"ฟ้า ลูก เปิดประตูให้แม่หน่อยจ้ะ" เสียงนภามาเคาะประตูห้องเรียกลูกสาวแต่เช้า
ฟ้าขวัญในร่างพรรับฟ้าลุกขึ้นด้วยความงัวเงียกำไปเปิดประตูแต่แวะส่องกระจกที่โต๊ะเครื่องแป้ง
"แปะๆๆ" เธอตบหน้าตัวเองเบาๆ
"เฮ้อ สุดท้ายก็คือเรื่องจริงไม่ได้ฝัน" เธอแอบคิดเข้าข้างตัวเองว่าบางทีตื่นมาเรื่องทุกอย่างอาจเป็นแค่ความฝัน
"ฉันคือพรรับฟ้า" เธอพูดกับตัวเองในกระจกแล้วเดินไปเปิดประตู
"ทำอะไรอยู่ลูกเพิ่งตื่นหรือแม่เรียกตั้งนาน" นภาบ่นลูกแบบเอ็นดู
"ค่ะคุณแม่ คุณแม่มีอะไรหรือเปล่าคะ เข้ามาก่อนสิคะ" เธอเปิดประตูให้นภา
"แม่แค่จะเอาของมาคืนลูกจ้ะ" นภาพูดพร้อมยื่นโทรศัพท์มือถือ กระเป๋าสตางค์ และกุญแจรถเบนซ์ให้กับเธอ
"ของหนูหรือคะ"
"ก็ใช่นะสิ หนูกลับมาแล้วก็ต้องได้รับคืนไป มีข้อแม้ว่าต้องหายดีก่อนแม่ถึงจะยอมให้หนูขับรถได้เอง ช่วงนี้ยังต้องเป็นลุงพรขับให้อยู่นะจ๊ะ"
"ขอบคุณค่ะ" พรรับฟ้ารับมาจากมือนภา
"แม่ไม่กวนแล้ว แม่ไปก่อนนะ แล้วถ้าลูกหิวบอกป้าพริ้งได้เลยนะหรือจะให้เอาขึ้นมาให้ที่ห้องก็ได้จ้ะ" นถาส่งยิ้มและลูบหัวลูกสาวก่อนเดินกลับไป
เมื่อนภาเดินออกไปแล้วเธอก็เปิดกระเป๋าสตางค์ออกดูข้างในมีบัตรสำคัญต่างๆของพรรับฟ้าและมีบัตรเครดิต 4-5ใบ แต่ละใบก็บ่งบอกถึงความเป็น VIP ทั้งนั้น
"นางสาวพรรับฟ้า ประภาพน เกิด พ.ศ.2540 โอ๊ะเพิ่งจะอายุ 26 ปี" เธอหยิบบัตรประชาชนของพรรับฟ้าขึ้นมาอ่านชื่อนามสกุล
"โอ้โห พรรับฟ้า เธอมันสวยและรวยมากพกเงินทีขนาดนี้เลยหรือเงินเดือนเราทั้งเดือนนะนี่" นอกจากบัตรเครดิตยังมีเงินสดในกระเป๋าอีกหลายหมื่นแบงค์สีเทาล้วนๆไม่มีสีเขียวสีแดงปนสักใบ
หลังจากตื่นตาตื่นใจกับเงินในกระเป๋าเธอก็หันมาดูโทรศัพท์มือถือเธอเปิดเครื่องและไล่ดูแต่ละเมนูแต่ละหน้ารวมไปถึงไล่ดูรูปถ่ายในเครื่องด้วยมีแต่ภาพถ่ายไปเที่ยวทั้งนั้นถ้าไม่ต่างประเทศก็สถานบันเทิงกับแก๊งค์เพื่อนสาว
"วันๆเธอทำงานบ้างหรือเปล่านะพรรับฟ้ามีแต่รูปไปเที่ยว" เธอพูดเชิงตำหนิเจ้าของร่าง
"จริงสิ รัน" เธอนึกถึงศรันย์ขึ้นมาได้ก็เลยเปิดไปที่หน้าไลน์และค้นหาไอดีจากนั้นเธอก็แอดเขาเป็นเพื่อน
"ได้โปรดเห็นฉันเถอะนะรัน แกคือที่พึ่งเดียวของฉันแล้ว" เธอเอามือถือมาแนบอกภาวนาให้ศรันย์เห็นที่เธอแอดไปและรับเพิ่มเป็นเพื่อน
....................................................................................................
ศรันย์ไปทำงานอย่างไม่ค่อยมีความสุขเท่าไรเพราะเมื่อไม่มีฟ้าขวัญชีวิตเขาก็เหมือนขาดอะไรบางอย่างไป ช่วงแรกที่เกิดเรื่องฟ้าขวัญขึ้น ในออฟฟิศก็มักจะมีเสียงซุบซิบนินทาถึงครีเอทีฟสาวของบริษัทกระโดดแม่น้ำฆ่าตัวตายเพราะอกหัก แต่ไม่มีใครรู้เรื่องที่แท้จริงรวมถึงไม่มีใครรู้ว่าเขตตะวันคือต้นเหตุนอกจากศรันย์ที่เหลือก็เดากันไปต่างๆนาๆ
ศรันย์เอามือเท้าคางอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ที่โต๊ะทำงานไม่มีใจจะทำงาน
"ใครอ่ะ" เขาไถหน้าจอมือถือจนมาเห็นมามีใครขอเพิ่มเพื่อนเข้ามาทางไลน์
"สวัสดีครับ ใครครับ" เขาทักหากไม่ใช่คนรู้จักก็กะว่าจะบล็อคและลบทิ้ง
เขารอดูอยู่สักพักก็ยังไม่ตอบเลยคิดว่าจะบล็อคไปเสียแต่แล้วข้อความก็ตอบกลับมา
"รัน ฉันเอง"
"ใครครับ ฉันเอง" ศรันย์อารมณ์ไม่ค่อยเอ็นจอยด้วยเท่าไร
"พรรับฟ้าค่ะ" ฟ้าขวัญในร่างพรรับฟ้านึกขึ้นได้ว่าตัวเองคือพรรับฟ้า และศรันย์ไม่คุ้นแน่
"มีธุระอะไรครับ"ที่ถามเพราะก็ยังนึกไม่ออกอยู่ดีว่าพรรับฟ้าไหน
"จริงสิวันก่อนที่เจอกันยังไม่ได้แนะนำตัว ฟ้าค่ะ พรรับฟ้า ที่เราเจอกันตอนที่คุณมีเรื่องกับผู้ชายกลุ่มหนึ่ง" ฟ้าขวัญต้องให้ออกมาในรูปแบบนี้ก่อนค่อยให้ศรันย์ทำความเข้าใจแล้วค่อยหาจังหวะบอกความจริง
"อ่อ คุณนั่นเอง มีอะไรให้ผมช่วยไหมครับ แล้วคุณได้ไลน์ผมมาจากไหนครับ" ศรันย์เริ่มคุยด้วยแต่ก็มิวายสงสัย
"ก็จำได้จนขึ้นใจเบอร์แกฉันก็จำได้ไอ้รัน!" ฟ้าขวัญคิดในใจ
"ขอคนที่ทำงานเดียวกันกับคุณมาค่ะ ช่างมันเถอะเรื่องนั้นไม่สำคัญ เอาเป็นว่าฟ้าอยากเป็นเพื่อนกับคุณแล้วก็มีเรื่องที่อยากจะคุยกับคุณด้วยค่ะ" เธอตัดบทรวบรัด
"อยากเป็นเพื่อนกับผม?" ศรันย์งงตั้งแต่เธอรู้จักชื่อเขาแล้วและไหนจะมีไอดีไลน์อีก
"คือฟ้าขอเริ่มเรื่องเลยนะคะ คือฟ้าอยากรู้เรื่องเกี่ยวกับฟ้าขวัญ"
"คุณรู้จักเจ๊ฟ้าด้วยหรือครับ"
"ค่ะ ฟ้าเป็นเพื่อนกับฟ้าขวัญ แต่ตอนนี้ฟ้าติดต่อฟ้าขวัญไม่ได้เลยอยากรู้เรื่องนี้จากคุณ"
"แล้วคุณรู้ได้ยังไงว่าผมรู้จักกับเจ๊ฟ้า แล้วรู้ได้ยังไงว่าต้องมาถามกับผม แล้วถ้าเป็นเพื่อนจริงทำไมไม่ติดต่อไปทางแม่หรือญาติเจ๊ฟ้า แล้วทำไม..." ศรันย์มีแต่คำว่าทำไมและทำไม
"แกจะสงสัยอะไรนักหน่าไอ้รัน" เธอเริ่มหงุดหงิดกับความเป็นเจ้าหนูจำไมของศรันย์แต่ได้แต่บ่นในใจแต่ข่มใจให้เย็นไว้เดี๋ยวจะเสียการ
"เอาเป็นว่าเรื่องนั้นค่อยว่ากันทีหลังได้ไหมคะ ฟ้าไม่มีเวลาอธิบายมาก แต่ฟ้าไม่ได้มาร้ายอย่างแน่นอนค่ะ" เธอพยายามตะล่อม
"คุณอยากรู้เรื่องอะไรของเจ๊ฟ้า" ศรันย์หยุดความสงสัยแต่ก็ถามเธอกลับไปอีก
"ฟ้าขวัญอยู่ไหนคะ มาทำงานบ้างหรือเปล่า" เธอแกล้งถามไปโง่ๆแสร้งว่าไม่รู้เรื่อง
"เจ๊ฟ้าเสียแล้วครับ เสียมาได้หลายวันแล้ว" ศรันย์เสียงเรียบแต่เศร้า
"ฟ้าเสียจริงๆแล้วหรือคะ แพทย์ลงความเห็นแล้วแบบนั้นจริงๆหรือคะ" เธอแอบมีความหวังแม้โอกาศแทบจะเป็นศูนย์
"ฟ้าตายได้ยังไงคะ" เธอเองรู้ดีแต่ยังย้ำถาม
"จมน้ำครับ ฆ่าตัวตาย" ศรันย์พิมพ์ไปตาเริ่มแดง
"ไม่จริง ฟ้าไม่ได้ฆ่าตัวตาย" เธอหลุดโต้ตอบข้อความกลับไป
"คิดเป็นอย่างอื่นไม่ได้ครับ หลักฐานและคำบอกเล่าของกู้ภัยมันเป็นอย่างนั้น" ศรันย์เองก็ไม่อยากเชื่อเพราะฟ้าขวัญไม่ใช่ผู้หญิงอ่อนแอแต่ก็คิดว่าฟ้าขวัญน่าจะอับอายเลยคิดสั้น
ฟ้าขวัญในร่างพรรับฟ้าน้ำตาคลอ วันนี้เธอได้รับคำตอบแล้วว่าตัวเธอเสียชีวิตไปแล้วจริงๆ
"ตอนนี้อยู่ที่วัดไหนคะแล้วเผาไปแล้วหรือยัง" เธอแข็งใจพิมพ์ถามต่อ
"คุณแม่เขาเอากลับต่างจังหวัดครับ ยังไม่เผาเพราะเขายังทำใจไม่ได้"
"แม่จ๋า" ฟ้าขวัญนึกถึงแม่ขึ้นมาทันที แม่ของเธอต้องเสียใจมากแน่ๆ
"จะเป็นอะไรไหมคะถ้าครั้งต่อไปฟ้าอยากจะนัดเจอกับคุณน่าจะคุยกันสะดวกมากกว่าพิมพ์แบบนี้" เธอหาเรื่องอยากเจอ
"ก็ได้ครับร้านกาแฟร้านเดิมก็ได้ที่เราไปนั่งวันที่เจอกัน" ศรันย์เลือกสถานที่ง่ายๆ
"โอเค ไว้ฟ้าจะนัดไปนะคะ"
เมื่อจบการสนทนาทางตัวหนังสือฟ้าขวัญก็นั่งเศร้าเพราะคิดถึงแม่ธิดาของเธอ ป่านนี้แม่จะเป็นอย่างไรบ้างนะฟ้าจากแม่ไปไม่ทันได้ลาเลยสักคำ
.............................................................................................................