“น้องนิดูซูบๆ ไปนะคะ หายดีแล้วใช่ไหม” สิริเห็นนิดายังไม่ค่อยสดใสเท่าที่ควรจึงถามออกไป
“เพิ่งหายครับ อีกสักพักค่อยให้มาทำงาน แล้วที่นี่มีอะไรผิดปกติไหมครับ มีใครส่งอะไรมาให้น้องไหม”
สิริครุ่นคิดก่อนจะตอบ “เอ ยังไม่มีนะคะ ถ้ามีสิริจะบอกคุณธีร์นะคะ”
“ดีครับ” ธีร์คิดว่าถ้าไอ้หมอนั่นไม่มาระรานเขาก็จะยังไม่ทำอะไร เผื่อว่าเวลาจะทำให้มันสำนึกได้ว่าทำอะไรกับผู้หญิงไว้ แต่ถ้ามันยังเสนอหน้ามาอีกละก็ เขาจะไม่ปรานีแล้ว เขาก็ไม่ต่างจากคชาเท่าไร รายนั้นใครรังแกน้องสาวเมื่อไร มันตามไปเอาคืนด้วยตัวเองทุกราย แล้วนี่น้องของคชาก็คือเมียเขา ผลกรรมที่มันจะได้รับย่อมมากเป็นสองเท่า
“น้องนินี่น่าเอ็นดูนะคะ ยิ้มแต่ละทีโลกกว้างขึ้นเป็นกองเลย” เป็นคำชมที่สิริเอ่ยออกมาไม่รู้กี่ครั้ง มันออกมาเองยามเห็นรอยยิ้มของนิดา
“ครับ เขาเป็นคนน่ารัก ใครอยู่ใกล้ก็รักเขาทั้งนั้นแหละครับ”
“แล้วยังดื้อกับคุณธีร์อยู่ไหมคะ”
“ฮาๆ เรื่องนั้นผมว่าเขาดื้อกับผมเป็นพิเศษเลยละครับ”
“คิดซะว่าผู้หญิงเขารักแล้วกันนะคะ” สิริพูดให้กำลังใจ
“ผมรอคำนั้นอยู่ครับ” ชายหนุ่มสารภาพ
“แหม นี่ถ้ามีลูกด้วยกัน ลูกคงจะน่าตีเหมือนแม่เลยนะคะ”
ธีร์อมยิ้มเมื่อนึกไปไกลถึงลูกๆ ที่จะเกิดมาจากเขาและเธอ เขายังไม่ทันตอบสิริ จังหวะนั้นหญิงสาวก็อุ้มลูกแมวมาหาเขาพอดี
“พี่ธีร์ นิเอาไปเลี้ยงที่บ้านนะคะ” เธอทำสายตาออดอ้อน
“ไหวเหรอ นิไม่เคยเลี้ยงสัตว์นะ” เขาทักท้วง ยกมือจับผมเธอไปทัดใบหูให้ เธอเป็นคนรักสัตว์ก็จริง แต่เธอไม่เคยเลี้ยงสัตว์
“ไหวค่ะ นะคะ นิเหงา” หญิงสาวทำตามปริบๆ
เขาคงปฏิเสธไม่ได้เมื่อเธอพูดออกมาแบบนี้ ช่วงเวลาที่เขาออกไปทำงาน เธอต้องอยู่บ้านคนเดียว ไม่มีอะไรทำก็ได้แต่ดูซีรีส์ น่าเห็นใจเหมือนกัน เขาเหลือบตามองสิริที่แอบอมยิ้มกับลูกอ้อนของหญิงสาว
“ผมเอาไปได้ไหมครับ” เขาถามสิริ
“ได้ค่ะ ไม่มีเจ้าของหรอกค่ะ เด็กๆ แค่ช่วยกันเลี้ยงไว้เพราะสงสารมัน”
นิดาฉีกยิ้มกว้างจนตาหยี จนธีร์ต้องโอบเธอเข้ามาแล้วกดจูบบนศีรษะ “เอาสิคะ ปะ กลับบ้าน”
“ไม่ค่ะ พาไปโรงพยาบาลสัตว์แล้วก็ไปร้านเพ็ทช็อปกันก่อน” เธอเอ่ยอย่างคนที่วางแผนเป็นขั้นเป็นตอนมาแล้ว จากนั้นหญิงสาวก็หันไปทางสิริ “พี่สิริ ขอบคุณนะคะ เดี๋ยวนิดูแลเองค่ะ”
“ค่า โชคดีของเจ้าเหมียวจริงจริ๊ง”
“ผมไปก่อนนะครับ”
“ไปก่อนนะคะพี่สิริ”
