“ที่เธอทำแปลว่ารักหรือไม่รัก
และไม่เคยรู้เลยว่าอะไรเป็นอะไร
อย่างกับฉันรักเธอ เป็นอย่างงั้นใช่ไหม
แปลกใจตัวเองซะจริงจริง
เรื่องแค่นี้ ฉันไม่รู้ไม่เข้าใจ
ไม่เคยรู้ว่าเธอ คิดอะไรทำอะไร
ก็มันยากเหลือเกิน ถ้าเป็นเรื่องหัวใจ
ฉันรู้อะไรซะมากมาย ยกเว้นเรื่องเธอ”
“แหมๆ อารมณ์ดีแบบนี้เกิดไรขึ้นจ๊ะถึงได้ร้องเพลงด้วยใบหน้าที่อิ่มเอิบแบบนี้”อยู่ๆโนริก็แซวฉันขึ้นมาด้วยรอยยิ้มที่เปื้อนเต็มใบหน้า
“ฉันว่าแกก็ร้องเพลงเพราะนะ แกลองไปสมัครไปที่รายการเดอะวอยซ์สิ ฉันว่าเเกต้องได้แน่ๆเลย”มิวนิคชมอีกคน
“บ้า>0///
“ยังไงๆ เอาแน่ๆใช่ไหมคนนี้ปอร์เช่”นิกกี้ที่เงียบๆพูดแซวขึ้น จนฉันต้องรีบทำตัวไม่สนใจเพื่อหลบสายตาของคนทั้งห้องด้วยความเขิน
“พิกเล็ท ดีใจซะนะที่คนอย่างปอร์เช่ตกหลุมดำชอบเธอน่ะ”เพื่อนในห้องอีกคนแซว
“นี่ๆ ฉันไม่มีวันชอบยัยนี่หรอก วันๆเอาแต่เพ้อใครเขาจะชอบ”นี่สินะ คือเหตุผลที่นายไม่ชอบฉันคอยหาเรื่องทะเลาะกับฉันเสมอๆ เห้อ! T^T
“ฉันก็ไม่มีวันชอบคนปากปีจอแบบนายหรอก”
“นี่ นี่มันห้องสอบนะทะเลาะกันอยู่ได้...เธอสองคนออกไปหน้าห้องเลยไป เพื่อนเค้าจะสอบ”แล้วครูผู้ใจดีก็ต้องขัดขึ้นเพื่อให้สงครามระหว่างฉันกับปอร์เช่สงบลง
ฉันและปอร์เช่ลุกออกจากโต๊ะสอบแล้วเดินออกไปหน้าห้องอย่างหงอยๆ
“อ้อ หยิบไม้บรรทัดไปคาบคนละอันด้วย แล้วส่วนเรื่องสอบน่ะไปตามสอบที่ห้องสังคมเย็นนี้เข้าใจไหม”
“ครับ/ค่ะ”ฉันและปอร์เช่ตอบพร้อมกัน แต่ก็ไม่วายทำหน้าทำตาใส่กันก่อนออกไปนอกห้องอีก
“เพราะเธอคนเดียวเลยนะทำให้ฉันต้องมาคาบไอ้ไม้บรรทัดบ้านี่กับเธอ แถมคนอื่นเดินไปมามองอีก เสียภาพพจน์คนหล่อๆอย่างฉันพอดี”พอออกมานอกห้องไม่นานปอร์เช่ก็โวยวายใส่ฉันทันที
“นี่ นายพูดให้มันดีๆนะ นายเองต่างหากที่เป็นคนเริ่มก่อน สร้างปัญหาให้คนอื่นเดือดร้อนแล้วยังมาโยนความผิดให้ฉันคนเดียวอีก ถามจริงละอายใจม้ะ เป็นผู้ชายจริงๆหรือเปล่าคะคุณปอร์เช่”ฉันกล่าวเหน็บแนมเขาบ้าง
“โธ่เอ้ย เธอก็รู้ว่าฉันดัดฟัน มาคาบไม้บรรทัดน้ำลายไหลกันพอดี อี๋ เสียกันพอดีหน้าตาที่สร้างมาแต่ม.ต้น”ปอร์เช่เริ่มบ่น
“จริงๆแล้วนายไม่น่าดัดฟันเลยนะ น่าจะดัดสันดารมากกว่า ^0^”พูดจบฉันก็เอาหูฟังที่หยิบติดมือมาเสียบใส่หูแล้วก็เอาไม้บรรทัดขึ้นมาคาบไว้ แล้วทำเป็นไม่ได้ยินเขาที่บ่นนู้นบ่นนี้อยู่ข้างๆฉัน
เอาจริงๆฉันก็เบื่อที่จะเถียงกับเขานะ แค่ทะเลาะกันคะแนนหัวใจก็คงติดลบแล้วลบอีกแล้วล่ะ บางทีฉันก็เหนื่อยอยากจะคุยกับเขาดีๆเหมือนอย่างคนอื่น แต่คุยกันดีๆไม่ได้นานเขาก็ต้องเป็นฝ่ายทำให้ฉันโมโหทุกทีเลย แล้วริมฝีปากแบบเขานะทำให้คนปากจัดอย่างฉันชิดซ้ายไปเลย นี่เขายังมีความเป็นสุภาพบุรุษอยู่หรือเปล่าฉันก็แอบคิดเหมือนกันนะ ผู้ชายอะไรปากร้ายเป็นบ้าเลย
“นี่เธอ ชวนฉันคุยด้วยสิ”ปอร์เช่จิ้มไหล่ฉันเบาๆ
“-_-”ฉันปัดมือเขาออกจากไหล่ของฉันอย่างรำคาญใจ
“ฟังด้วยๆ”แต่พอฉันปัดมือเขาออก เขาก็เปลี่ยนเป็นดึงหูฟังของฉันออก แล้วเอาไปเสียบใส่หูตัวเองโดยที่ฉันยังไม่ได้ตอบตกลงกับเขา
“นี่นาย ใครอนุญาตยะ”ฉันดึงหูฟังคืนแล้วเสียบกลับเข้าไปในหูของตัวเอง
“อย่าขี้งกไปหน่อยเลย นี่ๆเพลงนี้ชื่อเพลงอะไรอ่ะ”นอกจากเขาจะไม่สนใจที่ฉันว่าให้แล้วเขายังมาถามฉันอีกหรอเนี้ย
“-_-”
“นี่ ฉันถามน่ะตอบสิ เป็นใบ้หรอ”
“พูดมาก เอามานี่เลยมา ไม่ต้องฟงต้องฟังมันและ”จากนั้นฉันก็ถอดหูฟังออกแล้วปิดเพลง
“เอ้า อะไรของเธอเนี้ย-0-”
“นายนี่มันชอบสร้างแต่ปัญหาจริงๆ คาบไปเลยไม้บรรทัดเนี้ย”
“อุ๊บส์!OxO”ฉันจับไม้บรรทัดที่เขาถืออยู่ยัดเข้าปากเขา จนเขาสงบปากลง
เฮ้อ เฮ้อค่อยยังชั่วหน่อย
จึ๊กๆๆๆๆ
เอาแล้ว นายนี่เป็นเด็กไฮเปอร์หรือเปล่าเนี้ย อยู่ไม่นิ่งเลย แล้วนี่อะไรอีกเนี้ย แต่พอหันไปดูแล้วถึงกับตกใจเลยค่ะO_O
“อี๊>0
“ฮ่าๆๆๆ^0^”ปอร์เช่หัวเราะฉันที่เห็นฉันรังเกียจ
“นี่นาย เล่นบ้าอะไรของนายเนี้ยสกปรก”
“ทำเป็นรังเกียจ เธอนี่มันไม่รู้คุณค่าเลยนะ เธอดูอย่างแฟนคลับฉันสิเวลาใช้ทิชชูเช็ดเหงื่อแล้วปาทิ้ง ยัยพวกนั้นน่ะแย่งกันเก็บอย่างกับเห็นทองคำ”นี่เขาหลงตัวเองเกินไปหรือเปล่าเนี้ย-___-“
“นั้นมันเหงื่อ แต่นี่มันน้ำลาย นายนี่มันเป็นผู้ชายประเภทไหนกันเนี้ย”ฉันทำหน้าเอือมๆ แล้วค่อยๆเขยิบห่างออกจากเขา
“ขนาดเหงื่อยังแย่งกันเก็บเลย ถ้าน้ำลายก็คงจะแย่งกันเอาถังมาลอง”
“โอ๊ย หุบปากได้ไหมปอร์เช่ ที่บ้านไม่มีคนคุยด้วยหรอนายถึงได้เก็บกฎแล้วก็พูดมากแบบนี้”
“ก็คุยนะ...”เขาตอบอย่างซื่อ
“โธ่ ฉันประชดโว้ยยย-0-”
“อ้าวหรอ เออนี่ๆฉันขอยืมโทรศัพท์ของเธอเล่นเกมส์หน่อยสิ นะๆๆฉันเหงาน่ะ”ยังไม่ทันที่ฉันจะตอบตกลงเขาก็ถือโอกาสหยิบไปเลย
“ปอร์เช่ ฉันยังไม่ได้ให้นายเลยนะ ทำไมนายถือได้ถือวิสาสะหยิบไปอย่างไร้มารยาทแบบนี้น่ะ”จากนั้นฉันก็แย่งคืนมา ก็ถ้าฉันให้ยืมเขาก็ต้องรู้ความลับในโทรศัพท์ของฉันน่ะสิ
“นี่ขอเล่นนิดเดียวเอง”ปอร์เช่แย่งกลับไปอีครั้ง
“ไม่ได้ นายจะเอาไปไม่ได้ ปอร์เช่ขอร้องอย่าเอาไป...”โอ๊ยยย หมดกันทั้งรูป ทั้งข้อความที่เกี่ยวกับเขา ขออย่าให้เขาเห็นอะไรเลย
“ทำไมหรอ ทำตัวมีพิรุธแบบนี้เธอต้องมีความลับอยู่ในนี้แน่ๆเลย”นี่เขาไม่ทุกข์ไม่ร้อนกับฉันเลยหรอ นี่เขาจะเล่นไปถึงไหนเนี้ย ฉันซีเรียสนะ-[]-
“ไม่มีอะไรทั้งนั้นแหละ แต่ฉันไม่ชอบให้ใครยุ่งของส่วนตัวของฉันนายเข้าใจไหม”ฉันเริ่มโมโหแล้วนะ
“หึหึ พอดีว่าทางบ้านฉันน่ะสอนให้เป็นกันเอง มารยาท สมบัติผู้ดีฉันสะกดไม่เป็นหรอก...ฉันว่าเธอต้องมีคลิปโป๊แน่ๆเลย...ไหนแบ่งฉันบ้างนะ^_^”โธ่ ยังจะมาเล่นอีก นายนี่มันกวนไม่เลิกเลยนะ ฉันเนี้ยใจเต้นไปหมดแล้ว กลัวความลับจะหลุดจัง
“ปอร์เช่ ฉันบอกให้เอามาไงเล่า ฟังไม่รู้เรื่องหรือไง”
“ทำเป็นปั้นหน้ายักษ์ใส่ แกล้งโกธรอีก...”โหย ไอ้บ้า นี่แหละข้อเสียที่ฉันไม่เคยโกรธใครจริงๆ เลยทำให้คนอื่นคิดว่าฉันเป็นคนที่โกธรใครไม่เป็น แต่นี่ฉันจริงจังนะเว้ยT^T
ฮึ่บ!
ปอร์เช่ชูโทรศัพท์ของฉันขึ้นเหนือหัว แล้วเพราะความเตี้ยของฉันทำให้คนตัวสูงกว่าอย่างเขาได้เปรียบไปเต็มๆ เขาจะแกล้งฉันไปถึงไหนเนี้ย อยากจะร้องไห้ดังๆเป็นภาษาบรูไน
“อยากได้ก็หยิบให้ถึงสิคร้าบบบ^0^”ปอร์เช่ทำหน้าทะเล้นใส่ฉัน
ฮึ่บ!
ฉันเขย่งเท้าจนสุดแล้วเอื้อมมือเพื่อที่จะไปหยิบ แต่มันก็เกินความสามารถของฉัน ฉันไม่สามารถที่จะหยิบมันมาได้เลย พอจะถึงเขาก็ใช้นิ้วจิ้มหน้าผากฉันแล้วผลักจนฉันหน้าหงาย
“นี่ เอาของฉันคืนมาเลยนะ”
“กลับไปกินนมไปไอ้หนู”
“นายว่าฉันเตี้ยหรอ”
“เปล่าเลย คำนั้นเธอพูดเองนะ ฮ่าๆๆๆ คนหรือนกแพนกวินวะเนี้ย^0^”เขาหัวเราะอย่างพอใจ
“ฉันไม่ขำกับนายเลยนะ บอกให้เอามา”ฉันกระโดดเพื่อให้ตัวเองคว้าโทรศัพท์ได้ แต่ปอร์เช่กลับหลบได้ ทำให้ฉันถลาแล้วเซจนหน้าของฉันไปกระแทกกับหน้าอกของเขา กลิ่นน้ำหอมอ่อนๆโชยเข้าจมูกของฉัน ผู้ชายอะไรเนี้ยขนาดเหงื่อออกยังหอมอยู่เลย^-^”
“O_O”>ปอร์เช่
“O///O”>ฉัน
สายตาของฉันเผลอมองขึ้นไปสบประสานกับสายตาของปอร์เช่ที่มองฉันอยู่ก่อนแล้ว ใบหน้าหล่อๆจอมทะเล้นของเขาราวกับเทพบุตร ตอนนี้รอบกายของฉันเหมือนถูกควบคุมด้วยรีโมทที่กดหยุดสต๊อปเอาไว้ ทุกอย่างมันหยุดนิ่งไปหมด ใจฉันนี่ก็แทบจะหยุดเต้นไปด้วย ลมหายใจของฉันขาดตอน ท้องที่หวิวๆราวกับว่ามีผีเสื้อนับล้านบินอยู่ในท้อง แล้วฉันก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าฉันตกหลุมรักเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่า
ฟิ้วส์! ผลัก!
“โอ๊ย>0
“เห้ย! O.O”>ปอร์เช่
แผล๊ะ! เกร้ง!
เสียงโทรศัพท์กระทบกับพื้นอย่างมีศิลปะ นี่เป็นการแตกกระจายที่ได้อรรถรสมากค่ะ ฝาหลัง แบต แบ่งออกไปเป็นชิ้นๆ
“ปอร์เช่!-0-”
“ฉะ...ฉันขอโทษ^______^”ใบหน้าขาวๆของเขาตอนนี้ซีดเหมือนไก่ต้ม
“ขอโทษแล้วชิ้นส่วนมันกลับมาประกอบกันเหมือนเดิมหรือไง”ฉันโวยวาย และยิ่งทำให้ปอร์เช่รู้สึกผิดเข้าไปอีก
“ฉันจะรับผิดชอบทุกอย่างเลย ขอโทษน้า...”ปอร์เช่กล่าวรับผิดชอบ “เดี๋ยวฉันจะซ่อมให้ หรือไม่ก็ซื้อใหม่เลยดีไหม^0^”
“ของบางอย่างแตกไปแล้ว เอามาต่อกันมันก็ไม่เหมือนเดิมหรอก”
ตอนเย็น...
แล้วนี่ฉันจะโทรหาแม่ยังไงล่ะเนี้ย...รำบากเลยฉัน
“นี่ๆ กลับบ้านกัน”ปอร์เช่เดินมาจิ้มไหล่ฉันพร้อมกับชวนกลับบ้าน
“นายจะกลับก็กลับไปคนเดียวสิ”
“นี่เธอยังไม่หายโกรธฉันอีกหรอ”
“ลองให้ฉันสาดขี้ใส่หน้านายไหมล่ะ อยากรู้เหมือนกันว่านายจะโกรธเหมือนที่ฉันโกรธนายหรือเปล่า-_-”
“โอเค ถึงฉันจะหล่อแต่ฉันก็มีความรับผิดชอบมากพอ ทางบ้านไม่สอนมารยาทแต่ทางบ้านสอนเรื่องความรับผิดชอบนะ^o^”ยังจะมาพูดเล่นอีกฉันไม่ยิ้มด้วยหรอกนะ>///
ขวับ! พึ่บ!
ปอร์เช่คว้าแขนฉันไปจับก่อนที่จะลากฉันออกจากห้องเรียนแล้วตรงไปยังรถของเขา
“นี่นาย จะพาฉันไปไหนเนี้ย”ถึงแม้ปากจะชอบโวยวายแต่ในใจฉันน่ะเต้นไม่เป็นจังหวะแล้ว ก็ดูเขาจับแขนฉันสิ ดูแล้วเหมือนพระเอกที่จับมือนางเอกวิ่งหนีโจรอย่างไงอย่างงั้นเลย อร๊าย>0
“ตามมาเถอะหน่า”
ฉันสงบปากสงบคำแล้วเดินตามเขาไปอย่างเงียบๆ ฉันขัดขืนไปอย่างงั้นแหละความจริงน่ะอยากไปกับเขาสุดๆไปเลย แต่ถ้าฉันทำเป็นดีใจออกนอกหน้าเกินไปมันจะดูไม่เหมาะเท่าไหร่
Shopping mall…
“ปอร์เช่ นายพาฉันมาที่นี่ทำไม(+_+)”
“ก็รับผิดชอบในสิ่งที่ทำน่ะสิ โทรศัพน์เธอมันแหลกไปแล้ว”ว้าว ผู้ชายอะไรทำผิดรู้จักรับผิดชอบ
“แล้วนายมีเงินหรอ”ใช่วัยนี้ไม่ควรที่จะซื้อโทรศัพท์เพราะต้องขอเงินพ่อแม่ใช้
“ฉันรวย จบนะ( ^_’ )”รวยนักใช่ไหม เดี๋ยวแม่จะเล่นให้หมดตัวเลยคอยดู
“จ่ะ-__-”
“นี่เธอ ยืนมองอยู่นั่นแหละเลือกสักทีสิแม่คุณ”หลังจากที่เดินมายังศูนย์โทรศัพท์แล้วฉันก็ยังตัดสินใจไม่ได้สักที เพราะแต่ละเครื่องมันก็แพงๆทั้งนั้นเลย กลัวว่าถ้าซื้อถูกไปมันจะไม่คุ้มกับเครื่องเก่าที่เสียไป แต่ถ้าเกิดว่าแพงไปเขาจะหาว่าฉันหน้าเงิน
“ฉันเลือกไม่ถูกหรอก มันเยอะ”แต่จริงๆแล้วฉันก็มีเลือกไว้ในใจนะ แค่ไม่บอกเขาเท่านั้นเอง
“เลือกๆไปเถอะ ไม่ต้องกลัวว่าฉันจะไม่มีจ่าย”นี่ก็อวดฐานะไม่เลิก “ถ้าไม่เลือกฉันเลือกเองนะ”
“นี่อย่าใจร้อนสิ สรุปนี่ของฉันหรือของนายเนี้ย-0-”
“งั้น...”ปอร์เช่ทำท่าทางเหมือนกำลังจะเลือกให้ฉัน
“เอาเครื่องนี้ค่ะ/ครับO.O”ไม่น่าเชื่อว่านี่คือสิ่งเดียวกัน นี่เขาเลือกเครื่องเดียวกับฉัน>///ปอร์เช่
“O_O”>ฉัน
อะไรกัน นี่จะใจตรงกันเกินไปแล้วนะ
“มีครับงั้นเดี๋ยวรอสักคู่นะครับ เอ่อ...ช่วงนี้มีโปรโมชั่นคู่รักถ้าซื้อแบบเป็นคู่เราจะลดให้20% สนใจหรือเปล่าครับ^^*”
“^///^”บ้าหรอ ตาถึงนะเนี้ย>///
“ไม่ครับ...แล้วเราก็ไม่ใช่คู่รักอย่างที่คุณคิดด้วย...อ้อนี่ค่าโทรศัพท์”ปอร์เช่วางบัตรเครดิตลงที่เคาน์เตอร์ก่อนที่จะเดินออกไปรอนอกร้าน
ทำไมต้องไม่พอใจขนาดนั้นด้วย เขาคงไม่ชอบที่จะให้ฉันอยู่ในฐานะนั้นสินะ...โอเค...ฉันเข้าใจ...T^T
เพียงไม่นานฉันก็ออกมาจากร้านขายโทรศัพท์พร้อมกับมือถือเครื่องใหม่ที่ฉันได้ฟรีมา
“แวะกินอะไรก่อนไหม”ปอร์เช่ถามฉันระหว่างที่เดินอยู่ในห้าง
“นายคงเหนื่อย ฉันว่ากลับเถอะแค่นายซื้อของให้ฉันก็รบกวนมากพอแล้ว”แถมรุ่นนี้ใหม่กว่ารุ่นที่เขาทำพังอีกด้วย
“ไม่หรอก...เธอคิดไปเองหรือเปล่าฉันแค่เบื่อๆ ฉันไม่ชอบให้คนพวกนั้นคิดว่าเราเป็นอะไรกัน...มันจะเป็นไปได้ไงเราทะเลาะกันจะตาย”
“นั่นสินะ...จะเป็นไปได้ยังไง”ฉันคงเป็นได้มากสุดแค่เพื่อนของนาย ไม่มีทางเป็นอย่างอื่นไปได้ ฉันควรเลิกพยายามได้แล้ว ไม่ว่าฉันจะทำอะไรวิธีไหนก็ไม่มีทางสำเร็จเพราะนายไม่คิดที่จะขยับไปพร้อมๆฉัน ไม่คิดที่จะขยับฐานะให้มากกว่านั้น
“ว่าไงนะ”ปอร์เช่ถามขึ้นเพราะไม่ได้ฟังที่ฉันพูด
“อ๋อเปล่าหรอก”
“นี่ๆกินติมกัน”ปอร์เช่ไม่รอฟังคำตอบฉันเลย แถมยังดึงแขนฉันให้เดินตามเขาเข้าไปที่ร้านอีก
นี่ฉันต้องตามใจเขาใช่ไหม...-___-
“นี่นาย ใครอยากกิน...”
“ฉันนี่ไง...”ปอร์เช่ตอบพร้อมกับใช้นิ้วชี้ไปที่ตัวเอง
“นายอยากกินนายก็กินคนเดียวสิ ฉันไม่อยากกินนี่ฉันจะกลับบ้าน”
“ก็ฉันอยากกิน เธอก็ต้องมากินเป็นเพื่อนฉัน เพราะถึงเธอไม่อยากกินเธอก็ต้องกลับบ้านพร้อมฉันอยู่ดี”เออว่ะ
“...”ฉันได้แต่ตามเขาเข้ามาเงียบๆ
จากนั้นไม่นานพนักงานก็มารับออเดอร์ที่โต๊ะของเรา
“ไม่ทราบว่าจะรับอะไรดีครับ^_^”นั่น...O_O
“นาย...”นี่มันเด็กที่ร้านหนังสือนี่นา
“เธอรู้จักกันด้วยหรอ...”ปอร์เช่มองมาทางฉันและนายคนนั้นอย่างงงๆ
“ผมไม่รู้จักกันหรอกครับ...แต่ตอนนี้อยากรู้จักแล้ว^O^”นายมนุษย์สุดหล่อคนนั้นบอก
“นายเมาอะไรมาหรือเปล่า จะมาอยากรู้จักเพื่อนฉันทำไม”ปอร์เช่พูดด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ นี่เขาเป็นอะไรของเขาเนี้ย
“ก็ผมเคยบอกกับผู้หญิงคนนี้ไว้ว่าเธอเจอเธออีกผมจะจีบ...”นี่นายนั่นยังจำได้อีกหรอ แต่ตอนนั้นนายไม่ได้บอกว่าจะจีบนี่ แค่บอกว่าอย่าให้เจออีก
“แล้วนายเคยเจอยัยนี่กี่ครั้ง คุยก็ไม่เคยคุยอยู่ๆจะมาจีบนี่นายสติดีหรือเปล่าเนี้ย”
“ผมสติดี แล้วทำไมคุณต้องทำน้ำเสียงไม่พอใจด้วยเป็นแค่เพื่อนอยู่เฉยๆไปเลยไป”อยู่ๆก็เกิดสงครามเล็กๆขึ้นระหว่างการเจรจา
“คนไม่เคยคุยกันจะมาจีบได้ไง”
“แต่ตามความเชื่อของฉันถ้าเจอกันสามครั้งโดยบังเอิญแสดงว่านั่นคือเนื้อคู่”
“ความเชื่อของนายนี่แปลกดีนะ งมงายชะมัด...ไม่กงไม่กินมันแล้ว...ไปกลับบ้าน”ปอร์เช่กล่าวพร้อมกับลุกขึ้นจากเก้าอี้จากนั้นก็ดึงแขนฉันให้ลุกตามเขาไปด้วย
“นี่...นายจะพาฉันไปไหนเนี้ย-0-”โอ๊ยฉันตามอารมณ์นายไม่ทันแล้วนะ