เวลาผ่านไป
ก๊อกๆๆๆ
"คุณพ่อขาทำอะไรอยู่คะ" น้องเฌอเปิดประตูแล้วเดินเข้าไปในห้องทำงานของผู้เป็นพ่อ
"ว่าไงคะลูกสาวพ่อ" ชานนท์ทักทายลูกสาวด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน พร้อมๆ กันเขาเองก็รีบวางปากกาลง
"คุณพ่อทำงานเสร็จหรือยังคะ"
"ยังเลยค่ะน้องเฌอมีอะไรหรือเปล่าคะ"
"น้องเฌออยากไปเที่ยวห้างจังเลยค่ะ"
"หืม...อยากไปเที่ยวห้างอย่างนั้นหรอคะ?"
"ค่ะ"
"ได้สิคะงั้นน้องเฌอไปแต่งตัวกับคุณแม่ก่อนนะคะ พ่อขอเวลาสิบห้านาที น้องเฌอก็น่าจะแต่งตัวเสร็จพอดีแหละ เดี๋ยวเราออกไปห้างด้วยกัน"
"ค่ะ"
เด็กน้อยเดินกลับออกไป ก่อนจะเข้าไปหาพะพิมที่กำลังเก็บเสื้อผ้าของตัวเองพับใส่ตู้เอาไว้อยู่
"คุณแม่ขา คุณพ่อบอกว่าให้เราแต่งตัวค่ะ คุณพ่อขอเวลาทำงานสิบห้านาที เราสองคนก็น่าจะแต่งตัวเสร็จกันพอดี แล้วออกไปเที่ยวห้างด้วยกันค่ะ"
"มาค่ะ มาแต่งตัวกันนะคะ"
พะพิมพาน้องเฌอไปแต่งตัวส่วนเธอเองก็ไม่ได้แต่งตัวอะไรเพราะไม่ใช่คนที่จะแต่งตัวอะไรมากมายอยู่แล้ว เธอเป็นคนง่ายๆ ไม่ติดหรูตามสไตล์ผู้หญิงบ้านๆ ที่ไม่ได้ร่ำรวยอะไร
ผ่านไปสักพัก
"เสร็จกันแล้วหรอ"
"เรียบร้อยแล้วค่ะ"
"คุณพ่อขา คุณพ่อซื้อชุดสวยๆ ให้คุณแม่หน่อยนะคะ คุณแม่ไม่มีชุดสวยใส่เลย"
"เอ่อ..." พะพิมก้มมองเสื้อผ้าที่เธอสวมใส่อยู่อันที่จริงมันก็ไม่ได้เก่าหรือไม่ได้สวยอะไร เพียงแต่สไตล์การแต่งตัวของเธอมันไม่ได้หรูหราหวือหวาก็เท่านั้นเอง
"อ๋อ ได้สิคะ ฟอด...วันนี้คนเก่งของพ่อน่ารักจัง"
"คุณแม่แต่งตัวให้ค่ะแล้วคุณแม่ก็ถักเปียให้ด้วย"
"ถ้างั้นเราก็ไปกันเถอะค่ะ"
"อ๊ะ! เดี๋ยวก่อนค่ะคุณพ่อ"
"หืม มีอะไรหรือเปล่าคะ"
"คุณพ่อหอมแก้มคุณแม่หน่อยสิคะ"
"...."
"นะ น้องเฌอคะแม่ว่ารีบไปกันดีกว่านะ"
"นะคะคุณพ่อ เมื่อกี้คุณพ่อยังหอมแก้มน้องเฌอได้เลย น้องเฌอก็อยากให้คุณพ่อหอมแก้มคุณแม่บ้าง"
ชานนท์มีสีหน้าที่ดูตกใจแต่แล้วเขาก็ไม่สามารถขัดความต้องการของลูกสาวได้ในเมื่อน้องเฌอร้องขอมาขนาดนี้แล้ว
"คะ คุณฉันว่าเราไม่ต้องทำตามก็ได้นะ คือว่าฉันฉันคิดว่า..."
"อยากให้น้องเฌอโกรธผมหรือไง?"
"แต่ฉันไม่..."
ฟอด!
"อ๊ะ..."
"เย้ๆๆๆ คุณพ่อหอมแก้มคุณแม่แล้ว น่ารักมากๆ เลยค่ะ"
"ไปกันเถอะค่ะเดี๋ยวขนมที่น้องเฌอชอบกินจะหมดก่อนนะคะ"
"ค่ะ"
พะพิมตกใจจนทำตัวไม่ถูก ใจนึงก็รู้สึกเขินที่จู่ๆ ก็ถูกผู้ชายหอมแก้มแบบนั้น เขาทำแบบนี้เพียงเพราะทำตามความต้องการของลูกสาวอย่างนั้นเหรอ แต่เขานิ่งราวกับว่าเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นก่อนหน้านี้ หรือว่าเรื่องแบบนี้มันเป็นเรื่องปกติสำหรับเขาอยู่แล้ว การหอมแก้มผู้หญิงแบบนี้มันเป็นเรื่องปกติสำหรับเขางั้นเหรอ เพราะเขาดูไม่มีท่าที่ตกใจหรือตื่นเต้นเหมือนกับเธอเลย
ต่างจากน้องเฌอที่ดูมีความสุขที่ได้เห็นพ่อกับแม่แสดงความรักต่อหน้ากันแบบนี้ แต่ความคิดของแกก็ไม่แปลกหรอกและมันก็ไม่ผิดด้วยน้องเฌอแกมีสิทธิ์ที่จะคิด แกยังเด็กอยู่
ห้างใหญ่ในตัวเมือง
"น้องเฌออยากกินอะไรบ้างคะ"
"อยากกินขนมร้านเดิมค่ะ แล้วก็อยากไปเล่นของเล่นด้วย"
"ใครบอกคะ?"
"คุณแม่บอกค่ะ"
"...." ชานนท์หันไปมองพะพิมด้วยสีหน้าที่เรียบนิ่ง ทว่าภายใต้สีหน้าที่เรียบนิ่งนั้นกลับซุกซ่อนอะไรบางอย่างเอาไว้ เขามีบางอย่างที่จะพูดกับเธอเพียงแต่เขาไม่ได้พูดออกมาตอนนี้เพราะมีน้องเฌออยู่ด้วย
เวลาผ่านไป
เพราะไม่สามารถทนความรบเร้าของน้องเฌอได้ ชานนท์ก็เลยต้องยอมปล่อยลูกสาวให้ไปเล่นอยู่ที่เครื่องเล่น
"คุณเป็นคนบอกแกหรอว่าที่ห้างมีของเล่นด้วย"
"ค่ะ ฉันคิดว่าน้องเฌอน่าจะเหงาปล่อยให้แกได้มาเล่นอยู่กับเพื่อนๆ แบบนี้บ้างก็ได้ค่ะ คุณอย่าไปเลี้ยงแกอยู่ในกรอบมากนัก ฉันขอโทษนะคะที่ต้องพูดแบบนี้ ฉันเองก็ดูแลน้องๆ ดูแลเด็กมาเยอะอะไรที่พอจะแนะนำได้ฉันก็อยากจะแนะนำค่ะ แกจะได้ไม่ต้องรู้สึกอึดอัดเวลาอยู่กับคุณ"
"ที่ผ่านมาผมคอยดูแลน้องเฌอเป็นอย่างดี ผมไม่รู้ว่าต้องเลี้ยงแกแบบไหนถึงจะเรียกว่าดีที่สุด แต่ผมก็ทำเท่าที่คนเป็นพ่อคนนึงจะทำได้"
"ฉันเข้าใจคุณค่ะ น้องเฌอแกเป็นเด็กน่ารักนะคะ แถมยังเชื่อฟังคำพูดของผู้ใหญ่อีกต่างหาก"
"ครับ แกเป็นเด็กที่น่ารักครับ"
"คุณไม่ต้องกังวลไปหรอกค่ะคุณเลี้ยงน้องเฌอได้ดีมากๆ แล้ว ฉันแค่อยากให้คุณลองปล่อยแกบ้างให้แกได้เรียนรู้โลกภายนอก ปล่อยให้แกได้เล่นกับเพื่อนปล่อยให้แกมีความสนุกอยู่กับเพื่อนๆ"
"...."
"ถ้าคุณไม่รังเกียจ ฉันก็อยากให้คุณพาน้องเฌอไปเล่นอยู่ที่มูลนิธิ ที่นั่นจะมีกิจกรรมทุกๆ วันให้เด็กๆ ได้ทำได้เล่นสนุก"
"คุณเป็นเจ้าของที่นั่นใช่หรือเปล่า"
"จะว่าแบบนั้นก็ได้ค่ะ ฉันก็เป็นเด็กที่เติบโตมากับสถานเลี้ยงเด็กกำพร้านั้นเหมือนกัน พอโตมาเรียนจบฉันก็ไม่อยากไปไหนฉันอยากอยู่กับแม่อยากอยู่ช่วยดูแลน้องๆ จะบอกว่าฉันเป็นเจ้าของที่นั่นก็ไม่เชิงหรอกค่ะ เพราะฉันก็รับหน้าที่ดูแลต่อจากแม่เหมือนกัน"
"ได้สิ...ผมจะพาน้องเฌอไปเล่นกับน้องๆ ของคุณ"
"....."
"อย่าไปคิดว่าผมจะรังเกียจเด็กๆ พวกนั้นเลยครับ พวกแกน่าสงสารจะตายไป"
"....."
"ขอโทษนะครับที่ก่อนหน้านี้เคยพูดจาไม่ดีกับคุณ อาจจะทำให้คุณคิดว่าผมไปดูถูกคุณเพียงเพราะเงิน"
"ฉันไม่ได้คิดแบบนั้นหรอกค่ะ ฉันรับงานนี้ก็เพราะเงินจริงๆ แต่ฉันเองก็เอ็นดูน้องเฌอนะคะ"
"ถ้ามีอะไรที่ผมพอจะช่วยเหลือน้องๆ ของคุณได้ คุณก็บอกผมมาได้หมดเลยนะครับ"
"ฉันไม่ต้องการอะไรแล้วล่ะค่ะ ที่คุณให้มามันก็มากโขแล้ว ฉันไม่ได้ต้องการอะไรแบบนั้นหรอก สิ่งที่ฉันต้องการคือให้น้องๆได้กินอิ่มนอนหลับ ได้เรียนตามช่วงอายุตามวัยของตัวเอง"
"คุณนี่เสียสละมากๆ เลยนะครับ ถ้าพวกน้องๆ ที่นั่นรู้คงจะดีใจมากแน่ๆ"
"ฉันเองก็เติบโตมากับที่นั่นฉันเข้าใจความรู้สึกของพวกแกดีค่ะ"
"....."
"ฉันขอโทษนะคะ"
"ขอโทษอะไรครับ?"
"ตอนแรกฉันคิดว่าคุณเป็นคนเงียบๆ อาจจะพูดจาห้วนๆ ด้วยซ้ำ แต่พอได้มายืนคุยกับคุณแบบนี้แล้วมันทำให้ฉันรู้ว่าสิ่งที่ฉันคิดมาตลอดมันผิดหมดเลย"
"ช่างมันเถอะครับ คนที่ไม่รู้จักผมจริงๆ จะคิดแบบนี้ก็ไม่แปลก"
"ค่ะ"