“นี่มันวันซวยอะไรของฉันวะเนี่ย” ธีธัชสบถออกมาด้วยความไม่ชอบใจ เขาอยากรู้ว่าอะไรเกิดขึ้นกับเขา แต่กลับเหมือนว่าเบาะแสที่เขาจะสาวไปถึงตัวผู้หญิงที่นอนกับเขาเมื่อคืนมันมืดไปหมด ถ้าเขามีสติกว่านั้นสักนิด เขาคงจะจำได้ว่าตัวเองนอนกับใคร แต่นี่เขาเมาจนเกินกว่าจะจำได้ เขาหวังจะพึ่งหลักฐานอย่างกล้องวงจรปิด แต่มันกลับไม่ได้ช่วยอะไรเขาสักนิด เลยทำให้ธีธัชหงุดหงิดจนสบถออกมา
“ซวยอะไรครับนาย เรื่องแค่นี้ไม่ซวยหรอก เชื่อหัวผมได้เลย เดี๋ยวผมก็กู้ได้” ในขณะที่อีกฝ่ายกำลังเครียด มงคลกลับไม่อิหนังขังขอบ เขาค่อยๆ เข้ารหัสต่างๆ อย่างใจเย็น
“มงคล นายจะให้ฉันหวังอะไรกับนายได้ ตั้งแต่นายทำงานที่นี่มา ฉันไม่เคยเห็นนายทำอะไรสำเร็จ นี่ถ้าไม่ใช่เพราะแม่นายเป็นพี่เลี้ยงฉันมาก่อน คิดมั้ยว่าฉันคงไล่นายออกไปนานแล้ว” ยิ่งได้ยินลูกน้องที่เสื่อมประสิทธิภาพที่สุดเท่าที่เขาเคยมีมาพูด ยิ่งทำให้เขาหนักใจยิ่งกว่าเดิม ด้วยเพราะมงคลไม่เคยทำอะไรสำเร็จ เขาจบการศึกษามาแบบที่ว่าทรานสคริปต์ของเขาไม่สามารถหางานที่ไหนได้นอกจากที่นี่ แล้วแบบนี้จะให้เขาหวังว่าคนแบบนี้จะสามารถกู้ภาพจากกล้องวงจรปิดได้อย่างนั้นหรือ เชื่อว่าไก่ออกลูกเป็นตัวน่าจะยังมีความน่าเชื่อถือมากกว่าอีก
“เชื่อผมเถอะครับนาย ว่าแต่มีคนขโมยของเหรอครับ ทำไมนายถึงอยากดูกล้องตัวนั้น” นอกจากจะทำงานไม่ค่อยสำเร็จแล้ว คุณสมบัติพิเศษที่มีของมงคลก็คือความสอดรู้สอดเห็นของเขา แน่นอนว่าผู้เป็นนายอย่างธีธัชอยากจะตั๊นหน้าลูกน้องคนนี้สักที เผื่อความเครียดที่อยู่ในใจมันจะได้เบาลงได้
“ไม่มีของใครหายทั้งนั้นล่ะ ของฉันเอง นายเลิกถามแล้วทำหน้าที่ของตัวเองต่อไปให้ดี ถ้ากู้กล้องตัวนี้ไม่ได้ ฉันอาจจะตัดสินใจเสียเงินก้อนจ้างนายออกก็ได้” ธีธัชเอ่ยด้วยความหมั่นไส้ นอกจากจะไม่เก่งเรื่องงาน แต่ดันไปเก่งเรื่องสอดรู้สอดเห็นเรื่องชาวบ้าน แต่ธีธัชก็ไม่ได้คิดจะให้มงคลออกมาตามที่เขาบอกหรอก เขาแค่ขู่ให้มงคลงัดวิชาที่เรียนมา กู้ภาพจากกล้องวงจรปิดให้ได้ แม้ว่ามันจะยากสำหรับมงคล จนคนสั่งแทบหมดหวัง แต่ยังไงก็คงหวังพึ่งใครไม่ได้ นอกจากลูกน้องไม่ได้เรื่องคนนี้ของเขา
“งั้นผมจะทำอย่างเต็มที่ รับรองนายไม่ได้แอ้มผมหรอก” มงคลเอ่ยด้วยความมุ่งมั่น ก่อนที่ก้มหน้าก้มตาจัดการกับเซิฟเวอร์ของตัวเอง ส่วนผู้เป็นนายเดินออกไปด้วยความสิ้นหวัง เขาจะทำยังไง เขาต้องฝากความหวังกับมงคลจริงๆ เหรอ ธีธัชถอนหายใจออกมาด้วยความหนักใจ