ร่างของหญิงสาวถูกโอบด้วยท่อนแขนกำยำของชายที่อยู่ในชุดสูตสีดำ เสื้อเชิ้ตด้านในสีฟ้าอ่อน กับกางเกงสีดำเข้าชุด ใบหน้าของเขาหล่อเหลาปานกับดารานักแสดงหนังระดับฮอลลีวูด กลิ่นน้ำหอมสุดคลาสสิกที่มีกลิ่นอ่อน ๆ แต่มันช่างน่าหลงไหลได้อย่างแปลกประหลาด ดึงดูดสายตาของแนนให้จ้องมองดวงตาคู่คมราวกับต้องมนตร์สะกด
เขาหล่อมากจนเธอมองตาไม่กระพริบ
แต่ความรู้สึกนั้นก็มีเพียงชั่วครู่ เมื่อจู่ ๆ ร่างของเธอก็รู้สึกเหมือนกำลังกระทบกับอากาศ พอรู้ตัวอีกทีก็ล่วงลงไปนั่งพับเพียบอยู่บนพื้นเรียบร้อยแล้ว พร้อมกับใบหน้าของอีกคนที่แสดงสีหน้าเลิ่กลั่ก
“โอ๊ย” เสียงโอดครวญดังขึ้น ก่อนที่แนนจะรีบลุกขึ้นปัดฝุ่นที่กระโปรง
“เป็นอะไรไหมครับ”
ยังมีหน้ามาถามอีก เล่นปล่อยมือแบบนี้เธอก็เจ็บน่ะสิ แต่ประโยคนี้มันก็แค่ความคิด
“ไม่เป็นไรเลยค่ะ ล้มแค่นี้สบายมาก ขอบคุณนะคะที่ช่วยฉันไว้”
แนนคลี่ยิ้มหวาน ช้อนสายตาขึ้นมองใบหน้าหล่อแล้วเอ่ยกับเขาด้วยน้ำเสียงนุ่มละมุน แม้ว่าจะเจ็บก้นพอสมควรแต่ก็ต้องเก็บอาการ
เควินเห็นว่าเธอยืนลับ ๆ ล่อ ๆ อยู่ตรงหน้าบริษัทเลยเดินมาดู ใครจะคิดว่าเขาจะกลายเป็นคนช่วยเธอจากอุบัติเหตุ
“ทำงานที่นี่เหมือนกันเหรอคะ”
“เปล่าครับ ผมทำงานบริษัทข้าง ๆ” เขาแสร้งโกหกแล้วชี้ไปยังบริษัทที่อยู่ถัดจากบริษัทของตน
“อ๋อ คงกำลังจะกลับบ้านสินะคะ”
“ครับ”
“ฉันก็กำลังจะกลับเหมือนกันค่ะ ไปกินข้าวด้วยกันไหมคะ ถือว่าเลี้ยงขอบคุณที่ช่วยฉันไว้” แนนทำใจดีเอ่ยชวน
เธออยากตอบแทนน้ำใจ เพราะถ้าเมื่อกี้ไม่ได้เขาช่วย เธอก็คงจะโดนรถเฉี่ยวไปแล้ว
@ ร้านอาหารตามสั่งเสม็ด
“เชิญสั่งได้เลยนะครับ ข้าวร้านเราอร่อยทุกเม็ด กินแล้วเสร็จทุกราย”
เสียงของเจ้าของร้านที่กำลังควงตะหลิวผัดอาหารในกระทะ เงยหน้าขึ้นเอ่ยทักทายลูกค้าชายหญิงที่กำลังเดินเข้าร้านด้วยน้ำเสียงติดตลก
“อยากกินอะไรคะ เดี๋ยวฉันสั่งให้” หญิงสาวเอ่ยด้วยใบหน้าแย้มยิ้ม
เควินเผลอมองเธอตาค้างไปหลายวินาที สาวสวยดูเป็นคนร่าเริงและคุยเก่งเป็นพิเศษ เพราะตั้งแต่นั่งรถแท็กซีมาด้วยกัน เธอก็ส่งสายตาหวานและชวนคุยเรื่องทั่วไปไม่หยุด เพื่อไม่ให้บรรยากาศในรถมันกระอักกระอ่วนและเต็มไปด้วยความเงียบ และที่บอกว่าจะเลี้ยงข้าว เขาก็ไม่คิดว่าเธอจะพามาเลี้ยงอาหารตามสั่ง
“ชื่อร้านมันฟังดูแปลก ๆ แน่ใจเหรอครับว่าอาหารที่นี่มันจะกินได้”
เควินส่งสายตาสำรวจไปทั่วร้านที่ตั้งอยู่บนพื้นที่ว่างข้างทาง มีโต๊ะสำหรับนั่งรับประทานอาหารประมาณสิบโต๊ะ แถมรถก็ยังสัญจรผ่านไปมาตลอดเวลา
