ตอนที่ 2

1345 Words
เธอกับเขาพบกันครั้งแรกในฐานะนักเรียนโรงเรียนสาธิตของมหาวิทยาลัย จึงได้สนิทสนมและคบหากันในฐานะเพื่อนตั้งแต่ชั้นประถมจนจบชั้นมัธยม กาลเวลาที่ผ่านไปนานถึงสิบสองปี ของคำว่าเพื่อนยังเหนียวแน่นเหมือนเดิม และไม่เคยเปลี่ยนแปลงจากคำนี้ เขากับทิชากรนั้นมันไม่มีอะไรนอกเหนือไปจากคำว่า เพื่อน ซึ่งเป็นมิตรภาพแท้ที่บริสุทธิ์ จากความรู้สึกของเพื่อนที่มีต่อกัน มันไม่มีความรู้สึกละเอียดอ่อนที่เรียกว่า ความรักหรือความใคร่เข้ามาปะปนเลย ถึงเวลานี้ชายหนุ่มก็ยังยืนยันเสียงเด็ดขาด ถ้าถามดูกับใจของตัวเองแล้ว ปางภูค่อนข้างเป็นหนุ่มหล่อที่เจ้า ้่งบริษัทซึ่ง่งหนุ่มหล่อเคยผ่านเสน่ห์วัยสามสิบสองปีของเขาเช่นนี้ เขาจะไม่คิดเรื่องแต่งานเลยหรือไร? เป็นไปไม่ได้ และคำตอบ คือ คิดและมีคำตอบว่าอยากจะแต่ง แต่ก็ต้องรอเวลาให้พร้อมและเหมาะสมก่อน อันที่จริงนั้นเขาเองก็มีแฟนสาวอยู่แล้ว เธอมีชื่อว่า เพิร์ล หรือภามิญา พำนักอยู่กับครอบครัวที่ ประเทศอเมริกา ระหว่างเขากับแฟนสาว ก็เป็นที่รับรู้ของทิชากรด้วย มือเรียวอวบของหญิงสาวใหญ่ผายมือเชื้อเชิญนักเขียนหนุ่มเพื่อนรักเข้าไปใน งียบ อ่านมานาน อ่านไปสักพักก้ห้องพิเศษ สำหรับใช้ต้อนรับอาคันตุกะคนพิเศษหรือบรรดาแขกเหรื่อลูกค้าที่เข้ามาติดต่องานในบริษัท หนุ่มหล่อกวาดตามองสำรวจเล็กน้อย ก่อนที่ร่างสูงจะทรุดกายลงนั่งบนพนักเบาะนั่งสีกำมะหยี่น้ำตาลแดง นั่งตัวตรงอดไม่ได้ที่จะชำเลืองสายตามองภาพวาด เป็นภาพที่ถูกแขวนไว้ในบนผนังห้อง และมีตู้โชว์เครื่องประดับจากต่างประเทศและปกของนิตยสารที่ผ่านมา รวมทั้งฉบับล่าสุดวางอยู่ในกระจกแก้วสี่เหลี่ยม และเบื้องหน้าจึงเป็นโต๊ะกระจกแก้วทรงกลม มีที่เขี่ยบุหรี่วางอยู่ด้วย เผอิญปางภูสูบบุหรี่เป็นบางครั้ง ไม่ถึงกับติดและเหล้าก็เช่นกัน เวลามางานสำคัญของเพื่อนสนิทอย่างนี้ และเมื่อตอนที่อยู่บ้าน เขาก็ไม่ค่อยชอบสูบบุหรี่ งานเขียนของเขาจะขับเค้นออกมาจากมันสมองลักษณะสบายๆ ไม่ต้องพึ่งพาสิ่งพวกนี้เข้าช่วย มันเป็นความเคยชินอีกนั่นแหละ ที่เขาจะให้คำตอบนี้ ทิชากรในฐานะหัวเรือใหญ่ของที่นี่แถมด้วยเพื่อนสนิทที่เป็นคนเอ่ยชักชวนมาในวันนี้ ซึ่งต้องมีเรื่องสำคัญที่เธอจะเอ่ยพูดและตระเตรียมเอาไว้แล้ว