Chapter
4
ณชนกพยายามสกัดน้ำรื้นบนขอบตา ทุกครั้งที่พูดถึง เขา คนนั้นต่อหน้าแม่บ้านคนเก่าแก่เธอมักจะควบคุมความรู้สึกไม่ได้ทุกครั้ง
“บอกป้ามาสิคะว่าคุณแนนเจอเขาได้ยังไง” ป้าวิไลที่จับมือหญิงสาวไว้แน่นดึงข้อมือบางให้ร่างนั้นนั่งลงบนเก้าอี้ภายในห้องรับแขก
“เขาเป็นเจ้าของโรงแรมที่แนนทำอยู่ค่ะ”
“ห๊า!...อะไรนะคะ จริงเหรอคะคุณแนน” วิไลมีอาการตกใจซึ่งไม่ต่างไปจากหญิงสาวที่ตอนนี้เต็มไปด้วยความสับสน หวาดหวั่นแม้จะดีใจอย่างที่สุด
“แล้วเขา..เป็นยังไงบ้างคะคุณแนน”
ณชนกเงียบไปกระทั่งแม่บ้านเห็นน้ำตาหยดไหลลงบนแก้มของหญิงสาวเป็นทาง แทบไม่มีเรื่องใดเกี่ยวกับณชนกที่วิไลไม่รู้ นางรู้ทุกอย่างแม้แต่เรื่องคนรักซึ่งเป็นอดีตอันเจ็บปวดของหญิงสาวที่มีความรักมั่นคงจวบจนถึงบัดนี้ก็ยังไม่มีใครมาแทนที่ผู้ชายคนนั้นได้
“คุณแนนคุยอะไรกับเขาบ้างไหมคะ หรือไม่...เขาได้คุยอะไรกับคุณแนนบ้างไหม”
“เราคุยกันไม่มากค่ะป้าวิไล ตอนนี้เฮ็คเตอร์เป็นถึงเจ้าของโรงแรมใหญ่ระดับพันล้าน มันไม่น่าเชื่อใช่มั้ยคะป้า” น้ำเสียงนั้นไม่บ่งบอกความตื่นเต้น มันเลื่อนลอยเสมือนไม่อาจจับต้องได้
“ค่ะ...ไม่น่าเชื่อ ป้าเองก็คิดว่าคุณแนนคงไม่ได้เจอกับเขาอีกแล้ว”
“พรุ่งนี้แนนจะไปหาเขาน่ะค่ะป้า...แนนรู้ตัวดีว่าตอนนี้ตัวเองอยู่ในฐานะที่ต่ำต้อย เทียบกันไม่ได้เลยกับเขา แต่แนนก็แค่อยากรู้ว่า...เมื่อห้าปีที่แล้วเขาไปไหน”
ณชนกแทบไม่ได้สังเกตเลยว่ามือของวิไลที่จับมือของเธอไว้แน่นคลายลงในทันทีที่ได้ยินเช่นนั้น ใบหน้าของแม่บ้านวัยกลางคนก็เปลี่ยนไป เหมือนมีอะไรบางอย่างอยู่ในใจที่นางไม่สามารถพูดออกมาได้วิไลแค่นยิ้มกลบความรู้สึกบางอย่างที่กำลังแล่นปรี่ขึ้นมา
“คุณแนนไปพักผ่อนเถอะนะคะ ดึกแล้ว...พรุ่งนี้คุณแนนต้องไปทำงานแต่เช้านี่ไม่ใช่เหรอคะ”
“ค่ะ...ป้าคะ...แนนอยากรู้เหลือเกินว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ เกิดอะไรขึ้นกับเฮ็คเตอร์ เขาคงจะไม่โกหกแนนหรอกนะคะ ว่าเขาไปไหนมา”
วิไลยิ้มกับร่างบางที่ลุกขึ้นและเดินกลับเข้าห้อง นางมองเห็นความสับสนและหวั่นกลัวฉายออกมาจากแววตาคู่นั้นซึ่งมันทำให้ตัวนางเองก็รู้สึกสะท้อนสะเทือนใจเช่นเดียวกัน วิไลเผลอหลั่งน้ำตาและรำพึงกับตัวเองเบา ๆ
“คุณแนน...ป้าขอโทษนะคะ...ป้าขอโทษ”
เช้าวันใหม่ณชนกพาหนูน้อยคลีโอไปฝากไว้ที่เนอร์สเซอรรี่เป็นปกติ แต่วันนี้หญิงสาวสังเกตเห็นแม่หนูน้อยมีสีหน้าเหมือนกำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่าง ก่อนถึงสถานเลี้ยงเด็กเธอจึงหยุดเดินและย่อตัวลงนั่งขณะหนูน้อยก็หยุดเดินตามและมองหน้ามารดาด้วยแววตาไร้เดียงสาตามประสาของเด็กวัยย่างเข้าขวบที่ห้า
“ว่าไงคะ คลีโอของคุณแม่...คุณแม่ว่าหนูมีอะไรอยากคุยกับคุณแม่นะคะ”
“คุณแม่ขา...วันนี้คุณแม่กลับเร็วไหมคะ?”
“คุณแม่ก็กลับเป็นปกตินะคะ คลีโอมีอะไรหรือเปล่าคะ...คงอยากไปเที่ยวแล้วละซี”
“ม่ายช่ายค่ะ” คลีโอส่ายหน้าพร้อมรอยยิ้มแป้นบนใบหน้ากลมเล็ก “คุณแม่กลับมา...แล้วช่วย...คลีโอ...วาดรูปคุณพ่อนะคะ”
น้ำเสียงเล็ก ๆ ของคลีโอทำให้หญิงสาวชะงัก ณชนกทำหน้าแทบไม่ถูกเลยทีเดียวเมื่อลูกสาวตัวน้อยบอกเช่นนั้น
“คลีโอ...ม่ายเคยเห็นคุณพ่อเลยค่ะ คลีโอนึกม่ายออก”
ณชนกฝืนยิ้ม “ได้ซีคะ...วันนี้คุณแม่จะรีบกลับ แล้วจะมาช่วยวาดรูปคุณพ่อนะคะ”
“คลีโอรักคุณแม่...ที่สุดเลยค่ะ”
หนูน้อยกอดและจูบแก้มมารดาก่อนที่หญิงสาวจะลุกขึ้นยืนแล้วจูงมือหนูน้อยไปส่งที่เนอร์สเซอรรี่ตามปกติ ทุกอย่างดูเหมือนเป็นไปอย่างเช่นทุกวัน ณชนกส่งหนูน้อยแล้วก็ยืนเฝ้าดูกระทั่งลูกรักเดินเข้าไปด้านในพร้อมพี่เลี้ยง แต่แล้วเมื่อเธอหันกลับไปก็พบกับชายร่างสูงใหญ่ยืนอยู่ด้านหลัง
“ขอโทษนะครับ...คุณเฮ็คเตอร์ให้ผมมารับคุณลีแอนไปพบท่านครับ”
ณชนกเลิกคิ้วสูงและมองชายผู้นั้นด้วยความฉงน
“มารับฉันอย่างนั้นเหรอคะ...เอ้อ...แต่ฉันต้องไปทำงานตอนนี้”
“คุณเฮ็คเตอร์อยากคุยกับคุณครับ”
เหมือนเขากลัวว่าเธอจะไม่เชื่อจึงส่งโทรศัพท์มือถือให้ณชนกที่ยังอยู่ในความงุนงง หญิงสาวรับโทรศัพท์จากมือของชายแปลกหน้าไปแนบหูซึ่งเธอได้ยินเสียงตามสายดังมาแทบจะทันที
“ลีแอน...ผมให้คนของผมไปรับ คุณต้องมากับเขาเดี๋ยวนี้”
“แต่ฉันต้องทำงานนะคะ...และนี่ก็ใกล้เวลาทำงานของฉันแล้วด้วย เราเจอกันที่โรงแรมก็...”
“นี่เป็นคำสั่งของผู้บริหารสูงสุด! คุณไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธ...ขึ้นรถ...แล้วคนของผมจะพาคุณไปส่ง”
“แต่ว่าฉัน...”
หญิงสาวแทบลืมหายใจเมื่อสัญญาณอีกฝั่งถูกตัดไปเสียเฉย ๆ ณชนกอยู่ในความลังเล เธอส่งโทรศัพท์คืนให้ชายผู้นั้นและยืนนิ่งอยู่ชั่วอึดใจ
“ไม่ทราบว่าตอนนี้คุณเฮ็คเตอร์อยู่ที่ไหน?”
“ผมจะพาคุณไปพบท่านครับ”
ชายผู้นั้นยังตอบเสียงเย็นในขณะที่หญิงสาวรู้สึกร้อนรุ่มและหวาดหวั่น เธอจำต้องเดินตามไปที่รถเก๋งสีดำเป็นมันปลาบคันใหญ่และขึ้นไปนั่งบนเบาะด้านหลังพร้อมชายคนเดิม สักครู่คนขับจึงออกรถ ณชนกหันกลับไปมมองเนอร์สเซอร์รี่แล้วน้ำตาก็หยดเผาะลงบนแก้มโดยแทบไม่รู้ตัว