยวเหลียนมา ตะคอกถามด้วยน้ำเสียงสั่นระรัว
"พวกเจ้าทำอะไรนาง"
บ่าวสูงวัยผู้หนึ่งเผยตัวออกมา ยอบกายอย่างเสียไม่ได้ทั้งเอ่ยเสียงดังวางอำนาจ
"นังบ่าวผู้นี้ทำตัวต่ำช้า ติดสินบนคนครัวนำอาหารที่ไม่ได้รับอนุญาตมาให้พระชายา ข้าน้อยเพียงแค่ลงโทษนางตามกฎจวนสั่งโบยไปเพียงยี่สิบไม้ ไม่คิดว่าจะใจเสาะสลบไปเช่นนี้"