เพื่อนหนุ่มนักเขียนของเธอ เพิ่งเดินทางมาถึงอยากจะให้เขานั่งพักหายใจหายคอคล่องเสียก่อน ที่จะเริ่มเรื่องคุยกันเป็นงานเป็นการ สาวใหญ่เจ้าของสถานที่เอ่ยกล่าวกับเพื่อนสนิทด้วยน้ำเสียงที่เป็นกันเอง ไม่ได้เคร่งเหมือนใช้กับคนอื่น “เชิญ นั่งตามสบายไปก่อนนะ ป้าง เพิ่งมาถึงนี่ คงเพลีย และเหนื่อย ทานอะไรเย็นหรือเปล่า ที่นี่มีน้ำส้มคั้น บ๊วยหรือน้ำเปล่า” ถามเพื่อนเพราะเห็นว่า เขาคงนึกกระหายน้ำ ”ขอเป็นบ๊วยก็แล้วกัน นึกอยากทานพอดีเลย คงชุ่มคอแก้กระหาย” หนุ่มหล่อยังเอ่ยตอบเพื่อนสนิทด้วยน้ำเสียงที่เป็นปกติคือนุ่มใสของเขา “งั้น เธอรอสักครู่นะ ฉันจะไปบอกเด็กให้นำมาให้ ระหว่างที่อยู่รอฉันสักประมาณห้านาที คือ ฉันขอเข้าห้องน้ำน่ะ” ทิชากรสาวใหญ่บอกจุดประสงค์ของตัวเองที่เกิดขึ้นมาฉับพลัน หนุ่มหล่อเพื่อนสนิทจึงพยักหน้าให้เบา จากนั้นเปลี่ยนอิริยาบถของตัวเองด้วยการยกมือขึ้นกอดอกในลักษณะท่วงท่าสบาย เพื่อรอเพื่อนสนิทบ.ก.สาวใหญ่ของที่นี่ต่อไป ื่อนสนิทด้วยน้ำเสียงที่เป็นนระหว่างนั่งครุ่นคิดหนุ่มหล่อในฐานะนักเขียนเริ่มมีชื่อ ขมวดคิ้วเรียวหนาเป็นปื้นคงความเจ้าเสน่ห์ได้อย่างมากทีเดียว เพื่อนบางคนบอกว่าชอบขนคิ้วที่นอกจากเข้มดำสนิทยังพาดเฉียงคล้ายปีกนก ทำให้ส่วนหนึ่งของใบหน้านั้นปางภูแลดูสะดุดตาตรงนี้ วันนี้สิ่งที่เขาเตรียมมาให้เพื่อน คือไฟล์งานต้นฉบับ ซึ่งไม่ทราบว่าทิชากรจะมีความพึงพอใจแค่ไหน ซึ่งเขานั้นไม่สามารถจะบอกได้ ต้องรอคำตอบจากหล่อน เพราะดูเหมือนจะมีฐานะเขียนงานออกมาตามใบสั่งของเพื่อนไปแล้ว ส่วนใหญ่มักจะเป็นอย่างนี้ ทิชากรทั้งคะยั้นคะยอแกมขมขู่บังคับรวมทั้งให้กำลังใจใส่ไปด้วยว่า “เธอต้องทำได้นะ ฉันเชื่อว่าเธอต้องทำได้แน่ ป้างเพราะฉันเชื่อในฝีมือเธอ” นี่ไม่ใช่หรือที่เป็นกำลังใจตามติดมาจากน้ำคำที่เชื่อมั่นของเพื่อนทุกครั้ง จนทำให้เขามีวันนี้ สามารถสร้างโลกส่วนตัวของตัวเองที่เรียกว่านิยาย ให้เข้าไปอาศัยจมปลักอยู่กับจินตนาการ ที่มิรู้วันคืนมาอย่างยาวนาน ด้วยใจรักที่สัมผัสแล้วนอกจากซาบซึ้งดูดดื่ม ยังให้คำตอบว่ามันกล่อมใจให้มีความสุขไปอีกแบบหนึ่ง และไม่เคยสร้างปัญหาเดือดร้อนอะไรให้แก่เขา พิษภัยของมันไม่มีเลย หนุ่มหล่อตัดสินใจเอ่ยมาตรงๆ การสนทนาดำเนินไปเรื่อยระหว่างนั้นแม่บ้านในออฟฟิศประจำบริษัทก็ยกแก้วน้ำบ๊วยเย็น มาวางไว้ตรงหน้าชายหนุ่มแล้วก็ขอตัวเดินจากไป ปางภูชอบใช้ชีวิตอย่างราบเรียบ มีความสุขแบบปกติส่วนตัว ที่ไม่ชอบให้ใครวุ่นวายและเกี่ยวข้อง ถามว่าเขามีจินตนาการในโลกของความคิดสูงมั๊ย ต้องขอตอบว่าสูง นักเขียนเกือบทุกคนเป็นลักษณะเช่นนี้ ยิ่งเป็นงานที่ตัวเองรักชอบ นักเขียนชื่อดังบางคนถึงกับปิด ล็อกกลอนประตูในห้อง ทำงานโดยไม่ให้ใครมายุ่มย่ามรบกวน แม้จะเคาะประตูก็ควรให้เป็นเวลา รวมทั้งเวลาทานอาหาร หรือพักผ่อน ตั้งขึ้นมาเองเลยว่า สามารถถามหรือเข้าไปรบกวนในเวลาช่วงไหนได้ บางคนแทบไม่รับโทรศัพท์ เพราะจะนั่งขีดนั่งจับปากกาเขียนอยู่ในอารมณ์ส่วนตัว ยิ่งปางภู เป็นเช่นนั้นด้วยเหมือนกัน ถ้าเป็นงานเขียนที่ต้องสื่ออารมณ์อย่างละเมียดละไมเพื่อให้สมจริง การสร้างอารมณ์ของนักเขียนจึงมีส่วนสำคัญอย่างมาก เพราะด้วยสาเหตุนี้กระมัง การติดต่อจากคนภายนอกหรือแม้แต่ในแวดวงกลุ่มเพื่อนฝูงที่สนิทด้วย จึงค่อนข้างยาก บ.ก.สาวใหญ่พอรู้ว่าเพื่อนมีงานล้นมือ หล่อนเองก็มีงานล้นมือ แต่เธอเชื่อเสมอว่า ปางภูสามารถทำได้ เพราะเป็นคนที่มีความสามารถ มีความอดทนสูง ในหัวสมองมีความสร้างสรรค์ละเอียดอ่อนในการพิจารณา เท่าที่สังเกต และหล่อนอ่านจากเนื้องานด้วย ถึงกล้าเอ่ยออกมาได้เต็มปาก เธอมองผ่านทะลุเข้าไปในเนื้อตัวตนของเขาอย่างคาดเดาได้ทันที ทั้งที่เจ้าตัวเองก็ไม่ได้รับรู้ถึงขนาดนั้น บางทีปางภูคิดว่าเพื่อนสาวคนนี้ของเขามีเซ้นต์แบบพิเศษ ที่สามารถอ่านเดาใจคนออกได้อย่างทะลุปรุโปร่ง การสนทนาเมื่อถูกทิ้งเงียบไปสักพัก บ.ก.สาวใหญ่วัยเลขสามต้นๆก็เอ่ยคุยเรื่องสัพเพเหระ กระทั่งมาหยุดกึกที่เรื่องหนึ่ เรื่องนี้อาจจะเป็นเรื่องที่ค่อนข้างส่วนตัวเป็นอย่างมาก ประสาเพื่อนฝูงด้วยกันที่ห่วงใยรักใคร่กัน จึงเอ่ยถาม “แล้วแฟนของเธอ เป็นยังไงบ้างล่ะ ป้าง ยัยเพิร์ลที่อยู่อเมริกา” “เค้า ก็สุขสบายดีนะแซนดี้ ฉันไม่ห่วงหรอกนะ ยังไงเมื่อเขาตัดสินใจไปแบบนั้นแล้ว ทุกคนในครอบครัวของเขาอยู่ที่โน่นกันหมด แต่เราก็ยังโทร.ติดต่อ รวมทั้งอีเมล์ถึงกัน” ปางภูไม่อยาก เอ่ยมากกว่านี้
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD