หมู่บ้านประหลาด

1599 Words
เป็นไปตามที่จ้าวโม่หยางคาดการณ์เอาไว้ คดีคนท้องหายเกิดขึ้นหลังจากที่เขาแต่งงานกับหลินกุ้ยฮวาและก่อนที่เขาจะเดินทางกลับมาเมืองหลวงในแต่ละปีทั้งนั้น ปีแรกมีหญิงท้องแก่หายสาบสูญไปถึงสิบรายที่อยู่นอกเขตเมืองหลวงและเมืองใกล้เคียง ปีที่สองช่วงเวลาใกล้เคียงกันกับปีแรกก็มีเหตุการณ์แบบเดิมเกิดขึ้นอีก เมื่อมีหญิงท้องแก่หายไปถึงห้าราย ซึ่งจำนวนก็ใกล้เคียงกับโครงกระดูกที่ขุดพบในป่าท้ายวัง บางศพก็ยังไม่เปื่อยเน่าทั้งแม่และลูกเห็นแล้วชวนให้เวทนายิ่งนัก ดังนั้นที่วังของชินอ๋องจึงได้เชิญนักพรตมาทำพิธีสวดส่งวิญญาณให้กับพวกเขา ทั้งหมดทั้งมวลนี้ชินอ๋องได้สั่งให้กระทำการแบบลับ ๆ ปิดกั้นการรู้เห็นจากตำหนักซ้ายโดยสิ้นเชิง หลังจากนี้เขาจะชดเชยความสูญเสียให้กับครอบครัวผู้เสียหายทั้งสิบห้ารายอย่างดีที่สุดโดยไม่มีข้อยกเว้น ถึงจะยังหาอีกสามศพไม่เจอก็ตามที ซึ่งชินอ๋องได้ร้องขอให้องค์จักรพรรดิออกหน้าเรื่องแทน ส่วนการลงโทษผู้กระทำผิดเขาได้ลงมือทำไปแล้ว นอกจากตระกูลหลิวเท่านั้นที่ทางวังหลวงจะต้องจัดการเองเพราะหลักฐานค่อนข้างแน่ชัดว่าหมอที่ปรุงยาให้กับเหล่าสนมของฝ่าบาทเป็นหลิวยี่หลวนท่านตาของหวางเฟยที่อยู่เบื้องหลังทั้งสิ้น เสร็จจากเรื่องวุ่นวายครั้งนี้ชินอ๋องตั้งใจอย่างแน่วแน่ว่าจะออกตามหาหลินหลานด้วยตัวเองกับเวลาพักที่เหลือหรือบางทีเขาอาจจะขอฝ่าบาทลาหยุดพักอีกสักหนึ่งเดือนก็ได้ สิบวันผ่านไปที่ตำหนักเล็ก... “ที่จริงตำหนักนี้ก็เก่าและทรุดโทรมมากแล้ว ตามช่างมาทุบทิ้งและสร้างเป็นสวนดอกไม้น่าจะดี ว่ายังไงเอ้อสงเจ้าคิดว่าดีหรือไม่” “อ้อ..ดีพ่ะย่ะค่ะ” เอ้อสงตอบรับแทบไม่ทัน ท่านอ๋องนะหรือคิดอยากจะสร้างสวนดอกไม้ในวังแห่งนี้ ไม่ใช่ว่าทรงเกลียดดอกไม้หรืออย่างไร สาเหตุความเกลียดไม่ได้มีอะไรซับซ้อนเพียงแต่ท่านอ๋องคิดว่าดอกไม้สวยงามเหล่านั้นไม่เหมาะกับความแข็งแกร่งอย่างแม่ทัพใหญ่แดนบูรพาเท่านั้นเอง ดังนั้นในวังแห่งนี้โดยส่วนใหญ่จึงมีแต่ต้นไม้สีเขียว แม้กระทั่งศาลาพักผ่อนและสระบัวก็ยังไม่มีให้เห็น “สร้างสระบัวด้วยน่าจะดี เจ้าคิดว่ายังไง” “ก็ดีพ่ะย่ะค่ะ” “อืมม..กลับกันเถอะได้เวลาป้อนยาบำรุงให้หวางเฟยแล้ว” เมื่อพูดถึงหลินกุ้ยฮวาจ้าวโม่หยางก็ขบกรามแน่นเพื่อข่มความเจ็บปวดที่ยังหลงเหลืออยู่ในหัวใจ ในห้องบรรทมของตำหนักซ้าย... “ท่านอ๋องเพคะ แม่นมหยูใครก็ได้ พวกเจ้าพากันหายหัวไปไหนหมด ข้าปวดหนักได้ยินหรือไม่ เข้ามาช่วยข้าเดี๋ยวนี้!” แม้ร่างกายจะอ่อนแรงเดินเหินไม่ได้แต่เสียงแหลมเล็กของหลินกุ้ยฮวาก็ยังคงเสมอต้นเสมอปลาย แม้รูปทรงของริมฝีปากอวบอิ่มไม่เหมือนเดิมแล้วก็ตาม กว่านางจะรู้ตัวว่าโดนหลอกให้กินยาพิษมันก็สายไปเสียแล้ว ใครจะไปคิดว่าพระสวามีที่ทั้งรักทั้งหลงนางหัวปักหัวปำจะใจดำอำมหิตได้ถึงเพียงนี้ ชินอ๋องเดินเข้ามาถึงบริเวณตำหนักซ้ายพลันก็ได้ยินเสียงของอดีตชายาทั้งกรีดร้องและโหยหวนอยู่ไม่หยุดแต่อ๋องหนุ่มก็ยังยืนฟังด้วยใบหน้าที่เรียบนิ่งและเฉยชา “เมื่อนางกินยาครบตามจำนวนที่ให้ไว้ จัดการส่งนางและมารดาไปยังสกุลหลิวหลังจากนั้นให้ช่างมาทุบตำหนักนี้ทิ้งเสีย ทำให้เร็วที่สุดด้วย ข้าจะสร้างศาลาพักผ่อนและสระบัว” ชินอ๋องหันไปสั่งงานกับพ่อบ้านเหยียนแล้วเดินจากไปไม่ใยดีต่อตำหนักซ้ายและคนที่อยู่ที่นี่อีกต่อไป พ่อบ้านเหยียนก็ไม่ต่างจากเอ้อสง เขาคิดว่าท่านอ๋องคงเจ็บปวดกับอดีตหวางเฟยจนเพี้ยนไปแล้วแน่ ๆ ตำหนักซ้ายหาใช่ตำหนักขนาดเล็กเสียเมื่อไหร่ ความรโหฐานและความงดงามแทบจะไม่ต่างจากตำหนักใหญ่เลย หมดตำลึงทองไปไม่รู้ว่ากี่หีบใช้เวลาก่อสร้างก็ยาวนานเป็นปี แต่ท่านอ๋องจะให้ทุบทิ้งง่าย ๆ แบบนี้พ่อบ้านเหยียนถึงกับอึ้งเลยทีเดียว เขาจึงได้แต่ก้มหน้าน้อมรับคำสั่งก็เท่านั้น วังหลวง..ห้องทรงพระอักษร... “ฝ่าบาทจะไม่บอกน้องจริงหรือ แล้วอีกกี่เดือนกี่ปีชินอ๋องถึงจะหานางกับลูกเจอ ฮึ! ทรงคิดว่าเขาฉลาดนักหรือยังไง” “ก็รอดูไปก่อนพ่ะย่ะค่ะ หากเขาโง่นักก็ไม่ต้องมีเมียมีลูกเลยก็ดี” “บาปหนักนะ ระวังกรรมจะตามสนองไม่ให้พระองค์มีโอรสสืบราชบัลลังก์” ไทเฮาบ่นให้กับโอรสองค์โตที่กำลังคิดวางแผนดัดนิสัยของน้องชาย จ้าวโม่เทียนหัวเราะกับคำที่พระมารดาว่าให้ เขานะหรือจะไร้โอรสสืบราชบัลลังก์ “เสด็จแม่ก็รู้ดีที่เหล่าสนมทั้งหลายไม่สามารถตั้งครรภ์ได้เกิดจากสาเหตุอะไร ไม่ใช่หม่อมฉันที่เป็นสาเหตุเสียหน่อย จากนี้ไปก็ทรงรออุ้มหลาน ๆ ได้เลยพ่ะย่ะค่ะ” จ้าวโม่เทียนบอกพระมารดาอย่างหมายมาดและมั่นใจว่าพระองค์จะมีโอรสและธิดามากมายในเร็ววันนี้แน่นอน ในขณะที่วังหลวงและวังของชินอ๋องมีเรื่องร้าย ๆ เกิดขึ้น ตรงกันข้ามกับหมู่บ้านซานเหิงที่สุขสงบเหมือนอยู่บนสรวงสวรรค์ ถึงแม้จะมีแต่สตรีอัปลักษณ์อาศัยอยู่ที่นี่ก็ตามที หมู่บ้านซานเหิงเป็นหมู่บ้านที่แปลกประหลาดยิ่งนัก สตรีน้อยใหญ่ของที่นี่หาความงดงามก็ไม่มีสักคน ช่างแตกต่างจากบุรุษที่ทั้งหล่อเหลาและรูปงามกันทั้งนั้น และสตรีที่ซานเหิงมีอาชีพหลักก็คือเก็บสมุนไพรและปรุงยาขาย เพราะพวกนางมีท่านหมอซูหรือหมอยาอัปลักษณ์เป็นผู้ชี้แนะทั้งยังเป็นผู้นำของหมู่บ้านอีกต่างหาก