บทที่ 3
ตามล่า
แล้วสิ่งที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นอีกครั้งเมื่อจู่ๆ ก็มีกลุ่มชายชุดดำโผล่เข้ามาอีกกลุ่ม เสียงการปะทะกันของทหารอารักขากับกลุ่มชายชุดดำสร้างความหวาดกลัวให้กับจันทร์จิราและคนที่อยู่ในรถม้าเป็นอย่างยิ่ง ด้วยก่อนหน้านี้ขบวนเสด็จของพระสนมเคยถูกลอบโจมตีมาแล้ว ทำให้ผู้คุ้มกันที่เคยมีเป็นจำนวนมากในตอนแรกลดลงไปเกือบครึ่ง ขณะที่กลุ่มชายชุดดำที่เข้ามาใหม่นี้กลับมีจำนวนมากกว่าเดิม
“ทูลพระสนมตอนนี้พวกเราต้านไว้ไม่ไหวแล้ว ทูลเชิญพระสนมเสด็จหนีเถิดพ่ะย่ะค่ะ”
อ่า... ช่างตื่นเต้นสมเป็นชีวิตนางเอกจริงๆ จันทร์จิราคร่ำครวญในใจและแน่นอนไม่เพียงพระสนมและคนสนิทที่ถูกเชิญลงจากรถม้า จันทร์จิราเองก็กลายเป็นผู้ติดตามใกล้ชิดคอยดูแลประคับประคองทารกน้อยวัยแรกเกิด ขณะที่หญิงกลางคนคนเดิมที่อุ้มเด็กน้อยนั้นหันไปประคับประคองพระสนม ใบหน้าของพระสนมในเวลานี้ซีดราวไก่ต้มด้วยเสียเลือดไปจากการคลอดบุตร ร่างบางล้มลุกคลุกคลานอยู่หลายครั้ง หากไม่มีคนสนิทคอยประคองเกรงว่าร่างบอบบางของพระนางคงไม่สามารถที่จะลุกขึ้นยืนได้เป็นแน่ จันทร์จิราก้มมองลงที่ทารกในอ้อมอกของตน ชะตาช่างเล่นตลกกับเขาเหลือเกิน นอกจากยามเกิดจะยากลำบากแล้ว เวลานี้แม้แต่จะมีชีวิตต่อก็ยังยากลำบาก เบื้องหลังมีเฉินมี่ถงคอยอารักขาจันทร์จิราและพระสนม มือหนาที่เคยถือดาบจ่อคอจันทร์จิราในครั้งแรก ตอนนี้กลับกำลังใช้ดาบเล่มเดียวกันคอยปกป้องเธอและพระสนมอย่างเต็มกำลังจนจิรายอมรับในใจในทันทีว่ารู้สึกซาบซึ้งกับชายตรงหน้าเป็นอย่างยิ่ง หลายครั้งที่เธอสังเกตเห็นว่าชายผู้นี้ได้รับบาดเจ็บจากการปกป้องพวกเธอแต่เขาไม่มีท่าทีที่จะหลีกหนีหน้าที่นี้เลยแม้แต่น้อย ช่างสมกับเป็นราชองครักษ์ประจำตัวพระสนมเสียจริงๆ
“องครักษ์เฉินข้าไปต่อไม่ไหวแล้ว”
เสียงของพระสนมเอ่ยออกมาอย่างอ่อนกำลัง ใบหน้างดงามเดี๋ยวนี้ซีดเผือดไร้สีสันโดยสิ้นเชิง จันทร์จิรารีบเข้ามาดูอาการของคนตรงหน้าในทันที จากการประเมินเบื้องต้นคาดว่าพระนางคงจะอ่อนเพลียจากการคลอดบุตรและเวลานี้ยังต้องมาวิ่งหนีกลุ่มโจรร้ายนี่อีก นั่นย่อมทำให้คนตรงหน้ายิ่งอ่อนเพลียมากกว่าเดิม และที่สำคัญคือเริ่มมีเลือดไหลออกมา นางกำลังจะตกเลือด! ใบหน้าจันทร์จิราฉายแววกังวลอย่างชัดเจน สายพระเนตรของพระสนมทอดมองมาที่บุตรของตนในอ้อมอกของจันทร์จิรา มือบางลูบแก้มนวลของเด็กน้อยอย่างแผ่วเบาก่อนมอบหยกประจำตัวซุกไว้ในห่อผ้า แล้วส่งสายตาอ่อนโยนแฝงความอ้อนวอนมาที่จันทร์จิรา
“ได้โปรดปกป้องเขาด้วย”
จันทร์จิรามองใบหน้างามที่อาบไปด้วยน้ำตา สายตาบ่งบอกถึงความรักและความห่วงใยในตัวบุตรชายผู้ที่พึ่งถือกำเนิดนี้อย่างชัดเจน จนจันทร์จิรารู้สึกปวดใจไปกับชะตาของทั้งคู่ น้ำตาไหลอาบแก้มของจันทร์จิรา เธอพยักหน้ารับคำขอร้องของคนตรงหน้าในทันที เมื่อได้รับการตอบรับจากจันทร์จิรา พระสนมหันไปทางทหารองครักษ์คนสนิท
“องครักษ์เฉินรับคำสั่ง เจ้าจงปกป้องบุตรชายของข้าและผู้มีพระคุณของข้ากลับวังหลวง ในอนาคตจงช่วยเขาทวงความยุติธรรมคืนแก่ข้า”
แม้มิเต็มใจแต่เฉินมี่ถงก็รับคำสั่งนั้นแต่โดยดี เขาพาจันทร์จิราและพระราชโอรส มุ่งตรงไปอีกทาง ขณะที่พระสนมและคนสนิทมุ่งไปอีกทางเพื่อหลอกล่อพวกผู้ร้าย แต่คนพวกนั้นก็มิได้โง่อย่างในนิยายที่จันทร์จิราเคยอ่าน เมื่อพวกมันเห็นว่าทางที่พระสนมดำเนินไปนั้นมิมีองครักษ์ผู้หล่อเหลาติดตาม พวกมันก็เดาได้ในทันทีว่าราชองครักษ์เฉินต้องนำโอรสสวรรค์ไปอีกทางอย่างแน่นอน ให้ตายเถอะ ถ้าชีวิตนางเอกจะเหนื่อยขนาดนี้ขอเป็นนางร้ายได้ไหมนี่ จันทร์จิราคร่ำครวญในใจ หลายครั้งที่กลุ่มคนร้ายตามมาทันและจันทร์จิราได้รับการปกป้องจากเฉินมี่ถง ช่างเป็นยอดบุรุษจริงๆ น้องเฉินสุดหล่อ ขอกลายร่างเป็นอีป้ากินเด็กได้ไหมนี่ ก็แบบว่าคนตรงหน้าอายุไม่น่าจะเกินสิบหกสิบเจ็ดปี ขณะที่จันทร์จิราเอ่อ... เราไม่พูดถึงเรื่องอายุกันดีกว่า ขณะที่จันทร์จิรากำลังปลาบปลื้มกับวีรกรรมบุรุษช่วยหญิงงาม? อยู่ดีๆ ก็มีชายชุดดำจากไหนไม่รู้พุ่งมาหาจันทร์จิรา ดวงตากลมเบิกกว้างอย่างตื่นตะลึง ไม่นะ! ฉันยังไม่เจอองค์ชายสุดหล่อหรือจอมยุทธ์ผู้เก่งกาจเลยนะ พลันร่างคุ้นตาก็เข้ามาบดบังทัศนวิสัยของเธอ รู้ตัวอีกทีชายชุดดำนั่นก็กลายเป็นศพไปเสียแล้ว โหดได้ใจป้าจริงๆ อาเฉิน จันทร์จิราล้มลุกคลุกคลานอยู่หลายรอบขณะที่พยายามหลบหนีพวกผู้ร้าย นี่ฉันไปตีหัวบรรพบุรุษพวกแกหรือไง ตามจองล้างจองผลาญกันไม่เลิกจริงๆ เลย
“อาเฉิน... ฉันไม่ไหวแล้ว”
จันทร์จิราเอ่ยเสียงอ่อนแรง ใบหน้าที่งาม...? ซีดเผือด เฉินมี่ถงมองร่างบางตรงหน้าที่เริ่มอ่อนล้าก่อนโอบประคองร่างบางที่อุ้มทารกน้อยเอาไว้แนบอก หัวใจบุรุษที่ด้านชามาตลอดสั่นไหวทุกครั้งที่เห็นใบหน้างามคล้ายจะหมดแรง
“อดทนไว้ ข้าสัญญาจะปกป้องท่านด้วยชีวิตของข้า”
น้ำเสียงเขาหนักแน่น จันทร์จิรายิ้มอ่อนโยนให้แก่เฉินมี่ถง มือบางยังคงโอบกอดทารกไว้ในอกแน่น เธอตายมาแล้วครั้งหนึ่งและไม่รู้ด้วยเหตุผลใดเธอจึงมาอยู่ที่นี่ในยุคที่ไม่คุ้นเคย เข้ามาพัวพันกับเหตุการณ์ที่ไม่สมควร แต่เธอจะต้องรอด เธอจะไม่ยอมตายซ้ำอีกรอบ เพราะเธอเป็นนางเอก จะยากลำบากแค่ไหนนางเอกก็ต้องไม่ตายถูกไหม... เฉินมี่ถงโอบร่างบางมิให้ห่าง ตอนนี้เขามิได้สนใจมารยาทที่ว่าบุรุษสตรีมิควรใกล้ชิดกันแม้สักนิด และยินดีชดใช้ให้นางถึงการล่วงเกินครั้งนี้ เขาจะแต่งนางเป็นภรรยาอย่างแน่นอนแม้นางจะดูมีอายุมากกว่าเขาอยู่หลายปี ใบหน้าหรือก็ไม่ได้งดงามปานเทพธิดา หากแต่เขายินดีอย่างยิ่งที่จะตบแต่งนางเข้ามาเป็นฮูหยินเพียงหนึ่งเดียว ร่างสูงถอนหายใจยาวมันใช่เวลาที่จะมาคิดเรื่องพวกนี้หรือไรกัน