พอได้รับอ้อมกอดไป เขาก็ซุกฝังหน้าลงกับตักและพึมพำบางอย่างออกมา “เรากลัวว่าถ้าสวยรู้จักตัวตนเรามากกว่านี้ สวยจะไม่รักเรา...” ยิ่งฟังเขาพูดเรื่องราวเกี่ยวกับตัวเองมากขึ้นฉันยิ่งอดคิดไม่ได้ว่าตลอดทั้งชีวิตของเขาที่ผ่านมานั้นเจออะไรมาบ้าง แต่ที่รู้ก็คือมันคงจะแย่จนไม่น่าจดจำ เขาถึงไม่ยอมเล่าหรือระบายให้ใครได้ฟัง “ลองบอกสิว่าตัวตนนายเป็นยังไง...” ดังนั้นเรื่องในอดีตที่ผ่านมาจึงไม่ใช่สิ่งที่ฉันอยากรู้ได้เท่ากับตัวตนที่ชายคนนี้ปิดเงียบไว้ตลอดหลายปีที่ผ่านมา “เราเป็นคนเอาแต่ใจ ขี้หงุดหงิด โมโหง่าย เห็นแก่ตัว” เกอร์ คลายกอดออกจากฉันอย่างช้าๆ โดยยังอยู่ในท่าคุกเข่า เขาเปลี่ยนจากการกอดเป็นการใช้มือกุมประคองมือฉันไว้บนฝ่ามืออุ่นของตัวเอง คลอเคลียซุกหน้าไปตามหลังมือที่จับไว้เหมือนลูกแมวอีกทั้งยังช้อนตารอฟังเสียงตอบรับ “...เวลาโมโหหรือหงุดหงิดก็ชอบขึ้นเสียงด้วย” “เรื่องนั้นฉันรู้...” ที่รู้เพราะคืน