“อย่าไปสนเลยค่ะครูขา ดูเลขข้อนี้ให้เน่ต่อดีกว่าค่ะ” เนเน่ดึงความสนใจของครูกลับมาที่ตนเอง เพื่อนๆ ในห้องต่างมองเนเน่ด้วยสวยตาไม่พอใจที่แสดงความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของครูเกินหน้าเกินตา
“นิดา” ธีร์ร้องเรียกเสียงอาวรณ์ ไม่ได้สนใจนักเรียนข้างกายที่เท้าแขนขึ้นมาบนตักเขาแล้ว
แต่นิดาไม่ได้สนใจเขาเลย เดินไปกระแทกตัวลงนั่งที่โต๊ะหลังห้อง คู่กับอิงฟ้า สาวสวยจากอีกโรงเรียนที่มองธีร์ตาเยิ้ม
“นิว่ารูปไหนสวย”
อิงฟ้าหยิบรูปที่ตัวเองถ่ายคู่กับธีร์หลายรูปมาให้นิดาช่วยเลือก นิดาหยิบมาดู เป็นรูปที่อิงฟ้าเบียดตัวอยู่กับไหล่ของธีร์ บางรูปธีร์ก็วางมือบนหัวอิงฟ้า
“ถ่ายที่ไหนเหรอ” นิดาถามเสียงเรียบ เหลือบตามองไปด้านหน้าก็พบว่าเขาจ้องมองเธออยู่
“ที่ร้านไอติมในห้าง ให้คนอื่นถ่ายให้ เป็นกล้องฟิล์ม เราเพิ่งล้างมา ช่วยเลือกหน่อยสิ เดี๋ยวจะเอาไปให้ครูธีร์” อิงฟ้ายิ้ม นิดาเห็นแววตาที่ไม่ได้เป็นมิตรสักเท่าไรแว่บหนึ่ง เธอเลือกส่งๆ ใบหนึ่ง
“รูปไหนก็สวยทั้งนั้นแหละ เอารูปนี้ละกัน”
เธอไม่ควรเปิดโอกาสให้ธีร์พาตัวเข้ามาใกล้ชิด ไม่ควรปล่อยใจไปกับเขา ถ้าไม่อยากเสียใจ เขามีเสน่ห์ดึงดูดให้ผู้หญิงเข้าหา ผู้หญิงแต่ละคนพร้อมจะฟาดฟันกันเพื่อเป็นหนึ่งเดียวของเขา นิดาเองก็ตัดสินใจคบกับภัทรแล้ว เธอต้องให้ความสำคัญกับรุ่นพี่เท่านั้น
“นิดา มาเอาสมุดครับ” ธีร์เอ่ยฝ่าวงล้อมสาวๆ ที่เริ่มเดินไปออกันที่โต๊ะของเขา เมื่อครู่นิดาหยิบไปแต่กระเป๋า ยังไม่ได้หยิบสมุดการบ้านที่เขาตรวจแล้วไปด้วย
นิดาลุกขึ้น อิงฟ้าลุกตาม และเดินมาพร้อมกัน วงล้อมสาวๆ เปิดทางให้นิดาได้หยิบสมุด แล้วพากันมองรูปที่อิงฟ้าวางลงตรงหน้าธีร์บนสมุดการบ้านที่กางสลอนให้เขาอธิบายโจทย์ข้อที่ตัวเองทำผิด เห็นเงียบๆ เรียบร้อยนุ่มนิ่ม แต่อิงฟ้าร้ายลึก โคตรแอ๊บ เจ้าหล่อนต้องการโชว์ว่าตัวเองเหนือกว่าใคร มีนอกรอบกับคุณครูสุดหล่อ
“ฮัดเช้ย” นิดาจามเข้าไปในวง กลิ่นโคโลญแยงจมูกจนเธอฉุนเมื่อทุกคนจัดเต็ม น้ำลายเด็กสาวกระเด็นเป็นวงกว้าง
“อี๋ ทุเรศ สกปรก” เนเน่เกรีดร้อง วิ่งหายไปทางห้องน้ำ
“ฮัดเช้ย” จามอีกรอบเพราะคันจมูกไม่หาย
“ยี้ จะอ้วก” อิงฟ้าทำหน้าแหยะ แล้ววิ่งลงข้างล่างไป แป๊บเดียวเสียงประตูห้องน้ำก็ปิดดังปัง
คนอื่นๆ แตกฮือ วิ่งไปต่อคิวห้องน้ำเพื่อล้างแขน ธีร์เพียงแค่เอามือลูบแขนและใบหน้า มุมปากยกยิ้มเอ็นดู
“ขอโทษค่ะครู หนูเหม็น” นิดายกมือไหว้เขาอย่างรู้สึกผิด ก่อนเอามือหนึ่งขยี้จมูก อีกมือเอื้อมหยิบสมุดของตัวเอง
“เป็นหวัดหรือเปล่าคะ” ธีร์จับนิ้วยาวดั่งลำเทียนบนสมุด ทำประหนึ่งเป็นเจ้าของเธอไปแล้ว
