“ชอบค่ะ อันนี้ชอบที่สุด” มะลิเลื่อนมือไปเข้าไปสอดแทรกระหว่างร่าง รูดแก่นชายของเขาเบาๆ ก่อนจะเป็นคนกดให้ปลายหัวบานแดงเยิ้มเข้ามาในร่องเสียวของตัวเอง
“อ๊ะ!” เธอร้องคราง สะดุ้งครางเสียว หยัดสะโพกให้เขาอัดกายเข้ามามิดลำ แท่งกายเสียบเข้ามาจนมิดโคน มะลิอ้าปากค้างด้วยความเสียวสะท้านตัวสั่นระริก ครางอืออาเมื่อร่างกายหนุ่มสาวหลอมรวมเข้าหากัน
ขจรแช่กายนิ่งให้คนใต้ร่างได้ปรับตัว ก่อนที่เขาจะเริ่มซอยสั้นบ้างยาวบ้างตามอารมณ์รัก
เหมือนเคย เธอเอาแต่นอนครางอยู่ใต้ร่างเขา ให้เขาเสียบแทงเข้ามาเป็นจังหวะ ซอยกระชั้นถี่ อุ้งมือใหญ่ของขจรบีบเคล้นเต้านมขนาดพอดีของเธอไปมา แล้วก้มลงดูดจนมันแข็งสู้ปาก
“อือ... คุณจอนขา สะ... เสียวค่ะ” เธอร้องครางเมื่อเขาเลียหัวนมของเธอที่แข็งเป็นไตสู้ปากและลิ้นของเขา
ร่างสาวบิดส่ายไปมาเร่าๆ ให้เขาอัดกระแทกเข้าหา เตียงสั่นลั่นรัวกับจังหวะรักร้อนแรง ไม่นานเสียงหวีดร้องก็ดังขึ้นพร้อมร่างที่เกร็งกระตุก
“เสร็จแล้วเหรอมะลิ”
เขาเอ่ยถามคนที่นอนหอบๆ อยู่ใต้ร่าง เธอพยักหน้าให้เขา ใบหน้าแดงซ่าน ในขณะที่เขายังแข็งเป็นลำเสียบอยู่ในกายของเธอ ใบหน้าของเขากระตุกเล็กน้อยเมื่อโดนเธอตอดรัด
“แต่ฉันยังไม่เสร็จเลยมะลิ”
“คุณจอนจะอึดไปไหนคะ ทำมะลิเสร็จหลายครั้งแล้ว เมื่อไหร่จะเสร็จ”
เธอว่าเขาเสียงสั่นๆ เมื่อเขาเริ่มงัดท่อนเนื้อหมุนวนไปมา แล้วเริ่มซอยเข้าซอยออกในร่องเธออีกแล้ว เสียงหยาดน้ำรักเยิ้มๆ ดังทุกครั้งที่เขาปักท่อนกายลงมา ได้ยินชัดเจนในความรู้สึก
“อ๊ะ! อา” ครางอยู่แบบนั้นแทบจะทุกครั้งที่โดนเนื้อกายปักลงมาใน ซอกรัก เขาใช้มือค้ำกับที่นอนข้างกายเธอ โหมสะโพกเข้าใส่ไม่ยั้ง ก่อนจะสุขสมพร้อมกันในรอบนี้ เสียงกริ่งหน้าบ้านดังขึ้นขณะที่หนุ่มสาวผละห่างออกจากกัน เธอกับเขาจัดการแต่งตัว เห็นเธอล้าๆ เลยอาสาไปเปิดประตูให้ เสียเอง
“เดี๋ยวฉันไปเปิดประตูให้เอง” เขาดึงเธอมากอด กดจูบเบาๆ ที่หน้าผากนูนเกลี้ยงของเธอ
เธอเร่งสวมใส่เสื้อผ้า เขาก็อดใจไม่ไหว จับนมของเธอหมับเข้าให้
“คุณจอน”
“ใครมาขัดจังหวะก็ไม่รู้ อยากขย่มเธอต่อ”
“พักบ้างดีไหมคะ มะลิเมื่อยไปหมดแล้ว” เธอค้อนเขา
“เมื่อยตรงไหน” เขาเดินเข้าหา โอบกอดกระซิบถามที่ริมหู
“เมื่อยตรงที่โดนคุณจอนกระแทกนั่นแหละค่ะ” เธอตอบเขาหน้าแดงซ่าน คนถามถึงกับท่อนกายแข็งขันเพราะมีอารมณ์จากคำตอบจากสาวเจ้า
“ตรงไหน ตอบให้ชัดๆ ให้ชื่นใจหน่อย”
“คุณจอนบอกว่าจะไปเปิดประตูบ้าน เดี๋ยวแขกก็กลับไปหรอกค่ะ” เธอดันใบหน้าเขาออกห่าง
“ฉันคาดโทษเธอเอาไว้ก่อน คุยกับแขกเสร็จจะกลับมาเอาให้เมื่อยกว่าเดิม” เขาบอกเธออย่างมันเขี้ยว ก่อนจะรีบเดินไปเปิดประตูบ้าน
ขจรเปิดประตูบ้านก็ตกใจเมื่อเห็นแขกที่มากดกริ่งอยู่นานสองนาน โผเข้ามากอดเขา ฤดีอดีตแฟนสาวของเขานั่นเอง เธอร้องไห้สะอึกสะอื้น ซบอกเขา
ชายหนุ่มยกมือทั้งสองข้างขึ้น เขาไม่กอดตอบ แต่กลับดันเธอให้ออกห่าง แต่ยิ่งต้องตกใจเมื่อเห็นสภาพใบหน้าของเธอที่โดนทำร้ายอย่างหนัก
“ไปโดนอะไรมาฤดี” จากที่โกรธ อยากผลักหล่อนให้กระเด็น เขาก็ถามอย่างห่วงใยทันที เช่นไรก็เป็นเพื่อนมนุษย์ร่วมโลก
“ฤดีโดนซ้อมค่ะ คุณก้องเขาซ้อมฤดี”
“ทำกันถึงขนาดนี้เลยเหรอ” ขจรพูดอย่างโกรธๆ เขาไม่ชอบทำร้ายผู้หญิง ที่สำคัญคือผู้หญิงที่โดนทำร้ายคนนี้ก็เคยเป็นคนที่เขารัก
“เข้าบ้านก่อนนะ” เขาเชิญเธอเข้าบ้านอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะเธอคงต้องการพักใจ เหลือบไปมองกระเป๋าบรรจุเสื้อผ้าก็ช่วยเธอหยิบเข้ามาในบ้าน มะลิที่ออกมาดูแขกของขจรถึงกับอึ้งไปเลยเมื่อเห็นอดีตแฟนสาวของขจร แต่ที่ร้ายไปกว่านั้นก็คือ ใบหน้าของอีกฝ่ายมีรอยฟกช้ำดำเขียวเหมือนกับโดนทำร้าย
“ไหนเล่ามาหน่อยฤดีว่าเรื่องราวมันเป็นยังไง” เขาเอ่ยถามอย่างสงสัย ท่าทีของเขาไม่ได้ฟูมฟายเสียผู้เสียคนหรือเอาแต่กินเหล้าเหมือนเก่า จึงมีความเป็นผู้ใหญ่และควบคุมอารมณ์ได้ดี
“ก่อนอื่นฤดีต้องขอโทษจอนก่อน เรื่อง...” เธอพูดยังไม่ทันจบประโยค เขาก็เบรกเอาไว้เสียก่อน
“ช่างมันเถอะ บางทีเราอาจจะไม่ใช่เนื้อคู่กันก็ได้” เขาพูดอย่างปลงๆ หลายวันมานี้ได้คิด อาจเพราะเขามีมะลิอยู่ข้างกาย เด็กสาวที่รู้จักกันมาตั้งแต่วัยเด็ก ทำให้เขาสดชื่นขึ้นอย่างประหลาด
“ก้องเขาซาดิสม์ค่ะ ชอบทุบตีซ้อมฤดี จริงๆ วันนั้นฤดีไม่ได้อยากแต่งงานกับเขาหรอกนะคะ แต่เพราะฤดีโดนเขาข่มขืนจนท้อง” ฤดีเปิดปากเล่าเรื่องทั้งหมดให้ชายหนุ่มฟัง
“ทำไมวันนั้นฤดีไม่บอกผม”
“บอกไปจะทำอะไรได้ ฤดูท้องแล้ว เป็นผู้หญิงมีราคี”
“ถึงฤดีจะเป็นยังไงผมก็รักนะ ถ้าฤดีบอกผมวันนั้น ผมจะรับลูกในท้องของฤดีเอง”
“ฤดีไม่เหมาะกับคุณแล้วนะคะจอน เป็นผู้หญิงไม่ดี”
“ผมไม่สน ถ้ารู้ว่าคุณโดนรังแก ผมจะปกป้องคุณเอง” เขาดึงเธอมากอด ฤดีซบอกขจรร้องไห้สะอึกสะอื้นกับอกของเขา
มะลิที่ไม่ได้ตั้งใจแอบฟัง เธอถึงกับสะอึกอึ้งกับประโยคของขจร และสองร่างที่กอดกันทำให้เธอรู้สึกว่ามีก้อนอะไรมาจุกอยู่ที่ลำคอ จู่ๆ ก็เจ็บร้าวในอกอย่างบอกไม่ถูก
ขจรรักฤดี ไม่ว่าหล่อนจะเป็นยังไงเขาก็รัก ไม่เหมือนเธอที่เขาใช้เป็นเพียงแค่ตัวคั่นเวลายามที่ตัวจริงไม่อยู่เท่านั้น
“ฤดีหย่ากับเขาเลย เขาทำถึงขนาดนี้”
“เขาขู่ว่าถ้าฤดีหย่ากับเขา เขาไม่ยอมค่ะ เขาจะฆ่าฤดีทิ้ง”
“นั่นยิ่งต้องหย่า คนโรคจิตแบบนั้นจะไปทนอยู่ได้ยังไงกัน”
“ฤดีก็ไม่อยากทน เขาทำร้าย ทำให้ฤดีแท้ง ลูกจากฤดีไปแล้ว”
เธอร้องไห้สะอึกสะอื้น ขจรเห็นแล้วให้นึกสงสารยิ่งนัก
“โธ่... ฤดี ผมจะช่วยคุณได้ยังไงดี”
“บางทีฤดีก็อยากตายนะคะ” เธอบอกเขา ก่อนจะร้องไห้หนักกว่าเดิม
“คุณขึ้นไปพักก่อนเถอะ เอาไว้ผมจะหาทางช่วยคุณเอง” เขาบอกเธอก่อนจะประคองพาเธอขึ้นไปพัก ณ ห้องพักรับรองแขก เขาหานมและโจ๊กร้อนๆ ให้เธอดื่ม เช็ดหน้าเช็ดตาให้ และให้เธอกินยา
ฤดีหลับลงในที่สุด สัมภาระของเธอยังวางอยู่อีกด้าน เขาบอกว่าจะให้มะลิมาช่วยจัด แต่ฤดีปฏิเสธ เธอไม่อยากเป็นภาระใคร และอยากจัดกระเป๋าด้วยตัวเอง
ขจรเดินลงมาจากชั้นบนกวาดสายตามองหาร่างเล็กของมะลิ เห็นเธอกำลังทำกับข้าวอยู่ในครัว เขาเลยสวมกอดเธอเอาไว้แนบอก
มะลิตัวแข็งทื่อ เขาเพิ่งกอดผู้หญิงคนอื่นอยู่หยกๆ แล้วยังมากอดเธออีก จิตใจทำด้วยอะไร ไปบอกรักอีกคน แต่มากอดอีกคนที่ไม่ได้รัก
“คุณจอนปล่อยค่ะ” เธอเบี่ยงหลบ ผลักเขาออกไป แต่ขจรไม่ยอมปล่อย เขายิ่งกอดรัดแน่นขึ้น วางคางกับบ่ากว้างของเธอ ก่อนจะโยกไปมาเหมือนเธอเป็นเด็กๆ
“เป็นอะไร ทำไมไม่ให้กอด”
“ไปกอดคุณฤดีสิคะ” คนที่น้อยใจบอกไปตามใจคิด และอยากจะตบปากตัวเองนัก เธอไม่มีสิทธิ์ในตัวเขา จะไปหึงหวงได้ยังไงกันล่ะ
“มีอย่างที่ไหนไล่ให้ผัวไปกอดผู้หญิงอื่น”
“คุณจอนกอดอยู่ไม่ใช่เหรอคะ” เธอหมายถึงเขากอดผู้หญิงอื่นอยู่นี่นา ยังมาหน้ามึนอีก
“กอดอยู่จริงๆ ด้วย กอดเมียอยู่นี่ไง” เขากอดเธอกระชับขึ้น บดจูบแก้มเธอหนักๆ จนเธอต้องเบี่ยงหลบ เขินหน้าแดง ไปทำความผิดอะไรลับหลังเธอแล้วยังจะมาอ้อนเธออีก เธอจะไม่ยอมใจอ่อนกับเขาอีกแล้ว
“คุณจอนอย่ามาเฉไฉค่ะ”
“ฤดีเขาหนีร้อนมาพึ่งเย็น”
“มะลิได้ยินนะคะที่คุณจอนพูดกับคุณฤดี อุ๊บ!” เธอยกมือปิดปากตัวเอง ไม่ได้ตั้งใจจะฟังเขาพูดกับอดีตแฟนสาวเลย
“ได้ยินว่าอะไร แอบฟังอะไร” เขาแกล้งทำเสียงดุ แต่อมยิ้ม คนก้มหน้าเพราะสำนึกผิดไม่กล้าเงยหน้ามอง เพราะเข้าใจไปว่าเขาดุจริงๆ