ต้องเอาคืน

1345 Words
ระหว่างการเดินทางพรรับฟ้าได้หยุดแวะที่ปั๊มน้ำมันเพื่อเติมน้ำมันและพักรถ "ถึงแล้วหรือ" ศรันย์ตื่นหลังจากรถเติมน้ำมันเสร็จและกำลังเข้าจอดที่ช่องจอดรถหน้าร้านสะดวกซื้อ "ถึงอะไรเล่านี่แทนที่จะนั่งคุยเป็นเพื่อนกัน หลับเสียได้" พรรับฟ้าบ่น "เจ๊ฟ้า" ศรันย์ลุกขึ้นมาด้วยอาการงัวเงียและขณะที่เขาตาพร่ามัวเพราะเพิ่งตื่นเขาเห็นเหมือนหน้าของฟ้าขวัญซ้อนอยู่ในหน้าของพรรับฟ้า "รัน แกจำฉันได้หรือ" พรรับฟ้าทำท่าดีใจ "สงสัยตะตาฝาด ผมไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ" หลังจากที่เขาเอามือขยี้ตาก็เห็นว่าหน้านั้นเป็นหน้าของพรรับฟ้าเหมือนเดิม "หลอกให้ดีใจซะได้ไอ้รัน" พรรับฟ้าบ่นตอนที่เขาเปิดประตูรถลงไปแล้ว "นี่เราเข้าตัวเมืองแล้วนะ ยังไงให้ผมขับให้เลยแล้วกัน" ศรันย์อาสา "ได้ ดีเหมือนกันเมื่อยแล้ว ไม่ได้ขับรถทางไกลมานานแล้วอยู่แต่กรุงเทพไม่ได้กลับไปหาแม่บ้างเลย" พรรับฟ้าทำท่าบิดเอวแล้วก็พูดด้วยความคิดถึงแม่ ระหว่างทางจากตัวเมืองที่จะเขาหมู่บ้านรถได้ขับผ่านหน้าห้างดังประจำจังหวัด เธอก็นึกถึงว่าทุกครั้งที่เธอกกลับบ้านมา เธอมักจะแวะซื้อของที่ห้างนี้ไปฝากแม่ "รันระวังเลี้ยวผิด ต้องเข้าแยกขวา เดี๋ยวก็ได้กลับรถยาวหรอก" พรรับฟ้าตะโกนบอกก่อนที่ศรันย์จะเลี้ยวผิดแล้วจะต้องกลับรถยาว "คุณรู้ได้ไง เคยมาหรือ" ศรันย์สงสัยในตัวเธออีกครั้ง เขาเองเคยมาเที่ยวบ้านแม่ฟ้าขวัญแต่แค่ไม่กี่ครั้งจะมาพร้อมๆกับฟ้าขวัญเวลาที่ฟ้าขวัญลาหยุดและชวนเขาไปเที่ยวบ้านด้วยกัน "ก็เดาเอาดูจากป้ายตามทางมันน่าจะทางนี้" วันนี้พรรับฟ้าแก้ตัวเป็นร้อยครั้งได้ ทำไงได้คนมันไม่ชินกับร่างใหม่ "มาถูกน่าจะมาเองนะเนี่ย" ศรันย์แกล้งเหน็บ ถ้าขืนเธอมาเองทุกคนต้องมีคำถามมากมายแน่ๆขนาดศรันย์ที่สนิทกันยังถามไม่หยุด "เดี๋ยวเราแวะหาที่พักก่อนก็ได้นะเอาที่ใกล้ๆกับบ้านแม่ฟ้าขวัญได้ห้องแล้วค่อยเข้าบ้านฟ้าขวัญกัน" ศรันย์บอกเพราะกลัวจะไม่มีที่นอนอยู่ๆจะไปค้างบ้านแม่ฟ้าขวัญโดยที่ไม่มีลูกสาวเขาไปด้วยมันเกรงใจเพราะไปแบบไม่ได้บอกกล่าวล่วงหน้า ................................................................................................................ เมื่อสอบถามหาที่พักได้พรรับฟ้าจัดการรับผิดชอบค่าที่พักต่างๆเรียบร้อยโดยใช้เงินในกระเป๋าสตางค์ที่นภาคืนมาให้ "ขอฉันยืมก่อนนะ ถ้ามีโอกาสจะคืนให้เธอ" ฟ้าขวัญในร่างของพรรับฟ้าพูดกับรูปในบัตรประชาชนที่อยู่ในกระเป๋า เธอรู้สึกผิดที่จะต้องหยิบเงินที่ไม่ใช่ของตัวเองออกมาใช้ "ไปคุณกว่าจะไปถึงบ้านกว่าจะกลับมาที่โรงแรม" ศรันย์นั่งรออยู่ที่ล็อบบี้ "ความจริงไปพรุ่งนี้ก็ได้นะไม่รู้จะรีบทำไม" ศรันย์บ่นต่อ "น่า อย่าพูดมากเอ้ย อย่าบ่นเลย ฟ้าใจร้อน" พรรับฟ้าเธอชอบหลุดคำพูดที่ฟ้าขวัญมักชอบพูดว่าศรันย์ เมื่อทั้งคู่มาถึงบ้านของธิดาแม่ฟ้าขวัญ ธิดาได้ยินเสียงรถเลยเดินมาดู รถคันนี้เธอไม่เคยเห็นมาก่อนไม่คุ้นว่ารู้จักแต่ทำไมมาจอดหน้าบ้าน "สวัสดีครับแม่" ศรันย์ทักทายธิดา "อ้าวรัน มาทำไมไม่บอก แล้วนั่นพาใครมาด้วยลูก" "แม่จ๋า ฟ้าคิดแม่จังเลย" พรรับฟ้ารีบวิ่งไปกอดธิดา "ใครอ่ะรัน" ธิดาหันไปมองศรันย์แบบงงๆ "คุณฟ้าเขาเป็นเพื่อนกับเจ๊ฟ้าเขารู้เรื่องที่เจ๊ฟ้าไม่อยู่แล้วเลยอยากมาหาครับ" "ชื่อฟ้าเหมือนกันด้วย" ธิดาเสียงสั่นเครือคิดถึงลูกสาว "ไปๆลูกเข้ามาในบ้านก่อน" ธิดาต้อนรับคนทั้งสอง "โฮ่งๆๆ" เสียงเจ้าตูบเห่าใส่พรรับฟ้าแต่เห่าแค่ไม่กี่ครั้งก็วิ่งมากระโดดเข้าใส่และเลียแข้งเลียขาเชิงว่าเล่นด้วย "ปกติไอ้ตูบมันจะไม่เล่นกับคนไม่รู้จักง่ายๆนะ หนูฟ้านี่มาครั้งแรกมันก็เป็นมิตรด้วย เห็นเขาสวยล่ะสิไอ้ตูบ" ธิดาแปลกใจแต่ก็ไม่คิดอะไรเลยพูดหยอก "ไหนเล่ามาซิเป็นเพื่อนที่ไหนแล้ววันนี้จะให้แม่พาไปที่วัดหรือ นี่ก็สี่โมงเย็นแล้วนะ" ธิดาสอบถามหนุ่มสาวทั้งคู่ "ฟ้าขอไปหน่อยได้ไหมคะคุณแม่รบกวนด้วยค่ะ" พรรับฟ้ายกมือไหว้ขอร้อง "โอเคไปก็ไปลูก ดื่มน้ำให้หายเหนื่อยก่อนแล้วไปกัน" ธิดาไม่อยากขัดที่อุตส่าห์เดินทางมาตั้งไกล .............................................................................................................. เมื่อมาถึงวัดที่ธิดาได้นำร่างลูกสาวมาไว้ที่นี่ สิ่งแรกที่พรรับฟ้าเห็นคือ โลงเย็นที่ภายในบรรจุร่างของฟ้าขวัญพร้อมรูปหน้าโลง "ชาตะ...มรณะ..." พรรับฟ้าอ่านวันที่ใต้รูปหน้าโลง แล้วน้ำใสๆก็รินออกมาจากตา พรรับฟ้าเดินเข้าไปใกล้โลงพร้อมเอามือลูบที่โลง "คุณแม่คะถ้าฟ้าอยากจะขอดูหน้าของฟ้าขวัญเป้นครั้งสุดท้ายได้ไหมคะ" "คุณ เกรงใจแม่" ศรันย์ห้าม "นะคะคุณแม่" พรรับฟ้าเสียงสั่งร้องไห้ออกมา "ได้สิลูก ไม่เป็นไรหรอกรัน แม่ดีขึ้นเยอะแล้ว" ธิดาหันไปบอกทั้งพรรับฟ้าและศรันย์ ธิดาไปตามสัปเหร่อที่ดูแลศาลาที่ไว้ศพของฟ้าขวัญให้ช่วยมาเปิดฝาโลงให้หน่อย "ฟ้าขวัญ" พรรับฟ้าถึงกับปล่อยโฮ แต่มีสิ่งที่ทำให้เธอพยายามสะกัดกลั้นน้ำตาเอาไว้คือ ร่างของฟ้าขวัญไม่เน่าเปื่อยแค่เหมือนคนนอนหลับไปเท่านั้นเอง "แปลกจริง ดูเหมือนนอนหลับแค่นั้น" "คงเป็นเพราะเขาใส่โลงเย็นไว้ด้วยแล่ะคุณ ไม่น่าแปลกอะไรหรอก" ศรันย์ค้าน "แต่สีผิวมันต้องมีเปลี่ยนแปลงไปจากคนธรรมดาบ้างสิ" พรรับฟ้าเถียง "คิดมากน่ะคุณ" "เพราะแบบนี้แม่ถึงยังไม่อยากเผาฟ้าขวัญไงลูก" ธิดายิ้มบางๆให้ "แม่จะเก็บฟ้าขวัญไว้นานแค่ไหนคะ" พรรับฟ้าถาม "แม่ขอเก็บเขาไว้แบบนี้เรื่อยๆก่อนลูกอย่างน้อยแม่คิดถึงเขาแม่ก็จะมาหามาดูหน้าเขา" ถึงพูดว่าดีขึ้นแล้วก็อดไม่ได้ที่จะมีน้ำตาของคนเป็นแม่ "ฟ้าพยายามจะยอมรับความจริงแต่พอได้เห็นมันก็อดที่จะร้องไม่ได้ ขอบคุณนะรัน ฟ้าอยากเห็นเท่านี้แล่ะ" "ขอบคุณนะคะคุณแม่" พรรับฟ้าเข้าไปกอดเอวของธิดา ธิดาหันไปโอบไหล่พรรับฟ้าซึ่งธิดาเองก็รู้สึกเหมือนได้กอดลูกตัวเองถึงจะไม่เคยเจอหน้ากันมาก่อนก็ตาม ................................................................................................................... "นายเขตตะวันนายต้องชดใช้ ฉันขอเอาคืนกับชีวิตและอนาคตที่ฉันต้องสูญเสียไป!" พรรับฟ้ากำมือแน่นความชิงชังเพิ่มขึ้นทวีคูณเมื่อได้เห็นร่างของตัวเองนอนอยู่ในโลง "นายหลอกให้ฉันรักแล้วก็ทิ้งกันง่ายๆ ถ้าฉันจะขอหลอกนายบ้างก็คงไม่ผิด ในเมื่อเห็นความรักของฉันเป็นแค่เกมส์พนันฉันก็จะทำให้ความรักของนายเป็นแค่ความสนุกของฉันเช่นเดียวกัน !" จากที่รู้สึกรำคาญที่เขตตะวันมาเจาะแจ๊ะแต่ตอนนี้พรรับฟ้ารู้สึกอยากจะให้เขาเข้ามาหาเสียแล้วสิ .......................................................................................................................
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD