ตอนที่ 2 เขย่าพุ่มโบตั๋น

2155 Words
ตอนที่ 2 เขย่าพุ่มโบตั๋น               ซ่งเว่ยเหลียงกลับไปเรือนจิ้งถงซึ่งเป็นเรือนส่วนตัวที่เขากับหลี่ซื่อ[2] อาศัยอยู่ เป็นเรือนที่มีสวนสวยที่สุดในจวนก็ว่าได้           ซ่งเว่ยเหลียงอายุยี่สิบแล้ว เขาแต่งหลี่ซวงเจี๋อเข้าจวนเป็นภรรยาเอกตั้งแต่เมื่อสี่ปีก่อน จวบจนบัดนี้ยังไม่มีบุตรสักคน เรื่องนี้ท่านพ่อท่านแม่ของเขาก็ใช่ว่าจะไม่ร้อนใจ แต่จนใจที่บุตรหลานแซ่ซ่งมีบุตรยากอยู่แล้ว คงสืบเนื่องมาจากสายเลือดของสกุล เพราะคุณชายรองซ่งเสียเจิ้นแต่งภรรยาเข้าจวนมาสองปีกว่า ก็ยังไม่มีบุตรสักคน   [2] ธรรมเนียมการเรียกขานสตรีที่แต่งงานแล้วของจีน จะเติมคำว่า “ซื่อ” ที่แปลว่า “แซ่” ต่อท้ายแซ่เดิมของสตรีคนนั้น   ยังมีอนุภรรยาของเขาอีกสองคนก็ไม่มีวี่แววว่าจะตั้งครรภ์             อิ๋นจื่อเดินตามมาจนถึงประตูโค้งทางเข้าเรือนจิ้งถง นางหยุดฝีเท้าลงแค่นั้นเพราะเรือนจิ้งถงไม่ใช่สถานที่ที่นางควรเฉียดกราย           ซ่งเว่ยเหลียงเองก็หยุดและหันมองนาง “อีกสามวันกลับเยี่ยเฉิงไปเซ่นไหว้สุสานบรรพชน”           “เจ้าค่ะ” อิ๋นจื่อตอบรับพร้อมพยักหน้า           เขาเม้มปากและคว้าข้อมือนาง “ตามมา”           “คุณชาย! ตกลงกันแล้วว่าข้าจะไม่เข้าไปในเรือนจิ้งถง”           “กลัวซวงเจิ๋ย?”           อิ๋นจื่อไม่ตอบ นางถูกนายท่านซ่งเฉียงเก็บมาเมื่อเกือบสิบปีก่อน ตอนนั้นอายุแค่หกปี จำเรื่องราวที่ผ่านมาไม่ได้ รู้แค่ว่านางนอนอยู่ข้างถนน อากาศหนาว บาดเจ็บหลายแห่งเหมือนถูกทำร้ายมา มีไข้ขึ้นสูง ป่วยครั้งนั้นแทบจะคร่าชีวิตนางไปแล้ว วันนั้นนายท่านซ่งหรือบิดาของซ่งเว่ยเหลียงไปเจอเข้าและพากลับมาด้วย ปล่อยให้สาวใช้ในเรือนฮูหยินผู้เฒ่าดูแลจนนางหายป่วยแต่กลับทำให้น้ำหนักตัวนางเพิ่มขึ้นไม่ได้ นางตัวผอมแห้งเล็กบางตั้งแต่เล็กจนโต           มีครั้งหนึ่งซ่งเว่ยเหลียงกับซ่งเสียเจิ้นมาคำนับฮูหยินผู้เฒ่าและบิดามารดาตอนเช้า ซ่งเว่ยเหลียงเห็นนางยืนอยู่ในห้องโถงนั้นด้วย เขาจึงขอนางจากนายท่านซ่ง จากวันนั้นอิ๋นจื่อก็เลยมีหน้าที่ดูแลห้องหนังสือของคุณชายใหญ่และพักอยู่ในห้องปีกข้างของเรือนอักษรหลังนั้นจวบจนทุกวันนี้ เมื่อว่างจากงานในเรือนอักษร นางจะไปเรียนปักผ้า ทำกับข้าวและอื่นๆ อีกหลายอย่างกับพวกแม่นมและสาวใช้ของฮูหยินผู้เฒ่า ส่วนเรือนอักษรกับเรือนจิ้งถงนั้นกั้นไว้ด้วยกำแพง แค่เดินผ่านประตูโค้งเข้าไปก็ถึงแล้ว เพียงแต่นางไม่ได้รับอนุญาตจากหลี่ซื่อภรรยาของเขา หลี่ซื่อเป็นคนขี้หึงมาก ขี้ระแวง แต่นางกลับมีใบหน้างดงาม ทั้งเรือนร่างเย้ายวนที่ไม่ว่าใครก็ไม่อาจเทียบได้ หลี่ซื่อไม่อยากให้อิ๋นจื่นเข้าไปวุ่นวายในเรือนจิ้งถง เลยห้ามไม่ให้นางไปรับใช้ในเรือน ให้อยู่แต่ในเรือนอักษรเท่านั้น           อิ๋นจื่อไม่กล้าคิดกับซ่งเว่ยเหลียงเกินเลย แค่ทำหน้าที่ของตัวเองเพื่อตอบแทนอาหารและที่พักและบุญคุณที่นายท่านซ่งช่วยเหลือไว้ก็พอ แต่ทั้งฮูหยินผู้เฒ่า นายท่านและซ่งฮูหยินไม่พูดถึงเรื่องสัญญาขายตัว ไม่ได้เอ่ยว่าจะให้นางขายตัวเป็นสาวใช้เข้าสกุลซ่ง ฐานะของนางจึงกำกวมจนถึงวันนี้ จะว่าเป็นเจ้านายก็ไม่ใช่ สาวใช้ก็ไม่เชิง ด้วยเพราะฮูหยินผู้เฒ่ากับซ่งฮูหยินดีกับนางมาก บางครั้งยังพาไปร่วมงานเลี้ยงของชนชั้นสูง ให้แต่งตัวสวยๆ บอกกับใครต่อใครว่าเป็นเด็กสาวที่นายท่านซ่งช่วยไว้ บ่าวไพร่ในจวนเลยไม่มีใครกล้าล่วงเกินนาง มีก็แต่นายหญิงในเรือนจิ้งถงเท่านั้นที่เห็นนางต่ำต้อย มักจะดุด่าเสียดสี แต่อิ๋นจื่อก็ไม่อาจตอบโต้           ขณะที่เหม่อลอยอยู่นั้นก็ถูกซ่งเว่ยเหลียงดันไปใต้ต้นอู๋ถง ริมฝีปากประกบลงมาทันที จุมพิตเขาร้อนแรงนัก เขาตวัดลิ้นกวาดต้อนในโพรงปากนางด้วยความรวดเร็ว           “คุณชาย!” อิ๋นจื่อผลักอกเขา           “เงียบ!”           เขาเคล้นคลึงหน้าอกนุ่มผ่านเสื้อผ้าขณะที่มือหนึ่งตรึงท้ายทอยสวยให้นางรับจุมพิตร้อนแรงของเขาอีกครั้ง อิ๋นจื่อถูกจูบจนมึนงง หายใจติดขัด สองมือที่พยายามผลักแผ่นอกกว้างเปลี่ยนมาเป็นกำเสื้อตรงหน้าอกเขาไว้แน่น ริมฝีปากขยับตอบรับไปตามจังหวะบดเคล้าสอดแทรกลิ้น เสียงดูดดุนกังวานอยู่ในความเงียบของยามราตรีอันดำมืดและหนาวเหน็บ ไม่รู้นานเท่าใดที่เขาจูบนาง แต่รู้ว่านานมาก พอเขาถอนปากออกนางก็พยายามสูดลมหายใจ เขาก็ก้มลงมาจูบอีก เมื่อเห็นว่านางหายใจไม่ออก เขาก็ถอนปากออกให้นางสูดลมหายใจเข้าไป ทำอยู่เช่นนี้หลายรอบจนริมฝีปากนางถูกเขาบดจูบจนบวมเจ่อไปแล้ว           แคร่ก!           เสียงประหลาดดังมาจากทางเดินที่ปูด้วยแผ่นหิน ตามมาด้วยเสียงกระซิบแหบแห้งของผู้ชาย           “อาซิ่ว” เสียงนั้นเรียกอาซิ่วที่กำลังเดินผ่านประตูโค้งเข้าไปยังเรือนจิ้งถง           “พี่ฮุ่ย” อาซิ่วหันมองเข้าไปในลานเรือน เห็นว่าไม่มีใครเลยเดินไปหาจงฮุ่ย ชายหนุ่มร่างสูงโปร่งผิวขาวจัด จงฮุ่ยเป็นคนสนิทข้างกายของซ่งเสียเจิ้น เรียกได้ว่าจงฮุ่ยกับคุณชายรองเติบโตมาด้วยกัน เป็นทั้งสหาย ทั้งนายและบ่าว           จงฮุ่ยเห็นเสื้อผ้าอาซิ่วไม่เรียบร้อยกับผมยุ่งเหยิงก็เข้าใจทันทีว่าอีกฝ่ายเพิ่งไปทำอะไรมา เขากระชากอาซิ่วเข้าหาตัว ปล้ำกอดจูบ ใบหน้าซุกไซ้ไปตามซอกคอขาวผ่อง ดูดเลียอย่างตะกละตะกลาม สองมือช่วยกันปลดเปลื้องเสื้อผ้าของอาซิ่วจนเผยให้เห็นอกอวบใหญ่และปลายยอดสีคล้ำ           “พี่ฮุ่ย รอก่อน” อาซิ่วลากจงฮุ่ยไปข้างทาง แอบอยู่หลังพุ่มต้นโบตั๋นที่ปลูกเรียงรายไว้หลายต้น ใบหนาดกช่วยอำพรางสองร่างได้           จงฮุ่ยไม่รอให้ถอดเสื้อผ้าจนหมดก็ผลักอาซิ่วให้นอนลง ลมหายใจเขาหอบหนักมีอารมณ์เต็มที่แล้ว           อาซิ่วเองก็ยังไม่หนำใจจากซ่งเว่ยเหลียง นางจึงต้องการแท่งหยกของใครสักคนมาช่วยเติมเต็ม ดีที่จงฮุ่ยมาดักรออยู่ที่นี่ ไม่อย่างนั้นคืนนี้นางคงนอนไม่หลับ           อาซิ่วถลกชายกระโปรงขึ้น ชันเข่าและอ้าขากว้างรอท่า จงฮุ่ยเห็นเช่นนั้นเขาเร่งถลกชายชุดดึงกางเกงตัวในลงและสาวรูดแท่งหยกยาวสองสามครั้งและขยับไปนั่งคุกเข่าอยู่ระหว่างขาขาวผ่อง           “พี่ฮุ่ยเร็วๆ ใส่เข้ามา ข้าอยากจะตายแล้ว”           “หึ อย่าคิดว่าข้าไม่รู้ว่าก่อนหน้านี้เจ้าไปทำอะไรมา”           อาซิ่วได้ยินดังนั้นก็ยิ้มยั่วเขา “ข้าไปหาคุณชายใหญ่มา แต่ยังไม่หนำใจ พี่ฮุ่ยช่วยข้าทีเถอะ ข้าไม่ไหวแล้ว ของข้าคันไปหมดอยากได้แท่งหยกของพี่มาเกาให้หายคันหน่อย”           ที่ตรงนั้นทั้งมืดและเงียบ ใครก็ไม่รู้หรอกว่ามีอีกสองชีวิตใต้ต้นอู๋ถงที่หลบมาคลอเคลียกันก่อนหน้านี้ ส่วนอาซิ่วกับจงฮุ่ยก็หลบอยู่ไม่ไกลกันนัก ทุกถ้อยคำของคนคู่นั้นซ่งเว่ยเหลียงกับอิ๋นจื่อได้ยินทั้งหมด           ซ่งเว่ยเหลียงยิ้มมุมปาก เขาก้มหน้าลงไปอีกแต่ถูกอิ๋นจื่อผลักออก เขาจูบนางหนักๆ ครั้งหนึ่งก่อนจะนั่งลงใต้ต้นอู่ถงและดึงนางให้นั่งลงบ้าง           ทางด้านอาซิ่วกับจงฮุ่ยเริ่มเขย่าพุ่มโบตั๋นกันเรียบร้อยแล้ว เหมือนอาซิ่วพยายามกลั้นเสียงไว้จึงได้ยินเพียงเสียงหอบหายใจหนักหน่วงและเสียงเนื้อกระทบเนื้อผสานไปกับเสียงแจ๊ะๆ ฟังแล้วชวนสยิวยิ่ง           “อ่าส์ พี่ฮุ่ย ดีมาก ดี แรงๆ ให้ข้าเสร็จสักน้ำก่อนพี่ฮุ่ย ข้าไม่ไหวแล้ว อ่าส์ๆ อ๊าส์ๆ” อาซิ่วเกร็งกระตุกเสร็จสมไปด้วยความรวดเร็ว           จงฮุ่ยอัดกระแทกไม่หยุดแม้อาซิ่วจะสุขสมไปแล้วแต่เขายังไม่ถึงฝั่งฝัน ในร่องหลืบตอดรัดรัวเร็วทั้งหลั่งรินน้ำคาวออกมาไม่หยุดและมากจนขนดกหนาของทั้งสองเปียกชุ่ม           “เจ้าเปียกขนาดนี้” จงฮุ่ยใช้สองนิ้วบี้ตุ่มไตแข็งตั้งบนเนินเนื้ออวบอูม ขยับนิ้วรัวเร็วขณะที่สะโพกขยับโยกรุนแรงอัดเข้าใส่เสียงดังตับๆ           แม้พยายามทำกันเสียงเบาแค่ไหน แต่แรงอารมณ์ไม่อาจยับยั้ง หญิงใจง่ายกับชายหื่นกระหายมีหรือจะพอแค่ครั้งเดียว           อาซิ่วเคล้นคลึงสองเต้า ร้องเรียกให้จงฮุ่ยก้มลงมาดูดเลีย อีกฝ่ายก็ไม่ทำให้นางต้องคอย ก้มลงไปละเลงลิ้นรัวบนยอดสีคล้ำแข็งตั้งชันสู้ลิ้น           เสียงกระแทกตับๆ ดังไปพร้อมกับเสียงครวญครางที่ไม่อาจยับยั้งได้แล้ว คนทั้งสองกำลังหลงในรสสวาท มัวเมาเกินกว่าจะสนใจรอบข้าง จงฮุ่ยจับอาซิ่วลุกขึ้นให้หันหลังแอ่นสะโพกอวบขึ้น จับแท่งลำสาวรูดสองสามครั้ง จ่อหัวบานใหญ่กับกลีบบุปผา ถูไถบดเบียดติ่งกระสันสองสามครั้งจนมันเปียกลื่นเพราะน้ำคาวสีใส           “พี่ฮุ่ยใส่เข้ามาเถอะ อ่าส์ ข้าอยากได้อีก อูยส์” อาซิ่วเร่งเร้าเสียงสั่น ร่อนสะโพกตามการถูไถของจงฮุ่ย           อาซิ่วถอดชุดที่เหลือติดร่างจนหมดและโยนไปด้านข้าง นางยังไม่อยากให้ชุดสกปรก นางรู้ว่าตัวเองต้องปล่อยน้ำจนเปียกชุ่มเหมือนในห้องหนังสือของคุณชายใหญ่ ถ้านางไม่ได้ปลดปล่อยน้ำออกมา นางจะไม่สุขสมถึงใจ           “อ่าส์ อา ของพี่ฮุ่ยดีจริง หัวบาน แทงท้องข้าแทบทะลุแล้ว พี่ฮุ่ย พี่ฮุ่ย แรงๆ อ่าส์ อาๆ ดีเหลือเกิน อ่าส์”           “เจ้ามันร่านนัก แต่ข้าชอบ โอว อ่าส์ รัดข้าให้แรงอีกสิ” เขาสั่งขณะที่ขยับสะโพกกระแทกแท่งลำลึกจนไปชนสุดด้านในดังกึกๆ พร้อมกับเสียงสวบๆ           จงฮุ่ยถอดเสื้อผ้าไปด้วยบดสะโพกบี้วนหนักๆ เมื่อถอดชุดจนเสร็จก็เริ่มอัดกระแทกอีกครั้ง ที่บริเวณนั้นมืดก็จริง แต่อาซิ่วผิวกายขาวผ่องจึงทำให้เห็นนางได้ชัดเหมือนกับตัวนางเปล่งแสงได้อย่างไรอย่างนั้น           “พี่ฮุ่ย ข้าจะแตกแล้ว น้ำจะแตกแล้วพี่ฮุ่ย” ขณะที่นางร้องครางอยู่นั้นน้ำอุ่นร้อนก็เริ่มไหลออกมาแล้ว           “ยืนขึ้น” จงฮุ่ยสั่งและดึงนางลุกขึ้นหันหน้ามาหาเขา บุปผาอวบอูมอยู่ตรงหน้า กลิ่นคาวสวาทหอมหวน เขาแนบหน้าลงไปละเลงลิ้นรัวเร็วใช้สองมือช่วยเปิดทางกลุ่มขนและกลีบเนื้อสีคล้ำ แหย่แยงลิ้นลึกเข้าไปหาต้นน้ำที่ยังหลั่งไหลไม่หยุด           “อ่าส์ อา อ่าส์ ซี๊ด พี่ฮุ่ย อูย อย่างนั้น เลียเร็วๆ รัวลิ้นอีกเร็วเข้า” น้ำกามคาวไหลเปื้อนใบหน้าจงฮุ่ย แต่เขาไม่สน ยังคงตวัดลิ้นใส่ร่องหลืบ ดูดกลืนน้ำราวกับหิวกระหายมาแรมปี           อาซิ่วเด้งสะโพกรับใบหน้าและลิ้นร้อน สองมือจิกทึ้งศีรษะจงฮุ่ยกดให้ใบหน้าแนบกับเนื้ออวบอูมของตน สองขาสั่นย่อเข่าและแบะอ้าให้กว้างขึ้น ใบหน้าเคลิ้มลอย           “อ่าส์ เสียว อ่าส์ มาแล้ว เลียเร็วๆ กินน้ำของข้า กินให้หมด อ่าส์ๆ อ๊าส์ๆ” อาซิ่วตัวเกร็งกระตุกสุขสมอีกครั้ง ปลดปล่อยฉี่อุ่นร้อนออกมาอาบหน้าจงฮุ่ย สองขาอ่อนแรงจนสุดจะห้าม เลยหงายหลังลงไปนอนอ้าขาให้สายน้ำฉีดพุ่งเป็นเส้นโค้ง จงฮุ่ยก็ตามอ้าปากกลืนกินทุกหยาดหยด           “ดับกระหายข้าได้ดีจริงๆ” จงฮุ่ยกลืนน้ำอึกแล้วอึกเล่าลำตัวเปียกเปื้อนไปด้วยแต่เขาก็พอใจยิ่ง  
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD