บทที่5

1394 Words
อีกเช้าของวันทำงานอันแสนหนักหน่วงของพนักงานเงินเดือนอย่างพวกเธอต้องตื่นขึ้นมาแต่เช้าตรู่ แต่มันไม่ใช่ปัญหาสำหรับผู้หญิงที่ชื่อลดาซึ่งเธอมักจะตื่นนอนแต่เช้าเพื่อมาทำกับข้าวใส่ปิ่นโตไปที่ทำงาน กลิ่นอาหารหอมชวนหิวมันพอจะทำให้สมองลืมเรื่องที่คิดหนักมาตลอดทั้งคืนได้ สำหรับผู้หญิงที่มีอายุใกล้จะเข้าเลขสามมักจะต้องคิดหนักเป็นเรื่องธรรมดาเมื่อแฟนหนุ่มที่คบกันมาหลายปีเริ่มมีท่าทีมีพิรุธ มันจะไม่ทำให้เธอคิดมากเลยถ้าหากว่าช่วงพักหลังนี้แฟนหนุ่มของเธอเริ่มหาย ติดต่อไม่ได้ บางครั้งก็บอกว่าจะโทรมาแต่ก็หายเหมือนกับเมื่อวานซึ่งเขาบอกว่าจะมารับแต่ก็ไม่มาหายเข้ากลีบเมฆจนถึงตอนนี้แม้แต่ข้อความบอกกล่าวยังไม่มีสักข้อความ มันยิ่งทำให้เธออดสงสัยไม่ได้ว่าเขาหายไปไหน ถ้าหากว่าทำงานหนักอย่างน้อยก็คงจะต้องมีเวลาส่งข้อความหรือโทรมาบอกกล่าวเธอบ้าง แต่นี่กลับหายไปเลย สิ่งที่แฟนหนุ่มกำลังทำอยู่ในตอนนี้มันเริ่มที่จะทำให้เธอคิดไม่ตก ว่าเขาทำงานหนักอย่างที่บอกเธอจริง ๆ หรือว่าเขากำลังมีอะไรบางอย่างที่กำลังปิดบังเธออยู่ แต่ถึงอย่างไรความรักที่เขาและเธอมีให้ในตลอดหลายปีที่ผ่านมา มันทำให้เธอเชื่อมั่นว่าแฟนหนุ่มนั้นจะไม่มีวันนอกใจ เพราะเท่าจากที่ดูอยู่เขาก็ไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับผู้หญิงคนไหน สงสัยเธอต้องแอบสืบจากเพื่อนสนิทซึ่งทำงานเป็นเลขาให้กับแฟนหนุ่มของเธอเสียแล้ว ใบหน้าของลดายังมีรอยยิ้มมอบให้คนอื่นอยู่เสมอถึงแม้ว่าเธอกำลังจะคิดหนักซึ่งนี่เป็นข้อดีของเธอถึงแม้ว่าเธอจะเครียด คิดหนัก หรือกดดันมากแค่ไหน ใบหน้าของเธอก็คงยังประดับด้วยรอยยิ้มไว้อย่างเช่นตอนนี้ "ลดามาพอดีเลยท่านประธานเรียกให้เข้าไปพบจ้ะ"เมื่อมาถึงโต๊ะทำงานยังไม่ทันได้วางกระเป๋าลงรุ่นพี่สาวอย่างกุ้งนางก็รีบเอ่ยกล่าวตามคำสั่งของผู้เป็นเจ้านาย เมื่อเช้าท่านประธานมาหาเธอโดยที่มีเจตจำนงให้เธอบอกลดาถ้าหากว่าเข้ามาทำงานให้รีบไปพบด่วน ส่วนจะเป็นเรื่องอะไรนั้นเธอก็ไม่ได้ถามเหมือนกัน "ท่านประธานมีเรื่องอะไรด่วนหรือเปล่าคะพี่กุ้งนาง" "พี่ก็ไม่รู้เหมือนกันจ้ะ แต่พี่ว่าลดารีบไปพบท่านประธานดีกว่านะท่านรอลดามาได้สักพักใหญ่แล้ว"รุ่นน้องสาวพยักหน้ารับ ข้าวของที่ถือมาถูกเก็บเอาไว้ในลิ้นชักข้างโต๊ะก่อนหญิงสาวจะรีบเดินไปยังลิฟต์เพื่อขึ้นไปชั้นบนสุดของบริษัทซึ่งเป็นห้องทำงานของประธานบริษัทผลิตและน้ำเข้ารถยนต์ของประเทศนี้ ติ๊ง เมื่อประตูลิฟต์เปิดออกสิ่งแรงที่ลดาจะเห็นก็คือเลขาของท่านประธานซึ่งนั่งทำงานอยู่หน้าห้องด้วยความขยัน สายตาของศจีหันมามองผู้มาใหม่อย่างลดาริมฝีปากบางเอ่ยทักทายตามประสาคนรู้จัก "อ้าว น้องลดามาแล้วเหรอคะ" "สวัสดีค่ะพี่ศจี ไม่เจอกันนานสวยขึ้นเยอะเลยนะคะเนี่ย" "แหม ช่างพูดจานะเรา ว่าแต่มาพบท่านประธานใช่ไหมจ๊ะ" "ใช่ค่ะ" "งั้นเชิญเข้าไปเลยจ้ะ ท่านประธานรออยู่"ลดาพยักหน้ารับรู้เธอก้มมองการแต่งกายของตัวเองก่อนจะเคาะประตูเพื่อขออนุญาตคนภายในและเมื่อได้รับสัญญาณตอบรับเธอจึงรีบผลักประตูเข้าไปด้านใน ความเย็นภายในห้องทำงานมันทำให้ลดาหนาวสั่นตั้งแต่ก้าวแรกที่เดินเข้ามา "สวัสดีค่ะท่านประธาน"น้ำเสียงอ่อนหวานของเด็กสาวทำเอา 'คุณพยัคฆ์'ประธานบริษัทแห่งนี้ต้องเงยหน้าจากเอกสารขึ้นมามองผู้มาใหม่ซึ่งกำลังยืนอยู่ตรงหน้ามุมปากกระตุกยิ้มให้เป็นการทักทายอย่างคนสนิท "บอกหลายครั้งแล้วนะว่าอย่าเรียกท่านประธาน ให้เรียกว่าพ่อเด็กคนนี้พูดกี่ทีไม่เคยจำ"คล้ายจะเป็นคำดุที่ทำเอาลดาได้แต่ส่งยิ้มบาง ๆ ไปให้ "ท่านประธานก็รู้ว่ามันไม่เหมาะ" "แต่พ่อเป็นคนอนุญาต ใครสงสัยหรือไม่เข้าใจให้มาถามพ่อ พ่อจะอธิบายด้วยซองขาวเอง" "ท่านประธานคะ"พยัคฆ์ได้ยินน้ำเสียงขึ้นจมูกของว่าที่ลูกสาวก็รีบสงบปากโดยทันที ชายร่างสูงใหญ่วัยกลางคนวาปากกาลงซึ่งนั่นหมายความว่าท่านกำลังจริงจังในเรื่องที่กำลังจะพูดต่อไปนี้ สายตาที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมานานหลายปีมองเด็กสาวที่เขาและภรรยารักและเอ็นดูซึ่งเธอกำลังยืนอยู่ตรงหน้า "ที่พ่อเรียกลดามาพบในวันนี้คือพ่อมีเรื่องสำคัญอยากจะให้ลดาช่วย" "เรื่องอะไรคะ"คิ้วโก่งดั่งคันศรขมวดเข้าหาเมื่อเห็นสีหน้าจริงจังของชายวัยกลางคน "หนูรู้ใช่ไหมว่าพ่อมีลูกชายแท้ ๆ อยู่หนึ่งคนซึ่งตอนนี้กำลังบริหารงานอยู่ที่อเมริกา" "ลดาทราบค่ะ"เพียงแต่ว่าเธอไม่เคยเห็นหน้าของอีกฝ่ายรู้จักแค่เพียงชื่อเสียงก็เท่านั้น "อีกสองอาทิตย์ลูกชายของพ่อจะกลับมาดำรงตำแหน่งประธานคนต่อไปพ่ออยากจะให้ลดามาเป็นผู้ช่วยเลขา อย่าพึ่งปฏิเสธ"ฝ่ามือหนารีบยกขึ้นปรามโดยทันทีเมื่อเด็กน้อยกำลังจะเอ่ยปากขัดแย้ง คำพูดที่จะเอ่ยขัดแย้งถูกกลืนลงคอโดยทันทีสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออกมันคงจะแสดงชัดอยู่บนใบหน้าของเธอ "นี่ไม่ใช้คำบอกเล่า หรือคำขอร้อง แต่นี่เป็นคำสั่งของประธานบริษัทซึ่ง นางสาวลดาจะต้องทำตาม เข้าใจ" ลดานั่งลงบนเก้าอี้อย่างคนหมดแรงเหนื่อยล้าหลังกลับมาจากห้องทำงานของประธานบริษัท สีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออกมันเธอทำให้กุ้งนางซึ่งนั่งทำงานอยู่ที่โต๊ะฝั่งตรงกันข้ามเริ่มสงสัยว่ารุ่นน้องในแผนกเดียวกันนั้นเป็นอะไรเพราะสีหน้าของลดาดูเหมือนว่าเธอกำลังมีเรื่องทุกข์ใจ "เป็นอะไรจ๊ะคนสวยของพี่กุ้งนาง ทำไมมีสีหน้าไม่สู้ดีแบบนั้น ท่านประธานเรียกไปทำไมเหรอจ๊ะ" "เฮ้อ"เสียงถอนหายใจใหญ่ทำเอาคนเป็นห่วงถึงกับตกใจ ใบหน้าเรียวเงยไปมองรุ่นพี่สาวซึ่งนั่งอยู่ตรงหน้า ริมฝีปากเล็กแบะออกมาเหมือนกับเด็ก ๆ ทำเอากุ้งนางถึงกับตกใจรีบเดินอ้อมโต๊ะมาปลอบสาวน้อยซึ่งกำลังจะร้องไห้ "ฮือ พี่กุ้งนาง" "ลดาเป็นอะไร ใครทำอะไรไหนบอกพี่มา" "ฮือ ท่านประธานจะให้ลดาย้ายตำแหน่งไปเป็นผู้ช่วยเลขาให้ลูกชายของท่านที่จะเข้ามาบริหารงานในอีกสองอาทิตย์หน้า" "ฮะ ย้ายตำแหน่งไปเป็นผู้ช่วยเลขาให้กับคุณอิทธิพล"กุ้งนางถึงกับต้องยกมือขึ้นทาบอกเมื่อได้ยินข่าวดีจากปากของลดาเล่าออกมา ซึ่งในเวลาต่อมาลดาซึ่งกำลังนั่งร้องไห้อย่างไม่จริงจังจะต้องยกมือทั้งสองข้างขึ้นมาปิดหูของตัวเองเมื่อคนที่ยืนอยู่ด้านข้างกรีดร้องเสียจนดังลั่น "กรี๊ด"กุ้งนางเขย่าแขนทั้งสองข้างของลดาไปมาอย่างคนที่ดีใจ "ลดารู้ตัวไหมว่าลดาเป็นผู้หญิงที่โชคดีที่สุดในโลกเลยที่จะได้ใกล้ชิดกับคุณอิทธิพล คุณอิทธิพลน่ะ ทั้งหล่อ ทั้งรวย แถมนิสัยดีเป็นสุภาพบุรุษอีกต่างหาก โอ๊ย"ลดานั่งนิ่งเธอฟังเสียงหวีดร้องด้วยความดีใจของกุ้งนางถึงกับต้องส่งยิ้มแห้ง สิ่งที่พี่กุ้งนางพรรณนามานั้นไม่ได้วิ่งเข้าสู่สมองน้อย ๆ เลยสักนิดในตอนนี้ แต่กลับกัน สมองของเธอในตอนนี้กลับคิดถึงแต่แฟนหนุ่ม ถ้าหากเขารู้ว่าเธอต้องย้ายตำแหน่งซึ่งต้องไปใกล้ชิดกับผู้ชายคนอื่นเขาจะต้องไม่พอใจเอาแน่ ๆ 'เธอจะทำยังไงต่อไปดี ลดา'
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD