02

1558 Words
จากเรียวปากนุ่มชุ่มชื้นของเธอที่เขาแสนจะหลงใหล ไล่เรื่อยลงมาจนถึงลำคอระหง ปลายลิ้นร้อนๆ ยังคงทำหน้าที่สำรวจนวลเนื้อของเธออย่างไม่ลดละ โดยเฉพาะเมื่อมันลากผ่านมายังแอ่งชีพจรและมาหยุดอยู่ตรงทรวงสล้างงดงามล่อตาล่อใจให้ภมรหนุ่มอย่างเขาต้องรีบกระโจนเข้าใส่ แล้วลิ้นร้ายกาจก็ไม่ทำให้เธอต้องผิดหวัง เมื่อมันจู่โจมดูดตอดรัดทรวงสล้างของเธอจนเจ้าตัวยังต้องแหงนเงยใบหน้าเมื่อถูกความซ่านเสียวจู่โจม ไม่ใช่แค่ทรวงสล้างของเธอเท่านั้นที่กำลังถูกลิ้นร้ายกาจของเขาจู่โจม แต่ทุกส่วนทุกอณูในร่างกายของเธอเขาก็จะไม่ยอมละเว้นเช่นกัน แต่สถานที่อันคับแคบแบบนี้คงทำอะไรได้ไม่ถนัดนัก เขาจึงใช้ผ้าขนหนูที่วางพาดอยู่ห่อหุ้มพร้อมกับอุ้มร่างบอบบางของเธอออกมาวางบนเตียง เพื่อสานต่อในสิ่งที่ตัวเองทำค้างเอาไว้ “อืม...!” เธอครางเสียงแผ่วอีกครั้งเมื่อถูกเขาจู่โจม แต่ครั้งนี้เขากลับเริ่มจู่โจมเธอตั้งแต่ปลายเท้าเรื่อยมาผ่านเรียวขาสลักเสลา และยังคงไปต่อเรื่อยๆ จนกระทั่งมาหยุดอยู่ที่ความงามแห่งอิสตรีที่เธอหวงแหน เพียงแค่ถูกลิ้นร้อนๆ ของเขาแตะต้องลงไป ทำให้เธอถึงกับสะดุ้งพร้อมกันนั้นก็ยังแอ่นสะโพกยกสูงขึ้นอีก สร้างความพอใจให้เขาไม่น้อยที่ได้เห็นเธอตอบสนองเขาเช่นนี้ แต่แค่นี้ยังไม่พอ เพราะเขายังอยากเห็นเธอมีความสุขมากกว่านี้ มือทั้งสองข้างค่อยๆ แยกเรียวขาคู่งามออกจากกัน เพื่อจับจ้องความงดงามได้ถนัดขึ้น แต่ถ้าจะหยุดอยู่แค่การมองล่ะก็ คงเป็นไปไม่ได้ เมื่อตอนนี้เขากำลังยื่นปลายลิ้นร้อนๆ ของตัวเองสำรวจที่นาผืนน้อยของเธอต่อ แต่ให้ตายเถอะ ยิ่งได้สัมผัสก็ยิ่งถอนตัวไม่ขึ้น ความจริงเขาอยากจะสบถออกมาว่า ‘รสชาติดีเป็นบ้า’ ด้วยซ้ำไป ยิ่งสะโพกน้อยๆ ของเธอส่ายร่ารับกับลิ้นร้ายกาจของเขาก็ยิ่งทำเอาเขาแทบบ้า อยากจะฝากฝังตัวตนของตัวเองลงไปซะเดี๋ยวนี้ แต่ถ้าเป็นเช่นนั้นคงทำให้เธอเข็ดขยาดเขาไปจนตายเลยก็ได้ ดังนั้นสิ่งที่เขาทำได้ในตอนนี้ก็คือ ยื่นนิ้วร้อนๆ ของตัวเองเข้าไปทักทายปลายทางแห่งอิสตรีของเธอ พร้อมกันนั้นเรียวลิ้นร้อนชื้นก็ไม่ได้ล่าถอยไปไหน แต่กำลังจู่โจมที่นาผืนน้อยของเธอด้วยเช่นกัน คนที่ไม่เคยได้รับรู้ถึงความรู้สึกแบบนี้มาก่อน ถึงกับครางครั้งแล้วครั้งเล่า แต่เขาก็หาได้ปรานีเธอไม่ ยังคงรุกเร้าซุกไซร้ซอกซอนจนร่างบางของเธอถึงกับกระตุกถี่ๆ พร้อมกับกรีดร้องอย่างสุขสมออกมา ลมหายใจหอบถี่ของเธอบอกให้เขารู้ว่า