ในแต่ละวันบริเวณลานกว้างของบ้านแต่ละหลังจึงใช้เป็นที่ตากสมุนไพรมากมายหลายชนิด หลินหลานกับเสี่ยวจูก็เช่นกันพวกนางไม่ได้ปล่อยให้ตัวเองว่างงานเลย ตอนนี้ทั้งสองก็ทำหน้าที่ตากและจำแนกสมุนไพรให้กับหมอซู “พี่สะใภ้ท่านควรจะพักบ้างไม่อย่างนั้นหลานของข้าจะไม่โตเอานะ” ซูเจินดุพี่สะใภ้วัยเยาว์ ที่ขยันเสียเหลือเกิน จนไม่รู้จักหยุดพัก พอว่างจากตากและคัดแยกสมุนไพร นางก็ยังหันมาฝึกปรุงยาอีก ก็ยาที่พวกนางใช้แปลงโฉมอยู่ทุกวันนี้ยังไงล่ะ สาว ๆ ในหมู่บ้านต่างก็ปรุงใช้เองกันทุกคน สาเหตุที่ต้องทำเช่นนี้ก็เพื่อความปลอดภัยของพวกนางเองนั่นแหละ เพราะเหล่าบุรุษของที่นี่ต้องออกไปทำงานที่อื่นอยู่บ่อย ๆ เดือนหรือสองเดือนถึงจะกลับมาที่หมู่บ้านสักครั้งบางทีพวกเขาก็ไปนานเป็นปีแล้วแต่ภารกิจที่ได้รับมา และผู้เป็นหัวหน้ากลุ่มก็คืออี้สงอย่างไม่ต้องสงสัย หลินหลานมองดูองค์หญิงในคราบของท่านหมอซูหรือหมออัปลักษณ์อย่างที่คนต่างถิ่นเรียกขาน ต่อให้หมอซูถอดยศองค์หญิงแล้วก็ตาม แต่คนรอบข้างหรือแม้แต่คนในหมู่บ้านแห่งนี้ดูอย่างไรก็ไม่ใช่ชาวบ้านธรรมดาอย่างที่ตาเห็นแน่นอน ถึงจะสงสัยแต่นางก็ไม่อยากจะถาม เพราะอีกหน่อยหมอซูก็จะเผยออกมาเอง อย่างเช่นเรื่องของอี้สงองครักษณ์เงาของท่านอ๋องทั้งยังมีศักดิ์เป็นน้องเขยของคนผู้นั้นอีกต่างหาก ได้ยินอย่างนั้นนางก็ไม่ได้กลัวหรอกหากท่านอ๋องจะตามมาเจอ บุรุษผู้ลุ่มหลงให้กับสาวงามอย่างเขานะหรือจะกล้าเฉียดเข้าใกล้หมู่บ้านแห่งนี้ที่มีแต่สตรีอัปลักษณ์ “ข้าหยุดพักก็ได้ แต่พรุ่งนี้ท่านต้องให้ข้าติดตามออกตรวจไข้ด้วยนะเจ้าคะ” หลินหลานต่อรองพอมาอยู่ที่นี่ได้สักพักนางจึงรู้ว่าหมอซูจะต้องออกตรวจไข้ให้กับคนหมู่บ้านอื่นเสมอทั้งยังปรุงยาส่งให้กับกองทัพอีกด้วย ช่างเป็นองค์หญิงที่มีความสามารถมากมายเหลือเกิน “ก็ได้ข้าอนุญาต แต่ข้างนอกนั่นมันจะไม่เหมือนกับที่นี่ พี่สะใภ้ต้องเตรียมตัวและเตรียมใจให้ดี เพราะไม่ใช่ทุกคนจะรับได้กับใบหน้าอัปลักษณ์อย่างเรา” “ข้ารู้แล้วเจ้าค่ะ หากพวกเขาจะรังเกียจแต่แลกกับความปลอดภัยข้าก็ยินดี” นางกล่าวยิ้ม “อ้อ..พี่สะใภ้ ท่านอยากรู้ข่าวของคนเมืองหลวงหรือไม่” “หากมันไม่เกี่ยวกับข้า ข้าก็ไม่อยากฟังเจ้าค่ะ” “เกี่ยวกับพี่สะใภ้แน่นอน ทั้งชินอ๋องและหลินกุ้ยฮวา” “งั้นข้าก็ไม่อยากฟังเจ้าค่ะ” พอได้ยินว่าเป็นเรื่องของชินอ๋องและพี่สาวของนางหลินหลานก็รีบปฏิเสธทันที นางจะอยากได้ยินเรื่องของพวกเขาสองคนไปทำไมกัน ในเมื่อนางเฝ้าเพียรภาวนาทุกเช้าเย็นว่าอย่าให้พวกเขาตามหานางเจอ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD