เสน่หาใต้แสงดาว

ร่างกายเธอเป็นของเขา แต่ใจเธอเป็นของใคร

“ดูสิ” เขาเรียกให้เธอลืมตาดูตัวเองในกระจก “เธอโตขึ้นเยอะ เป็นสาวเต็มตัวแล้ว นิดา”

นิดาลืมตาขึ้นมอง เขาจงใจเร้าอารมณ์เธอด้วยภาพสะท้อนของชายหญิงที่เปลือยกายนัวเนียกัน ฝ่ายชายกำลังมัวเมาเธอด้วยการซุกไซ้ซอกคอ ฝ่ามือคลึงเคล้นบีบขยำทรวงอกล้นมือ เนินสวาทถูกมือเขาลูบล้วง ส่วนตัวเธอเองก็ไม่สามารถเก็บกลั้นสีหน้าที่กำลังลุ่มหลงในรสรักได้

“เธอสวยมาก ฉันอยากได้เธอมานานแล้ว”

นิดารู้สึกว่าคำพูดของเขาคือกามารมณ์ล้วนๆ ปราศจากพันธะทางใจ ยุคสมัยนี้ชายหญิงขึ้นเตียงกันเพียงเพราะความต้องการของร่างกายมีถมเถ หากเธอก็ไม่คิดว่าตนเองจะเป็นส่วนหนึ่งในกลุ่มคนเหล่านั้น แต่ก็อีกนั่นแหละ เธอไม่สามารถปฏิเสธความต้องการของร่างกายได้ แม้แต่ตอนนี้ร่างกายของเธอก็ยังตอบสนองเขา

ธีร์เห็นท่าทางระทวยกายของเธอจึงขยับให้หญิงสาวก้มตัวเท้ามือกับโต๊ะเครื่องแป้งประคองตัว จมูกเริ่มไต่ไล้ ปลายลิ้นโลมเลียแผ่นหลังบาง ตีตราขบเม้มลงมาเรื่อยๆ กระทั่งถึงแก้มก้นขาวละมุน เขาเกลือกกลั้วใบหน้าซุกไซ้ด้วยความกระสันซ่าน ร่างสาวถึงกับสั่นกระตุกกับการคลุกเคล้าของเขา ธีร์จับสองขาของเธอแยกออกกว้างขึ้น แล้วไล้มือเข้าไปในซอกขา

“ฉ่ำมาก” เขาขยับตัวมากระซิบชิดริมหูขณะขยับปลายนิ้วสำรวจช่องทางรัก มืออีกข้างบีบเคล้นอกทรงสวยที่เขาหลงใหล เขาผละมือจากร่องอุ่นมาจับลำกาย และนำมันไปถูไถกับร่องก้นสาว ความสวยงามที่สะท้อนบนกระจกอาจจะทำให้เขาแตกดับอยู่ตรงนี้หากยังทอดเวลาต่อไป

ธีร์ไม่อาจยับยั้งความต้องการได้อีก จับร่างเล็กจัดท่าทางแล้วกดกายแกร่งสุดทางรักในรวดเดียวโดยที่หญิงสาวยังไม่ทันตั้งรับ

“นิดาจ๋า เธอมันจอมยั่ว”

คราวนี้ไม่มีจังหวะเนิบช้า เขาเติมเต็มเธออย่างหนักหน่วง รุนแรง กระแทกกระทั้นจนร่างสาวโยกคลอน หน้าอกอวบใหญ่กระเพื่อมขึ้นลงโยกไหว

“เสียวค่ะ เสียว”

“ซี้ด ต้องเสียวสิคะ โดนขนาดนี้” เขาเองก็ไม่ต่างกัน ซ้ำกระตุ้นอารมณ์เธอด้วยถ้อยคำวาบหวิว

“คะ ครู”

“ดูดเหลือเกิน ฉันจะทนไม่ไหวอยู่แล้ว” พายุอารมณ์ของเขาดุจทะเลคลั่ง ถาโถม สาดซัดจนข้าวของบนโต๊ะเครื่องแป้งกระจุยกระจาย

ไม่มีผ่อนปรน ไม่มีผ่อนหนักผ่อนเบา

เขาก้าวร้าวดุดัน รัวกายเข้าออกอย่างคนหิว จนร่องรักของนิดาไม่อาจทนต่อการเสียดสี มันบีบรัด ตอดถี่ และรีดเค้นธารรักทุกหยาดหยดของเขาไว้ในกายเธอ

“ซี้ดดดดด อ๊า”

ทั้งสองส่งเสียงกรีดร้อง ร่างเกร็งกระตุกขณะแตะขอบสวรรค์ไปด้วยกันอีกครั้ง

*********

“พี่จันทร์ จะเที่ยงอยู่แล้ว น้องนิยังไม่เห็นมากินข้าวเลย”

สิริ พนักงานของรีสอร์ตที่ประจำอยู่ในสโมสรเอ่ยถามแม่บ้าน โดยปกติคชาและครอบครัวจะมากินอาหารที่สโมสรของรีสอร์ตเพื่อตัดปัญหายุ่งยาก และคชาก็รักความเป็นส่วนตัว บ้านซึ่งเป็นที่พักอาศัยของครอบครัวจึงไม่ค่อยนิยมทำอาหาร นอกจากจะมีโอกาสพิเศษจริงๆ

“น้องนิยังไม่ได้มานะ เมื่อเช้าไปบ้านช่องปิดสนิทเลย” จันทร์ แม่บ้านบอก เธอไปที่บ้านใหญ่ตอนแปดโมงเช้าเพื่อทำความสะอาดตามปกติ เห็นบ้านปิดสนิทคล้องกุญแจที่ประตูรั้วก็เข้าใจว่าไม่มีใครอยู่บ้าน จึงขี่มอเตอร์ไซค์คู่ใจไปทำความสะอาดส่วนอื่นๆ ของรีสอร์ต

“อ้าวเหรอ ตอนแรกเห็นคุณคชาบอกเอาไว้ว่าจะมาเมื่อวาน”

“คงเปลี่ยนแผน ไม่มีอะไรละมั้ง รีสอร์ตก็เรียบร้อยดี ตั้งแต่ได้ผู้จัดการคนใหม่มาช่วยก็เบาแรงคุณคชาได้เยอะ”

“อ้าวคุณธีร์ กินอะไรหรือยังคะ” สิริทักชายหนุ่มที่เดินเข้ามาในสโมสรซึ่งเป็นแบบโอเพ่นแอร์

“เรียบร้อยแล้วครับ วันนี้ไปตลาดนัดมา เสร็จแล้วก็เลยไปซื้อของในตัวเมืองนิดหน่อย” ห่างจากรีสอร์ตไม่ไกลเป็นแหล่งชุมชนเล็กๆ ทุกเช้าจะมีตลาดนัด คนในพื้นที่ชอบไปฝากท้องที่นั่น คนในสโมสรเองก็เช่นกัน

“เอ่อ เดี๋ยวพี่ขอตัวไปเก็บกวาดทำความสะอาดที่บ้านพักแขกก่อนนะคะ” จันทร์เอ่ยขึ้น

“ผมก็ขอตัวก่อนนะครับ” พูดจบเขาก็เดินออกไป พารถเก๋งคู่ใจไปยังบ้านของเจ้าของรีสอร์ตที่เขาเพิ่งจากมาเมื่อตอนเจ็ดโมงเช้า

บทรักเร่าร้อนกลางดึกดำเนินมาถึงหกโมงเช้าพร้อมกับความสลบไสลของหญิงสาว เขายอมรับว่ารุกรานเอาแต่ใจจนเกินไป ทั้งๆ ที่มันเป็นครั้งแรกของเธอ แต่กว่าจะมาถึงจุดนี้ได้เขาต้องทุ่มเท วางแผน อดกลั้น และอดทน มันเป็นความปรารถนาที่ทำให้เขาไม่สามารถนอนหลับเต็มตื่น เมื่อโอกาสมาถึงเขาจึงเก็บเกี่ยวย้อนหลังด้วยการตักตวงจนไม่ลืมหูลืมตา

ธีร์ล้วงพวงกุญแจบ้านออกจากกระเป๋ากางเกง มันเป็นพวงที่เขาหยิบมาจากห้องของเธอซึ่งจะมีกุญแจห้องของหญิงสาวด้วย เขาคิดว่าสภาพของนิดาตอนที่เขาจากมาไม่ควรที่แม่บ้านซึ่งต้องมาเก็บกวาดบ้านทุกวันควรจะเห็น แม้ว่าเขาจะล็อกบ้านไว้แล้วตั้งแต่ประตูรั้วก็ตาม

ภายในบ้านเงียบกริบ ก็แน่ละ เขาคิดว่าต่อจากนี้อีกสามชั่วโมงเป็นอย่างต่ำเธอถึงจะตื่นขึ้นมาอีกครั้ง

เขาไขกุญแจห้องของเธอ...

ร่างสาวเปลือยเปล่านอนตะแคงกอดหมอนข้าง บทรักครั้งสุดท้ายจบลงไปด้วยความโรยแรงของนิดาและเข้าสู่นิทราทันทีโดยไม่สนใจที่จะควานหาชุดนอนมาสวม เขาจึงคลุมผ้าให้เธอกันความหนาวเย็นก่อนจะออกไป ทว่าบัดนี้ผ้าห่มผืนดังกล่าวถูกผลักไปกองอยู่อีกด้าน

ธีร์ย่างก้าวเบากริบจนมาถึงเตียง มุมปากยิ้มละมุนกับรอยเลือดที่แตะแต้มอยู่บนผืนผ้า เขาไล่สายตาสำรวจเรือนร่างบอบบาง ตั้งแต่ปลายเท้า เรียวน่องขาว ต้นขา แล้วสายตาดุดันก็หยุดที่ต้นขาด้านในที่ขึ้นรอยช้ำตัดกับผิวขาวผ่อง และตราประทับเช่นนี้ยังปรากฏอยู่ตามสีข้าง ใต้รักแร้ เขาเชื่อว่าหากจับพลิกตัวเธอนอนหงาย บนเนินอกของเธอคงเต็มไปด้วยเสน่หาจากเขา

ติ๊ง

เสียงและแสงสว่างจากจอมือถือหัวเตียงดึงสายตาของเขาออกจากร่างระหง เขานำถุงที่ถือมาด้วยวางลงบนโต๊ะเล็กข้างเตียง แล้วเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์ของเธอขึ้นมา

ป๊อปอัปไลน์ปรากฏอยู่บนหน้าจอ

พี่ภัทร : ขอกำลังใจก่อนสอบค้าบบบ

ธีร์หยิบโทรศัพท์มา รหัสที่เธอตั้งไว้ไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเขา เขาเข้าไลน์ ไล่ดูข้อความเก่าๆ ในไลน์ มือหนากำแน่นขึ้นเรื่อยๆ กับข้อความหวานหยดที่ทั้งสองโต้ตอบกัน จนในที่สุดก็ไม่สามารถทนอ่านต่อไปได้ เขากดออกจากโปรแกรมแล้ววางโทรศัพท์ลงที่เดิม

กลางคืนร่างกายของเธอเป็นของเขา

เรียกร้องเขา

เสนอสนองเขา

แต่กลางวันหัวใจของเธออยู่กับใครอีกคน

เขามีเวลาเพียงสองเดือนกว่านับจากนี้ที่ต้องทำให้ทุกทิวาและราตรีของเธอมีแค่เขาให้ได้