ตอนที่ 4 สอนหนูหน่อย

1702 Words
กานดาเดินไปเดินมารอบโรงอาหารของคณะวิศวฯ พร้อมกับสอดส่ายสายตามองหาใครบางคน จนเธอหันไปเห็นแผนกับครามนั่งอยู่ที่โต๊ะริมสุด ไม่รอช้า สองเท้ารีบก้าวเดินเข้าไปหาเข้าทันที “พี่แผน อยู่นี่เอง” เธอพูดขึ้นพร้อมกับวางหนังสือหลายเล่มลงบนโต๊ะ แล้วตัวเองก็นั่งลงบนม้านั่งฝั่งตรงข้ามแผนกับคราม “มีอะไร นี่คงไม่ได้จะบอกให้เลี้ยงข้าวหรอกนะ” แผนที่กำลังคีบเส้นก๋วยเตี๋ยวเข้าปากเอ่ยถาม แล้วก็กินต่อทั้งที่ไม่มองหน้าเธอ “ช่วยสอนการบ้านหนูหน่อย มีแต่ยาก ๆ ทำไม่ถูก” กานดาเอ่ยบอกธุระของเธออย่างไม่ปิดบัง จากที่กำลังกิน เขาต้องวางตะเกียบลงบนถ้วยแล้วเงยหน้าขึ้นมามองหลานรหัสที่ช่วงนี้ชอบหาเรื่องมาให้ทำอยู่เรื่อย “ทำไมไม่ไปบอกไอ้บอยให้สอน มันเพิ่งขึ้นปีสอง น่าจะจำวิชาของปีหนึ่งได้ดีกว่าพวกพี่นะ” แผนถามด้วยความแปลกใจ ไม่ใช่ว่าไม่อยากสอน แต่พออยู่ใกล้ ๆ เธอทีไรก็ทำเอาใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ขนาดเป็นคนที่ฝึกทำสมาธิมาตั้งแต่เด็ก ยังจิตใจร้อนรุ่มได้ง่าย ๆ “ไปแล้ว พี่บอยบอกว่าไม่ถนัดเคมีเท่าไหร่ ตอนเรียนก็ได้ D พี่บอยเลยให้หนูมาถามพี่กับพี่ครามแทน” ได้ยินแบบนั้น ครามก็รีบยกมือส่ายไปมาเพื่อปฏิเสธทันที “พี่ก็ไม่ถนัดเคมี ให้ไอ้แผนมันสอนเหอะ มันเรียนเก่ง” สุดท้าย เพื่อนก็โบ้ยมาให้เขาจนได้ ก็ไม่เถียงหรอกนะว่าเรียนเก่ง ขนาดที่ว่าได้ A เกือบทุกวิชา แต่เข้าใจหรือเปล่าว่าไม่อยากอยู่ใกล้ยัยตัวเล็กนี้เลย “ไม่เอา พี่ไม่ว่างสอน” แผนปฏิเสธออกไปทันทีเช่นกัน ทำให้คนที่กำลังยิ้มอย่างมีความหวังหุบยิ้มแทบไม่ทัน “อะไรอะ ทั้งพี่รหัส ทั้งลุงรหัส ไม่เห็นช่วยหนูสักคน แล้วจะมีไปทำไม ขอเปลี่ยนสายรหัสดีกว่ามั้งเนี่ย” กานดาบ่นขึ้นพร้อมใบหน้าหงิกงอ สองแขนกอดอกมองหน้าลุงรหัสไม่ละสายตา “น้องดามีปัญหาเรื่องเรียนเหรอครับ ให้พี่ช่วยมั้ย พี่ก็เรียนพอใช้ได้นะ” ขณะที่เธอกำลังงอนผู้ชายตรงหน้า ก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นจากทางด้านหลัง “พี่กร พี่พูดจริงหรือเปล่าคะ” เมื่อหันไปเห็นว่าเป็นภากร เธอก็รีบถามทันที ตอนไปเข้าค่ายก็ได้คุยกันบ้าง เขาเป็นคนพูดจาดี ไม่เห็นจะเลวร้ายอย่างที่ผู้ชายใจดำตรงหน้าเคยบอกเอาไว้เลย “จริงสิ ถ้าน้องดาอยากให้พี่สอนนะ” “อยากสิคะ ถ้าอย่างนั้นพี่กรสอนหนูหน่อยนะ” กานดารีบตอบรับน้ำใจของเขาทันทีอย่างไม่ต้องคิดนาน มีคนมาเสนอตัวช่วย ทำไมจะต้องปฏิเสธให้มากความ “ถ้าอย่างนั้น เราไปนั่งที่ม้าหินอ่อนใต้ต้นไม้ตรงนู้นดีกว่า อยู่ในโรงอาหารคงสอนไม่ถนัด” ภากรเอ่ยบอกแล้วชี้มือไปยังต้นไม้หน้าอาคารที่แดดร่มกำลังดี “ดีเลยค่ะ งั้นไปตอนนี้เลย” ร่างเล็กรีบลุกจากม้านั่ง แล้วเดินนำหน้าภากรไปยังโต๊ะหินอ่อนที่ว่าทันที ทำเอาแผนที่กำลังจะเอ่ยปากห้ามไม่ทันได้พูดอะไร เธอก็เดินไปไกลแล้ว “หลานรหัสมึง กูขอนะ” แต่ก่อนที่ภากรจะเดินออกไป เขาก็หันมาพูดกับแผนด้วยเสียงไม่ดังมากนัก พร้อมกับยักคิ้วให้อย่างเป็นต่อ และแน่นอนว่ากานดาไม่ได้ยิน “ไอ้เหี้ยกร” แผนพูดขึ้น แต่อีกฝ่ายก็ไม่ได้สนใจและรีบเดินตามหญิงสาวตัวเล็กไปนั่งยังโต๊ะม้าหินอ่อนใต้ต้นไม้ “ไอ้แผน มึงจะให้น้องสนิทกับไอ้กรจริง ๆ เหรอวะ” ครามถามขึ้น ภากรเป็นอย่างไรเด็กเก่าในคณะต่างก็รู้ดี มีผู้หญิงกี่คนแล้วที่ต้องร้องไห้เพราะมัน บางคนถึงกับต้องดรอปเรียน หรือซิ่วไปเรียนที่อื่นก็มี “ใครจะยอมให้มันได้ไอ้เด็กเตี้ยวะ” แผนพูดขึ้น สองมือกำเข้าหากันเหมือนกับว่ากำลังโกรธ ไม่รอช้าไปมากกว่านี้ เขารีบลุกขึ้นแล้วเดินไปยังที่กานดานั่งอยู่ “ลุกขึ้น” เสียงเข้ม ๆ ออกคำสั่งกับหลานรหัสตัวเอง ดวงตากลมโตช้อนขึ้นมามอง แต่ก็แค่แป๊บเดียวแล้วหันไปสนใจภากรต่อ “ดา ลุกขึ้น เดี๋ยวพี่สอนเอง” “เมื่อกี้ยังบอกไม่ว่าง” “ตอนนี้ว่างแล้ว” กานดายังนั่งอยู่ที่เดิมไม่ขยับไปไหน ทำเหมือนไม่ได้ยินในสิ่งที่เขากำลังบอกเธอ แล้วหันไปยิ้มให้กับผู้ชายอีกคนที่กำลังตั้งหน้าตั้งตาสอนการบ้านให้เธออยู่ “พี่บอกให้ลุกขึ้น เป็นหลานรหัสพี่จะไปให้คนอื่นสอนทำไม” คราวนี้แผนปิดหนังสือของเธอ พร้อมกับดึงข้อมือเล็กให้ลุกขึ้น “ไอ้แผน กูกำลังสอนน้องอยู่ มึงยุ่งอะไรด้วย” ภากรเองก็ลุกขึ้นยืนพร้อมกับทำสีหน้าไม่พอใจ “มึงอย่าเสือกกับหลานรหัสกูอีก ถือว่ากูเตือนมึงแล้วนะ” แผนพูดด้วยน้ำเสียงโทนต่ำจริงจัง ที่เขาไม่ถูกชะตาภากร ไม่ใช่แค่เพราะมันเป็นเสือผู้หญิง แต่เขาสัมผัสได้ถึงอะไรบางอย่างที่อยู่ในตัวมันต่างหาก เหมือนมีสิ่งไม่ดีวนเวียนอยู่ใกล้ ๆ ตลอดเวลา ///// “พี่แผน เป็นอะไรเนี่ย ตอนที่หนูขอให้สอนก็บอกไม่ว่าง พอเห็นพี่กรมาสอนให้ก็อยากจะสอนหนูขึ้นมาซะงั้น” กานดาถามขึ้น เมื่อเขาลากเธอมาจนถึงโต๊ะหินอ่อนด้านหลังอาคาร “ก็อยากให้พี่สอน พี่ก็จะสอนให้ไง แต่ห้ามไปยุ่งกับไอ้กรอีก เข้าใจหรือเปล่า” เขาเอ่ยบอกเธอด้วยสีหน้าจริงจัง กานดาหรี่ตามองคนตรงหน้าอย่างจับผิด “หวงหนูเหรอ” เสียงเล็กพูดขึ้น พร้อมทำหน้ายียวนยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ “หวงอะไร ก็เห็นเป็นหลานรหัส จะให้ไปรบกวนคนอื่น เดี๋ยวพวกนั้นจะว่าเอาได้” ที่พูดมาก็เป็นความจริงส่วนหนึ่ง ที่มีการจัดสายรหัส ก็เพื่อให้รุ่นพี่รุ่นน้องที่อยู่สายเดียวกันได้คอยช่วยเหลือในเรื่องการเรียน แต่อีกส่วนหนึ่ง ก็หวงอย่างที่ยัยเตี้ยว่าจริง ๆ “โอเค ๆ ไม่หวงก็ไม่หวง งั้นจะเริ่มสอนการบ้านให้หนูได้ยัง” “อืม บอกมาว่าอยากจะให้สอนตรงไหน” กานดานั่งลงบนม้านั่ง เขาเองก็นั่งลงข้าง ๆ เธอ นิ้วเรียวเล็กพลิกหน้าหนังสือให้ดูในส่วนที่ไม่เข้าใจ ปากบางสีชมพูเอ่ยถามข้อนั้นข้อนี้ไม่หยุด ทำเอาคนที่มองเธออยู่เผลอยิ้มออกมาตั้งไม่รู้กี่ครั้ง “พี่แผน ๆ หนูถามอะไรอย่างสิ” จู่ ๆ ดวงตากลมโตก็ละจากหนังสือแล้วหันมามองหน้าเขาแทน “อยากรู้อะไรอีก” “ลูกชายพี่กี่ขวบแล้วอะ” สองมือเท้าคางตัวเอง ข้อศอกสองข้างวางลงบนโต๊ะ มองหน้าชายหนุ่มแล้วรอฟังคำตอบ “อยากรู้ไปทำไม” จะให้ตอบยังไง เจ้าเพชรอายุกี่ร้อยปีแล้วก็ไม่รู้ ขืนบอกไปตามความจริงมีหวังตกใจตายพอดี “เปล่า หนูแค่อยากรู้ ว่าแต่แม่ของลูกพี่ไปไหนเหรอ” ไม่ใช่ว่าอยากจะสอดรู้สอดเห็น แต่อยากทำความรู้จักเขาให้มากขึ้น จะได้พิจารณาว่าสมควรรุกต่อหรือหยุดดี “ไม่รู้สิ” แผนตอบออกไปอ้อม ๆ ใครมันจะไปรู้ว่าแม่เจ้าเพชรเป็นใคร อยู่ดี ๆ ก็โผล่มาให้เลี้ยงดูจนถึงทุกวันนี้ “แล้วพี่อยากหาแม่ใหม่ให้ลูกมั้ย” “ฮะ!!” จู่ ๆ ก็ถามออกมา เป็นใครจะไม่ตกใจ “ถามไปทำไม” “ก็ถ้าพี่อยากหาแม่ให้ลูก หนูจะได้สมัครไง” กานดาพูดออกมาพร้อมฉีกยิ้มกว้าง แต่คนที่ฟังอยู่ตอนนี้สิ เหมือนกับวิญญาณหลุดออกจากร่างไปแล้ว อยู่ดี ๆ ก็โดนเด็กรุ่นน้องรุกหนัก “เราอยู่กับเจ้าเพชรไม่ได้หรอก” พูดจากประสบการณ์ล้วน ๆ ผู้หญิงกี่คนแล้วที่บอกแบบนี้ มีความสัมพันธ์กันไปถึงไหนต่อไหน พอได้รู้จักเจ้าเพชรก็วิ่งป่าราบทุกราย แต่ก็พอเข้าใจได้ ใครบ้างที่จะไม่กลัวผี “พี่รู้ได้ไงอะ หนูชอบเด็กมากนัก น่าจะเข้ากับลูกพี่ได้” กานดายังไม่ลดละ เธอเป็นคนตรงไปตรงมา แต่ไหนแต่ไรก็เป็นแบบนี้ ที่ผ่านมาไม่เคยมีแฟนก็จริง แต่ก็พอรู้ว่าตัวเองรู้สึกยังไงกับรุ่นพี่ตรงหน้า “เอาไว้ได้เจอก่อนค่อยพูด” “พี่จะพาหนูไปเจอลูกพี่เหรอ” “อืม ถ้ามีโอกาส” ปกติเขาจะให้เจ้าเด็กผมจุกอยู่แต่ในรูปปั้นมากกว่า ไม่อยากให้ออกไปไหนมาไหน เพราะกลัวจะไปทำให้ใครตกใจขวัญหาย ลำบากต้องไปทำพิธีเรียกขวัญให้อีก และที่สำคัญ แผนไม่อยากให้ใครรู้มากนักว่าตัวเองเป็นคนมีวิชาอาคม เพราะคนอยากลองของมันก็มีมากเช่นกัน “พี่พูดแล้วนะ ถ้ามีโอกาสจะให้หนูเจอลูกพี่” “อืม อย่าวิ่งแล้วกัน” คำตอบของแผนทำเอากานดาสงสัย แต่เธอก็ไม่ได้คิดมาก เพราะคิดว่าลูกชายของเขาอาจจะดื้อ กลัวว่าเธอจะรับมือไม่ไหวจนวิ่งหนี แต่กานดาเสียอย่าง เป้าหมายมีไว้พุ่งชนเท่านั้น ต่อให้ดื้อขนาดไหนก็จะทำให้เป็นเด็กดีให้ได้เลยคอยดู อยากได้พ่อ มันก็ต้องเข้าทางลูกนี่แหละ รับรองปัง! ///////////////////////////////////////////////////////
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD