ตอน 5

1551 Words
“คืนนี้มีอะไรพิเศษมั้ยวะ” เขตแดนลากเสียงยาวเป็นเชิงก่อกวน พ่อเสือนักรัก เมื่อเห็นใบหน้าคมคายยิ้มกริ่มกับคำถาม “รายใหม่หรือเก่า ทำตามันหยาดเยิ้มขนาดนี้”  “ใหม่สิวะ เก่าเก็บเข้ากรุ ฮาเร็มฉันยังจุได้อีกเพียบ” ไม่วายอวดความจุของห้องหัวใจ ที่ไม่เคยเต็ม    ซึ่งเพื่อนๆ รู้ดีว่าเป็นไปตามคำโอ้อวด  “ใครวะ รายใหม่ของแก” เจ้าของผับเพื่อนรักไม่ค่อยแปลกใจนัก เวลาที่เพื่อนบอกว่ารายใหม่ คนอย่างพงษ์ระพี ควงผู้หญิงไม่ซ้ำหน้ามันเป็นเรื่องธรรมดา แต่ว่าคู่ควงของเขากลับไม่ใช่คู่รักซะที คุณสมบัติเพียบพร้อมขนาดนั้น ทั้งหน้าตา บุคลิก ฐานะ การศึกษา เท่านี้ผู้หญิงค่อนประเทศก็โหยหาอยากได้เขามาเคียงข้าง แต่ไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนสอยเขาลงจากปราสาทได้ซะที  “ลูกสาวท่านรัฐมนตรี” เขาบอกเพื่อนพลางหย่อนก้นลงนั่งตรงโซฟาสีดำตัวยาว ข้างๆ อณวัฒน์ “วู้....ชักอยากเห็นซะแล้วสิ” เขตแดนทำท่าวาดภาพตามจินตนาการ เพราะตั้งแต่รู้จักกันเขามักเห็น   คู่ควงของเพื่อนคนนี้ ไม่สวยสุดก็เซ็กซี่สุด สมัยเรียนยังคั่วดาวมหาวิทยาลัย เชียร์ลีดเดอร์ ดาวคณะ หลายครั้งที่เขาและอณวัฒน์ต้องทำหน้าที่เป็นไม้กันหมา พ่วงตำแหน่งนายสถานีคอยสับรางไม่เว้นแต่ละวัน เขตแดนและอณวัฒน์เองก็ไม่ใช่ย่อย วีรกรรมพอๆ กัน เพียงแต่เขตแดนและอณวัฒน์จะคบผู้หญิงวาระละคน เลิกลาจบกันไปค่อยคบใหม่ เพราะขี้เกียจสับราง  “เออๆๆ  คืนนี้ได้เจอ ใจเย็นๆ ยังไม่ได้แอ้มเลยว่ะ  แต่...คืนนี้ไม่แน่”      “ว่าแต่....คริสติน และน้องจ๊ะจ๋าล่ะวะ” อณวัฒน์นั่งเงียบฟังอยู่นานถามขึ้น เกรงว่าเพื่อนจะสำลักความสุขจนจุกเข้ามาที่ลิ้นปี่ถึงตาย    “ขอกินของใหม่ก่อนว่ะ รายนั้นไปหาเมื่อไหร่ ง้อนิดง้อหน่อยก็หายโกรธแล้ว เอาไว้เดี๋ยวแวะไปหาจ๊ะจ๋าออดนิดอ้อนหน่อยรายนั้นว่าง่าย ฉันถึงทิ้งเขาไม่ลง ส่วนคริสตินเดินแบบอยู่ต่างประเทศ ไม่มีเวลาตามฉันหรอกว่ะ  ถึงตามก็ไม่มีทางจับได้ไล่ทันอยู่แล้ว แกสองคนก็รู้นี่หว่า ” พงษ์ระพีพูดอย่างผู้คุมเกม ช่ำชองในเรื่องรัก วางหมากอย่างเก่งกาจ ราวกับแม่ทัพนำทัพออกรบ “ระวังจะตายคาอกสักวัน ฉันหมั่นไส้แกเต็มทน ไอ้เสืออาร์ม” เขตแดนเย้าพงษ์ระพีเล่น พร้อมกับส่งแก้วน้ำทรงสูงที่ภายในแก้วมีน้ำสีอำพันให้เพื่อนนักวางแผนการรัก ไม่แพ้เวลาวางแผนการทางธุรกิจ “ขอบใจว่ะ สำหรับเหล้า เออ อีกอย่างขอบใจสำหรับคำอวยพร” เขากระดกน้ำสีอำพันเข้าปากกลืน   ลงคอ ราวกับมันคือน้ำเปล่า เสียงโทรศัพท์เครื่องบางทันสมัยแบบทัชสกรีน ขัดจังหวะการสนทนาของสามหนุ่ม  “ชู้ว....เงียบเว้ย น้องขิงโทรมา” เขาชูนิ้วชี้จุ๊ปากส่งสัญญาณให้สองหนุ่มเงียบ เพราะทั้งคู่กำลังทำท่าจะแซว “ว่าไงครับ มาถึงหรือยัง” เขากรอกเสียงหวานลงไป เมื่อรู้ว่าปลายสายคือสาวสวยเซ็กซี่คู่ควงและอาจจะเป็นคู่นอนของเขาในคืนนี้ (ให้ตายเถอะ ขาดสักวันไม่ได้หรืออาร์ม) เสียงต่อว่าจากฟากฟ้า “ถึงแล้วค่ะ ระพีอยู่ไหนคะ ขิงมองจนทั่วร้านไม่เจอเลยค่ะ” สาวร้อนแรงส่งเสียงมาตามสาย อย่าง    ยั่วเย้า หวานหยด   “รอผมแป๊บ เดี๋ยวผมไปหานะ รอไหวมั้ย” เขายิ้มแล้วพูดต่อ “แค่หลับตา ผมจะอยู่ตรงหน้าขิงทันทีเลยจ้ะ รู้มั้ยคนดี ผมคิดถึงคุณจะบ้าตายอยู่แล้ว อยากกลืนกินคุณให้หายคิดถึงซะเดี๋ยวนี้เลยล่ะ” เมื่อจบประโยค เสียงไม่พึงประสงค์ก็แว่วตามมาติดๆ  “แหวะ”  มันดังขึ้นพร้อมกันด้านหลัง จนพงษ์ระพีต้องหลิ่วตาคมเป็นการเตือน “เฮ้ย...เงียบหน่อย” ส่งเสียงดุไม่จริงจังเตือนเพื่อน เพราะอาจทำให้เหยื่อตื่นกลัว “แส่นักเดี๋ยวอด” เขาใช้ฝ่ามือปิดช่องสนทนาของโทรศัพท์ เพื่อไม่ให้เสียงเล็ดลอด  “หล่อนพาเพื่อนมาด้วยนะเว้ย” จากนั้นจึงกดตัดสาย ก่อนที่เสียงวายร้ายสองตัวจะเล็ดเข้าไปให้สาวเจ้าจับได้ เดี๋ยวไก่ตื่น (ไก่หนังเหนียวด้วยสิ)    “ฉันเลี่ยนว่ะ ไม่คิดเลยว่าแกจะเลี่ยนได้ขนาดนี้อาร์ม” เขตแดนแซวไม่เลิก ทั้งที่พฤติกรรมเหล่านี้ น่าจะชินกับความรู้สึกมานาน  “เออ แกเงียบไปเถอะ เดี๋ยวฉันเหนี่ยวให้ พูดมาก” พงษ์ระพียกหลังมือขวาทำท่าจะฟาด จนเขตแดนต้องยกฝ่ามือป้องตามสัญชาตญาณ “ไม่ชินอีกหรือวะ ทีแกยิ่งกว่านี้ไม่ใช่เหรอเวลาอ้อนสาว” อณวัตน์ว่าเขตแดนบ้าง เพราะเขาทั้งสามมันไม่ต่างกัน ผีเห็นผี เอ๊ย ไก่เห็นตีนงูงูเห็นนมไก่ (ไก่ไม่มีนมนี่หว่า) เพียงแค่ต่างมุกกันเมื่อใช้จีบสาว และส่วนมากก็ไม่ค่อยได้จีบ คุยกันแค่ไม่กี่คำ เวลามักจะผ่านไปอย่างรวดเร็ว รู้จัก คบ บนเตียง แยกย้าย นี่คือวงจรชีวิต    เพลย์บอย “คืนนี้แกจะกินขิงหรือวะอาร์ม” อณวัฒน์ถามตรงๆ เพราะเห็นคั่วกับสาวไฮโซก่อนหน้านี้ไม่นาน “ท่าทางเผ็ดหรือเปล่าวะ” เขตแดนถาม ก่อนเดินถึงที่นั่งประจำ “ฉันไม่รู้ รู้แต่ว่าสวย เซ็กซี่ ร้อนแรง แต่งตัวจัด”  “คนมันกำลังเห่อ เดี๋ยวสักสามวันหลังจากนั้น เราจะไม่ได้ยินประโยคนี้” อณวัฒน์ว่าเข้าให้  “เซ็งว่ะ...แม่งตามแจเลย” ทั้งเขตแดนและอณวัฒน์ต่างพูดประโยคเดียวกันประสานเสียง  “ประโยคฮิต”  จนทั้งสามหนุ่มต้องหัวเราะพร้อมกัน ราวกับนี่เป็นประโยคฮิตของชายหนุ่ม “แม่ง...รู้ใจฉันฉิบ.....” พงษ์ระพีได้แต่กลั้นยิ้มกับคำพูดรู้ทันของเพื่อนรักทั้งสอง โดยไม่ทันได้ระวังผู้คนซึ่งเริ่มหนาตา “อุ๊ย...ขอโทษครับ” ร่างสูงโปร่งปะทะเข้ากับร่างนุ่มนิ่มของใครบางคน “ขอโทษค่ะ ดิฉันไม่ทันมอง” หล่อนกล่าวขอโทษทันที เมื่อชนร่างหนาของนักเที่ยวราตรีเช่นเดียวกับหล่อน หล่อนส่งสายตาเชิญชวน เมื่อรู้ว่าร่างบึกบึนที่หล่อนชน คือชายหนุ่มรูปหล่อ ภูมิฐาน  “เป็นอะไรมั้ยครับ ผมต้องขอโทษ ไม่เห็นคุณจริงๆ” เขาค่อยๆ ช้อนสายตามองหญิงสาว ภายใต้แสงไฟสลัว “มะ...ไม่เป็น....ไรค่ะ” หญิงสาวพูดติดๆ ขัดๆ เมื่อปะทะเข้ากับใบหน้าหล่อดุจเทพบุตร แม้แสงไฟสลัวมันไม่สามารถบั่นทอนความหล่อให้ลดลงได้เลย  “ขอโทษอีกครั้งนะครับ” แล้วพงษ์ระพีก็เบี่ยงตัวหลบ เดินจากหล่อนที่ยังไม่ทราบแม้ชื่อนั้นไป ทิ้งไว้เพียงสายตาเชิญชวน ให้หญิงสาววาบไหว จนเธอต้องมองตามจนคอแทบเคล็ด กลิ่นน้ำหอมผู้ชายยี่ห้อดีส่งกลิ่นอ่อนๆ แตะจมูกเธอ จนเธอเองเคลิ้มเก็บความเพ้อฝันกลับไปที่โต๊ะของตัวเอง ที่มีเพื่อนนั่งรออยู่ก่อนสามคน “ใครวะแก” เพื่อนสาวร่วมโต๊ะถามขึ้น ขณะหญิงสาวเดินกลับมาถึง “ไม่รู้ว่ะ แต่....โคตรหล่อเลย.. ฉันอยากได้ว่ะ” หญิงสาวทำท่าเพ้อฝัน สายตาจับจ้องชายหนุ่มซึ่งเธออยากรู้ทุกอย่างในความเป็นตัวเขา เพียงแค่พบกันโดยบังเอิญ สายตาหล่อนปะทะกับภาพบาดตา เมื่อเห็น    ชายหนุ่มโอบรอบเอวหญิงสาวสวย เซ็กซี่ อย่างสนิทสนม “ว้าเสียดาย....มีแฟนแล้ว” หล่อนร้องออกของมาอย่างเสียดาย “พอเถอะยัยพอลลีน อย่างหล่อนหาผู้ชายกินได้ไม่ยาก คืนนี้จะเอากลับไปกินสักกี่คนก็ย่อมได้ โน่นโต๊ะข้างๆ ส่งตาวาวให้หล่อนแล้วย่ะ” เพื่อนสาวของหล่อนอีกคน ทำท่าบุ้ยใบ้ไปยังโต๊ะซึ่งมีชายหนุ่มสี่คนนั่ง อีกคนยกแก้วเครื่องดื่มผ่านมาทางโต๊ะของพวกหล่อน “อาร์มเว้ย นี่แค่แกชนหล่อนเองนะ ดูผู้หญิงคนนั้นสิ เพ้อเชียว จ้องเอาๆ” อณวัฒน์สังเกตท่าทีของสาวสวยเมื่อครู่ “เบาๆ สิวะ” พงษ์ระพีโอบไหล่นันทิสาแสร้งพูด เกรงเธอจะสงสัย เขาขี้เกียจตอบคำถาม เวลาผู้หญิงหึงหวง มักชอบถามอะไรที่เขาไม่อยากตอบ  “ขิงครับ รอผมนานมั้ย” เขาจึงหันไปอ้อนหญิงสาว แทนการพูดถึงผู้หญิงที่เขาเพิ่งบังเอิญเดินชนหล่อน  “ไม่นานหรอกค่ะ รอนานกว่านี้  ขิงก็รอได้ ขอให้ได้เจอระพี” สาวสวยร้อนแรงอย่างนันทิสา คิดว่าคืนนี้เธอคงไม่พลาด ที่จะมีโอกาสได้ศึกษาชายหนุ่มอย่างชิดใกล้ มีผู้ชายมากหน้าหลายตาเข้ามาในชีวิตเธอ ทว่าเธอรู้สึกว่าผู้ชายข้างๆ นี้พิเศษกว่าผู้ชายคนอื่นๆ ที่เข้ามาในชีวิตเธอ เพราะฉะนั้นเธอควรหาทางยึดเขาให้เร็วที่สุด    “หอมจัง” เขาโน้มใบหน้าลงจุมพิตติ่งหูของหญิงสาว “บ้าจัง ระพีก็...” หญิงสาวเอียงอาย เพื่อบริหารเสน่ห์  บทที่  6
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD