เส้นด้ายไม่มีรถยนต์แต่มีรถจักรยานยนต์เอาไว้ใช้แถวคอนโดเท่านั้น ถ้าต้องไปไหนไกลเธอเลือกใช้รถสาธารณะ ไม่ก็ขอความช่วยเหลือจากคุณหมอพิมพ์พาย
เธอจูงมือลูกสาวออกมารอรถแท็กซี่หน้าโรงพยาบาล แต่ยัยเด็กแสบกลับงอแงเพราะอยากไปกับแด๊ดดี้ทำให้สุดท้ายสองแม่ลูกต้องมานั่งบนรถคันหรูของคุณพ่อป้ายแดง
เด็กน้อยนั่งเป็นตุ๊กตาหน้ารถคู่กับคุณพ่อ ในขณะที่คุณแม่นั่งข้างหลังด้วยสีหน้าบอกบุญไม่รับ มือทั้งสองข้างกอดเอาไว้ตรงอกทำเหมือนลูกสาวตอนโกรธไม่มีผิด
เธออยากตีก้นยัยเด็กแก่แดดเหลือเกิน ตั้งแต่ขึ้นรถมาได้ยินแต่คำว่า แด๊ดดี้ขา แด๊ดดี้อย่างนั้น แด๊ดดี้อย่างนี้ อีพ่อก็ตามใจลูกขานรับเสียงหวาน ว่าไงคะลูก ได้คะลูก สารพัดคำพูดจนเธอรู้สึกเลี่ยน
“หนูอยากกินข้าวที่ไหนคะ เดี๋ยวแด๊ดดี้พาไป” ในขณะรถติดไฟแดงคุณพ่อก็หันมาถามลูกสาว
ตอนนี้เขามั่นใจล้านเปอร์เซ็นต์ว่าน้องเอ็นดูคือทายาทของตนเอง ถ้าไม่ใช่ใบหน้าคงไม่เหมือนขนาดนี้ มองจากนอกโลกก็รู้ว่าเป็นพ่อลูกกัน
“ร้านป้าวันค่า หนูอยากกินข้าวผัด”
“อยู่ที่ไหนคะลูก แด๊ดดี้ไม่รู้จัก”
“อยู่ที่บ้านค่า”
“บ้าน? อยู่ตรงไหนเหรอเส้นด้าย”
“นนทบุรี หน้าคอนโดของฉัน”
“งั้นก็บอกทางมา”
เส้นด้ายค้อนตาคว่ำให้กับสองพ่อลูกที่เข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ย เพิ่งเจอกันไม่กี่ชั่วโมงเองทำตัวสนิทเหมือนรู้จักกันมาเป็นปี โดยเฉพาะยัยเด็กแก่แดดพุงกลม ดูสิพูดเป็นต่อยหอยเชียว กลัวพ่อไม่รู้ว่าตัวเองพูดเก่งหรืออย่างไร
ประมาณครึ่งชั่วโมงต่อมา กวินก็พาสองแม่ลูกมาถึงจุดหมายปลายทางสำเร็จ วันนี้รถไม่ค่อยติดทำให้ใช้เวลาเดินทางไม่นาน คุณแม่ลูกหนึ่งรีบลงจากรถก่อนจะไปเปิดประตูฝั่งของลูกสาว
“ขอบคุณที่มาส่งค่ะ ไปเถอะลูก ไปกินของอร่อยกัน” เธอไม่ค่อยอยากให้สองพ่อลูกอยู่ด้วยกันนาน กลัวลูกรักติดพ่อแต่ดูเหมือนจะไม่ทันแล้ว
เด็กหญิงเทวิกาหันไปมองหน้าบิดาก่อนจะเอ่ยถามเสียงเศร้า ไม่อยากให้คุณพ่อกลับไปทำงานเลย เพราะถ้าพ่อไปทำงานไม่รู้อีกนานแค่ไหนกว่าจะได้เจอพ่อ
“ทำไมแด๊ดดี้ไม่ไปด้วยกัน แด๊ดดี้จะกลับไปทำงานหาเงินอีกเหรอ”
เป็นคำถามที่บิดารู้สึกสะเทือนใจไม่น้อย คนตัวโตตวัดสายตาไปมองเส้นด้าย ไม่รู้ตลอดเวลาที่ผ่านมาเธอบอกลูกเรื่องพ่อว่าอย่างไร
“ใครบอก แด๊ดดี้จะไปกินข้าวกับหนู วันนี้จะอยู่กับหนูทั้งวัน”
ไม่ใช่แค่วันนี้วันพรุ่งนี้ก็ด้วยและวันต่อๆ ไป นับจากนี้เขาจะใช้เวลาอยู่กับลูกให้มากที่สุดเพื่อชดเชยวันเวลาที่ผ่านมา
“เย่ๆ แม่หมูขาแด๊ดดี้ไม่ต้องหาเงินแล้ว” เพราะแม่บอกว่าพ่อต้องไปหาเงินจึงกลับมาหาลูกไม่ได้
เด็กหญิงตัวน้อยเข้าใจแบบนั้นมาตลอด ตัวเองมีพ่อเหมือนเพื่อนแต่พ่อไม่อยู่ต้องไปทำงานไกลเพื่อหาเงิน
“เจอแด๊ดดี้มันต้องดีใจขนาดนั้นเลยเหรอยัยลูกหมู”
คุณแม่เอ่ยอย่างมันเขี้ยวก่อนจะเอามือขึ้นมาบีบแก้มของลูกสาวอย่างเบามือ บอกตามตรงเธอไม่เคยเห็นลูกออกอาการดีใจมากขนาดนี้ ถ้าวันหนึ่งกวินหายไปจากชีวิตลูก ไม่รู้เด็กหญิงตัวน้อยจะรู้สึกเศร้าขนาดไหน
“ค่า ดีใจที่สุด แด๊ดดี้ขาไม่ต้องไปทำงานแล้วนะคะ หนูมีเงิน” บอกด้วยความยินดีและเต็มใจที่จะยกกระปุกออมสินให้พ่อ
เส้นด้ายถึงกับค้อนตาคว่ำอีกรอบ ลูกสาวสองมาตรฐานกับแม่แค่จะเอามือจับกระปุกออมสินยัยเด็กงกยังไม่ยอมเลย
“จริงเหรอคะ มีกี่บาทเอ่ย เยอะไหมลูก” กวินถามกลับเสียงหวาน พอจะเดาได้แล้วว่าเส้นด้ายโกหกลูกสาวอย่างไร
“เต็มท้องพี่หมูอ้วนเลยค่าแด๊ดดี้ขา” เพราะแม่ให้เงินบ่อยเวลาช่วยทำงานบ้านจึงนำมาหยอดกระปุกออมสินเอาไว้ หรือเวลาป้าหมอให้ค่าขนมก็จะเอามาเก็บ
“ลงจากรถได้แล้วค่ะน้องเอ็นดู หิวข้าวไม่ใช่เหรอเรา”
เส้นด้ายขัดขึ้นด้วยความหมั่นไส้เมื่อเห็นสองพ่อลูกทำราวกับว่าบนโลกใบนี้มีแค่เราสองคน เธอยืนขาแข็งข้างรถมานานแล้วนะไม่เห็นกันบ้างหรือไง
“ค่า ไปค่ะแด๊ดดี้” เด็กเห่อพ่อยิ้มหวานลงไปยืนข้างแม่ไม่นานคุณพ่อก็เดินมาสมทบ เด็กหญิงจึงบอกพ่อให้จูงมือตัวเองเข้าไปในร้านที่คุ้นเคย ปล่อยให้แม่ยืนเป็นหมาหัวเน่าอ้าปากหวอ หลังจากโดนลูกสาวสุดที่รักทิ้งได้อย่างเลือดเย็น
“ว้าววันนี้น้องเอ็นดูมากับใครเอ่ย หล่อจังเลย” คุณป้าเจ้าของร้านเดินมาทักลูกค้าประจำตัวน้อยพลางสำรวจกวินตั้งแต่หัวจดเท้า หลังจากสามคนพ่อแม่ลูกนั่งลงบนเก้าอี้เรียบร้อย
“แด๊ดดี้ของหนูค่าป้าวัน”
แม่หนูน้อยตอบเสียงใส ยังจับมือพ่อไม่ยอมปล่อย
“โอ้โฮ ถึงว่าหน้าตาเหมือนกันอย่างกับฝาแฝด” ป้าวันตาโตมองสองพ่อลูกสลับกัน
“เหมือนกันมากเลยเหรอครับคุณป้า” กวินถามเพื่อความแน่ใจ อยากรู้ว่าในสายตาคนที่เพิ่งเจอกันจะรู้สึกอย่างไร ตนเองกับลูกสาวหน้าตาเหมือนกันขนาดไหน
“ดีเอ็นเอแปะอยู่บนหน้าเลยพ่อคุณ จริงไหมหนูด้าย”
“ค่ะป้าวัน วันนี้เอาเมนูตามเดิมนะคะ” หญิงสาวตอบแบบขอไปทีก่อนรีบเบี่ยงประเด็นไปที่การสั่งอาหาร
“แล้วพ่อน้องเอ็นดูล่ะเอาอะไร”
“ผมเอาเหมือนสองแม่ลูกเลยครับ”
ปกติท่านประธานจอมเรื่องมากอย่างกวินจะกินข้าวที่ร้านมีระดับเท่านั้นแต่วันนี้เป็นข้อยกเว้น ถึงเขาจะไม่ค่อยอยากกินแต่ไม่อยากขัดใจลูกสาว
ตาคมกวาดไปมองรอบตัวอย่างสังเกต อย่างน้อยร้านป้าวันก็สะอาดใช้ได้ เขาหวังว่ากินข้าวเข้าไปแล้วจะไม่ท้องเสียนะ
“หลังจากกินข้าวเสร็จ ฉันมีเรื่องจะคุยกับคุณ”
“พี่ก็มีเรื่องจะคุยกับเธอเหมือนกัน”
“แด๊ดดี้ขา คืนนี้จะนอนกับหนูไหม”
“ไม่นอนค่ะ แด๊ดดี้ต้องกลับบ้าน หนูนอนกับแม่เหมือนเดิม”
คุณพ่อยังไม่ทันอ้าปากตอบ กลับโดนคุณแม่ขัดจังหวะทำให้เด็กน้อยที่อยากนอนกอดบิดาเศร้าขึ้นมาทันตา
กวินส่งสายตาไม่พอใจไปให้เส้นด้าย ก่อนจะเอามือขึ้นมาลูบหัวลูกสาวด้วยความสงสาร
“แต่หนูอยากนอนกับแด๊ดดี้” เด็กหญิงเงยหน้าบอกพ่อเสียงเศร้า ดวงตากลมโตกะพริบปริบๆ เพื่อให้พ่อเห็นใจและตอบตกลง กวินมีเหรอจะไม่ตกลง
“ไม่ต้องเศร้าครับลูก คืนนี้แด๊ดดี้นอนกับหนูด้วย”
“เย่ แด๊ดดี้ใจดีที่สุด”
ลูกสาวยิ้มแป้นดีอกดีใจที่จะได้นอนกับคุณพ่อ เส้นด้ายมองอดีตสามีที่ยังไม่หย่าร้างกันตามกฎหมายตาเขียว เดี๋ยวกินข้าวเสร็จเธอต้องคุยกับกวินให้รู้เรื่อง ถ้าจะเข้ามาในชีวิตลูกแล้วหายไปสู้อย่ามาเลยดีกว่า
หลังจากมื้ออาหารที่มีแต่เสียงพูดคุยของสองพ่อลูกผ่านพ้นไป เส้นด้ายจำใจต้องพากวินขึ้นมาบนคอนโดตามคำขอร้องของลูกสาว
ชายหนุ่มกวาดตาไปมองรอบห้องพลางส่ายหัว ห้องเล็กขนาดนี้อยู่ไปได้อย่างไร ไม่ได้การแล้วเขาต้องรีบพาลูกสาวกลับไปอยู่ที่บ้านหลังใหญ่ด้วยกัน
“น้องเอ็นดูไปล้างมือก่อนค่ะ”
ทุกครั้งที่กลับมาจากการไปข้างนอกคุณแม่จะให้หนูน้อยล้างไม้ล้างมือเสมอเพื่อความสะอาดแต่วันนี้ดูเหมือนยัยลูกสาวจะดื้อเป็นพิเศษ
“ไม่เอา หนูกลัวแด๊ดดี้หาย” เด็กกลัวพ่อหายเกาะขาพ่อเอาไว้แน่นพลางส่ายหน้าไม่ยอมทำตามคำสั่งแม่
เส้นด้ายถึงกับฟิวส์ขาดเอามือขึ้นมาเท้าสะเอวดุลูกเสียงเข้ม
“จะเอาแต่ใจเกินไปแล้วนะเอ็นดู”
เด็กน้อยทำหน้าเศร้าคอตกทันทีเมื่อโดนมารดาดุ ดวงตากลมโตมีน้ำใสคลอหน่วยแต่ไม่กล้าเบะปากร้อง เพราะรู้ดีว่าแม่ไม่ชอบให้ร้องไห้ ขาป้อมเดินไปทางห้องน้ำเพื่อล้างมือตามคำสั่ง
กวินจึงวิ่งตามลูกสาวไปด้วยความสงสาร เส้นด้ายถอนหายใจออกมาด้วยความหนักใจ
เธอจะปล่อยให้กวินตามใจลูกสาวแบบนี้ไม่ได้เด็ดขาด ต้องทำอะไรสักอย่างก่อนที่เทวิกาจะเอาแต่ใจไปมากกว่านี้ ดูสิเจอพ่อไม่นานก็แผลงฤทธิ์ใส่แม่แล้ว ถ้าได้อยู่ด้วยกันนานๆ คงไม่เห็นหัวแม่อีกต่อไป
สองพ่อลูกเข้าไปล้างมือไม่นานก็ออกมาเล่นตรงมุมห้องที่มีของเล่นจัดวางอย่างเป็นระเบียบ แต่ยัยลูกสาวทำเป็นเมินไม่คุยกับแม่คุยแต่กับพ่อจนกระทั่งหลับกลางวัน
กวินเอาโทรศัพท์ออกมาถ่ายรูปลูกสาวด้วยความเห่อ มุมปากมีรอยยิ้มประดับขณะบันทึกความน่ารักของลูกที่เพิ่งรู้จักกันไม่กี่ชั่วโมง
ใบหน้าของเขาเย็นชาขึ้นมาอีกครั้ง เมื่อเส้นด้ายเดินมาบอกให้ออกไปคุยตรงโซฟา
“ลูกหลับแล้ว เรามาคุยกันจริงจังเถอะค่ะ”
“ใช่ เราต้องคุยกัน เธอท้องตอนไหน ทำไมไม่บอกพี่”
“ให้ฉันบอกคุณยังไง คุณเกลียดฉันขนาดนั้น”
“...” กวินนิ่งไม่ตอบโต้ อยากรู้ว่าแม่ของลูกจะพูดอะไร
“ฉันจำเรื่องในอดีตไม่เคยลืม” เส้นด้ายมองหน้าอดีตสามีที่ตนเองเคยรักหมดหัวใจด้วยสายตาเจ็บปวด
เรื่องราวในอดีตย้อนกลับเข้ามาในสมองราวกับสายน้ำไหลบ่า เริ่มตั้งแต่เรื่องแต่งงานซึ่งเกิดจากคำมั่นสัญญาของสองตระกูล จวบจนวันที่เธอขอหย่าแต่เขาไม่ยอมหย่า