พี่ภัทร : ที่รักทำอะไรอยู่
นิดา : ทำงานค่ะ ขยันไหม
พี่ภัทร : ทั้งขยันทั้งน่ารักเลย คิดถึงพี่ไหม
ทำไมเธอจะไม่คิดถึงภัทร เธอคิดถึงเขาอยู่ตลอด แต่มันเป็นความคิดถึงที่เต็มไปด้วยความรู้สึกผิด
นิดา : คิดถึงสิคะ พี่ภัทรทำอะไรอยู่คะ
พี่ภัทร : พี่กำลังออกไปหาแก๊งพี่น่ะ วันนี้จะฉลองหลังเรียนจบ
นิดา : ขับรถดีๆ นะคะ
พี่ภัทร : ครับผม รักนินะ
คำทิ้งท้ายในโปรแกรมไลน์จุดรอยยิ้มขึ้นบนมุมปากของหญิงสาว ธีร์ที่ยืนเท้าโต๊ะเธออยู่ได้สักพักกระแอมเบาๆ แต่มันก็ดังเพียงพอที่จะกระตุ้นเตือนหญิงสาวว่าเธอไม่ได้ระมัดระวังตัวเลยว่าไม่ควรนั่งเล่นโทรศัพท์ในที่ทำงาน โดยเฉพาะสถานะของตัวเองนั้นไม่ต่างจากเจ้านายของทุกคน
นิดารีบคว่ำโทรศัพท์ลงบนตัก ยืดหลังขึ้น แล้วหมุนเก้าอี้กลับมานั่งหน้าตรง จากนั้นก็ค่อยๆ เหลือบตามองเจ้าของเสียงที่ยืนอยู่ข้างโต๊ะทำงานของเธอ
หญิงสาวตัวชาวาบด้วยความตกใจ นิ่งงันไป หรือว่าเขาจะเป็นผู้จัดการ แล้วผู้จัดการก็เป็นเพื่อนพี่คชา ถ้าเขาเป็นเพื่อนพี่คชาก็ต้องจบวิศวะ แต่ทำไมเธอไม่เคยเจอเขา หญิงสาวพยายามปะติดปะต่อ แต่ก็ยังเชื่อมโยงกันไม่ได้ เธอเห็นกรามแกร่งของเขาขบกันแน่น ส่วนดวงตาก็แทบจะแผดเผาเธอได้ ชายหนุ่มไม่พูดอะไรก็ผละออกไป เขาเดินเพียงสามก้าวก็กระแทกตัวลงนั่งบนเก้าอี้ทำงานของเขา
ตลอดเวลาแม้ไม่ต้องหันไปมอง นิดาก็สัมผัสได้ว่ามีสายตาคู่หนึ่งจับจ้องเธออยู่
“อ้าว พี่ธีร์” เกวลิน เลขาฯ สาวเดินกลับมาที่โต๊ะพร้อมดอกไม้ช่อใหญ่ หน้าตายิ้มแย้มแจ่มใส เดาได้ไม่ยากว่าคนสำคัญคงส่งมาให้เลขาฯ สาว บรรยากาศที่ตึงเครียดจึงดูผ่อนคลายขึ้นเล็กน้อย
“ครับเกว” ธีร์ทักทายกลับเพียงแค่นั้น
“วันนี้พี่ธีร์ดูเครียดจัง เป็นอะไรหรือเปล่าคะ”
ปกติธีร์จะทักทายและพูดคุยกับทุกคนอย่างสนุกสนาน แต่วันนี้ชายหนุ่มดูเงียบขรึม
“ไม่มีอะไรครับ” เขายังคงตอบสั้นๆ ตาจ้องเขม็งไปที่สาวน้อยโต๊ะข้างๆ
เกวลินคิดว่าธีร์อาจจะทะเลาะกับวจีกนก สาวสวยที่ไร่องุ่นมา เท่าที่รู้วจีกนกเป็นสาวสวยทันสมัย เพิ่งมาทำงานไม่นานแต่ใครๆ ก็พูดถึงเจ้าหล่อนในความสามารถ
“เอ่อ เอ้อ นี่ค่ะน้องนิ สิริเดินเอามาให้เมื่อกี้” เธอบอกพร้อมกับยื่นช่อดอกไม้ให้นิดา เนื่องจากสโมสรตั้งอยู่ด้านหน้า ขนส่งบางเจ้าก็เลือกที่จะฝากของไว้ที่สโมสร แล้วสิริจะเป็นคนเดินนำมาส่งให้ที่ออฟฟิศอีกทอด
“ของนิเหรอคะ” นิดาชี้นิ้วเข้าหาตัวเอง สีหน้าดูประหลาดใจ
“ค่ะ” เกวลินยื่นดอกไม้เข้ามาใกล้ขึ้น
“ขะ...ขอบคุณนะคะ” นิดาเอื้อมมือไปรับ มันเป็นกุหลาบดอกใหญ่สีชมพูกลิ่นหอมแรงหกดอก
