เมื่อฟ้าขวัญตั้งสติจากความเศร้าก็กลับมาเป็นพรรับฟ้าเหมือนเดิม
"คุณฟ้าจะทานของว่างอะไรดีคะ" ป้าพริ้งถามเมื่อเห็นเธอลงมานั่งที่ห้องนั่งเล่น
"อะไรก็ได้ค่ะคุณป้า"
"เอ่อ ป้าพริ้งก็ได้ค่ะไม่ต้องคุณกับป้าหรอกค่ะ" ป้าพริ้งไม่ชินหูที่เธอเรียกแบบให้เกียรติ
"ขนมค่ะคุณฟ้า" ป้าพริ้งเอามาเสริฟให้ตรงที่นั่ง
"ขอบคุณค่ะป้า" พรรับฟ้าพูดขอบคุณพร้อมยกมือไหว้ เล่นเอาป้าพริ้งรับไหว้แทบไม่ทัน
"ไม่ต้องไหว้ป้าค่ะคุณฟ้า" ป้าพริ้งแปลกใจกับกิริยาท่าทางของพรรับฟ้าที่เปลี่ยนไปมาก พรรับฟ้าตัวจริงไม่เคยยกมือไหว้ใครในบ้านนอกจากพ่อแม่ของเธอเอง ไม่เคยกล่าวขอบคุณหรือแม้แต่ขอบใจใคร เธอวางตัวเป็นเจ้านายและค่อนข้างไว้ตัวกับคนที่คนละชนชั้นกับเธอ
แต่ป้าพริ้งก็ยังไม่สงสัยมากเพราะคิดว่าเป็นการดีที่คุณหนูของเธอมีความอ่อนหวานมากขึ้น
"ฟ้าลูก ทานอะไรอยู่จ๊ะ" นภาทักลูกสาว
"ทานด้วยกันไหมคะคุณแม่" ฟ้าขวัญพยายามปรับตัวให้เป็นพรรับฟ้าให้มากขึ้นจะได้ไม่มีใครสงสัย
"ไม่ล่ะจ้ะหนูทานเยอะๆนะ อยู่โรงพยาบาลไม่ได้ทานของอร่อยมานานเลยนะ" นภาเอ็นดูลูกสาวที่รักปานแก้วตาดวงใจ
"เออ นี่ แม่ว่าจะชวนหนูไปทานข้าวที่บ้านน้าปริมเพื่อนแม่น่ะจ้ะ จะได้เจอกับลูกชายของน้าปริมด้วยรู้จักกันเอาไว้ ฟ้ากับลูกชายน้าปริมน่าจะวัยไล่เลี่ยกัน เจอกันครั้งสุดท้ายน่าจะตอนที่ฟ้าเด็กมาก"
"ฟ้าไม่ไปได้ไหมคะ" เธอกะว่าจะนัดเจอกับศรันย์เสียหน่อย
"ไปเป็นเพื่อนแม่หน่อยแล้วกันนะจ๊ะ" นภาขอร้องเพราะอยากจะจับคู่ลูกสาวของเธอกับเพื่อนรักให้สนิทกันมากขึ้น
นภาและปริมเป็นเพื่อนที่รักและสนิทกันมาก แต่พรรับฟ้ากับลุกชายของปริมไม่ได้เจอกันเลยเพราะทั้งคู่ต่างคนต่างไปเรียนที่ต่างประเทศ ครั้งสุดท้ายน่าจะเจอกันตอนที่พรรับฟ้าเป็นเด็กผู้หญิงผอมเกร็งเป็นไม้เสียบผีไม่มีแววว่าจะสวยสักนิดอายุ 11 ขวบ ส่วนเด็กผุ้ชายอวบอ้วนเป็นหมูตอนคนนั้นอายุแค่เพียง 9 ขวบ
........................................................................................................................
"ลูกตะวัน" ปริมส่งเสียงเรียกลูกชายที่กำลังจะก้าวออกจากธรณีประตูบ้าน
"ครับคุณแม่"
"จะไปไหนอีกลูกอยู่ติดบ้านสักวันไม่ได้หรือ ถ้าไม่ไปทำงานก็อยู่บ้านบ้างนะขอคุณอา work from home ก็ได้ลูก" ปริมค่อนข้างตามใจลูกชายแต่ก็ระอาที่เขาเอาแต่เที่ยวเตร่มากกว่าทำงาน
"โถ่คุณแม่ครับ เพื่อนๆรอผมอยู่ครับ ไม่ไปก็เสียแย่สิ" เขตตะวันออดอ้อน
"วันนี้จะไปก็ได้แต่ว่าพรุ่งนี้เป็นวันหยุดลูกต้องอยู่บ้านทานข้าวกับแม่เพราะว่าแม่จะมีแขกมาที่บ้าน" ปริมจองตัวลูกชายไว้
"ห้ามปฏิเสธจ้ะไม่งั้นวงเงินในบัตรเครดิตมันอาจจะอันตรธานหายไป" ปริมขู่ลูกชายตัวดีเสียอยู่หมัด
"ก็ได้ครับเล่นขู่มผมเสียแบบนี้ ว่าแต่ใครครับที่จะมาที่บ้านเรา"
"จำน้านภากับหนูพรรับฟ้าได้ไหมลูก หนูฟ้ากลับมาจากเรียนต่างประเทศแล้วดันเกิดอุบัติเหตุ นอนอยู่ที่โรงพยาบาลยาวเป็นปีเลยนะ มีแต่แม่กับพ่อที่แวะเวียนไปเยี่ยมส่วนลูกน่ะชวนไปเท่าไรก็ไม่เคยว่างเสียที" ปริมร่ายให้ลูกชายฟังผสมบ่นเข้าไปด้วย
"นอนเป็นผักเลยหรือครับ!แล้วตอนนี้เขาหายแล้วหรือถึงจะมาบ้านเรา"
"หายแล้วจ้ะ ปาฏิหาริย์มากเลยนะเป็นเจ้าหญิงนิทราแต่กลับฟื้นขึ้นมาได้ ถ้าได้เจอตะวันต้องทำความสนิทสนมกับหนูฟ้าไว้ด้วยนะเผื่อว่าอีกหน่อยจะได้เป็นทองแผ่นเดียวกัน" ปริมเปรยปูทาง
"หลับไปเป็นปีเขายังปกติดีหรือครับคุณแม่ ผมไม่เอาด้วยหรอก ไม่ตายก็เลี้ยงไม่โต นอนอยู่แต่โรงพยาบาลไม่ไหวติงตอนนี้น้ำหนักคงร่วมร้อยโลแล้วมั๊งครับ" เขตตะวันปากร้ายตั้งท่ารังเกียจ
"นี่ตาตะวัน ปากคอเลาะร้ายนักนะเรา" ปริมทำตาโตใส่ลูกชาย
"ผมพูดเรื่องจริงนี่ครับคุณแม่ใครจะไปสนิทลง"
"ทำอย่างกับเราไม่เคยอ้วนนะ " ปริมแซว
"นั่นมันตอนเด็กๆครับคุณแม่" เขตตะวันนึกถึงวัยเด็กขึ้นมาได้คลับคล้ายคลับคลา น้านภาเพื่อนคุณแม่เคยมาที่บ้านกับลูกสาวบ่อยๆ
ตอนนั้นเขาอายุเพียงแค่ 9 ขวบ ส่วนลูกสาวน้านภาแก่กว่าเขาสัก2ปีเห็นจะได้ เธอตัวผอมแห้งแรงน้อยเขาก็เลยตั้งฉายาให้เธอว่ายายไม้เสียบผี ส่วนเด็กผู้หญิงคนนั้นก็เรียกเขาว่าไอ้หมูตอนเพราะเขามีน้ำหนักหลายสิบกิโลถือว่าเกินเกณฑ์มาตรฐานของเด็กอายุเท่านี้
ทั้งสองไม่ลงรอยกันมาตั้งแต่เด็ก น้านภาพาลูกสาวมาบ้านทีไรเขาจะต้องมีปากเสียงกันต่างคนต่างวิ่งไปฟ้องแม่ของตัวเองทุกครั้งไป
"ยายไม้เสียบผี แบร่ๆๆๆ" เขตตะวันล้อพรรับฟ้าเมื่อวัยเด็ก
"ไอ้หมูตอน อย่ามาหลงรักเค้าก็แล้วกันจะทิ้งให้อกหักเลย" พรรับฟ้ายืนเท้าสะเอวว่ากลับแบบแก่แดด
นั่นคือความทรงจำครั้งสุดท้ายที่เขตตะวันนึกขึ้นมาได้เกี่ยวกับพรรับฟ้า
"ไม่รู้แหล่ะวันหยุดนี้ถ้าลูกแอบชิ่งหนีไม่อยู่แม่จะมัดมือชกจับเราแต่งงานกับหนูฟ้าให้รู้แล้วรู้รอดไป เผื่อว่าหนูฟ้าจะปราบคนอย่างเราได้ตาตะวัน" ปริมแกล้งขู่ซ้ำสอง
"โอเคครับรับรองไม่หนี แต่ผมขอนะครับอย่าให้ผมแต่งงานกับยายฟ้าฟื้นนั่น กลัวแล้วครับ" เขาทำท่ายกมือไหว้ขอร้องแบบล้อเลียนผู้เป็นแม่
แล้วก็ค่อยๆแอบย่องออกจากบ้านไป
"จริงๆเลยลูกคนนี้ จะเป็นโล้เป็นพายกับเขาเมื่อไรนะ" ปริมกอดอกส่ายหน้า
..............................................................................................................