(WARM TALK)
“ไอ้หมอครับ ตื่นได้แล้วครับเพื่อน มึงจะนอนข้ามวันข้ามคืนแบบนี้ตลอดเลยหรือไง ไอ้หมอโว้ย” เสียงของเพื่อนผมดังอยู่ข้างหูของผมนี่แหละ ดังโคตรจะดัง
ไม่รู้จะปลุกผมขึ้นมาทำซากอะไร ไม่รู้บ้างหรือไงว่าการนอนหลับสำหรับผมมันดีที่สุด
การนอนหลับทำให้ผมได้อยู่กับคนรักของผม เรื่องราวในฝันทำให้ผมมีความสุข แตกต่างจากยามตื่นที่ไม่มีเธอเคียงข้างกาย เพราะเธอได้ตายไปจากโลกนี้อย่างที่ป๊าผมบอกไว้จริง ๆ
เมื่อเดือนก่อนผมไปที่วัดตามที่ป๊าบอก แล้วก็ได้เจออัฐิของมิเกลคนรักของผมจริง ๆ
ผมยืนอยู่หน้าอัฐิของเธอนานนับชั่วโมง ไม่ต้องถามว่าผมนั้นร้องไห้ให้เธอไหม เพราะผมร้องจนแทบจะขาดใจ ทั้งร้องทั้งพูดอยู่ตรงนั้นคนเดียว เหมือนคนบ้าดี ๆ นี่แหละ
ก็เราสัญญากันไว้แล้วว่ากลับมาจะแต่งงานกัน ถ้าผมรู้ว่าการเจอกันของเราที่สนามบินในวันนั้นจะเป็นครั้งสุดท้ายที่ได้กอด ได้หอม ผมจะไม่ปล่อยเธอกลับมาที่ไทยเพียงลำพังเด็ดขาด ผมจะยื้อ จะรั้งให้เรากลับมาพร้อมกัน ผมเชื่อว่าถ้าเรากลับมาพร้อมกันยังไงเธอก็จะไม่จากไป
แต่ทั้งหมดมันก็เป็นได้แค่ความคิด เพราะในโลกของความจริง ไม่มีมิเกลของผมอีกแล้ว
“มึงจะปลุกกูขึ้นมาทำไม” ผมลืมตามองไอ้กีต้าร์ที่มันมองหน้าผมอยู่ในตอนนี้
“มึงนอนนานเกินไปไง คนบ้าอะไรนอนห้าวันห้าคืนไม่ลุกมาทำอย่างอื่นบ้างเลย” ไอ้กีต้าร์มันบ่นพลางวางชุดให้ผม
“แค่ห้าวันเองเหรอวะ ร่างกายกูคงเริ่มดื้อกับยานอนหลับชนิดนี้” ผมพูดเสียงเครียด
“ไอ้วอร์ม กูรู้มึงเสียใจ แต่คนตายก็คือคนตาย ส่วนมึงยังเป็นคน มีลมหายใจมีอนาคตที่ดี มึงควรเลิกจมปลักสักที นี่มันผ่านมาเดือนกว่าแล้วเว้ย มึงจะนอนหลับโดยการฉีดยาเข้าร่างกายตัวเองแบบนี้ไปตลอดไม่ได้หรอกนะ ไปอาบน้ำไป วันนี้สนามมีแข่งรถ ลงไปหาอะไรดูให้ตื่นตาตื่นใจ ดีกว่านอนอยู่บนเตียงแบบนี้”
ไอ้กีต้าร์เพื่อนผมมันพูดบ่นอะไรนักก็ไม่รู้ มันคิดว่าผมจะทำตามหรือไง
“อย่ามาด่ากูในใจ ลุกไปอาบน้ำแล้วลงไปพร้อมกัน ยามึงไอ้ผามันเก็บไปหมดแล้ว จากนี้เลิกใช้ มีชีวิตแบบคนปกติได้แล้วไอ้หมอบ้า”
ผมก็แค่มองหน้า ทำไมมันรู้ว่าผมจะต่อต้าน หรือเพราะผมแสดงออกทางสีหน้ามากเกินไป
“กูก็คนปกติไหมวะ มึงอ่ะคิดมาก” ผมบอกก่อนจะลุกจากที่นอนแล้วเดินเข้าห้องน้ำ
ผมไม่ได้กลับเข้าบ้านตั้งแต่วันที่ไปวัดที่ป๊าบอก ผมมาหาเพื่อนที่เป็นเจ้าของสนามแข่งรถนั่นก็คือไอ้สต๊อป
สิ่งที่ผมพกติดตัวเผื่อว่าจะได้ใช้มันคือยาหลับที่อยู่ในคลังยาของบ้าน พร้อมเงินติดตัวพอสมควร
พอมาถึงสนามผมก็เล่าเรื่องมิเกลให้เพื่อนฟัง และบอกกับมันว่าผมจะอยู่ที่นี่ ซึ่งพวกมันก็ยินดี แล้วจากนั้นผมก็ทำการฉีดยานอนหลับเข้าเส้นเลือด กำหนดปริมาณตามที่ผมเรียนมา กะระยะเวลาครั้งละสิบวันค่อยตื่นมาฉีดใหม่ ผมทำแบบนั้นซ้ำ ๆ โดยที่เพื่อนไม่เอ่ยทักท้วง
จนกระทั่งวันนี้ที่พวกมันขโมยยาของผมไปแอบ และบอกให้ผมไปเจอโลกภายนอกที่แสนวุ่นวาย
ก็แค่นักแข่ง และพริตตี้ กับผู้ชมรอบสนาม ผมไม่เห็นจะรู้สึกดีสักนิด ไม่เห็นมีอะไรที่จะกระตุ้นความตื่นตัวในร่างกายผมเลย
“ตื่นมาก็สูบเลยเหรอวะ มึงตั้งคำถามกับตัวเองบ้างไหมว่าจะเป็นแบบนี้อีกนานแค่ไหน” เป็นไอ้สต๊อปที่เข้ามาในห้องรับรองแล้วเอ่ยทักผม
“ไม่ ยังไม่ได้คิดอะไร แค่อยากหลับ” ผมบอกก่อนจะพ่นควันบุหรี่ออกทางจมูก
“ไม่รักตัวเองก็ควรจะคิดถึงมัมกับป๊ามึงบ้าง ไม่คิดว่าเขาเป็นห่วงมึงหรือไง” อันนี้คือประโยคของไอ้ริมผา ไอ้คนขี้ขโมย ซึ่งมันขโมยยานอนหลับของผมไปจนหมด
“มึงเอายากูไปไว้ที่ไหน ไอ้ต้าร์บอกมึงเป็นคนเก็บไป”
“ผู้หญิงคนเดียวทำมึงเป็นได้ขนาดนี้เลยเหรอวะ มิเกลไปดีแล้วไอ้วอร์ม มีแต่มึงที่กำลังทุกข์” ไอ้สต๊อปพูด ส่วนไอ้ริมผามันแค่ไหวไหล่แล้วนั่งลงที่เก้าอี้
ผมไม่ได้สนใจพวกมันหรอก อยากพูดอะไรก็พูด ในเมื่อพวกมันปลุกผมให้ตื่น ผมก็ต้องตื่น แต่เมื่อตื่นแล้วผมก็ขอเมาดีกว่า เมาหนัก ๆ จะได้น็อคหลับไปเอง
พวกมันก็พูดได้สิ ในเมื่อพวกมันไม่มีคนรัก พวกมันไม่มีทางเข้าใจความรู้สึกสูญเสีย ความรู้สึกที่เหมือนชีวิตของผมสิ้นหวังไปหมด ความรู้สึกที่ไม่อยากจะทำอะไรเลยแม้แต่อย่างเดียว
คนรักผมตายแบบไม่ทันได้กล่าวคำลา เราคบกันมาตั้งสี่ปี ชีวิตประจำวันของผมที่ผ่านมาแทบจะมีแค่เธอ
แล้วดูตอนนี้สิ ผมไม่มีเธอแล้ว รอยยิ้ม น้ำเสียง เสียงหัวเราะ ท่าทางน่ารักที่เธอมักแสดงออกมา คุณหมอขาที่เธอชอบเรียกผม คำบอกรักที่ผมไม่มีวันได้ยินจากปากของเธออีก
ไม่มีอีกแล้วมิเกลคนรักของผม
“มีอะไรครับ” หนึ่งในเพื่อนของผม เอ่ยถามคนที่อยู่หน้าประตู ซึ่งอาจจะเป็นแขกในงานนี่แหละ ผมไม่ได้ให้ความสนใจ
“ไอ้วอร์มคนของป๊ามึงมา” แต่พอประโยคนี้ดังขึ้นผมคงต้องให้ความสนใจแล้วล่ะ
ผมเงยหน้าจากแก้วเหล้า จึงได้เห็นชายชุดดำสองคน แต่ผมมั่นใจมากว่าไม่มีทางมาแค่สองคนอยู่แล้ว
“นายท่านมีคำสั่งมาว่าให้คุณชายห้ากลับบ้านพร้อมพวกเราครับ” หนึ่งในชายชุดดำเป็นฝ่ายพูด ในขณะที่ผมมองหน้าพวกเขา
“นายท่านฝากมาบอกว่าหมดเวลาสำหรับความเสียใจแล้วครับ ถ้าหากว่าคุณชายห้าไม่กลับไปพร้อมพวกเรา นายท่านจะมาด้วยตัวเอง” ชายชุดดำคนที่สองพูดเสริมเมื่อเห็นผมนั้นนั่งนิ่ง
เป็นคำสั่งหรือคำขู่กันแน่นะ
ป๊าก็คือป๊าวันยังค่ำ อยากได้อะไรก็สั่ง ๆ ๆ อยากให้หมดเวลาของความเสียใจก็สั่ง
มันง่ายขนาดนั้นเลยหรือไง
แล้วยังไงล่ะ แล้วผมก็ต้องทำตามไง เพราะถ้าไม่ทำตาม ยังไงท่านก็จะมาตามผมด้วยตัวเอง แล้วผมก็ต้องทำตามเหมือนเดิม ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงอยู่ดี
ยอมกลับไปแบบไม่ต้องมากปัญหาจะดีกว่า เพราะไม่มีใครต่อต้านป๊าคงคาสำเร็จสักคน
ผมไม่ควรลองดี หนึ่งเดือนกว่าท่านไม่ตามก็ถือว่าดีมากแล้ว
“ปลุกกูขึ้นมาได้ถูกวันจริง ๆ นะพวกมึง” ผมหันไปพูดกับเพื่อน
“เชื่อเถอะว่าถ้าพวกกูไม่ปลุก มึงคงถูกแบกกลับทั้งหลับ ๆ นั่นแหละ มึงก็รู้ว่าป๊ามึงเป็นใคร” ไอ้กีต้าร์เอ่ยพร้อมกับส่ายหัวเล็กน้อย
ก็คงจริงอย่างที่เพื่อนผมว่า ถ้าผมไม่ตื่นก็คงจะตื่นอีกทีที่บ้านนั่นแหละ
“งั้นกูกลับก่อนนะ ถ้ายังไงเดี๋ยวถึงบ้านแล้วติดต่อมา” ผมบอกเพื่อนก่อนจะลุกขึ้นยืน
“โชคดี” เพื่อนทั้งสามของผมพูดเป็นประโยคเดียวกัน
เฮอะ ! ขอให้โชคดีอย่างที่พวกมันบอกเถอะ
(END WARM)