“วันที่คชาโทร.หานิ บอกให้มาเฝ้ารีสอร์ต วันนั้นก่อนสอบหนึ่งอาทิตย์” เหมือนเขาจะพูดคนเดียว เขาไล่ดูทั้งปฏิทินและโน้ตสลับกันไปมา นิดาพยายามเพ่งมองมัน เธอเห็นทั้งตารางสอบ ตารางเรียนเทอมที่แล้วและเทอมหน้า นี่สินะเขาถึงได้พูดขึ้นมาก่อนว่าเทอมหน้าเธอเรียนหนัก นิดาแอบยิ้มน้อยๆ กับความใส่ใจของเขา
“จองในชื่อพีท แพทเทอสัน ไอ้ฝรั่งคนนั้นใช่ไหม” คราวนี้เขาคุยกับเธอแน่ๆ
“ค่ะ พี่พีท” นิดาตอบ “พี่ธีร์รู้จักด้วยเหรอคะ”
“อะไรที่เกี่ยวกับเราทำไมพี่จะไม่รู้ แก๊งนี้มีกันห้าคน”
“ชะ...ใช่ค่ะ”
“จองสามหลัง ผู้หญิงสอง ชายสาม ความจริงไม่มีใครเป็นแฟนกันสองหลังก็พอ บ้านก็ตั้งกว้าง อยู่ได้เป็นครอบครัว แล้วก็ห้าวันสี่คืน นานไปไหม นอกจากมันวางแผนจะเอาเราแบบที่มันพิมพ์มา” เขาเกรี้ยวกราดมากขึ้น เธอไม่เคยเห็นเขาเป็นแบบนี้มาก่อน
“เอ่อ...ไม่เห็นแปลกเลยที่จะจองสามหลัง แล้วพี่ภัทรเขาก็พูดเล่นแบบนี้แหละ กลุ่มนี้ก็ห่ามๆ ทะลึ่งตึงตังไปเรื่อย” ความจริงนิดาก็ตะขิดตะขวงใจกับข้อความในไลน์เหมือนกัน แต่เธอไม่ชอบที่ธีร์ขึ้นเสียงกับเธอ จึงเถียงข้างๆ คูๆ เอาชนะโดยไม่สนใจเหตุผล
“อย่าโลกสวย คิดให้เยอะๆ เราตามมันไม่ทันหรอกนิ” จู่ๆ เขาก็ตะคอกใส่เธอ
“แล้วเรื่องอะไรที่พี่ธีร์จะต้องมาโมโหใส่นิล่ะ” เธอขึ้นเสียง
“อย่าไว้ใจมันให้มากนักนะไอ้หมอนั่นน่ะ” ธีร์ยังคงเสียงแข็ง เขาไม่อยากพูดให้นิดาช้ำใจว่าลับหลังเธอ ไอ้หมอนั่นทำอะไรบ้าง แต่นั่นก็ทำให้นิดาคิดถึงการล่อลวงของภัทรที่เธอประสบมาด้วยตัวเอง
นิดานิ่งเงียบ แต่เป็นเพราะเธอไม่พอใจที่เขาหงุดหงิดสาดอารมณ์ใส่เธอ
“ตัวเองก็ไว้ใจไม่ได้ ว่าแต่คนอื่น”
“พูดอะไร ถ้าพี่ไว้ใจไม่ได้ โลกนี้ก็ไม่มีใครไว้ใจได้แล้ว” ในดวงตาคมมีทั้งความโกรธและความเคลือบแคลง “คืนนี้ไปเก็บข้าวของที่บ้านมาอยู่กับพี่” เขาสั่งเสียงดุ
“ไม่” เธอตอบกลับทันควัน
ถ้าไม่นับว่าตอนนี้เธอกำลังงอนเขา เธอก็ชอบอยู่กับเขา เธอค้างได้ แต่ต้องไม่ใช่ทุกคืน เธอชอบการได้นอนที่บ้านของตัวเองมากกว่า เธอยังรักความเป็นอิสระ ชอบทำอะไรเรื่อยเปื่อยตามใจ
“ทำไม จะดื้ออะไรอีก” เขาเสียงแข็งไม่เลิกรา
“เวอร์เปล่าพี่ธีร์ เขาไม่ได้มาคืนนี้สักหน่อย อีกอย่างนะ ไม่มีความจำเป็นเลยที่นิจะต้องไปอยู่กับพี่ นิดูแลตัวเองได้ แล้วนิก็เอาตัวรอดมาได้ พี่ก็ได้พิสูจน์แล้วนี่”
“หมายความว่าไง เอาตัวรอดมาได้!”
“ไม่ต้องถาม” แววตาของเธอเจ็บปวดเวลาคิดถึงเรื่องนี้
“โอเคๆ พี่ไม่ถาม แต่เรื่องนี้พี่จะไม่ยอมให้เราดื้อเด็ดขาด ไม่งั้นเราได้ผัวเพิ่มแน่ๆ”
ผู้ชายด้วยกันทำไมจะอ่านเกมไม่ออก แล้วสำหรับไอ้หมอนั่น วีรกรรมนอกมหาวิทยาลัยยาวเป็นหางว่าว
“ไม่ มากันเป็นฝูง แล้วนิก็ไม่โง่จนเสียตัวให้เขาหรอก” นิดาเถียงกลับ ทั้งที่รู้อยู่แก่ใจว่าเธอไว้ใจภัทรไม่ได้ แต่ตอนนี้เธออยากเอาชนะผู้ชายตรงหน้า
“เข้าใจคำว่า ‘ทิ้งทวน’ ไหม” เขาทิ้งไว้ให้เธอคิดแค่นี้ ก่อนจะไปเรียนต่อไอ้หมอนั่นต้องคิดแผนชั่วไว้ในใจแน่ๆ
.......................
วันรุ่งขึ้น
ธีร์เดินเข้ามาหาสิริที่สโมสรแต่เช้า เพื่อให้ช่วยเป็นหูเป็นตาดูแลนิดาแทนให้หน่อย วันนี้เขามีประชุมที่ตัวจังหวัด จากนั้นก็ต้องไปเป็นวิทยากรสัมมนาเกี่ยวกับธุรกิจโรงแรมและรีสอร์ต กว่าจะกลับมาถึงรีสอร์ตก็ช่วงค่ำ เขาไม่อยากพาเธอออกไปสมบุกสมบันด้วย
เมื่อคืนพอออกจากไนต์คลับเขาก็จัดการเด็กดื้อตั้งแต่อยู่ในลานจอดรถหลังไนต์คลับ เธอบอกไว้ว่าอยากโดนลงโทษ เขาไม่ลืม ต้องไล่เก็บตามลำดับ พอเข้ารถได้เขาก็สตาร์ตเครื่อง ปิดม่านไฟฟ้าที่กระจกทุกบานไม่ให้ใครส่องเห็นด้านในตอนรถเขย่า แล้วเขาก็ฟาดไม่ยั้ง ในรถเธอทั้งร้องทั้งดิ้น แต่ก็เสร็จเขาไม่รู้กี่รอบ เขายอมรับว่าเมื่อคืนเขาเองก็พยายามเอาชนะเธอด้วยการหิ้วกลับมานอนที่บ้านของเขา แต่เธอฟาดงวงฟาดงาลงไม้ลงมือกับเขา เขาจึงยอมแพ้ก็ได้ แต่ก็ตอกย้ำให้เธอรู้ว่าเธอเป็นของเขาคนเดียวด้วยการตีตราประทับอีกชุดใหญ่จนแน่ใจว่าวันรุ่งขึ้นเธอไม่สามารถใส่เสื้อแบบเมื่อวานได้อีก และออกมาจากบ้านเธอตอนตีสี่
“หน้ากับคอไปโดนอะไรมาคะคุณธีร์” สิริสังเกตเห็นผิวเกลี้ยงเกลาของธีร์มีทั้งรอยข่วนรอยเล็บก็อดที่จะถามไม่ได้ ปกติธีร์จะเป็นคนเนี้ยบ ทั้งการแต่งกายและการดูแลตัวเอง สภาพแบบนี้ไม่คุ้นตาสิริเลย แต่ในความคิดของธีร์แล้ว ถ้าหากร่องรอยพวกนี้มันเกิดจากนิดา เขาไม่เคยห้ามปรามเธอ ยอมให้เธอฝากฝังด้วยความเต็มใจ
“มีปัญหากับนินิดหน่อยครับ น้องก็เลยลงไม้ลงมือ” ธีร์ตอบแค่บางส่วน ส่วนที่เธอจิกข่วนตอนเขาดับความเร่าร้อนให้ต้องเก็บเอาไว้รู้กันสองคน
“เอ่อ” สิริถึงกับชะงักไป “ทะเลาะกันรุนแรงเหรอคะ”
“เฮ้อ เป็นเรื่องที่ผมซีเรียส แต่น้องชิล...สิริ ยังไงผมฝากดูๆ น้องด้วยนะครับ วันนี้มีงานข้างนอก” เขาฝากฝังสิริ
“ไม่พาน้องไปด้วยล่ะคะ” สิริถามด้วยความแปลกใจ เพราะปกติเวลาไปงานข้างนอกธีร์ก็พาหญิงสาวไปด้วยแทบทุกครั้ง