ผู้เป็นมารดาคลี่ยิ้มให้ เอ่ยบอกให้อิงฟ้าคลายความกังวลใจ “น้องอิงสวยแล้วลูก ตอนนี้ลูกของแม่สวยที่สุด น้องอิงสวยเหมือนแม่สมัยสาวๆ ไม่มีผิด ถ้าน้องอิงยอมรับเล่นละครที่มีผู้จัดติดต่อมาหลายราย แม่ว่าป่านนี้น้องอิงดังเป็นพลุแตกแล้ว”
มีผู้จัดละครหลายรายติดต่อให้อิงฟ้าไปเล่นละคร และถ่ายแบบ แต่อิงฟ้าปฏิเสธไปทุกราย ทำให้ผู้เป็นมารดาเสียดายเป็นอย่างมาก ยิ่งพูดก็ยิ่งเสียดาย แต่ไม่อาจบังคับลูกสาวได้
“น้องอิงไม่ชอบค่ะ คุณแม่ น้องอิงไม่อยากเป็นดารา”
อิงฟ้าเอ่ยบอกยิ้มๆ จากนั้นก็นิ่งเงียบ เพื่อเป็นการเลี่ยงที่จะพูดถึงเรื่องการเข้าวงการบันเทิงดั่งที่มารดาอยากให้เธอเข้าหนักหนา
อิงฟ้าใจจดจ่ออยู่กับการเดินทางมาถึงของฮีโร่ในดวงใจ หญิงสาวหลุบสายตามองเวลาสลับกับมองไปยังประตูห้อง ใบหน้างามเริ่มเผยความกังวลให้เห็น เมื่อถึงเวลานัดหมายแล้ว แต่รามินยังมาไม่ถึงร้านอาหารสักที
“หนึ่งทุ่มตรงแล้ว ทำไมคุณรามินยังไม่มาอีก”
อิงฟ้าบ่นอุบ รามินเป็นคนบอกเธอเองว่าให้มาให้ตรงตามเวลานัด แต่ทำไมเขากลับมาสายซะเอง
“ใจเย็นๆ ก่อนน้องอิง รถอาจจะติดมาก เลยทำให้คุณรามินมาไม่ทันเวลานัด”
ผู้เป็นมารดาเอ่ยปลอบ ไม่เคยเห็นลูกสาวเป็นแบบนี้มาก่อน อิงฟ้าตื่นเต้นกับเดทในครั้งนี้มาก เลือกเสื้อผ้าสวมใส่นานนับชั่วโมงกว่าจะได้ชุดดั่งใจต้องการ อีกทั้งแต่งตัว แต่งหน้าทำผม ตั้งแต่บ่าย เพื่อเตรียมพร้อมมาดินเนอร์กับรามิน พอมาถึงร้านอาหารก็ทำท่าจะนั่งไม่ติดเก้าอี้ ดวงตาคู่สวยจับจ้องมองอยู่ที่ประตู รอเวลารามินเดินทางมาถึง เมื่ออีกฝ่ายยังไม่มาตามเวลานัดหมาย ก็เริ่มหน้าเสีย ทำท่าจะร้องไห้ออกมาให้ได้
“คุณแม่คะ ผ่านไปเกือบครึ่งชั่วโมงแล้ว คุณรามินคงไม่มาแน่ๆ เลยค่ะ”
น้ำเสียงที่เอ่ยบอกทั้งสั่นเครือ ดวงตาทั้งคู่แดงก่ำ มีหยาดน้ำตาเอ่อคลอเบ้า
“รอคุณรามินก่อนนะลูก”
ลลินเอ่ยปลอบอีกครั้ง เห็นลูกสาวหน้าเสีย ก็โกรธรามินที่ไม่รักษาเวลา มาไม่ตรงตามเวลาที่นัดไว้
อิงฟ้าพยักหน้ารับช้าๆ ดวงตาแดงก่ำมีหยาดน้ำตารื้นขอบตายังคงจับจ้องอยู่ที่ประตูห้องวีไอพี ปลอบใจตัวเองว่าอีกไม่นานรามินก็คงเดินทางมาถึงแล้ว
แต่...รอแล้วรอเล่า เวลาผ่านไปเกือบสองชั่วโมง ก็ไม่เห็นแม้แต่เงาของรามิน ถึงนาทีนี้ อิงฟ้ารู้แล้วว่ารามินไม่มาดินเนอร์กับเธอแน่ๆ
“คุณ...คุณแม่คะ...เรากลับบ้านเถอะค่ะ...คุณรามินคงไม่มาแล้ว...”
