ความทรงจำในวัยเด็กของผมอีกอย่างคือครอบครัวของผมกับพี่แป้งเราจะสนิทกันมาก อย่างที่เคยเล่าให้ฟังว่า ผมไปโรงเรียนพร้อมกับพี่แป้งและน้าปิ่นทุกวัน แถมผมยังฝากท้องมื้อเย็นไว้กับครอบครัวนี้บ่อยๆ แด๊ดกับแม่ผมก็จะพยายามตอบแทนน้าปิ่นบ้าง ด้วยการจัดปาร์ตี้เล็กๆ ในวันหยุด ซึ่งครอบครัวผมจะทำพวกสเต๊ก สปาเก็ตตี้ ของปิ้งย่าง ของทอดบ้าง ส่วนน้าปิ่นก็จะทำขนมไทยเอามาแจมกัน
อย่างวันนี้แม่ผมเตรียมสปาเก็ตตี้ซอสมะเขือเทศของโปรดของผม ส่วนแด๊ดผมก็เตรียมสเต๊ก เรื่องการกริล เรื่องย่างต่างๆ ต้องยกให้แด๊ดผม ไม่ใช่แด๊ดทำเก่งหรอกนะ แต่เป็นเพราะแม่ผมไม่ชอบทำ แม่ชอบบอกว่าหัวเหม็นบ้างหล่ะ หรือไม่ก็เดี๋ยวฝ้าขึ้นหน้าบ้างหล่ะ แต่ผมกำลังคิดว่ามันเป็นข้ออ้างของแม่แน่แน่ แท้จริงแล้วแม่ผมขี้เกียจหรือเปล่า ฮ่า ฮ่า
ตอนนี้แม่กำลังจัดของที่โต๊ะหน้าบ้าน ส่วนแด๊ดก็ยืนกริลเนื้อหมูอยู่ที่หน้าเตาหน้ามันเยิ้มเลย นั่นไงน้าปิ่นกับพี่แป้งคนสวยของผมมาแล้ว เดินถือถาดขนมมาด้วย ผมตื่นเต้นจังเลย เอ.. วันนี้ผมจะได้กินขนมอะไรนะ ก็น้าปิ่นทำขนมอร่อยมากไง แล้วในแต่ละครั้งก็จะทำมาไม่เคยซ้ำกันเลย ครั้งก่อนทำขนมวุ้นรูปเป็ด กระต่าย ดอกไม้ สวยมากและก็อร่อยด้วย ผมกินไปตั้งเยอะกินเลย กินจนพุงกลมนั่งนิ่งลุกไปไหนแทบไม่ได้เลย สุดท้ายก็ไปอ๊วกออก จนโดนแม่ดุว่า “ผมตะกละ” ฮ่า ฮ่า ฮ่า เอ.. วันนี้ผมจะได้กินอะไรนะ ตื่นเต้น
“เย้ เย้ น้าปิ่นกับพี่แป้งมาแย้ว”
ผมกระโดดโลดเต้นดีใจวิ่งไปสวัสดีน้าปิ่น แล้วก็เดินไปจับมือพี่แป้งแกว่งไปแกว่งมา น้าปิ่นวางถาดขนมลงบนโต๊ะ ผมจะชะโงกหน้าไปมองเห็นขนมสีขาวอยู่ในถ้วยทำจากใบไม้สีเขียว
“วันนี้น้าปิ่นกับพี่แป้งทำขนมอะไรมาให้น้องเจย์เดนกินครับ”
“วันนี้น้าปิ่นทำขนมตะโก้มาค่ะ”
“ขนมจะโก้หรือครับ”
“ไม่ใช่จะโก้ค่ะ เขาเรียกว่าขนมตะโก้”
“จะโก้”
“ตะ... โก้ ค่ะน้องเจย์เดน”
“ขนมตะ...โก้”
“เก่งมากครับ ขนมตะโก้”
กว่าผมจะเรียกชื่อขนมถูกเล่นเอาน้าปิ่นเหนื่อยเลย ผมหันไปทางพี่แป้ง แล้วอ้อนให้พี่แป้งป้อนขนมให้ผม
“พี่แป้งครับน้องเจย์เดนจะกินขนม ตะ...โก้ ครับ ป้อนน้องเจย์เดนหน่อย”
ผมยื่นหน้าเข้าไปใกล้พี่แป้งแล้วอ้าปากกว้างรอไว้ ราวกับลูกนกรอแม่นกมาป้อนเหยื่อให้ พี่แป้งเอาช้อนคันเล็กตักขนมป้อนใส่ปากผม ผมรับมากินเคี้ยวกินแก้มตุ่ย
“อร่อยไหมเจย์เดน”
“อร่อยมากครับ เอาอีก เอาอีก”
พี่แป้งป้อนขนมผมไปสองชิ้น เสียงแม่ผมก็ตะโกนมาว่า
“เจย์เดนมากินสปาเก็ตตี้ก่อนลูก แล้วค่อยไปกินขนม”
“สปาเก็ตตี้เจย์เดนกินบ่อยแล้ว แต่เจย์เดนพึ่งเคยกินขนมตะโก้ ขอเจย์เดนกินอีกคำนะครับ มันอร่อยมากเลย”
สักพักแด๊ดก็เอาสเต๊กมาเสิร์ฟบนโต๊ะให้แม่กับน้าปิ่นคนละจานแล้วแม่ก็หันไปถามพี่แป้งว่าจะกินอะไร
“หนูแป้งจะกินสเต๊กหรือสปาเก็ตตี้จ๊ะ”
“แป้งขอกินสปาเก็ตตี้ค่ะ น้าเดือน”
“เย้..เจย์เดนก็เอาสปาเก็ตตี้เหมือนพี่แป้งครับแม่”
ผมหันไปยิ้มให้พี่แป้ง ผมดีใจที่พี่แป้งชอบกินเหมือนผม วันนี้ผมจะกินสปาเก็ตตี้เอง ผมใช้ส้อมตักม้วนใส่ปาก ซึ่งเจ้าเส้นสปาเก็ตตี้ก็ใจร้ายกับผมมากไม่ยอมเข้าปากดีดี หกกระเด็นเต็มโต๊ะเลอะเสื้อผมไปหมดเลย ซึ่งที่บ้านผมเขาจะฝึกให้ผมกินข้าวเอง จะหกอย่างไรก็ไม่ว่า แต่ห้ามเล่น ต้องกินให้หมด น้าปิ่นมองผมอย่างเอ็นดู
“น้องเจย์เดนเก่งนะคะ กินสปาเก็ตตี้เองจะหมดจานแล้ว”
“ต้องฝึกค่ะ พี่จะไม่ค่อยตามใจเขาเท่าไหร่ เพราะเวลาไปอยู่ข้างนอกเขาจะต้องช่วยเหลือตัวเองได้
“ดีค่ะพี่เดือน พี่เดือนสอนลูกมาดีมากเลย”
“แต่ก็แอบเหนื่อยนะคะ เหนื่อยตอนเก็บล้าง เก็บซักเนี่ย ฮ่า ฮ่า ฮ่า”
ผมหันไปมองพี่แป้งแล้วยิ้มตาหยีให้ ปากเปื้อนซอสเลอะเสื้อด้วย
“น้องเจย์เดนเก่งไหมครับ น้องเจย์เดนกินสปาเก็ตตี้หมดจานเลย”
“เก่งจ้า น้องเจย์เดนเก่งที่สุดเลย”
ผมหันไปทำท่าจะไปกอดพี่แป้ง แม่ผมรีบมาคว้าดึงคอเสื้อผมไว้ได้ทันไม่อย่างนั้นพี่แป้งอาจจะได้ตัวเปื้อนซอสไปกับผม
“เลอะเทอะหมดแล้ว จะไปกอดสาวได้อย่างไรเจย์เดน ไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าใหม่ก่อน มาเดี๋ยวแม่พาไป”
“พี่เดือนไม่ต้องไปหรอกค่ะ นั่งกินต่อดีกว่า เดี๋ยวให้น้องแป้งพาเจย์เดนไปก็ได้ค่ะ .. ไปแป้งพาน้องไปอาบน้ำแต่งตัวใหม่หน่อย เอาให้หล่อๆ เลยนะ”
“ได้ค่ะแม่.. ไปเจย์เดนไปอาบน้ำกัน”
พี่แป้งจูงมือผมไปที่ห้องผม แล้วถอดเสื้อให้ผมแล้วไล่ผมเข้าห้องน้ำไป ผมก็งอแงอยากให้พี่แป้งอาบน้ำให้
“พี่แป้งมาอาบน้ำให้น้องเจย์เดนหน่อย”
“เจย์เดนโตแล้วอาบน้ำเองได้แล้วครับ เดี๋ยวพี่แป้งเตรียมเสื้อรอไว้ที่ห้องนะ”
“เจย์เดนอาบน้ำเองไม่ได้ พี่แป้งอาบน้ำให้น้องหน่อยนะคร๊าบบบบ”
พี่แป้งใจอ่อนเข้ามาอาบน้ำให้ผม ถูสบู่ให้ผมทั้งตัวเลย ผมก็แกล้งเอาฝักบัวฉีดน้ำไปที่พี่แป้ง
“พี่แป้งอาบน้ำ พี่แป้งอาบน้ำ”
“โอ๊ย.. เจย์เดนเล่นอะไรนี่ พี่เปียกหมดแล้ว”
แล้วพี่แป้งก็หันมาหาผมตีที่ก้นผมกับดึงจู๋ผมแล้วปล่อยอย่างแรง
“โอ๊ย... พี่แป้งน้องเจ็บนะ”
“ดี ดื้อดีนักก็ต้องโดนแบบนี้ จะแกล้งพี่แป้งอีกไหม”
“น้องเจย์เดนไม่แกล้งพี่แป้งแล้ว”
ผมทำตาปริบๆ ยังเจ็บจู๋น้อยอยู่เลย ผู้หญิงอะไรโหดชะมัด
“ทีหลังถ้าแกล้งพี่อีก จะดึงให้ขาดเลย แล้วพี่จะไม่มาเล่นกับเจย์เดนด้วยแล้ว”
พี่แป้งลุกหนีผม ผมวิ่งเข้าไปกอดพี่แป้งทั้งที่เนื้อตัวยังล่อนจ้อนเปียกปอนแบบนั้น
“นี่เจย์เดนปล่อยพี่ก่อน”
“พี่แป้งอย่าทิ้งน้อง น้องเจย์เดนไม่แกล้งพี่แป้งแย้วครับ”
“งั้นก็ไปแต่งตัว”
“พี่แป้งแต่งตัวให้หน่อย
“ไม่เจย์เดนทำตัวไม่น่ารัก ต้องโดนลงโทษไปแต่งตัวเอง พี่จะนั่งรอตรงนี้”
พี่แป้งเอาผ้าขนหนูมาห่อตัวผมแล้วดันตัวผมให้ไปแต่งตัวเอง ผมก็พยายามใส่เสื้อผ้าเอง ตอนแรกผมใส่เสื้อไม่ได้ พี่แป้งก็ไม่ใจอ่อนมาใส่ให้ผมจนพยายามใช้เวลาอยู่นานสองนานกว่าจะใส่ได้ พอแต่งตัวเสร็จผมก็เดินทำตาปริบๆ มาหาพี่แป้ง พี่แป้งจับผมหมุนซ้ายที ขวาที เพื่อตรวจสอบความเรียบร้อย แล้วก็มาหวีผมและทาแป้งให้ผม พี่แป้งจับแก้มยุ้ยของผมดึงยืดออกด้านข้างอย่างมันเขี้ยว
“มันเขี้ยวเจ้าแก้มยุ้ยจริงๆ ถ้าครั้งต่อไปแกล้งพี่อีก พี่จะโกรธและไม่มาเล่นด้วยอีก ดูสิพี่เปียกไปทั้งตัวเลย”
“น้องเจย์เดนไม่แกล้งพี่แป้งแล้ว เดี๋ยวพี่แป้งโกรธ เดี๋ยวพี่แป้งไม่แต่งงานกับน้องเจย์เดน น้องเจย์เดนขอโทษ จุ๊บน้องหน่อยนะ”
ผมยื่นปากจู๋ไปให้พี่แป้งจุ๊บ พี่แป้งก็จุ๊บตอบแล้วจูงมือผมไปหน้าบ้าน ไปถึงหน้าบ้านทั้งแด๊ดแม่และน้าปิ่นกำลังคุยอะไรกันสักอย่างหัวเราะกันเสียงดังเลย
“ไอ้ลูกหมาของแม่มาแล้ว แต่งหล่อมาเลย อ้าวแล้วทำไมหนูแป้งตัวเปียกปอนแบบนั้นล่ะ”
“น้องเจย์เดนทำพี่แป้งเปียกเองครับ พี่แป้งโกรธน้องตีก้นน้องดังเพี้ยะเลย”
“อุ๊ย .. ยัยแป้งไปตีน้องทำไมลูก”
น้าปิ่นหันไปดุพี่แป้ง ผมรีบวิ่งไปขวางระหว่างน้าปิ่นกับพี่แป้ง
“น้าปิ่นไม่ดุพี่แป้งนะครับ เป็นน้องเจย์เดนที่ดื้อเอง เด็กดื้อก็ต้องโดนทำโทษครับ และตอนนี้น้องเจย์เดนไม่เจ็บแล้วด้วย”
“แหมตัวแค่นี้รู้จักปกป้องเป็นแล้วนะ”
น้าปิ่นคว้าตัวผมมากอดแล้วหอมแก้มผมดังฟอดด แล้ววางผมลง
“ต่อไปนี้น้องเจย์เดนจะดูแลและปกป้องพี่แป้งเองครับ”
ผมวิ่งไปเกาะเอวพี่แป้ง แล้วเงยหน้ามองพี่สาวที่น่ารักและใจดีของผม