สิริอดยิ้มตามหลังผู้จัดการหนุ่มและหญิงสาวที่โอบเอวเดินกันออกไปพร้อมอุ้มลูกแมวหลงไปด้วยไม่ได้
“อะแฮ่ม สิริ” แสนรักกระแอมกระไอ และเอ่ยถามทันทีที่สิริหันมาสบตา “ตกลงคุณธีร์กับน้องนิเป็นแฟนกันแล้วใช่เปล่า กลิ่นความรักมันตลบอบอวลไปหมด”
“ก็เห็นเหมือนๆ กัน สรุปเอาเองแล้วกัน” สิริตอบโดยให้คนถามสรุปเอาเอง
“ฉันว่าชัวร์ แกว่าไง” ดาด้าเอ่ยถามเมฆา
“ฉันก็ว่างั้นนะ ในที่สุดคนที่เด็ดหัวใจคุณธีร์ได้ก็เป็นน้องนิสุดสวยของเรา องุ่นไม่หวานอีกต่อไป” เมฆาบอก ตั้งแต่เขากลายเป็นผู้ช่วยของนิดาเขาก็สนิทสนมกับเธอมากขึ้น มุมหนึ่งเธอดูดื้อรั้น เอาแต่ใจ แต่อีกมุมนิดาเป็นคนโอบอ้อมอารี เอาใจใส่ความรู้สึกของคนอื่นเสมอ ที่สำคัญคือเธอมีไอเดียดีๆ เขาคิดว่าผู้หญิงตัวเล็กๆ คนนี้นี่แหละเหมาะที่จะอยู่เคียงข้างธีร์
“เยส” พนักงานอีกสองคนพากันกำหมัดกระชากเข้าหาตัวเอง แสดงความดีใจในชัยชนะ
“พูดอะไรไม่เข้าใจ” สิริถาม
“ก็ก่อนหน้าที่น้องนิจะมา คุณธีร์เขาชอบไปขลุกอยู่ที่ไร่องุ่น ก็มีเสียงเม้าธ์ๆ นั่นแหละว่าไปปลูกต้นรัก” แสนรักเล่าให้สิริฟัง
“เอ ไม่เห็นเคยรู้” สิริพึมพำเบาๆ แล้วส่ายหัว เธอเชื่อมั่นในตัวธีร์เกินกว่าจะเชื่อคำพูดที่ไม่มีมูล
“พวกเราไปก่อนนะคะ จะเอาข่าวดีไปบอกสาวๆ ในออฟฟิศ” แสนรักบอกสิริแล้วพากันเดินยิ้มร่าออกไปจากสโมสร
.........................
21.00 น.
ตั้งแต่กลับมาถึงบ้านตอนบ่ายแก่ๆ จนถึงตอนนี้ โลกของนิดาก็มีแต่แมวสีขาวแต้มสีดำเป็นหย่อมๆ รวมถึงบนปากและจมูก แลดูเหมือนแมวมีหนวด ตอนนี้บนคอของมันมีสร้อยมุกสีชมพูประดับจี้เพชรหรูหราดูดีมีฐานะสมกับมีเจ้าของเป็นคุณหนูสายเปย์ พลิกชีวิตแมวหลงเป็นแมวที่กำลังจะได้เจิดจรัสอยู่ในรีสอร์ตนิรชา มันน่ารัก น่าเอ็นดู ขี้ประจบ ขี้เล่น จนธีร์เองก็รักมัน อันที่จริงสำหรับเขาแล้ว เธอรักอะไรเขาก็รักด้วยนั่นแหละ
“นิไม่อยากได้แมวสายพันธุ์ดังๆ ขาสั้นๆ เหรอ” ธีร์นึกสงสัยจึงถามขึ้น เพราะดูจากรูปลักษณ์ของนิดาแล้ว เธอน่าจะชอบของสวยๆ งามๆ มากกว่า
เขาและเธอนั่งขัดสมาธิอยู่บนพื้นในห้องนั่งเล่นโดยมีเจ้าเหมียวกระโดดโหยงเหย็งเล่นของเล่นแมว มันเป็นสัตว์เลี้ยงตัวแรกในชีวิตของนิดา เขาจึงคิดว่าเธอน่าจะอยากได้แมวสายพันธุ์ที่กำลังเป็นที่นิยม
“ไหนว่ารู้ใจนิหมดไงคะ” เธอตวัดตาจากแมวขึ้นมามองเขา ธีร์ตระหนักได้ในนาทีนั้นว่าเขาต้องพลาดอะไรไปแล้วแน่ๆ
“ก็...เอ่อ...” เขาอ้ำอึ้ง ไปต่อไม่เป็น