“คัดจมูกนิดหน่อยค่ะ” เธอดึงทั้งสมุดและมือตัวเองออกมา ก่อนหันหลังกลับเดินไปที่โต๊ะ พอดีกับที่คนอื่นๆ ทยอยกลับมารุมโต๊ะเขาต่อ
มันเป็นภาพที่เธอเห็นทุกวัน และห้องที่เขาให้เธอเข้าไปในวันนี้ เธอก็ไม่รู้ว่าก่อนนี้เขาชวนนักเรียนหญิงเข้าไปกี่คนแล้ว แต่มันจบแล้วละ ไม่มีประโยชน์ที่จะไปคิดถึงมัน นิดาตัดเหตุแห่งความวุ่นวายออกไป ปิดประตูหัวใจใส่กลอนไม่ให้ธีร์ก้าวเข้ามาอีก
นิดาไม่ได้สนใจเปิดดูว่าตนเองทำผิดบ้างหรือไม่ เธอสอดสมุดเข้าไปในกระเป๋านักเรียน แล้วเดินผ่านกลุ่มนักเรียนสาวที่ห้อมล้อมเขาไว้ออกไปเงียบๆ
และวันรุ่งขึ้นเธอก็ต้องยกเลิกนัดกับรุ่นพี่คนสนิทเพราะจับไข้ ก่อนจะถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลและหยุดเรียนไปหลายวันเพราะเป็นไข้หวัดใหญ่
*********
“ไอ้ภัทร ใครวะ โคตรน่ารัก”
นิคเอ่ยถามเพื่อนร่วมคณะทันทีที่ภัทรผละจากนักศึกษาปีหนึ่งที่มัดผมรวบตึงจะตรงไปทางร้านขายเครื่องดื่ม
“ใคร คนไหน” ภัทรแกล้งทำเป็นไม่รู้ว่าเพื่อนถามถึงใคร
“แหมๆๆๆๆ ทำเป็นไม่รู้ ก็คนที่มึงเกาะหนึบนั่นไง”
นิคพยักพเยิดไปทางกลุ่มนักศึกษาปีหนึ่งซึ่งนั่งอยู่อีกโต๊ะใต้คณะ
“แนะๆๆๆ อย่าเพิ่งไป คุยกันก่อน” พีทเพื่อนอีกคนในกลุ่มเห็นคนถูกรีดคำตอบทำท่าจะผละไปโดยไม่ยอมตอบคำถามเพื่อน จึงดึงแขนไว้ แล้วช่วยกันคาดคั้นต่อ “ไอ้นิคมันหมายถึงน้องคนนั้นน่ะ ขาวๆ สูงๆ รวบผมตึง หุ่น...จึ๊ๆๆๆ คนนั้นน่ะ มีคนเดียว” เขาทำท่าทางประกอบคำพูดด้วยการยกมือขึ้นมาวาดทรวดทรงองค์เอวของผู้หญิง
“เฮ้อ สรุปกูหนีไม่พ้นพวกมึง เสือกเก่งทุกเรื่อง คนนั้นน่ะนิดา น้องกูเอง” ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้วขอด่าพวกมันก่อนแล้วค่อยเฉลย “แล้วมึงนะไอ้พีท จะจึ๊ๆๆๆ หาพ่อเหรอ” ภัทรขุ่นใจที่เพื่อนลวนลามนิดาด้วยกิริยาท่าทางหื่นจัด
“หวงด้วยเว้ย น้องอะไรของมึงอีก มึงมันลูกคนเดียว กูรู้”
“วันนี้เป็นน้อง พอท้องติดกันก็กลายเป็นเมียน่ะสิ มึงน่ะ” พีทพูดอย่างรู้เช่นเห็นชาติ
พวกเขาทั้งสามสนิทกันตั้งแต่เข้าเรียนปีหนึ่ง เป็นสามหล่อประจำคณะที่สาวๆ ทั้งในคณะและนอกคณะกรี๊ดจนคอแทบแตก และอยากพาขึ้นคอนโดฯ แล้วมีหรือที่หนุ่มๆ กลุ่มนี้จะไม่ตอบรับไมตรี บางวันเล่นเอาฟ้าเหลือง มาเรียนในสภาพกระปลกกระเปรี้ยเพลียแรง ตกเย็นแทนที่จะกลับบ้านก็ดันกระปรี้กระเปร่าขึ้นมาอีก ปีแรกจึงจบออกมาพร้อมกับเกรดเฉลี่ยที่ร่อแร่กันทั้งสามคน สโลแกนของพวกเขาคือ ‘เรียนไม่ยุ่ง มุ่งแต่เอา’
“กูจะบอกอะไรให้นะพีท” ภัทรพูดแล้วหยุดไป
“เออ บอกมา” พีทเร่ง
“ที่มึงพูดมาน่ะถูก” ภัทรตอบ