“นั่งนับอะไรคะ” ธีร์เห็นนิดานั่งนับนิ้ว ทำปากขมุบขมิบตั้งแต่ขึ้นมาบนรถ จนผ่านมาสักพักเธอก็ยังดูเคร่งเครียดกับการนับเลข จึงต้องเอ่ยถามให้หายสงสัย
“มันไม่ทันกัน” เธอเอ่ยออกมา ซึ่งไม่ได้ทำให้ธีร์เข้าใจเลย
“เฮ้อ หมดกัน” เธอถอนหายใจ ทิ้งตัวลงพิงเบาะ
“มีอะไรให้ช่วยไหม”
“เทศกาลท่องเที่ยวจะมีในอีกเดือนครึ่งใช่ไหมคะ” วันนี้ในที่ประชุมเคาะวันที่กันออกมาแล้ว แม้จะไม่ใช่งานใหญ่ระดับประเทศ แต่นิดาก็อยากทำงานเล็กๆ ของเธอให้สำเร็จ
“ใช่จ้ะ ก็เหมือนเดิมไม่มีอะไรมาก เราก็จัดส่วนลดพิเศษหน่อย ทำโปรโมชั่นดึงดูดให้คนมาเที่ยวมาพัก”
“ฉันคงเพ้อฝันไปนั่นแหละ ทำอะไรเกินตัว เฮ้อ” นิดาถอนหายใจอีกรอบ แล้วเอนตัวพิงประตูหลับตาลง ความเย็นฉ่ำของแอร์และความร้อนจากแดดที่ยังสะสมอยู่ในร่างกายจนอ่อนเพลียทำให้เธอหลับไปแทบจะทันที
“เล่าให้พี่ฟังสิว่าอยากทำอะไร พี่จะได้ช่วย”
“...”
นิดาไม่ตอบ ธีร์จึงหันไปมองและเห็นว่าเธอหลับไปแล้ว เขาเอื้อมมือไปจับแขนเธอ ก็พบว่าเธอตัวร้อนจี๋ เขาจัดการเบาแอร์ ธีร์ไม่แปลกใจ วันนี้ออกไปสมบุกสมบันท้าลมท้าแดดขนาดนั้น ผู้หญิงตัวเล็กๆ บางๆ ที่ไม่ค่อยออกแดด ถ้าไม่ป่วยก็แข็งแกร่งเกินไปแล้ว
เมื่อธีร์ไปจอดรถที่หน้าบ้านของเธอ สิริก็รีบออกมารับ เขาหยิบข้าวของของเธอส่งให้สิริ แล้วอุ้มนิดาพาขึ้นไปยังห้องนอนของเธอ
“สิริพักผ่อนเถอะ เดี๋ยวผมดูแลเอง”
“ค่ะ ถ้าคุณธีร์ต้องการอะไร เรียกสิริที่ห้องข้างล่างนะคะ”
“ครับ เดี๋ยวดึกๆ ผมก็กลับแล้ว ตอนเช้าก่อนที่สิริจะกลับบ้านช่วยขึ้นมาดูน้องหน่อยนะครับ” ธีร์ฝากฝังไว้ล่วงหน้า
เมื่อสิริออกไปแล้ว เขาก็จัดการล็อกห้อง เช็ดตัวให้เธอแล้วหาเสื้อผ้ามาเปลี่ยนให้ จากนั้นก็จัดยาแก้ไข้ให้เธอกิน
*********
วันรุ่งขึ้น
นิดาสะกดสายตาผู้เข้าร่วมสัมมนาเกือบหนึ่งร้อยคนให้จดจ้องไปที่เธอเป็นตาเดียวด้วยชุดกระโปรงเอี๊ยม ที่สามารถเปลี่ยนจากความน่ารักเป็นความเซ็กซี่ด้วยการใส่เสื้อข้างในเป็นบราแฟชั่นสายเดี่ยวแทนที่จะเป็นเสื้อยืด น้ำเสียงของเธอราวกับเสียงดนตรีขณะบรรยายประวัติของน้ำตก เส้นทางที่นักท่องเที่ยวจะต้องใช้ และจุดเด่นของน้ำตกแต่ละชั้นจากนั้นก็จะปล่อยให้ผู้สัมมนาได้ใช้เวลา ณ ที่แห่งนี้ตามอัธยาศัย ก่อนที่จะพาไปยังสถานที่อื่นต่อตามตาราง
ดาว เลขาฯ อีกคนของคชาซึ่งรับผิดชอบดูแลลูกค้าจากบริษัทใหญ่กลุ่มนี้มองน้องสาวของเจ้านายด้วยสายตาชื่นชม เมื่อวานหลังจากธีร์ส่งไลน์มาแต่เช้า เธอก็บรีฟงานกับนิดาก่อนที่นิดาจะชวนเมฆาออกไปโรงเรือนเมล่อน ตอนแรกเธอบอกแค่ให้นิดาไปเป็นลูกมือ แต่นิดาขันอาสาจะมาทำหน้าที่เป็นวิทยากรแทน เธอก็แอบหวั่นใจอยู่ลึกๆ แต่ด้วยท่าทางมั่นใจที่สาวน้อยแสดงออก เธอก็ตระหนักได้ว่าตนเองจะคิดมากไปทำไมในเมื่อนิดาน่าจะรู้จักสถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดนี้เป็นอย่างดี และผู้จัดการก็เทรนเธอมาตั้งแต่วันแรกที่เข้ามาทำงานแล้วด้วย
จะว่าไปการแต่งตัวของนิดาก็ดูน่ารักเซ็กซี่ในแบบของเธอ แต่กลับไม่ถูกใจชายหนุ่มที่ยืนมองอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ห่างจากจุดที่ใช้เป็นที่บรรยาย และในสายตาผู้ชายแล้ว ทำไมเขาจะดูไม่ออกว่าหนุ่มหน้าตี๋คนหนึ่งที่ดูมีสง่าราศีซ่อนอะไรไว้ภายใต้การจับจ้องไม่วางตา พิจารณาจากการวางตัวและเครื่องแต่งกายแล้ว น่าจะมีตำแหน่งสูงกว่าคนอื่นๆ ที่มาด้วยกัน
แล้วในช่วงที่นิดาเปิดโอกาสให้ผู้ฟังได้ซักถาม ชายหนุ่มคนนั้นก็ก้าวไปข้างหน้าจนกระทั่งยืนอยู่เคียงข้างเธอ เขาแตะที่แขนเธอเบาๆ ซึ่งทำให้ชายหนุ่มที่ยืนอยู่ใต้ต้นไม้ถึงกับยืดตัวตรง ส่วนทุกคนในที่นั้นพากันนิ่งตะลึง นิดาเองก็ตกใจที่เขาถึงเนื้อถึงตัว เธอรีบขยับท่ายืนอย่างแนบเนียนเพื่อไม่ให้ดูน่าเกลียดเกินไป
“น้องๆ ครับ” เขาพูดกับพนักงานในบริษัทตนเอง “ไม่ต้องแปลกใจที่พี่เดินออกมา แค่อยากจะบอกว่า น้องที่น่ารักคนนี้เป็นน้องในมหาวิทยาลัยของพี่เอง เธอเป็นดาวมหาวิทยาลัยด้วย”
ในสายตาธีร์ ไอ้หมอนี่ขี้อวด น่าจะเป็นที่หมั่นไส้ของพนักงานไม่น้อย
คำพูดของเขาได้รับเสียงโห่ร้อง เสียงกรี๊ดกร๊าด ขณะที่พนักงานบางคนเบ้หน้า
นิดาเพิ่งรู้ว่าเขาเป็นรุ่นพี่ที่มหาวิทยาลัยจากการบอกกล่าวของเขา เธอยกมือไหว้เขาแบบงงๆ
“พี่ชื่อปราบ อยู่คณะวิศวะ อยู่ใกล้ๆ คณะการท่องเที่ยวและการโรงแรม แอบมองน้องอยู่นะจ๊ะตลอด”
ระหว่างที่เขาพูด พนักงานในบริษัทก็พากันนิ่งฟัง
“โลกนี้ไม่มีเรื่องบังเอิญ เราพบกันเพราะวาสนา จากกันเพราะโชคชะตา และกลับมาเจอกันเพราะพรหมลิขิต” เขาหันไปมองหน้าสาวรุ่นน้อง เดินหน้าจีบอย่างเปิดเผยเพราะคิดว่าด้วยมารยาทของเจ้าภาพจะต้องไม่ทำให้ลูกค้าหน้าแตก
นิดายิ้มแห้งกับคำพูดเชยๆ “พวกวิศวะปากหวานทุกคนเลยนะคะ ขอบคุณนะคะที่เอ็นดู ว่าแต่พี่ปราบมีอะไรจะให้รุ่นน้องคนนี้ช่วยเหลือหรือเปล่าคะ”
“เฮ้อ ไม่มีอะไรมาก พี่แค่จะถามว่า...” เขามองเธอตาหวานเชื่อม คิดว่าเสน่ห์ของตัวเองจะสามารถสานสัมพันธ์กับหญิงสาวได้ และจังหวะที่เขาเงียบไปก็พาให้ทุกคนหยุดหายใจ “...เดี๋ยวน้องนิดาช่วยพาพี่เดินได้ไหมครับ เราจะได้รู้จักกันมากขึ้น”