แม้พยายามบังคับน้ำเสียงสุดกำลัง กระนั้นน้ำเสียงที่หลุดออกมาก็ยังคงขาดห้วง ติดสั่นเครือเพราะความผิดหวังเสียใจ
“จ้ะลูก กลับบ้านกันเถอะ”
ลลินพยักหน้ารับ เอื้อมมือไปจับมือเล็กเย็นเฉียบของลูกสาวเดินออกจากห้องวีไอพีด้วยกัน
อิงฟ้าเต็มไปด้วยความเสียใจ ขณะขับรถกลับบ้าน หญิงสาวนิ่งเงียบไม่พูดกับมารดาแม้แต่คำเดียว และทันทีที่ขับรถมาถึงบ้าน ก็วิ่งตรงไปยังห้องนอนของตนเอง ทุ่มตัวลงบนเตียง ร่ำไห้ออกมาด้วยความเสียใจเหลือคณานับ เสียใจกับเดทแรกที่ไม่สมหวังเอาซะเลย
อิงฟ้าเพิ่งรู้ว่าการผิดหวังในความรักมันช่างเจ็บปวดทรมานสิ้นดี หญิงสาวหวังว่าจะได้พบกับรามิน อยากสานสัมพันธ์กับรามิน แต่ไม่ทันได้เริ่มต้น ทุกอย่างก็พังทลายลง ทำเอาเธอเจ็บปวดยิ่งนัก
อิงฟ้าร่ำไห้เป็นนาน ไม่สนใจเสียเคาะประตูเรียกจากมารดา และไม่สนใจเสียงโทรศัพท์ที่กำลังดังขึ้นต่อเนื่องหลายนาทีแล้ว
กริ๊ง...กริ๊ง...
เสียงโทรศัพท์ที่ดับลงไปแล้วสองรอบ ก่อนจะดังขึ้นอีกครั้ง สร้างความรำคาญหงุดหงิดใจให้กับอิงฟ้าเป็นอย่างมาก ร่างบางระหงดันกายลุกขึ้นนั่งบนเตียง คว้ากระเป๋าสะพายมาควานหาโทรศัพท์มือ ตั้งใจจะปิดโทรศัพท์ไม่ให้ใครโทรมากวนใจเธอในยามโศกเศร้า แต่พอเห็นเบอร์โทรเข้าเป็นเบอร์แปลกๆ ที่เธอไม่ได้บันทึกไว้ในโทรศัพท์ ก็ขมวดคิ้วเข้าหากันยุ่ง เต็มไปด้วยความสงสัยว่าใครโทรมาหาเธอหลายครั้งแล้ว
“เบอร์โทรของกันใคร?”
อิงฟ้าพึมพำเอ่ยถามตัวเอง มือเล็กยกขึ้นเช็ดคราบน้ำตาตรงหางตา ก่อนจะกดรับโทรศัพท์ เอ่ยทักปลายทางด้วยน้ำเสียงแข็งห้วน
“สวัสดีค่ะ ไม่ทราบว่าใครคะ”
“ทำไมน้องอิงไม่ทำตามที่พี่สั่ง ทำไมน้องอิงไม่มาคนเดียว”
“พี่รามิน!”
อิงฟ้าเบิกตากว้างตะโกนเรียกด้วยความดีใจระคนแปลกใจที่รามินรู้เบอร์โทรศัพท์ของเธอ
“พี่รามินจริงๆ หรือคะ พี่รามินรู้เบอร์โทรของน้องอิงได้ยังไงคะ”
“น้องอิงอย่าสนใจเลยครับว่าพี่รามินหาเบอร์โทรของน้องอิงได้จากไหน แต่พี่รามินอยากได้คำตอบที่ถามไปในก่อนหน้านี้ว่าทำไมน้องอิงไม่มาดินเนอร์กับพี่ตามลำพัง”
อิงฟ้าถึงกับหน้าถอดสีกับคำถามของรามิน ฟังจากน้ำเสียงของอีกฝ่ายแล้วบอกให้รู้ว่ารามินไม่พอใจเอาอย่างมาก
“น้องอิงขอโทษค่ะ”
อิงฟ้าเอ่ยขอโทษเสียงแผ่วเบา แล้วเอ่ยบอกต่อด้วยน้ำเสียงติดสั่นเครือ
“น้องอิงตั้งใจจะไปทานดินเนอร์ตามที่พี่รามินบอก แต่...พอดีคุณแม่ขอไปด้วย คุณแม่อยากเอากระเช้าผลไม้ไปให้พี่รามิน...และจะเลี้ยงมื้อค่ำตอบแทนที่พี่รามินช่วยชีวิตของน้องอิงค่ะ”
“ไม่จำเป็น!”
อิงฟ้าถึงกับถอนสะอื้นกับคำปฏิเสธห้วนๆ ที่ได้ยินกระแทกหู
“พี่รามิน...อย่าโกรธน้องอิงกับคุณแม่เลยนะคะ น้องอิงขอโทษ...”
เพราะหลงรักรามินหมดหัวใจ อีกทั้งกลัวว่าอีกฝ่ายจะโกรธจนไม่ให้อภัย อิงฟ้าจึงหลุดคำขอโทษชายหนุ่มครั้งแล้วครั้งเล่า
“พี่รามินโทรจองโต๊ะตั้งแต่เช้า ยกเลิกนัดกับลูกค้าที่เพิ่งเดินทางมาจากอเมริกา เพราะพี่ตั้งใจจะดินเนอร์กับน้องอิงสองต่อสอง อยากให้การดินเนอร์ในวันนี้สร้างความประทับใจให้กับน้องอิงมากที่สุด แต่น้องอิงกลับทำทุกอย่างพังไม่เป็นท่า”
อิงฟ้าสูดสะอื้นกับความผิดอันใหญ่หลวงของตนเอง “โธ่...น้องอิงไม่ได้ตั้งใจให้เป็นแบบนี้เลยค่ะ พี่รามินยกโทษให้น้องอิงด้วยนะคะ”