เธอไปถึงจุดหมายปลายทางที่เขาวางเอาไว้เรียบร้อยแล้ว จะมีก็แต่เขาเท่านั้นที่ยังไม่ได้เริ่ม และให้ตายเถอะ ที่นาผืนน้อยของเธอช่างให้ความรู้สึกดีจนเขายังไม่อยากจากมันไปไหน จึงเป็นอีกครั้งที่เขาต้องยื่นลิ้นลากไล้ไปมาซ้ำๆ อย่างคนตะกละตะกรามและอดอยากปากแห้งมาเป็นแรมปี ไใช่ว่าเจะขาขาดดแคลนเรื่องพวกนี้ซะเมื่อไหร่ ตรงกันข้าม เขาจะมีมันเมื่อไหร่ก็ได้ตามที่ใจต้องการ แต่เชื่อเถอะว่าไม่มีครั้งไหนที่ให้ความรู้สึกดีเท่าครั้งนี้มาก่อน และไม่มีครั้งไหนที่เขาจะยอมทำอย่างที่ทำกับเธอตอนนี้แน่ แต่แล้วในขณะที่เขากำลังหลงระเริงกับที่นาผืนน้อยของเธออย่างไม่รู้เบื่อ เสียงลมหายใจแผ่วๆ ที่ดังมาแว่วๆ ก็ทำให้เขาต้องเงยหน้าขึ้นมามอง “ชิท!” เขาสบถออกมาทันที เมื่อตอนนี้เจ้าของที่นาที่เขากำลังคลั่งไคล้นักหนากำลังหลับอย่างมีความสุขไปแล้ว สังเกตได้จากรอยยิ้มน้อยๆ ที่แต่งแต้มอยู่บนใบหน้าของเธอในยามนี้ และรอยยิ้มนี้เองที่ทำให้เขาต้องพลอยยิ้มไปด้วย คงแปลกตรงที่เขาไม่ได้รู้สึกโกรธเธอเลยแม้แต่น้อย ที่ปล่อยให้เขาต้องค้างอยู่แบบนี้ ตรงกันข้าม แค่เห็นรอยยิ้มที่มีความสุขของเธอ ก็ทำให้เขามีความสุขไปด้วยแล้ว แต่จะโทษใครได้ล่ะ ถ้าเขาไม่มัวแต่หลงระเริงฉกชิมเธออย่างไม่รู้จักเบื่อแบบนั้น ป่านนี้เขาก็คงสุขสมตามเธอไปติดๆ แล้วล่ะ เมื่อเหตุการณ์มันเป็นแบบนี้ก็คงต้องโทษตัวเองแล้วล่ะ “หึๆ มีความสุขมากสิท่า” เขาเสยผมพร้อมกับยิ้มน้อยๆ กับรอยยิ้มของเธออีกครั้ง ก่อนที่จะรั้งผ้าห่มขึ้นมาคลุมตัวเธอไว้อีกครั้ง แต่ครั้งนี้มีกลับเขาด้วยอีกคนที่อยู่ในนั้น ภายใต้ผ้าห่มผืนเดียวกับเธอ ก็ในเมื่อเธอทำให้เสื้อผ้าเขาเลอะจนไม่สามารถใส่ได้อีก เธอก็ต้องชดใช้ด้วยการให้เขานอนด้วยอย่างนี้แหละ ถ้าขืนปล่อยให้เขาต้องไปนอนเปลือยอยู่บนโซฟาโดยมี่อะไรเลยแบบนั้น เขาคงต้องเป็นปอดบวมแน่ๆ ที่สำคัญจากเหตุการณ์ที่ผ่านมาเมื่อครู่ ก็ยากที่จะให้เขาตัดใจไปนอนที่อื่นได้ จะพูดว่ามันเป็นความรู้สึกหวงก็คงไม่ผิดนักหรอก กรี๊ง... กริ๊ง... เสียงโทรศัพท์ในเช้าของอีกวัน ปลุกให้คนที่กำลังหลับฝันดีต้องตื่นขึ้นมาด้วยความโมโห ด้วยเมื่อคืนกว่าที่เธอจะได้นอนก็ปาเข้าไปดึกมากแล้ว “โทรมาทำไมแต่เช้าเนี่ย คนจะหลับจะนอน” แก้วมุกดาเพื่อนรักเพียงคนเดียวของสุดที่รักกลอกเสียงลงไปอย่างหงุดหงิด “นี่แม่เองจ๊ะแก้ว” คุณสุทินีแม่ของสุดที่รักกลอกเสียงลงไปอย่างอ่อนโยน ทำเอาคนหงุดหงิดก่อนหน้าถึงกับตื่นเต็มตาขึ้นมาทันที “แม่นี แก้วขอโทษค่ะ แก้วนึกว่าเพื่อนที่มหาลัยน่ะคะ ขอโทษนะคะแม่นี” แก้วมุกดาบอกอย่างรู้สึกผิด “ไม่เป็นไรจ๊ะ แม่สิที่ต้องขอโทษที่ต้องโทรมาปลุกแก้วแต่เช้าแบบนี้ นี่ถ้าเดาไม่ผิดเพื่อนเราก็คงยังไม่ตื่นใช่ไหมจ๊ะ” ด้วยคิดว่าลูกสาวตนเองคงจะนอนอยู่ด้วยกันกับเพื่อน คุณสุทินีจึงถามออกไป “ก็คงอย่างนั้นล่ะค่ะ ว่าแต่แม่นีโทรมาหาแก้วมีเรื่องอะไรให้แก้วช่วยรึเปล่าคะ” ด้วยไม่ทันคิดประโยคที่อีกฝ่ายพูดมา แก้วมุกดาจึงถามกลับไปบ้าง “แม่มีธุระกับยาหยีน่ะจ๊ะ ถ้ายังไงลูกช่วยไปปลุกให้เขามาคุยกับแม่หน่อยได้ไหมจ๊ะ วันนี้เขามีนัดกับแม่ว่าจะไปรับคุณพ่อเขาที่สนามบิน แต่ป่านนี้ยังนอนไม่ตื่น ไม่ไหวจริงๆ เลยลูกคนนี้” แก้วมุกดาได้ยินเข้าก็ถามกลับไปทันที “ปลุก ปลุกที่ไหนคะแม่นี หยีเขาไม่ได้อยู่กับแก้วนะคะ แม่นีขึ้นไปดูบนห้องนอนเขารึยังคะ บางทีเขาอาจจะนอนอยู่บนห้องก็ได้นะคะ” แก้วมุกดาพยายามคิดในแง่ดี เป็นเพราะเรื่องวุ่นๆ ในงานแต่งเมื่อคืนนี้บวกกับสภาพร่างกายที่อ่อนล้า ทำให้แก้วมุกดาลืมเรื่องเพื่อนไปซะสนิท อีกอย่างเป็นเพราะเธอคิดว่าสุดที่รักคงกลับบ้านไปก่อนหน้าตัวเองนานแล้ว จึงไม่ได้คิดเอะใจ “หยีไม่ได้อยู่กับหนู เป็นไปได้ยังไง ในเมื่อที่บ้านก็ไม่มีเหมือนกัน” แก้วมุกดาได้ยินแบบนั้นก็ทำสีหน้าเคร่งเครียดทันที “แม่นีใจเย็นๆ ก่อนนะคะ บางทีหยีมันอาจจะเปิดห้องที่โรงแรมนอน เพราะกลับไม่ไหวก็ได้ค่ะ” แก้วมุกดาจำเป็นต้องเล่าเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนี้ให้ท่านฟัง “แล้วเราจะทำยังไงดีล่ะลูก เราจะไปหาหยีที่ไหนกันดี โธ่! ยาหยีลูกแม่ ป่านนี้จะเป็นยังไงบ้างก็ไม่รู้” คุณสุทินีโอดครวญด้วยความเป็นห่วงลูกสาวเพียงคนเดียว ด้วยรู้ดีว่าตอนนี้ครอบครัวตนกำลังไม่ปลอดภัย และลูกสาวอาจจะกำลังถูกปองร้ายอยู่ก็เป็นได้ จึงไม่อาจนิ่งนอนใจได้อีก ถ้าหากศัตรูเปลี่ยนเป้าหมายจากตนและสามีเป็นลูกสาวอย่างสุดที่รักล่ะก็ ท่านคงต้องขาดใจตายอยู่ตรงนี้เป็นแน่ “แม่นีไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ เราจะต้องหาหยีเจอแน่ๆ เอาเป็นว่าเดี๋ยวแก้วรีบไปหาแม่นีที่บ้านแล้วเราค่อยไปหาหยีที่โรมแรมกัน บางทีมันอาจจะไม่มีเรื่องอะไรร้ายแรงอย่างที่เรากำลังคิดก็ได้ค่ะ” แก้วมุกดาพยายามพูดปลอบอีกฝ่าย ทั้งๆ ที่ตัวเองก็กำลังใจไม่ดีอยู่เหมือนกัน สิ่งที่ทำได้ในตอนนี้ก็คือรีบออกตามหาเพื่อนให้เร็วที่สุด
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD