บทที่3. ตอน ดั่งบุปผาถูกขยี้

1303 Words
บทที่3. ตอน ดั่งบุปผาถูกขยี้ “ฮือ... ไม่นะ อย่า...” หลิวซืออินเบือนหน้าหนี พยายามดิ้นรนสู้ แต่ถูกเขาใช้มือข้างหนึ่งกดตรึงข้อมือทั้งสองไว้เหนือศีรษะ ใช้เข่ากดต้นขานางไว้จนดิ้นหนีไม่ได้ ใบหน้างามส่ายไปมา น้ำตาไหลจนเปื้อนผ้าที่ปิดไว้มองเห็นคราบชื้น เขาใจอ่อนลงวูบหนึ่งคล้ายจะยุติสิ่งที่ทำอยู่ ทว่า... ภาพของนางหลี่เจียน กำลังร้องไห้เหมือนคนจะขาดใจ ร่ำร้องให้เขาทวงความยุติธรรมให้กับจางเฉียนวาบเข้ามาในหัว “เสี่ยวเหวิน เจ้าต้องล้างแค้นให้เสี่ยวเฉียน ป้าขอร้องเจ้า” สภาพร่างไร้วิญญาณของจางเฉียน ทำให้คนเห็นแทบสติแตก เจ็บปวดรวดร้าว หัวใจเจียนแหลกสลาย จางเฉียนคือสตรีที่เขารักสุดหัวใจ “ท่านป้าบอกข้าว่า โตขึ้นจะให้ข้าแต่งงานกับพี่ตง ข้าต้องรักพี่ตงให้มากๆ ” จางเฉียนเป็นเด็กกำพร้า นางหลี่เจียนรับมาเลี้ยงไว้ สั่งสอนให้รักและเชื่อว่าต้องโตขึ้นมาเพื่อเป็นเจ้าสาวของหลินตงลูกชายของนาง จางเฉียนและเขาโตมาด้วยกัน ความผูกพันก่อเกิดเป็นความรักขึ้น หลินตงรับรู้ว่าเขารักจางเฉียน จึงชะลอการแต่งงานไว้ พยายามพูดให้มารดาเปลี่ยนใจ แต่นางหลี่เจียนยังยืนกรานให้จางเฉียนแต่งงานกับลูกชายของนาง “หลินตงเป็นลูกชายคนเดียว ต้องมีทายาทสืบสกุล เสี่ยวเจียนคือคนที่ข้ากับท่านลุงของเจ้า เลี้ยงไว้ให้แต่งงานกับเขา เสี่ยวเหวินเจ้าอย่าคิดอกตัญญู แย่งชิงสตรีของพี่ชาย” เขาถูกผู้เป็นป้าสะใภ้ขัดขวาง ไม่ให้แย่งชิงจางเฉียนมาจากหลินตง เขาจำยอมตัดใจพาตัวเองไปทำงานกับสำนักคุ้มภัย ออกเดินทางไปยังที่ต่างๆ เมื่อรู้ว่าหลินตงกับจางเฉียนกำลังจะแต่งงาน เขาจึงกลับมาร่วมอวยพรวันวิวาห์ ให้พี่ชายและสตรีที่เขารัก แต่นั่นกลับเป็นครั้งสุดท้ายที่เขาได้เห็นทั้งคู่ หัวใจที่อ่อนลง พลันแข็งกร้าวขึ้นมาด้วยไฟแค้น หยวนจงเหลียงฉุดจางเฉียนไป ข่มเหงนางจนนางคิดสั้นกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย หลินตงเองก็ถูกทำร้ายจนขาหัก ร่างกายบอบช้ำ ท่านลุงเองก็เสียใจจนล้มป่วยติดเตียง ครอบครัวผู้มีพระคุณถูกรังแก สตรีที่เขารักต้องตายจาก "หยวนจงเหลียนมันทำร้ายหลินตง และยังขืนใจเสี่ยวเฉียนจนนางคิดสั้นฆ่าตัวตาย ดวงตาลุกวาบด้วยความแค้น ความเห็นใจถูกปัดทิ้ง สุราที่ดื่มทำให้เขายิ่งขาดสติ ร่างกายร้อนวูยวาบ ภายในกายเกิดความกำหนัดขึ้นมาจนมิอาจยั้งใจตัวเองไหว เยี่ยเหวินจ้าวเพิ่งรู้ตัวว่าสุราที่เขาดื่ม ผสมยากระตุ้นกำหนัดไว้ สติของเขาดับวูบเหลือเพียงความต้องการของร่างกายที่มิอาจควบคุม หญิงงามใต้ร่างจึงกลายเป็นที่ระบายความปรารถนา “อย่านะ ปล่อยข้า ได้โปรด...” หลิวซืออินพยายามดิ้นรนปกป้องตัวเองสุดชีวิต ทว่านางไม่อาจจะต้านทานความป่าเถื่อนของเขาได้ น้ำตาไหลรินอาบแก้ม พร้อมกับเสียงร้องอ้อนวอน “ปล่อยข้าเถอะ ฮือ อย่าทำข้าเลย ฮือ...” เรือนร่างอันงดงาม ทรวงคู่งามอวบใหญ่พอดีตัว ปลายยอดสีชมพูกะจิดริดคล้ายไข่มุก เอวคอด หน้าท้องแบนเรียบ ผิวขาวผ่องไร้รอยไฝฝ้านุ่มเนียนละมุนไปทั้งตัว สายตาของเยี่ยเหวินจ้าว กวาดมองไปบนร่างงดงามอย่างตะลึงลาน สตรีนางนี้เรียกว่างามล่มเมือง ไม่แปลกใจเลยที่หยวนจงเหลียงแต่งนางเข้าเรือน ไอ้สารเลวนั่นหมดโอกาสได้มีคืนวิวาห์กับเจ้าสาว ตอนนี้เขาเท่านั้นที่ได้ครอบครองนาง “กรี๊ดดด อย่านะ...” เสียงกรีดร้องดังขึ้น ร่างงดงามบริสุทธิ์ของเจ้าสาวในคืนวิวาห์ ถูกชายที่เจ้าตัวไม่เคยรู้จักสัมผัสไปทั้งตัว “ฮือ ปล่อยข้า ฮือ ปล่อยข้าเถอะ...” คำอ้อนวอนนั้นไร้ผล คนฟังไม่สนใจ อีกทั้งยังปิดปากของนางไว้ ด้วยริมฝีปากของเขา จูบจนนางไร้เสียงร้อง ทรวงอวบถูกมือของเขาเคล้นคลึงลูบไล้ ไม่มีพื้นที่ใดหลุดรอดรอยมือไปได้ ริมฝีปากถูกบดขยี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนบวมเจ่อ ริมฝีปากร้อนผ่าว เคลื่อนไปบนลำคอขาวผ่อง ขบเม้มจนเกิดรอยจ้ำแดงเป็นจุด ดั่งต้องการประทับตราเป็นเจ้าของเรือนกายนี้ หลิวซืออินน้ำตาไหลริน ยิ่งดิ้นรนมากเพียงใด เขายิ่งแกล้งรังแกนางรุนแรงขึ้น เขาครอบครองทรวงอวบ ใช้ปลายลิ้นร้อนเกี่ยวกระหวัดยอดทรวง ดูดเม้มจนเกิดเสียงดัง น่าอับอาย ริมฝีปากของเขาเคลื่อนไปทั่วทรวงทั้งสองข้าง สลับไปมาไม่ยอมหยุด ลูบไล้ โลมเล้า คลึงเคล้า ทุกสัมผัสเต็มไปด้วยความหื่นกระหาย หลิวซืออินบิดกายหนีแต่ไม่อาจหลุดพ้น ร่างกายของนางไม่อาจต้านทานเขาไหว ความหวาดกลัวครอบคลุมหัวใจ แรงต่อต้านลดน้อยลง เรี่ยวแรงหมดลงไปทุกที “กรี๊ดดด” เสียงกรีดร้องดังขึ้น เมื่อบางสิ่งรุกล้ำแทรกผ่านเข้ามาทำลายพรหมจรรย์ สร้างรอยราคีที่มิอาจลบล้างได้ เขากำลังขยับกายบดขยี้ตีตราบาปบนร่างกายของนาง เวลาราวกับผ่านไปอย่างเชื่องช้า สภาพของสตรีบนเตียง มิต่างจากบุปผาที่ถูกบดขยี้จนชอกช้ำ หลิวซืออินนอนนิ่ง น้ำตาไหลรินเจ็บร้าวทั้งกายใจ นางไม่เคยก่อกรรมทำเข็ญ เหตุใดต้องพบเจอกับเรื่องเลวร้ายเช่นนี้ อยากจะกลั้นใจตายให้หลุดพ้นไปจากความอดสูนี้ แต่ภาพของท่านย่าวาบเข้ามาในหัว หากนางตายไป คงไม่ได้กลับไปพบท่านย่าอีก หลิวซืออินข่มความเจ็บช้ำไว้ในอก ปลอบประโลมตัวเองให้เข้มแข็งขึ้น นางถูกข่มเหงไม่อาจเรียกคืนความสาว แต่ชีวิตและลมหายใจของนางยังมีอยู่ นางยังมีความหวังจะรอดกลับไป "ข้าทำผิดอันใด เหตุใดเจ้าถึงทำกับข้าเช่นนี้" หลิวซืออินเอ่ยถาม ด้วยน้ำเสียงขมขื่น นางไม่เคยรู้จักเขา ไม่เคยแม้แต่จะเห็นหน้า เหตุใดเขาจึงทำร้ายนางอย่างไร้ความปรานี "ผิดสิ ผิดที่เจ้าเป็นเจ้าสาวของหยวนจงเหลียง ถ้าเจ้าไม่แต่งกับมัน ข้าคงไม่เอาตัวเจ้ามา" “ข้าไม่รู้ว่าเจ้ากับหยวนจงเหลียง มีความแค้นอันใดกัน เจ้าได้ฆ่าเขาตายไปแล้ว เหตุใดถึงฉุดข้ามา” นางเอ่ยเสียงเจือสะอื้นน่าเวทนา ชุดเจ้าสาวสีแดงขาดวิ่น ถูกใช้ปิดบังความเปลือยเปล่าที่ถูกเขาสร้างรอยราคีจนเป็นรอยช้ำไปทั้งกาย เยี่ยเหวินเจ้าละสายตาจากภาพนั้น ในใจรู้สึกผิดขึ้นมา สตรีนางนี้มิได้มีความผิดอันใด เขาบุกเข้าไปในขบวนแต่งงาน เพียงเพื่อต้องการสังหารหยวนจงเหลียง โดยมีสหายจากสำนักคุ้มภัยคอยช่วยเหลือ คนในขบวนถูกฆ่าปิดปากจนหมด เหลือนางเพียงคนเดียวที่เขาขอชีวิตไว้ "สหายทุกท่าน สตรีนางนี้ข้าจะนำตัวไปเป็นภรรยาของข้า" เหล่าสหายจึงปล่อยให้เขาพาตัวนางขึ้นเรือมาด้วย หากปล่อยนางไว้อาจถูกสหายของเขาข่มเหง นางงดงามเพียงนี้คงไม่อาจรอดพ้นจากชายกลัดมันกลุ่มนั้นได้ ก่อนแยกย้ายเหล่าสหายมอบสุรามงคลให้เขาไว้ดื่ม เยี่ยเหวินจ้าวไม่ทันคิดว่าสหายคิดส่งเสริม ใส่ยาปลุกกำหนัดในสุราให้เขา เมื่อนำมาดื่มฤทธิ์ยาทำให้ขาดสติ พลั้งเผลอข่มเหงนาง เขาคงปล่อยนางไปไม่ได้แล้ว ! ///
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD