ธีร์มองไม่วางตา เธอยิ้มแย้มแจ่มใส แต่ข้างในเธอบอบช้ำ แล้วแววตาของเธอก็ไม่ได้มีรอยยิ้มด้วยเลยสักนิด
“เสียดายนะคะ พี่คชาเคยบอกว่าน้องอยากไปต่อโทที่อังกฤษ ไม่งั้นปีหน้าก็จะได้กลับมาช่วยพี่ชายบริหารที่นี่แล้ว”
“น้องคงไม่ไปแล้วละครับ”
เขาพูดจบเสียงปรบมือก็ดังขึ้นพอดี จึงจบบทสนทนาไว้เพียงเท่านี้ นิดากำลังยกมือไหว้ครูที่ยืนอยู่ข้างๆ และส่งต่อหน้าที่ให้เขา ธีร์ผละจากดาวแล้วเดินไปรอด้านข้าง เขายกมือรอให้หญิงสาวจับ แล้วจูงเธอกลับมายังจุดที่ดาวยืนอยู่
“เดี๋ยวพี่พาน้องกลับเลยนะ” เขาเอ่ยกับดาว ไม่ได้บอกเหตุผลอะไรเพิ่มเติม
นิดายกมือไหว้ดาว เลขาฯ สาวเห็นสีหน้าของนิดาไม่ค่อยสู้ดี ผิดไปจากตอนที่ยืนพูดคุยกับเด็กๆ ก็รู้สึกเป็นห่วง
“จ้ะๆ” เธอแตะไหล่นิดา แล้วทั้งสองก็เดินไปยังจุดจอดรถ
นิดายกข้อมือขึ้นมาดูนาฬิกา...เจ็ดโมงครึ่ง วันนี้พวกรุ่นพี่มีโปรแกรมจะไปตระเวนเที่ยวกันตั้งแต่เก้าโมงเช้า ซึ่งเธอได้ปฏิเสธที่จะร่วมทางไปแล้ว เพราะไม่อยากขาดงานอีก หญิงสาวนิ่งคิดระหว่างอยู่บนรถ ในที่สุดก็หันไปหาเขา
“พี่ธีร์พานิไปที่บ้านราตรีหน่อยนะคะ” เธอพูดอย่างคนที่ตัดสินใจมาดีแล้ว
ธีร์หันไปมองตาเธอ แล้วถอนหายใจ “ครับ”
ระยะทางจากถ้ำกลับไปยังรีสอร์ตใช้เวลาเพียงสิบห้านาที เมอร์เซเดสเบนซ์ของธีร์จึงเข้ามาถึงลานจอดรถก่อนแปดโมง
“พี่ธีร์ไม่ต้องลงไปก็ได้ค่ะ ไม่เกินสิบโมงนิจะกลับมา” นิดาบอกเขาแล้วก้าวลงจากรถไป
............................
8.30 น. ภัทรและแจงก้าวออกมาจากบ้านพักด้วยกัน วันนี้กลุ่มของพวกเขานัดเจอกันที่ระเบียงหน้าบ้านราตรี แล้วไปตระเวนเที่ยวกันต่อ เมื่อคืนพวกเขาตั้งวงสังสรรค์กันหน้าบ้านมณฑาจนถึงตีสอง นิคกับพีทดื่มหนักจนเมาหลับคาโต๊ะ ภัทรรับหน้าที่ไปส่งสาวๆ เขาส่งน้ำเพียงแค่ทางเดินเข้าบ้านดาหลา แต่กับแจงแล้ว เขาไปส่งเธอจนถึงเตียง จากนั้นบทรักเร่าร้อนระหว่างทั้งสองก็เกิดขึ้น ซึ่งกินเวลายาวนานตามปกติ
ความสัมพันธ์ของทั้งสองเริ่มตั้งแต่ปีหนึ่ง ความเป็นดาวมหาวิทยาลัยของแจงทำให้ภัทรอยากสอยเธอลงมา ตามประสาแก๊งเขาที่คว้าผู้หญิงขึ้นเตียงเป็นว่าเล่น ภัทรพบว่าตนเองเป็นผู้ชายคนแรกของแจง ผู้ซึ่งมีคนจีบมากมาย แต่เธอต้องการเขาแค่คนเดียว ตอนนั้นนิดายังไม่ใจอ่อนยอมคบกับเขา เขาจึงเริ่มเทใจมาที่แจง เริ่มคบหากันเงียบๆ แต่ก็ยังติดต่อกับนิดาอยู่ จนกระทั่งปิดเทอมกลางภาค จู่ๆ นิดาก็ตอบรับเป็นแฟนกับเขา ภัทรดีใจมาก เขามาบอกกับแจงตามตรงว่าขอลดสถานะความสัมพันธ์ โดยที่ไม่ได้คำนึงถึงความรู้สึกของแจงเลยสักนิด
แจงข่มความเจ็บไว้ภายใต้สีหน้ายินดี เธอทั้งรักและทั้งรู้จักนิสัยของภัทรดี และก็เป็นอย่างที่เธอคิดไว้...
แม้ตอนนั้นในใจของภัทรจะมีเพียงนิดา แต่เขาก็ยังเล่นกับไฟด้วยการมีความสัมพันธ์กับแจงเรื่อยๆ เมื่อนิดาเข้ามาเรียนในรั้วเดียวกัน เขาก็คบนิดาอย่างเปิดเผย คิดว่าควรยุติความสัมพันธ์กับแจงเสียที แต่ดันเป็นตัวเขาเองที่กลับไปหาแจงอีก เขาชอบความเร่าร้อนของเธอ ขณะที่นิดาไม่ยอมเขาเลย
แม้วันที่กำลังจะเข้าด้ายเข้าเข็ม นิดาก็ยังสลัดเขาออกมาจนได้ ทำให้เขาต้องไปคว้าตัวแจงจากผับที่เธอไปสังสรรค์กับเพื่อนแล้วปลดปล่อยอารมณ์ที่คั่งค้างกับเธอ หรือวันที่มาส่งนิดาที่โคราชและเขาอาสาพาคชาไปส่งสนามบินเสร็จ เขาก็ยังตรงดิ่งไปหาแจง หลังจากเรียนจบเขาขลุกอยู่กับแจงบ่อยขึ้น จนไลน์ที่เขาส่งหานิดาค่อยๆ ห่างออกไป หรือบางทีก็รีบพิมพ์ส่งไปโดยไม่ได้สนใจว่าเธอจะเปิดอ่านหรือไม่
หลังจากปิดประตูล็อกบ้านราตรีเสร็จเรียบร้อย ภัทรและแจงก็จูงมือกันมายังโต๊ะที่ระเบียง ทั้งสองเห็นนิดานั่งอยู่ตรงนั้น
ภัทรปล่อยมือแจงทันที ใจเขาหายวาบ ชาไปทั้งร่าง หูอื้อตาลาย เพิ่งได้ลิ้มรสชาติของการถูกจับได้คาหนังคาเขา
การไม่ซื่อสัตย์กับความรักมันเป็นความทุกข์ ตอนแรกเขามองมันเป็นความตื่นเต้น แต่เมื่อคบแล้วต้องหลบๆ ซ่อนๆ สุดท้ายเขาก็เหนื่อย ภัทรรู้ว่าความเสียใจในเรื่องนี้มันแย่ขนาดไหนก็ตอนนี้นี่เอง
“เชิญพี่ทั้งสองมาคุยกันก่อนสิคะ” นิดาเอ่ยน้ำเสียงเรียบนิ่ง
ภัทรก้าวขานำไปก่อน เขาเดินเข้าไปนั่งที่ม้านั่งยาวตัวเดียวกับนิดา โอบกอดเธอด้วยแขนข้างหนึ่ง นิดาเบี่ยงตัวออกก่อนจะขยับออกห่างจากเขา ส่วนแจงเดินมานั่งฝั่งตรงข้าม นิดาเอ่ยขึ้นโดยไม่ให้เสียเวลา
“นิมานั่งรออยู่ตรงนี้ตั้งแต่ยังไม่แปดโมง” เสียงเธอนิ่งมาก
“นิจะไม่ถามว่ามันเกิดขึ้นได้ยังไง ตอนไหน นิไม่อยากรู้ เพราะมันไม่มีประโยชน์”
นิดาหันไปมองตาภัทร ดวงตาเป็นหน้าต่างของหัวใจ เธอเห็นความสูญสลาย ความเสียใจ ความเจ็บปวดในนั้น เธอสัมผัสได้
เธอเลื่อนสายตาไปยังแจง หากแต่ไม่ทันเห็นประกายตาแปลกๆ ที่ผุดขึ้นวูบหนึ่ง เพราะมันถูกเกลื่อนด้วยความโศกเสียก่อน