“หกดอก พี่เกวรู้ไหมคะว่าจำนวนดอกกุหลาบหกดอกหมายถึงอะไร” นิดาถามเกวลินพร้อมกับก้มลงดมดอกไม้
“ไม่ทราบหรอกค่ะ พี่ไม่ใช่สายหวาน เกิดมายังไม่เคยได้ดอกไม้เลยสักดอก ว่าแต่มันหมายถึงอะไรเหรอคะ” เกวลินถามออกไปพลางเหลือบมองธีร์ที่นั่งหน้าตึง
นิดาจงใจตอบให้ผู้ชายโต๊ะข้างๆ ได้ยิน “หมายถึงรักและคิดถึงค่ะ”
“อ้อออออ” เกวลินตอบรับเสียงยาว
นิดาหยิบการ์ดสีชมพูที่มากับช่อดอกไม้ขึ้นมาอ่าน
‘ตั้งใจทำงานนะ รักและคิดถึง...พี่ภัทร’
นิดายิ้มกับความน่ารักของแฟนหนุ่ม ภัทรเป็นผู้ชายโรแมนติก ทั้งคำพูดและการกระทำ มักจะมีอะไรมาทำให้เธอเซอร์ไพรส์เสมอ เมื่อครู่คุยไลน์กันก็คงอยากเช็กว่าเธอได้รับดอกไม้หรือยัง
“ใครกันน้ามาคว้าหัวใจน้องสาวสุดที่รักของพี่คชาไป อยากเห็นซะแล้ว” เกวลินแซวหญิงสาวที่ยิ้มน้อยๆ
ทว่าชายหนุ่มอีกคนกำลังขบกรามแน่นจนฟันแทบแตก จ้องช่อดอกไม้และใบหน้าของหญิงสาวเขม็ง บรรยากาศกลับมาอึมครึมมากกว่าเดิม
“เอ่อ น้องนิคะ นี่พี่ธีร์ ผู้จัดการคนที่พี่เล่าให้ฟังน่ะค่ะ” เกวลินหาจังหวะแนะนำให้ธีร์รู้จักกับนิดา ไม่แน่ใจว่าน้องสาวของคชาจะรู้จักเพื่อนของพี่ชายหรือยัง แต่ดูจากปฏิกิริยาที่แสดงต่อกันแล้ว ไม่น่าจะรู้จักกัน
“พี่ธีร์ นี่น้องนิ น้องสาวของพี่คชาค่ะ”
นิดาจำใจต้องวางช่อดอกไม้ลงบนโต๊ะ แล้วหันไปสวัสดีเขาตามมารยาท ทว่าเป็นการยกมือเร็วๆ สั้นๆ แล้วหันกลับมา
“ครับ เราเจอกันแล้วครับ” ธีร์บอกโดยไม่ขยายความเพิ่มเติม
“ค่ะ เราเจอกันแล้ว” นิดาตอบนิ่งๆ
“เอ้อ น้องนิมีอะไรก็ถามพี่ธีร์ได้เลยนะคะ หนุ่มรุ่นใหม่ไฟแรงค่ะ” เกวลินเพิ่งมานึกออกว่าคชาบอกให้ธีร์ช่วยดูแลน้องด้วย นิดาน่าจะได้ประโยชน์จากธีร์มาก “พี่ธีร์สะดวกไหมคะ” เธอหันไปถามธีร์
“ไม่เป็นระ...” นิดากำลังจะบอกว่าไม่เป็นไร แต่เขาก็ชิงพูดขึ้น
“ด้วยความยินดีครับ”
หญิงสาวตวัดตาค้อนเขา
“เออ น้องนิ เดี๋ยวพี่เลี้ยงข้าวกลางวันนะ ต้อนรับน้องใหม่ซะหน่อย พี่นัดดาวไว้แล้ว” เกวลินบอกกับสาวน้อยคนสำคัญของรีสอร์ต
“ค่ะพี่เกว”
“เอ่อ...เกว...” ธีร์ขัดขึ้น
“คะ?” เกวลินรับคำด้วยความสงสัย
ธีร์ไม่ตอบเกวลิน แต่ลุกขึ้นจากโต๊ะ เขาก้าวออกไปด้านหน้าตรงจุดที่สามารถมองเห็นโต๊ะของพนักงานทุกคนในออฟฟิศได้
“ทุกคนครับ มื้อกลางวันนี้พี่เลี้ยงข้าวเอง เราไปเจอกันที่ร้านสวนดอกไม้ตอนเที่ยงครึ่งนะครับ เกว พี่ฝากโทร.จองโต๊ะด้วย นัดดาวไปที่นั่นเลยนะครับ แล้วก็โทร.บอกพนักงานคนอื่นๆ ที่ไปงานข้างนอกด้วยว่าไปเจอกันที่ร้าน”
แม้ว่าธีร์จะอายุน้อยกว่าพนักงานบางคนในที่นี้ แต่พวกเขานับถือในความสามารถจึงให้เกียรติด้วยการเรียกธีร์ว่าพี่ ธีร์จึงแทนตัวเองว่าพี่ด้วยเช่นกัน