รวย และจน ยังคงถูกใช้วัดคุณค่าของคนดังเช่นคนอีสานกับคนเมืองกรุง คนเมืองกรุงมักคิดว่าคนอีสานไร้การศึกษาแต่สำหรับฉัน จะจนหรือรวยมันก็ไม่ได้ต่างอะไรกันเท่าไรนักหรอกต่อให้คุณรวยล้นฟ้าตายไปก็เอาไปไม่ได้ แต่อย่างไรก็ตามเงินมักเป็นปัจจัยสำคัญในยุคนี้ แค่ก้าวขาออกจากบ้านก็หมดไปแล้ว ฉันถึงได้เดินทางออกมางานทำที่กรุงเทพกับป้าสอน แกเป็นเพื่อนบ้านกับแม่ ฉันรู้จักแกมาตั้งแต่เด็กแกเข้ามาทำงานอยู่ในกรุงเทพนี้เป็นสิบๆ ปีแต่งงานกับลุงศรีคนขับรถ ป้าสอนมาทำงานเป็นคนรับใช้ของมหาเศรษฐีครอบครัวหนึ่งคุณนายเจ้าของบ้านอยากได้สาวใช้มาอยู่ดูแลลูกชายหัวแก้วหัวแหวนป้าสอนเลยชวนฉันมาแนะนำให้คุณนายรู้จัก
"สวัสดีค่ะ...คุณนาย"
"ชื่อแจ๋วใช่ไหม"
"แม่นแล้วค่ะ..." คุณนายวิไลมองสำรวจแจ๋ว แจ๋วเป็นสาววัยสิบแปดตาโตถักเปียผิวสีแทน คุณนายถูกชะตาตั้งแรกเห็น
"สอนมีอะไรก็ไปทำก่อน...ฉันอยากจะคุยกับแจ๋วเป็นการส่วนตัว"
"ได้ค่ะ...คุณนาย"
หลังจากที่ป้าสอนออกไปได้ไม่นาน
"เธออายุเท่าไรแล้ว"
"18...ค่ะ" โอ๊ยเนอะ มันเป็นตาคือบ่เน้ออีพ่ออีแม่
"ทำไมไม่เรียนต่อ"
"คืองี้เนอะค่ะ...บ้านหนูนิค่าใช้จ่ายมันหลายคักถ้าจะเรียนต่อกะหลูโตนอีพ่ออีแม่เลยให้น้องชายมันเรียนต่อค่ะคุณนาย"แจ๋วยิ้ม
"แล้วทำอะไรเป็นบ้างเรา" น่าสงสารยังเด็กอยู่เลย
"โอ๊ย...เป็นหมดค่ะแต่ถ้าจะให้ถนัดกะของกินบ้านหนูนิล่ะคุณนาย"
"ดี....ฉันจะให้เธอเดือนละหมื่นห้า"
"ป๊าดดดด.....หมื่นห้าคุณนายบ่ได๋ตั๋วแม่นบ่ค่ะ" แจ๋วขยับไปกระซิบถามอีกครั้ง
"ฉันจะโกหกเธอทำไม...."
"ขอแค่เธอไม่ไปยั่วสวาทลูกชายฉัน"
"ว๊ายยย...คุณนายแจ๋วจะไปยั่วสวาทลูกชายคุณนายเฮ็ดหยั่งแจ๋วมีคนที่มักอยู่แล้วเด้อคะ" แม่นข่อยนี้มีคนมักคนอยู่แล้วถึงจะเป็นมักแบบผิดๆ แต่ข่อยกะมักหลายมันเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ข่อยหนีมาเฮ็ดงานอยู่กรุงเทพ
"เธอมีแฟนอยู่แล้วเหรอ"
"แม่นแล้วค่ะ" แอบมักเพิ่นซื่อๆ ค่ะคุณนาย
"ดี...ฉันจะให้เธอเพิ่มอีกห้าพัน"
"ห่ะ" แจ๋วตะโกนตกใจรีบยกมือขึ้นปิดปากก่อนแล้วคำนวณเงินเดือน
"สองหมื่นเด้ค่ะคุณนาย...คุณนายจะจ้างแจ๋วเฮ็ดงานเดือนละสอนหมื่นอีหลีติค่ะ"
"ใช่...โดยมีข้อแม้ว่าเธอจะต้องมารายงานฉันว่าตาชายเขามีพฤติกรรมอะไรแปลกๆ กับผู้หญิงไหม"
"อีหยั่งแปลกๆ ...เว้ามานิคือให้จับตาเบิ่งลูกชายของคุณนายติค่ะ"
"ใช่"
"......" เอาแล้วข่อยว่าแล้วเป็นหยั่งคือได๋เงินเดือนหลาย ให้อภัยฮ่าๆ โอ๊ยข่อยมัก
"ตาชายมีนิสัยแปลกๆ เขาไม่มีอารมณ์อย่างว่ากับผู้หญิง" คุณนายวิไลบอกความจริงอย่างไม่คิดปิดบัง
"กะเทย...อีแอบแม่นคักๆ "
"จะบ้าเหรอลูกชายแมนทั้งแท่งยะ"
"เอ้า...แล้วคุณนายคือว่าเพิ่นบ่มีอารมณ์กับแม่หญิง" โอ๊ยข่อยกะงึดคือกันเด้อปาดนิ
"ก็ตอนนี้ตาชายอายุ29จะเข้า30อยู่แล้วฉันอยากอุ้มหลาน..."
