ตอนที่1ข้อเสนอ 2

1358 Words
น้ำอิงตื่นเต้นดีใจจนแทบจะอดทนรอถึงวันที่แผลหายดีไม่ไหว เมื่อเห็นว่าอาการปาดมันทุเลาลงจนไม่ต้องเดินทางไปล้างแผลที่โรงพยาบาล หญิงสาวจึงใช้แค่ปลาสเตอร์ติดแทน จากนั้นจึงรีบโทรนัดหมายกับอภิวัฒน์ก่อนจะเดินทางไปหาเขาที่บริษัทตามวันและเวลาที่ตกลงไว้ “ดิ อาร์เจเค คอร์ปเปอร์เรชั่น” ดวงตาคู่สวยเหลือบมองขึ้นไปยังตึกสูงตระหง่านเบื้องหน้า อ่านชื่อบริษัทอีกครั้งเพื่อให้แน่ใจว่าเธอไม่ได้มาผิดที่ เมื่อบอกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยว่าเธอเข้ามาพบอภิวัฒน์ อีกฝ่ายก็รีบประสานงานให้คนพาเธอขึ้นมาบนตึกอย่างกระตือรือร้น นั่งรอเพียงไม่นาน เลขานุการหน้าห้องก็พาเธอไปพบกับชายสูงวัยที่เธอเคยเห็นเมื่อหลายวันก่อน “สวัสดีค่ะ” น้ำอิงกระพุ่มมือไหว้ด้วยความประหม่าเพราะป้ายชื่อที่วางอยู่เบื้องหน้า บอกให้เธอรู้ว่าเขาคือประธานบริษัทแห่งนี้ “หนูชื่อน้ำอิงใช่ไหม” อีกฝ่ายผายมือให้เธอนั่งด้วยท่าทางใจเย็น รอยยิ้มที่เปี่ยมไปด้วยความเมตตา ทำให้เธอคลายความกังวลเล็กน้อย "นั่งก่อนสิ" “ใช่ค่ะ หนูชื่อน้ำอิง กิจจารักษ์ค่ะ” เธอก้มหน้าตอบก่อนที่เขาจะยื่นซองสีน้ำตาลส่งมาให้เธอ “พ่อของหนูคงบอกรายละเอียดของงานไปบ้างแล้วและนี่ก็คือรายละเอียดทั้งหมดที่ฉันเตรียมไว้ให้” “เอ่อ...ค่ะ” น้ำอิงพยักหน้าเล็กน้อย เลื่อนมือไปหยิบเอกสารตรงหน้าขึ้นมาเปิดอ่าน เพียงแค่เห็นรูปถ่ายที่โชว์หราอยู่หน้าแรกเธอก็ขมวดคิ้วทันทีด้วยความสงสัย “นี่...ใครเหรอคะ” “ลูกชายฉันเอง...เขาชื่อ ออสติน อคิน โรจนกิจสุวรรณ” “ไหนพ่อบอกว่าเด็กสิบเอ็ดขวบไง” น้ำอิงบ่นพึมพำเพราะก่อนหน้านี้ ธีระบอกว่าลูกชายของอภิวัฒน์อายุแค่สิบเอ็ดขวบ แต่ทำไมถึงได้โตเป็นหนุ่มขนาดนี้แล้วล่ะ “พ่อหนูคงจะฟังผิดไป ลูกชายฉันยี่สิบเอ็ดย่างยี่สิบสองแล้ว” อภิวัฒน์หลุดขำออกมาเล็กน้อยพอเห็นว่าหญิงสาวเกาหัวแกรกด้วยความตกใจ “ถ้าอายุสิบเอ็ดขวบ ฉันคงไม่ต้องพึ่งหนูหรอก” “ค่ะ” น้ำอิงพยักหน้าตอบ ก่อนจะเอ่ยถามถึงสิ่งที่เธออยากรู้ “แล้วทำไม...คุณถึงต้องให้หนู...เอ่อ...ช่วยดูแลล่ะคะ” หญิงสาวพยายามใช้คำที่ฟังดูรื่นหูที่สุด ถึงเป้าหมายจะอายุมากกว่าที่คิด แต่ข้อเสนอของเขาก็น่าสนใจ เธอจึงไม่อยากพลาดงานนี้ไปตั้งแต่ยังไม่ทันเริ่ม “เราสองคนพ่อลูก ไม่ค่อยลงรอยกันเท่าไหร่น่ะ เพราะออสตินเขาเข้าใจว่าฉันเป็นต้นเหตุทำให้แม่เขาตาย” “เอาแล้วไงไอ้น้ำ เจองานยากเข้าแล้วสิ” คราวนี้น้ำอิงได้แต่ครุ่นคิดอยู่ภายในใจเพราะกลัวว่าอีกฝ่ายจะได้ยินเธอบ่นเหมือนเมื่อครู่นี้อีก “เขาเลยประท้วงฉันด้วยการปิดประตู กั้นกำแพงไม่ให้ฉันเข้าไปหาเขา ไม่ยอมเรียนต่อ ทำตัวสุดโต่ง ผลาญมรดกที่แม่เขาทิ้งไว้ให้ ใช้ชีวิตแบบไม่มีอนาคต...” อภิวัฒน์เล่าต่อด้วยสีหน้าเรียบเฉย เหมือนรู้สึกปลงในชีวิต “แต่ฉันมีเขาเป็นลูกชายแค่คนเดียว ฉันยังอยากให้เขาเห็นฉันเป็นพ่อสักครั้ง เพราะถึงยังไงเขาก็ต้องมารับช่วงดูแลบริษัทต่อจากฉัน” “...” “ฉันอยากให้หนูดูแลเขาแทนฉันหน่อย อยากให้เขาเรียนต่อ จะได้กลับมาช่วยฉันบริหารงานที่นี่” “แล้วหนูต้องทำยังไงบ้างคะ” หญิงสาวเอ่ยถามด้วยความกังวลอย่างเห็นได้ชัด “ออสตินเขาค่อนข้างจะมีโลกส่วนตัวสูง ไม่ให้ใครเข้ามายุ่งเรื่องส่วนตัวเลย หนูต้องใช้ความพยายามในการเข้าหาหน่อย อันดับแรก ฉันต้องการให้เขาเลิกเที่ยวผู้หญิงก่อน หลังจากนั้นฉันจะให้หนูช่วยติวให้เขา ได้ยินมาว่าหนูจบเกียรตินิยมจากมหาวิทยาลัยอันดับหนึ่งมาด้วยใช่ไหม” “เอ่อ...ใช่ค่ะ” น้ำอิงรับคำแบบไม่เต็มปากแต่อีกฝ่ายก็ยังคลี่ยิ้มด้วยความพอใจที่มองคนไม่ผิด “ฉันต้องการให้เขาสอบติดมหาวิทยาลัยที่ฉันต้องการให้ได้ เขายอมไปเรียนต่อเมื่อไหร่ก็ถือว่างานของหนูจบแล้วฉันจะจ่ายเงินงวดสุดท้ายให้...” อภิวัฒน์นิ่งเงียบไปชั่วอึดใจก่อนจะบอกตัวเลขที่ทำเอาคนฟังถึงกับตาโตขึ้นมาอีกครั้ง “สิบล้าน” “สิบล้านเลยเหรอคะ” “ใช่ เงินจำนวนนี้ยังไม่รวมเงินที่หนูได้รับทุกเดือน ค่ากิน ค่าอยู่ฟรี” “ค่าอยู่ฟรี...หมายความว่าหนูต้องไปอยู่ที่ไหนคะ” เธอถามกลับอีกครั้ง “ก็นอนที่บ้านออสตินเขานั่นแหละ เขาแยกตัวไปนอนที่บ้านของแมรี่ ภรรยาฉัน ตั้งแต่วันที่แมรี่เสียนั่นแหละ ฉันคงไปส่งหนูไม่ได้หรอกนะเพราะออสตินเขาไม่อยากเห็นหน้าฉัน แต่ไม่ต้องห่วงฉันจะให้คนประสานงานกับยายโสนให้ เธอเป็นแม่นมของออสตินเขาน่ะ แล้วก็เป็นคนเดียวที่เขาเชื่อฟังบ้าง...บางครั้ง” อภิวัฒน์เน้นย้ำประโยคหลังเป็นพิเศษจนรอยยิ้มของน้ำอิงค่อย ๆ หายไป “ดูเหมือนจะเป็นงานยากมากเลยนะคะ” “ถ้าเธอรับข้อเสนอของฉัน ฉันจะติดต่อโรงพยาบาลที่ดีที่สุดเพื่อส่งน้องชายเธอไปรักษาทันที” เขายื่นข้อเสนอให้อีกครั้งพร้อมกับสัญญาอีกหนึ่งฉบับส่งมาให้ “สัญญานี่ไม่ใช่เครื่องผูกมัดเพราะมันไม่จำกัดเวลา หนูจะทำสำเร็จเมื่อไหร่ฉันไม่สนใจ แต่ถ้าหนูเทกลางทาง หนูต้องหาเงินมาคืนฉันสองเท่าของเงินเดือนที่ฉันจ่ายไป” “นี่ขนาดไม่ผูกมัดนะคะ” น้ำอิงได้แต่ยิ้มเจื่อน ๆ พอเห็นสายตาที่อีกฝ่ายจ้องมองมา สมองของเธอกลับสั่งให้เลื่อนมือไปหยิบปากกาเซ็นชื่อลงไปทันทีราวกับต้องมนต์สะกด “เอาล่ะ ถือเป็นอันว่าเสร็จ” อภิวัฒน์ยิ้มอย่างพอใจ รับสัญญาฉบับนั้นไปแล้วส่งเช็คเงินสดมาให้เธอแทน “นี่เป็นเงินก้อนแรก หนูใช้ได้เลย เพราะนี่ถือเป็นสินน้ำใจที่หนูตอบตกลง ไม่ใช่ค่าจ้าง ไม่ต้องกังวลว่าต้องหามาคืน” “สองแสน!” ดวงตากลมโตเลิกกว้างทันทีที่เห็นตัวเลขหกหลักที่ถูกเขียนอยู่บนนั้น “รับไปสิ ส่วนเงินเดือนจะโอนให้หนูต่างหากทุก ๆ สิ้นเดือน” “ค่ะ” น้ำอิงเลื่อนมือที่ยังสั่นระริกไปรับเช็คใบนั้นมาตรวจดูตัวเลขอีกครั้ง ไม่คิดว่างานที่ว่าจะได้รับเงินเยอะมากมายขนาดนี้ทั้งที่ยังไม่ได้ทันได้เริ่มงาน “เอกสารนั่น หนูเก็บไว้นะ เพราะมันเป็นรายละเอียดทั้งหมดที่ฉันจำได้เกี่ยวกับตัวออสติน เผื่อว่าหนูต้องใช้” “ค่ะ” เป็นอีกครั้งที่เธอถูกอำนาจเงินครอบงำจนเผลอตกปากรับคำออกไป “งั้นหนูกลับไปเตรียมตัวเถอะ อีกสองวันฉันจะให้คนไปรับ” “ค่ะ...” หญิงสาวรับปากเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะกล่าวลาและนำเอกสารที่เขาให้มาถือติดมือลงไปชั้นล่าง ทรุดกายนั่งลงบนโซฟารับรองแขกแล้วหยิบรูปถ่ายของออสตินขึ้นมาอีกครั้ง ยิ่งเพ่งมองเธอก็ยิ่งรู้สึกคุ้นหน้าเขา จนเมื่อเปิดหน้าถัดไป เห็นรูปรถคู่ใจที่เขาขับ เธอก็ยิ่งมั่นใจว่าเขาคือคนเดียวกับที่ชนเธอแล้วชูนิ้วกลางใส่เมื่อหลายวันก่อน “นี่มัน...อีตาบ้านั่นนี่...แสบใช่เล่นเลยสินะ” น้ำอิงขบกรามแน่น ยิ่งเห็นแบบนี้เธอก็ยิ่งเห็นโอกาสในการแก้แค้น “หึ...ฉันนี่แหละจะทำให้ชีวิตเสเพลของนายจบลง จนนายต้องอกแตกตายเลยคอยดู!”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD