ตลอดหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมาตั้งแต่คืนนั้นธัญชนกดูเปลี่ยนไปมาก เธอไม่ออกไปเที่ยวผับเที่ยวบาร์เหมือนเคย ไม่แต่งตัวหวือหวาชวนน้ำลายไหล กลับมาช่วยเกษมศักดิ์ตรวจทานบัญชีรายรับ-รายจ่ายของไร่สองนารี สวนผลไม้ของครอบครัวอย่างเช่นเคย หญิงสาวพยายามหลบหน้าหลบตาสิงหาตลอดเวลา ไม่ใช่ว่ากลัวแต่เป็นเพราะยังเขินอายกับความใกล้ชิดในวันนั้น สิงหานั่งหรือเดินอยู่ตรงไหนเธอจะไม่เข้าไปใกล้อย่างเด็ดขาด จะเผชิญหน้ากันตอนรับประทานอาหารเท่านั้น ซึ่งสิงหาเองก็ทำตัวยุ่ง ง่วนอยู่กับภารกิจของตัวเอง ภารกิจที่ว่านั้นคือคุมคนงานก่อสร้างปลูกเรือนหอ การเปลี่ยนแปลงของลูกสาวนำความดีใจมาให้ผู้เป็นพ่อ
“เอิน พ่อว่าพรุ่งนี้พ่อจะไปไร่นะ ช่วงนี้กำลังเก็บผลผลิต พ่อว่าจะไปดูซะหน่อย แบ่งเบาภาระของอาชาติบ้าง”
ระหว่างที่เกษมศักดิ์กลับมาอยู่กรุงเทพฯ นั้น ไร่สองนารีจะอยู่ในความดูแลของชาติชายน้องชายของเขา ช่วงนี้ผลไม้ในไร่อยู่ในช่วงเก็บผลผลิต งานและหน้าที่จึงเพิ่มมากขึ้น เขาในฐานะเจ้าของไร่จึงจำเป็นที่จะต้องเข้าไปดูแล ไม่ใช่ปล่อยน้องชายดูแลเพียงลำพัง
“ค่ะพ่อ ให้เอินไปด้วยมั้ยคะจะได้ช่วยๆ กัน”
“ไม่ต้องหรอกลูก ที่โน่นมีคนเยอะแล้ว เอินอยู่ที่นี่เถอะ ไหนจะต้องแจกการ์ดแต่งงาน ลองชุดเจ้าสาว แล้วยังจะต้องดูเรื่องเรือนหออีก ไม่ต้องไปหรอกลูก เอินแค่ช่วยพ่อดูเรื่องบัญชีให้พ่อก็พอแล้ว” ธัญชนกถอนหายใจออกมาทันทีที่ได้ยินเรื่องแต่งงาน ยิ่งใกล้วันแต่งงานความสุขของเธอยิ่งน้อยลงตามไปด้วย
“พ่อคะ เอิงโทรมาหาพ่อบ้างหรือเปล่าคะ เอินโทรไปหาน้อง ตั้งหลายครั้ง แต่เอิงไม่รับสายเลย” หญิงสาวเปลี่ยนหัวข้อสนทนาอย่างเร่งด่วน ก่อนที่เธอจะทานข้าวไม่ลง
“พ่อลืมบอกไป เอิงโทรมาหาพ่อเมื่อเช้านี้ น้องโทรมาบอกว่าช่วงนี้กำลังเตรียมตัวสอบ อ่านหนังสือทุกวัน ไปติวหนังสือกับเพื่อนด้วยเลยยุ่งๆ เอิงยังบอกพ่ออีกว่าจะกลับบ้านตอนสอบเสร็จ ไม่ต้องเป็นห่วง กลับมาทันวันแต่งงานของเอินแน่นอน”
เกษมศักดิ์ลืมบอกเรื่องนี้กับธัญชนกไปเสียสนิท ธ*****ยคือลูกสาวคนเล็กของเขา ธ*****ยสอบชิงทุนได้ไปศึกษาต่อในระดับชั้นปริญญาตรีที่ประเทศฝรั่งเศส ปีนี้เป็นปีสุดท้ายของการศึกษา อีกไม่นานลูกสาวคนนี้ก็จะ กลับมาแล้ว กลับมาพร้อมกับความสำเร็จ
“บอกเอิงว่าไม่ต้องมาก็ได้ค่ะ กลับมางานแต่งเอินก็ต้องกลับไปฟังผลสอบอยู่ดี กลับมาทีเดียวเลยดีกว่า ไม่เปลืองเงิน ไม่เหนื่อยด้วย อีกอย่างงานแต่งของเอินมันไม่สำคัญอะไรด้วย มันเป็นวันนรกสำหรับเอินมากกว่าวันแห่งความสุข”
ว่าที่เจ้าสาวคนอื่นๆ มีความคิดเห็นตรงกันว่า วันแต่งงานคือวันที่สำคัญที่สุดในชีวิตของลูกผู้หญิง สำหรับเธอไม่ใช่ มันคือวันที่มีแต่ความทุกข์ตรมอย่างแสนสาหัส สิงหาเหลือบตามองผู้พูดเพียงนิด ก่อนจะก้มหน้ารับประทานอาหารต่อไปโดยไม่พูดอะไรสักคำ
“ทำไมเอินพูดอย่างนั้นล่ะลูก พ่อได้ยินเอินพูดอย่างนี้แล้วพ่อไม่สบายใจเลย มันเหมือนกับว่าพ่อเป็นคนทำให้ลูกไม่มีความสุข มีแต่ ความทุกข์ในวันแต่งงาน ถึงคุณลุงวินจะมีบุญคุณกับพ่อมากแค่ไหน แต่ถ้า เห็นลูกทุกข์อย่างนี้พ่อคงไม่มีความสุข พ่อจะโทรไปยกเลิกงานแต่งงานของเอินเอง เอินจะได้หมดทุกข์หมดโศก กลับมาเป็นเอินคนเดิมของพ่อเสียที”
ถึงแม้ว่าเขาจะรักและเคารพยศวินมากเพียงใด แต่ความรักลูกนั้นมีมากกว่า คงไม่มีพ่อคนไหนอยากเห็นลูกทุกข์ อยากเห็นลูกร้องไห้ เขายอมเป็นคนอกตัญญูเพื่อความสุขของลูก ตอนแรกก็คิดว่าสิ่งที่ตัวเองคิดและทำลงไปเป็นสิ่งที่ถูกต้อง แต่พอมาได้ยินคำพูดของธัญชนกในวันนี้ เกษมศักดิ์จึงรู้ว่าเขาคิดผิดมาโดยตลอด
“ไม่ต้องหรอกค่ะพ่อ เอินเป็นคนรักษาคำพูด แต่งก็คือแต่ง ต่อไปนี้เอินจะไม่พูดและแสดงกิริยาแบบนี้กับพ่ออีกแล้ว พ่อจะได้สบายใจ เอินขอตัวก่อนนะคะ”
ธัญชนกตัดบทการสนทนาด้วยการลุกขึ้นยืนและเดินออกไปจากห้องรับประทานอาหารทันที เสียงระบายลมหายใจแห่งความกลัดกลุ้มถูกผ่อนออกมาจากโพรงจมูกของเกษมศักดิ์ ไล่หลังร่างของลูกสาว ก่อนที่เขาจะหันไปมองหน้าสิงหาที่มองตามร่างสวยของลูกสาวไปเช่นกัน
“อาต้องขอโทษคุณสิงหาด้วยนะครับที่เอินพูดออกไปอย่างนั้น”
“ทำไมต้องขอโทษด้วยครับ ทั้งเอินและอาแดนก็ไม่ได้ผิดอะไรนี่ครับ ไม่ใช่เอินคนเดียวที่ดื้อเงียบเรื่องการแต่งงาน กฤตเองก็ร้ายใช่ย่อย กินเหล้าเมาหัวราน้ำเป็นอาทิตย์ ผมว่าพอกันทั้งคู่แหละครับ”
กฤตยศมีนิสัยตรงกับธัญชนกหลายอย่าง ดื้อเงียบ หัวรั้น ไม่ยอมคน ไม่อยากนึกภาพตอนที่ทั้งสองร่วมหอลงโรงกันเลยว่าอะไรมันจะเกิดขึ้น แรงด้วยกันทั้งคู่
“อามีความรู้สึกว่า อาคิดผิดที่บังคับให้เอินแต่งงานกับคุณกฤต”
“ไม่มีใครผิดและถูกทั้งนั้นครับ ไม่ว่าจะเป็นอาแดนหรือว่าคุณลุงวิน มันคือความเหมาะสมกันมากกว่า คนอย่างกฤตก็ต้องเจอคนอย่างเอิน คนอย่างเอินก็ต้องเจอกับกฤตมันถึงจะสมน้ำสมเนื้อกัน อาแดนอย่าคิดมากเลยครับ”
สิงหากลับคิดว่าทุกคนต่างเห็นว่าทั้งคู่เหมาะสมกันที่สุด ขิงก็ราข่าก็แรงแบบนี้อยู่ด้วยกันยืดจนแก่เฒ่า อีกทั้งทุกคนยังลงความเห็นว่า การหย่าร้างจะไม่มีวันเกิดขึ้นแน่นอน
“อาก็คิดอย่างนั้นถึงให้เอินแต่งงานกับคุณกฤต ไม่ใช่เพราะบุญคุณอย่างเดียวนะ แต่เป็นเพราะเหตุผลอื่นๆ ด้วย อีกอย่างอาได้ถามความสมัครใจของเอินเขาแล้วด้วย ซึ่งเอินเขาก็ตอบตกลง แม้ว่าคำตกลงจะไม่ได้มาจากความจริงใจก็ตาม อายังหวังว่าสิ่งที่อาและทุกคนคิดจะไม่ผิด”
“มันเป็นอย่างนั้นแน่นอนครับ อาแดนเชื่อผมสิครับ”
สิงหาย้ำให้เกษมศักดิ์มั่นใจในความคิดของทุกคนที่ได้คิดอย่าง รอบคอบ ก่อนจะบอกเรื่องการแต่งงานให้ทั้งสองได้รับรู้ เกษมศักดิ์ยิ้มออกมาได้ เขาหวังว่ามันจะได้ผลเช่นกัน
“อาไม่อยู่รบกวนคุณสิงหาช่วยดูแลเอินแทนอาด้วยนะ อายังไม่วางใจเรื่องไปเที่ยวดึกๆ ดื่นๆ ของเอิน”
ไม่ใช่ว่าจะมีเพียงแต่พฤติกรรมของลูกสาวคนโตเท่านั้นที่เปลี่ยนแปลง การไม่ลงรอยระหว่างธัญชนกกับสิงหาก็เปลี่ยนไปในทิศทางที่ดีขึ้น ปกติสองคนนี้เจอหน้ากันทีไรจะต้องเกิดสงครามย่อมๆ ทุกครั้งไป ไม่เพียงแต่จะไม่ต่อปากต่อคำกัน ต่างฝ่ายต่างไม่มองหน้ากันด้วยซ้ำ มันเป็นสัญญาณที่ดีอย่างหนึ่ง