"....." ที่แท้กะอยากได๋หลาน
"มีผู้หญิงนางแบบมายั่วเขาถึงบ้านแต่แจ๋วรู้ไหมว่าตาชายไม่มีความรู้สึกอะไรเลยเขายังนั่งนิ่งๆ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น"
"ลูกชายคุณนายมีมู่..เพื่อนผู้ชายบ่ค่ะ"
"มีๆ แต่เขามีเมียอยู่แล้ว..แล้วก็มีลูกสองแล้วด้วย"
"......" มู่ผู้ชายกะแต่งงานมีเมียไปแล้วมีลูกพร้อม แต่ว่าลูกคุณชายเพิ่นบ่มีอารมณ์กับแม่หญิงแล้วเพิ่นมีอารมณ์กับไผล่ะ โอ๊ยยยมันกะเป็นได้อย่างเดียวนั้นล่ะ บ่ผัวเขากะเมียเขานั้นล่ะคุณนายลูกชายเจ้านั้น
"ฉันอยากให้มารายงานฉัน"
"ได้ค่ะ..."
หลังจากนั้นคุณนายวิไลก็ได้พาแจ๋วมาเรือนไม้หลังเล็ก
"เรือนไม้...ตาชายชอบบรรยากาศธรรมชาติและชอบอยู่คนเดียวเพื่อให้สะดวกเธอจะต้องมาพักอยู่กับลูกชายฉัน"
"ฮ่วย...แม่นบ่ค่ะคุณนายแจ๋วยังสาวยังโสดเด้ค่ะ" วิไลถอนหายใจยาวเธอหันมาผลักหน้าผากแจ๋ว
"หน้าอย่างเธอตาชายไม่สนใจหรอกยะ...ยิ่งเป็นคนอีสานด้วยแล้วเขายิ่งไม่ชอบ"
"เอ้า...แล้วคุณนายจ้างแจ๋วมาหยั่งนิ"
"ก็เพราะว่าเธอดูไม่มีอะไรดึงดูดตาชายได้ฉันถึงจ้างเธอ....จบไหมถ้าจบก็เอาของไปเก็บแล้วขึ้นไปทำความสะอาดห้องตาชายด้วย"
"จบค่ะ..จบกะได๋" เฮาผู้ฮ้ายปาดนั้นติว่ะ นมเฮากะมีนำเพิ่นอยู่เด้ล่ะของแท้พร้อม
"รีบไปได้แล้ว"
"รับทราบค่ะ....แจ๋วจะดูแลคุณชายให้ดีที่สุดเลยค่ะ" โอ๊ยลูกคนกรุงดูแลทุกอย่างเฮ็ดหยั่งเองเป็นบ่น้อ
แจ๋วรีบวิ่งขึ้นไปทำความสะอาดห้องนอนคุณชายเธอเดินไปหยิบรูปถ่ายขึ้นมาดูเขาดูหล่อและเท่มีเสน่ห์
"หล่อคักหล่อหลาย.....แต่ข่อยนิโคตรเสียดายเลยเกิดมาบ่มีความรู้สึกกับเรื่องอย่างว่าคงสิทรมานคักพวกนกเขาบ่ขันโอ๊ยหลีโตน"
แจ๋วรีบปัดกวางทำความสะอาดห้องไปเรื่อยๆ ร่างบางก้มลงเก็บของข้างเตียง ทันใดนั้นเองชายหรือคุณชายเจ้าของห้องก็เดินเข้ามาเขาไม่เห็นแจ๋วเพราะก้มอยู่ ไม่มีใครรู้ว่าเขากลับเร็วกว่าทุกวันซ้ำยังไม่ได้ยินเสียงรถเพราะว่าวันนี้รถเขาเกิดเสียจึงได้ให้ช่างเอาไปซ่อม ส่วนเขาก็กลับมาก่อน ชายเดินไปอยู่หน้าตู้เสื้อผ้าเขากำลังจะอาบน้ำ มือหนาปลดกระดุมเสื้อออกแล้วโยนเสื้อไปด้านหลังรวมทั้งกางเกงเขาโยนมันทิ้งเหลือเพียงร่างกายอันเปลือยเปล่า ทั้งสองหยุดชะงัก ชายรู้สึกเหมือนในห้องมีใครอีกคนอยู่เขาจึงหันมามองข้างหลัง
แจ๋วหยิบกางเกงชั้นในสีน้ำเงินเข้มออกจากศีรษะ
"กรี๊ดดดด"
"เห้ย..." เขารีบใช้มือปิดท่อนร่างแล้วมองหาผ้าขนหนูมาพันรอบเอวปิดเอาไว้
"เธอเป็นใครเข้ามาในห้องฉันได้อย่างไง"
"กะหย่างเข้ามาละเนอะ" เธอปิดตาด้วยเองไม่ยอมมองเขา
ตายๆ เต็มตาข่อยเลย
"คนอีสานเหรอ...ถ้าเป็นคนอีสานคุณแม่ไม่ได้บอกหรือไงว่าให้พูดภาษากลางกับฉัน!" ผมตวาดใส่ผู้หญิงตรงหน้าเธอเอาแต่ก้มไม่ยอมมองที่ผม
"ออกไป" ผมชี้ไปที่ประตู
"ค่ะออกไปแล้วค่ะ" ป๊าดดดดุคัก ดุคือหมาอีแดงบักดำอยู่บ้านเลย
เพราะปิดตาอยู่เธอจึงเดินไปแตะถังน้ำหกจนมันลื่น
"ว๊าย...ลื่นๆ " มือเล็กคว้าผ้าเช็ดตัวของเขา
หมับ ผ้าเช็ดตัวหลุดแต่มือไม่หลุดมันกำลังจับบางสิ่งบางอย่างเอาไว้เต็มมือ
"อีหยั่งว่ะ...ใหญ่ๆ แข็งฮ่วยมันคือดะ...ดิ้น" ข่อยเงยหน้ามองคุณชายที่ตอนนี้เพิ่นเฮ็ดหยั่งบ่ถูกอีหยั่งที่ดิ้นข่อยเข้าใจแล้วเข้าใจตอนนี้เลย
"ปะ...ปล่อย" เขาบอกเสียงสั่น เธอยอมปล่อยมือ
"......" ขนาดบ่มีอารมณ์ยังใหญ่ขนาดนี้เลย แล้วถ้ามีอารมณ์อู๊ยแจ๋วบ่ยากคิด
ชายก้มลงหยิบผ้าขนหนูมาพันรอบเอวอีกครั้ง
"ไสหัวออกไปจากห้องฉันเดี๋ยวนี้! " ชายโมโหเขาเดินหนี
"เห้ย" แต่เพราะพื้นมันยังลื่นอยู่จึงทำให้เขาเสียหลังล้มไปข้างหน้าซึ่งแจ๋วกำลังจะเดินออกไปแจ๋วหันกลับมามองคุณชาย
ตุบ ชายล้มทับแจ๋วเขาเงยหัวขึ้นแต่ก็ต้องชะงักเมื่อเส้นผมบางส่วนตันไปติดซิปกางเกงของเธอ
"ฮ่วย...ลุก...ลุกขึ้น" เธอผลักเขา
"โอ๊ย...ฉันเจ็บเธอไม่เห็นหรือไงว่าผมฉันมันติดอยู่ที่ซิปกางเกงของเธอ
"อีหยั่งอีก...ข่อยกะอายเป็นเด้อแม่หญิงเด้นิ..แม่หญิง! " ข่อยก้มลงมองผมของคุณชายที่ติดอยู่ที่ซิปกางเกง ข่อยจะเฮ็ดจั่งได๋ละปาดทีนิ
พอจะขยับลุกขึ้นหน้าคุณชายก็แนบติดอยู่ตรงกลาง
"......." เดี๋ยวอย่าหายใจแฮงติล่ะ