“คิกคิก” แนนส่งเสียงหัวเราะชอบใจ
“ขำอะไรเหรอครับ”
เควินชักจะทำตัวไม่ถูกที่ถูกหญิงสาวหัวเราะเยาะ หรือว่าเขาพูดอะไรผิด
“นี่มันร้านอาหารตามสั่งค่ะ ของทุกอย่างในร้านก็ต้องกินได้สิคะ”
แม้ว่าชื่อร้านมันจะแปลก แถมเจ้าของร้านยังทักทายด้วยคำพูดที่กำกวมก็เถอะ แต่ร้านข้าวมันก็ต้องมีอาหารที่กินได้อยู่แล้ว และที่ตั้งชื่อร้านแบบนี้ก็เพราะเจ้าของร้านชื่อเสม็ด และภูมิลำเนาก็อยู่ที่จังหวัดระยอง ซึ่งมีเกาะเสม็ดเป็นสถานที่ท่องเที่ยว จึงเป็นที่มาของชื่อร้านและคำทักทาย เพราะไปเสม็ดมักจะเสร็จทุกราย
“ผมกินเหมือนคุณ” เควินไม่รู้ว่าจะสั่งอะไร เลยเลือกที่จะกินเหมือนคนตรงหน้า
“โอเคค่ะ”
แนนเลือกสั่งเมนูเบสิกอย่างผัดกะเพรา พอเควินเห็นหน้าตาอาหารในจานที่โชยกลิ่นหอมลอยคลุ้งเข้าจมูก เขาก็ใช้ปลายช้อนตักเข้าปากเพื่อลิ้มลองรสชาติของอาหารข้างทาง
“เป็นยังไงบ้างคะ” เธอถามก็พลางลุ้นไปด้วย ไม่รู้ว่าจะถูกปากเขาหรือเปล่า
“ก็อร่อยดีครับ”
แม้ชื่อร้านจะแปลก แต่ทำอาหารอร่อยพอให้อภัยได้
“ร้านนี้เป็นร้านประจำของฉันเลยนะคะ อ้อ แล้วยังมีก๋วยเตี๋ยวที่อยู่ตรงข้ามกับบริษัท ร้านนั้นก็อร่อยมากเลยค่ะ”
หญิงสาวนำเสนอด้วยรอยยิ้ม คนฟังก็พลอยยกยิ้มมุมปากตามไปด้วย ก่อนจะกลั้นเอาไว้แล้วตักอาหารเข้าปากแทน
“ฉันชื่อแนนนะคะ แล้วคุณล่ะชื่ออะไร”
ก่อนจะแยกย้าย แนนก็แนะนำตัวและไม่ลืมที่จะถามชื่อของเขา
“ไว้ถ้ามีโอกาสพบกันอีกครั้งแล้วผมจะบอกนะครับ”
“แหะ แหะ” แนนขำแห้งออกมาเล็กน้อย
เขาหล่อราวกับหนุ่มลูกครึ่ง แถมยังสูงยาวเข่าดี แต่ก็มีความหยิ่งเล็กน้อย แค่ถามชื่อก็ไม่ยอมบอก แต่ไม่เป็นไร อย่างน้อยเธอก็ได้ตอบแทนที่เขาช่วยเหลือแล้ว ถือว่าไม่มีอะไรติดค้างกัน
“ถ้างั้นก็แยกกันตรงนี้เลยนะคะ”
“ครับ”
เควินรอให้แนนเรียกรถได้ก่อน แล้วเขาก็ค่อยนั่งรถแท็กซีอีกคันกลับบริษัทเพื่อไปเอารถของตนเอง
@ บริษัทจำกัด เค วี คอนแท็กต์ เซ็นเตอร์
หลายวันต่อมา
“บอสครับ ฝ่ายไอทีแจ้งมาว่ารหัสซีแอลสองหนึ่งหกเก้า มีการใช้งานคอมพิวเตอร์ที่ผิดปกติ”
คณิตเข้ามารายงานเจ้านายพร้อมกับวางแฟ้มในมือลงบนโต๊ะทำงาน
“ผิดปกติยังไง” เขาเอ่ยพร้อมกับหยิบแฟ้มรายงานขึ้นมาเปิดดู
“มันแปลกมากเลยนะครับที่ทุกครั้งเวลาคุยสายกับลูกค้า พนักงานคนนี้มักจะเข้าใช้งานเว็บไซต์อื่นในเวลาเดียวกัน”
เควินเห็นผลรายงานการใช้คอมพิวเตอร์แล้ว ซึ่งพนักงานคนนี้ก็คือแนน หญิงสาวที่เขาช่วยเอาไว้เมื่อหลายวันก่อน แม้ว่าเธอจะมีการเข้าใช้งานกูเกิลซึ่งเป็นเว็บไซต์สำหรับค้นหาข้อมูล แต่ข้อมูลที่เธอค้นหาก็ล้วนเกี่ยวข้องกับงานทั้งนั้น
“บอสจะให้ฝ่ายบุคคลเรียกเธอไปตักเตือนไหมครับ”
“ยังก่อน ถ้าไม่กระทบกับงาน และคะแนนความพึงพอใจของเธอยังอยู่ที่สี่คะแนนขึ้นไป ก็ยังไม่ต้องทำอะไร”
ถ้าจะลงโทษเธอด้วยสาเหตุนี้มันก็ฟังดูไร้เหตุผล อย่างน้อยเธอก็ยังได้คะแนนเต็มห้าทุกครั้งที่มีผู้ใช้บริการกดประเมินความพึงพอใจในการให้บริการ ถ้าเอาเวลางานไปทำเรื่องไร้สาระแล้วมีผลกระทบกับงานที่ทำก็ว่าไปอย่าง
ไม่รู้ว่าความรู้แน่นขนาดนั้นทำไมต้องเข้าไปค้นหาข้อมูลทุกครั้งที่ให้คำปรึกษา
“รับทราบครับ” คณิตขานรับก็เดินออกจากห้องไป
เควินเอนแผ่นหลังพิงกับพนักเก้าอี้ล้อเลื่อน หยิบแฟ้มรายงานขึ้นมาเปิดดูอีกครั้ง
“เธอนี่มีอะไรแปลกใหม่มาเรื่อย ๆ เลยนะ”
เขากระตุกยิ้มมองรูปใบเล็กที่ติดอยู่ตรงมุมขวาบนของกระดาษเอสี่ ไม่ว่าจะเจอกันกี่ครั้ง ผู้หญิงคนนี้ก็เหมือนจะมีอะไรบางอย่างที่ดึงดูดสายตา และทำให้เขาอยากค้นหาอย่างบอกไม่ถูก
@ ถนนซับยอย
ถนนเส้นนี้เป็นตลาดนัดกลางคืนที่มีเหล่าพ่อค้าแม่ค้ามาตั้งแผงลอยขายของกันทุกเย็นจนถึงเที่ยงคืน และหลังเลิกงานก่อนที่อีกวันจะเป็นวันหยุด แนนก็มักจะมาเดินเล่นหาของกินที่นี่
“เจอกันอีกแล้วนะครับ”
น้ำเสียงทุ้มสุภาพดังขึ้นทางด้านหลัง แนนเหลียวไปมองก็พบว่าเป็นหนุ่มหล่อมีน้ำใจที่ช่วยเธอไว้จึงระบายยิ้มให้
“อ้าว คุณ…” กะจะทักทายแต่ก็ลืมไปเลยว่ายังไม่รู้จักชื่อ เธอเลยเปลี่ยนคำถาม
“มาหาของกินเหมือนกันเหรอคะ”
“ครับ”
ระหว่างทางที่เควินกำลังขับรถกลับที่พัก และด้วยความเร็วสามสิบกิโลเมตรต่อชั่วโมงเนื่องจากเป็นเวลารถติด สายตาของเขาก็เหลือบไปเห็นพนักงานสาวที่กำลังลงจากรถแท็กซี จึงได้หาที่จอดและเดินเข้าไปหาแนนที่ยืนอยู่ที่ร้านยำหมี่โบราณ
“ฉันก็เพิ่งมาถึงเหมือนกันค่ะ”
“ดูคุณจะชอบไปสถานที่ที่มีชื่อแปลก ๆ นะครับ” เควินเอ่ยพลางชำเลืองมองดูชื่อถนนที่ติดอยู่บนป้ายตรงหัวมุมทางเข้า
“มันก็แปลกอย่างที่คุณว่าจริง ๆ ซับยอย ซอย… อุ่ย ไม่พูดต่อดีกว่าค่ะ แหะ แหะ”
แนนขำแห้งก่อนจะต่อว่าตัวเองในใจที่เกือบจะผวนคำไปแล้ว ดีที่ยั้งปากไว้ได้ทัน ใครกันนะช่างตั้งชื่อได้กำกวม แต่เชื่อเถอะว่ามีอีกหลายคนที่ชอบผวนชื่อถนนแห่งนี้
“ครั้งที่สองแล้วนะคะ”
“อะไรเหรอครับ” เควินหันไปถามด้วยความงุนงงที่จู่ ๆ เธอก็เอ่ยขึ้น
“ก็ที่เราเจอกันไงคะ ครั้งนี้เป็นครั้งที่สองแล้ว ฉันจำได้ว่าคุณจะบอกชื่อถ้าเราเจอกันอีกครั้ง” แนนเอียงหน้าถามอีกฝ่าย ขณะที่เดินมองหาของกินด้วยกัน
“ผมชื่อคีย์ครับ”
เควินบอกชื่อเล่นอีกชื่อของเขาออกไปตามสัญญา