เมื่อคืนฉันรู้สึกตัวมาตอนที่ตัวเองนอนกอดอยู่กับพ่อเลี้ยงบนโซฟาทั้งคืนจนเขาเผลอหลับไปด้วย ฉันตกใจอย่างมากและก็รู้สึกเขินเล็กน้อยที่กอดกับเขาแทบจะไม่ปล่อยเลยด้วยซ้ำ พอตื่นขึ้นมาฉันก็ปลุกพ่อเลี้ยงให้เขาขึ้นไปนอนที่ห้อง ไม่กล้าสบตากับเขาแม้แต่นิดราวกับตัวเองทำเรื่องที่ไม่ควรทำลงไปต่างหาก พ่อเลี้ยงบอกฉันว่าได้ให้คนซ้อมชาญและไล่ออกจากไร่เป็นที่เรียบร้อย เขาบอกว่าตอนแรกจะยังไม่กลับด้วยซ้ำแต่นึกยังไงไม่รู้เลยกลับมาก่อนเพราะกลัวว่าฉันจะทำอาหารรอจนดึก โชคดีของฉันที่พ่อเลี้ยงกลับมาทัน
“โอเคแล้วเหรอ?” ตกใจเล็กน้อยหันไปมองร่างสูงที่ยืนกอดอกอยู่ตรงทางเข้ามาในครัว ฉันปิดเตาแก๊สและหันมาสบตากับพ่อเลี้ยงที่สวมกางเกงยีนส์สีดำและเสื้อเชิ้ตสีเทาพับแขนถึงข้อศอก
“บัวขอบคุณพ่อเลี้ยงมากๆ เลยนะคะที่ช่วยบัว” ร่างสูงได้ยินแบบนั้นก็เดินมาหยุดตรงหน้าพลางเอื้อมมือมาช้อนปลายคางให้ฉันเชิดหน้าขึ้น ก่อนจะเอื้อมมืออีกข้างมาประคองแก้มใช้ปลายนิ้วโป้งปาดบนพวงแก้มใส
“จะไม่มีใครทำอะไรเธอได้อีก”
“...”
“ไม่ต้องกลัวนะ”
ฉันพยักหน้ารับสบเข้ากับดวงตาคมที่กวาดมองทั่วใบหน้า จากนั้นใบหน้าหล่อเหลาก็ค่อยๆ โน้มเข้ามาใกล้จนฉันลอบกลืนน้ำลายทันทีที่เห็นใบหน้าหล่อเหลาชัดเจนขึ้น ดวงตาของฉันหลับลงอัตโนมัติก่อนที่กลีบปากจะรับรู้ถึงริมฝีปากแดงคล้ำที่กดแนบลงมาอย่างเชื่องช้า
พ่อเลี้ยง... จูบฉันงั้นเหรอ?
นี่ฉันกำลังจูบกับเขาจริงๆ ใช่ไหมนะ มันไม่ใช่ความฝันฉันสัมผัสได้ เพราะถ้าเป็นความฝันหัวใจของฉันก็คงไม่เต้นแรงขนาดนี้หรอก จูบแรกของฉัน สัมผัสแรกของฉัน ถูกมอบให้กับคนตรงหน้าที่ถอนจูบออกอย่างอ้อยอิ่งราวกับว่าอยากจูบมากกว่านี้ พอนึกขึ้นมาได้เขาก็ลอบกลืนน้ำลายพลางขยับตัวออกห่าง
“ขอโทษ ฉันไม่ได้ตั้งใจ”
“มะ ไม่เป็นไรค่ะ” ตอบเขาด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกัก พลางหมุนตัวไปจัดแจงอาหารเช้า “บัวยกข้าวต้มปลาไปให้นะคะ พ่อเลี้ยงออกไปนั่งรอที่โต๊ะเลยก็ได้ค่ะ”
พ่อเลี้ยงพยักหน้ารับและเดินออกจากห้องครัวไป ส่วนฉันก็ยกมือทาบทับตรงตำแหน่งหัวใจและค่อยๆ ไล่ขึ้นมาแตะบนกลีบปากตัวเอง สัมผัสที่อุ่นร้อนของพ่อเลี้ยงยังไม่จางหายไปเลย ทำไมพ่อเลี้ยงถึงได้จูบฉันล่ะ? หรือเขากำลังปลอบใจฉันอยู่ใช่ไหมกับเหตุการณ์เลวร้ายที่เกิดขึ้นไปหมาดๆ ฉันสลัดความคิดและยืนทำสมาธิสักพักก็ยกถาดข้าวต้มปลาทะเลมาเสิร์ฟให้เขาโดยไม่สบตากันเลยแม้แต่นิด
“วันนี้ไปกับฉัน”
“แต่ว่าบัว...”
“เจอไอ้ชาญทำแบบนั้น ฉันไม่ปล่อยให้เธอทำงานแน่ๆ” คำสั่งของพ่อเลี้ยงคือเด็ดขาด ฉันปฏิเสธไม่ได้เลยสักนิดจำใจที่จะต้องไปกับพ่อเลี้ยงที่คงไปคุยธุระในเมืองเรื่องดอกไม้เมืองหนาวที่เขาจะทำแน่ “ฉันจะตั้งกฎใหม่ในบ้าน จนกว่าฉันจะกลับมาต้องให้คนงานผู้หญิงอยู่กับเธอ”
“บัวไม่เป็นไรจริงๆ ค่ะ อีกอย่างคนอื่นก็คงไม่ทำอะไรบัว ชาญเขาเคยตามบัวพอบัวไม่เล่นด้วยก็เลยโกรธค่ะ”
“ว่าไงนะ? ทำไมเธอไม่เคยบอกฉันเรื่องนี้” พ่อเลี้ยงได้ฟังก็กระแทกช้อนกระทบกับถ้วยข้าวต้มอย่างแรง
“คะ คือว่าตอนนั้นบัวคิดว่ามันไม่มีอะไรน่ะค่ะ คิดแค่ว่าไม่สนใจเขาก็คงจะไม่ยุ่ง”
“แล้วทำไมครั้งนี้มันถึงทำ”
“ชาญว่าบัวค่ะว่าเป็นหนูตกท่อน้ำ” ใบหน้าหล่อเหลาบึ้งตึงทันทีที่ฉันเอ่ยปากเล่า “บอกว่าอีกไม่นานพ่อเลี้ยงจะเฉดหัวบัวไปจากที่นี่ เสนอตัวว่าจะให้บัวไปคบกับเขา แต่บัวปฏิเสธเขาก็เลยโกรธค่ะ”
“มันกล้าพูดขนาดนั้นเลยเหรอ?”
“ค่ะ บัวพยายามไม่สนใจ แต่ก็ไม่รู้ว่าเขาจะเข้ามา...” เว้นวรรคคำพูดพลางถอนหายใจออกมาเล็กน้อย “บัวไม่เป็นอะไรจริงๆ นะคะ พ่อเลี้ยงอย่าให้คนงานมาอยู่เป็นเพื่อนบัวเลยค่ะ บัวไม่ได้อยู่ในฐานะคุณหนูของบ้านแล้ว”
“เฮ้อ ตามใจ” พ่อเลี้ยงถอนหายใจพลางตักข้าวต้มกินต่อ “ถ้าเกิดเรื่องอะไรแบบนี้อีก ไม่เกิดมันก็ดี แต่ถ้าเกิดเธอต้องโทรหาฉันไม่ก็โทรหาลุงโตหัวหน้างาน เข้าใจนะบัว”
“บัวสัญญาค่ะ ขอบคุณนะคะ”
ฉันฉีกยิ้มกว้างให้กับคนตรงหน้าที่ส่ายหน้าไปมาก่อนจะเอื้อมมือมาวางบนศีรษะฉันและลูบไปมาเบาๆ เขาจะรู้บ้างไหมนะว่าการทำแบบนี้มันทำให้หัวใจดวงน้อยดวงนี้เต้นถี่มากแค่ไหน ยิ่งนึกไปถึงจูบเมื่อกี้ใบหน้าก็ร้อนผะผ่าวพลางก้มหน้ากินข้าวต้มต่อ ใช้เวลากินเรียบร้อยฉันก็เข้าห้องไปแต่งตัวสวมเสื้อยืดสีขาวกับกางเกงยีนส์ออกมาเห็นพ่อเลี้ยงกำลังนั่งสวมรองเท้าอยู่ จึงรีบไปนั่งคุกเข่าตรงหน้าเขาและเป็นฝ่ายสวมรองเท้าให้เขาเสมอ หากแต่ว่าฉันจับไปโดนเท้าซ้ายของพ่อเลี้ยงที่เขากระตุกเล็กน้อย ทำให้ฉันเงยหน้าสบตากับเขา
“เป็นอะไรคะ?”
“เปล่า”
“เป็นแน่ๆ บัวดูหน่อยนะคะ” ฉันไม่รอให้พ่อเลี้ยงตกลงถอดถุงเท้าออกมองข้อเท้าที่บวมเล็กน้อย “ไปโดนอะไรมาคะ ทำไมเท้าบวม”
“น่าจะตอนไปดูที่ดินแล้วฉันลื่นดินลูกรัง ไม่คิดว่าจะเจ็บด้วยซ้ำ”
“เดี๋ยวคืนนี้บัวประคบให้นะคะ แช่น้ำเย็นน่าจะดีขึ้นค่ะ” พูดจบก็สวมถุงเท้ารองเท้าให้พ่อเลี้ยงเรียบร้อย ฉันก็มองเขาด้วยความเป็นห่วงเวลาเดินเขาจะเจ็บหรือเปล่า แต่พ่อเลี้ยงก็แข็งแรงนะไม่แสดงออกว่าตัวเองเจ็บเลยสักนิด
รถกระบะของพ่อเลี้ยงขับเข้ามาในตัวเมืองที่ใช้เวลาเดินทางมาถึงประมาณครึ่งชั่วโมง ตรงนี้จะเป็นย่านการค้าใหญ่ๆ เลยก็ว่าได้ฉันไม่ได้เข้าเมืองมานานแล้วนับตั้งแต่แม่หนีไปกับผู้ชายคนอื่น ปกติแม่จะลากฉันมาที่นี่เพื่อถลุงเงินของพ่อเลี้ยง ซื้อของซื้อเสื้อผ้าใช้แบบไม่คิดจะช่วยเขาประหยัดเลยแม้แต่นิด รถของพ่อเลี้ยงจอดที่หน้าร้านดอกไม้แห่งหนึ่ง ดูเหมือนเพิ่งจะมาเปิดใหม่หรือเปล่าฉันไม่แน่ใจว่าไม่เคยเห็นร้านดอกไม้แบบนี้นะ เพราะมีแค่ร้านเดียวแถมดอกไม้ก็เน้นไม้เมืองหนาวซะด้วย
“อยากไปเดินเล่นก่อนหรือเปล่า?”
“แล้วพ่อเลี้ยงล่ะคะ”
“ฉันจะอยู่คุยงานที่ร้านดอกไม้นี้” พ่อเลี้ยงชี้นิ้วไปที่ร้านดอกไม้ ก่อนจะหยิบกระเป๋าเงินหนังสีดำและควักธนบัตรสีเทาส่งมาให้ฉันประมาณสิบใบ “อยากได้อะไรก็ซื้อได้เลย”
“ไม่ดีกว่าค่ะ บัวไม่อยากได้อะไร”
“เอาไปเถอะ บอกแล้วไงฉันเลี้ยงเธอได้ เพราะงั้นอยากได้อะไรก็ซื้อมาเลย เสร็จก็มาหาฉันที่นี่” ฉันเม้มริมฝีปากตัวเองก่อนจะยกมือไหว้ขอบคุณเขาและรับเงินก้อนนั้นมาไว้กับตัว “ซื้อเสื้อผ้าบ้างก็ได้ เห็นใส่แต่ตัวเดิมๆ”
“บัวไม่ค่อยอยากใช้เงินแบบไม่จำเป็นน่ะค่ะ”
“เสื้อผ้าก็จำเป็น” พ่อเลี้ยงยิ้มขำพลางเอื้อมมือมาดึงเสื้อยืดฉันตรงคอที่ย้วยลงนิดหน่อย “ซื้อใหม่สักตัวสองตัวก็ดี”
“ก็ได้ค่ะ พ่อเลี้ยงจะเอาอะไรไหมคะ?”
“ฉันให้เธอซื้อของส่วนตัว ไม่ต้องซื้อให้ฉัน”
[50%]
*-----------------------------------------*