ตอนที่ 8 ติดตามไปทำภารกิจ

2076 Words
ตอนที่ 8 ติดตามไปทำภารกิจ               ซ่งเว่ยเหลียงกับเสี่ยวเส้าเร่งห้อม้าจนถึงเมืองเยี่ยเฉิงในดึกของวันนั้น ม้าวิ่งเต็มกำลังแทบจะเหนื่อยตาย เพียงแต่ถึงมาแล้วประตูเมืองปิด จึงต้องหาโรงเตี๊ยมนอกเมืองนอนพักเอาแรงกันก่อนหนึ่งคืน           ตอนเช้าประตูเปิดซ่งเว่ยเหลียงก็เข้าเมือง ตรงไปจวนตระกูลซ่งทางตะวันตกทันที หน้าประตูจวนได้เตรียมรถม้าไว้หลายคันเพื่อฮูหยินผู้เฒ่าและทุกคนที่จะกลับเมืองหลวงในวันนี้ เพียงแต่ตอนนี้ยังเช้าอยู่มาก คาดว่ายังจะไม่ออกเดินทางกันก่อน           “คุณชายใหญ่! มาได้อย่างไรขอรับ” พ่อบ้านซูที่ควบคุมบ่าวไพร่ขนย้ายข้าวของขึ้นรถม้าเห็นซ่งเว่ยเหลียงพลิกกายลงจากม้าก็รีบเข้าไปประสานมือค้อมกาย           “ท่านย่าจะออกเดินทางยามใด?” เขาก้าวเท้าผ่านประตูมาแล้วถึงเอ่ยถาม พวกบ่าวไพร่ค้อมกายให้ เขาก็ไม่ทันได้สนใจ           “ยามซื่อ[4]ขอรับ” ขณะที่ตอบเขาก็เดินตามฝีเท้าเร่งรีบของซ่งเว่ยเหลียงไปทางเรือนกลาง           จนกระทั่งทั้งสองเดินมาถึงก็เห็นฮูหยินผู้เฒ่ากับซ่งฮูหยินกำลังกินมื้อเช้าอยู่           “ท่านย่า ท่านแม่”           “เว่ยเหลียง! เหตุใดถึงมาอยู่ที่นี่ล่ะ” ซ่งฮูหยินลุกขึ้นไปจับมือบุตรชายและพามานั่งด้วยกันที่โต๊ะ “ไปจัดสำรับมาอีกที่” นางหันไปสั่งสาวใช้แล้วก็หันมองหน้าบุตรชายเขม็ง           “ท่านย่าจะพาทุกคนกลับวันนี้ใช่หรือไม่”           “ใช่ ว่าแต่เจ้ายังไม่ตอบคำถามแม่เจ้าเลยว่ามาที่นี่ได้ยังไง” ฮูหยินผู้เฒ่าอีกคนที่แปลกใจ           “ห้าวันก่อนหลานรับราชโองการให้ไปตรวจสอบเขื่อนกักเก็บน้ำที่จวี้ลู่ ผ่านมาทางนี้เลยแวะมาดูสักหน่อย แต่อยู่นานไม่ได้เพราะหลานทิ้งใต้เท้าเชียงไว้ ต้องเร่งกลับไปสมทบกับเขาก่อนเข้าเมืองจวี้ลู่”   [4]ยามซื่อ คือช่วงเวลา 9:00 น. ถึง 11:00 น. “มิน่าถึงผอมลงไปอีกแล้ว คงเร่งเดินทางไม่น้อย แล้วใครติดตามไปบ้าง”           “มีเสี่ยวเส้ากับพวกสี่อี้” เขาตอบขณะรับชามกับตะเกียบจากสาวใช้ที่ส่งของให้เขาแล้วก็หน้าแดงก่ำถอยออกไปเงียบๆ           “เจ้าลูกคนนี้ ต่อให้ไปทำงานก็ไม่จำเป็นต้องทำตัวเองให้ลำบากเลย”           ตอนนั้นเองที่สาวใช้หน้าห้องส่งเสียงทักทายอิ๋นจื่อที่เพิ่งมาถึง นางเห็นซ่งเว่ยเหลียงนั่งอยู่ด้วยก็ผงะไปชั่วขณะหนึ่งก่อนจะยอบกายคารวะทั้งสามคนและยืนสงบเสงี่ยมอยู่เงียบๆ ฮูหยินผู้เฒ่าหันไปสบตากับซ่งฮูหยิน ทั้งสองมีความเห็นตรงกัน           “ฟังว่าเรื่องเขื่อนเก็บน้ำที่นอกเมืองจวี้ลู่สร้างมาตั้งแต่ปีที่แล้วยังไม่เสร็จ งบที่จัดสรรก็บานปลายเหมือนเอาไปโยนลงแม่น้ำ คิดว่าเจ้าคงอยู่ที่จวี้ลู่อีกพักใหญ่ เอาอย่างนี้เถอะ ให้อิ๋นจื่อตามไปดูแลเรื่องอาหารการกิน ย่ากับแม่เจ้าจะได้ไม่เป็นห่วงนัก”           “ใช่ มีอิ๋นจื่ออยู่ด้วยก็รับรองได้ว่าเจ้ามีอาหารดีๆ ให้กินอิ่มท้อง มีเสื้อผ้าให้อุ่นกาย” ซ่งฮูหยินเห็นดีเห็นงามด้วยอีกคน           เขาไม่ตอบรับหรือปฏิเสธทั้งยังเปลี่ยนเรื่องอีก “หลี่ซื่อ?”           ซ่งฮูหยินมองค้อนบุตรชาย “ไม่ต้องห่วงนางหรอก นางได้สหายเดินทางไปเมืองหลวงด้วยกันแล้ว เจ้าคงจำซีเสวี่ยได้ สะใภ้ใหญ่รับนางไปเมืองหลวงด้วยกัน มาขออนุญาตท่านย่าเจ้าแล้ว”           ซ่งเว่ยเหลียงฟังแล้วก็ไม่พูดและแอบขบกรามกรอดอยู่เงียบๆ เขากินดื่มไม่เอ่ยปากอีก จึงเป็นอันตกลงว่าอิ๋นจื่อจะตามซ่งเว่ยเหลียงไปเมืองจวี้ลู่ด้วย ก่อนออกเดินทางทุกคนมารวมตัวกันที่เรือนของฮูหยินผู้เฒ่า หลี่ซื่อเห็นสามีก็รีบก้าวยาวๆ เข้าไปหา ใบหน้างดงามแต่งแต้มไว้อย่างประณีตยิ้มแย้มชวนมองและโผเข้าไปในอ้อมกอดเขา น้ำเสียงกระเง้ากระงอด           “ท่านพี่มาตั้งแต่เมื่อไร ทำไมไม่ให้ใครไปบอกข้าที่เรือน”           “ข้าเพิ่งมาถึง ต้องไปทำงานที่จวี้ลู่ แค่ผ่านทางมาเลยแวะมาดูหน่อย อีกสักครู่ต้องเร่งเดินทางแล้ว”           “พอข้าจะกลับ ท่านก็ไม่อยู่อีกแล้ว”           “ข้ารับราชโองการมาทำงาน บ่ายเบี่ยงไม่ได้หรอก เจ้ากลับไปรอที่จวนเถอะ”           “อือ ท่านดูแลตัวเองด้วย”           สองสามีภรรยากระซิบพูดกันเบาๆ คนอื่นก็หันมองเป็นระยะ ท่าทางสนิทสนมรักใคร่นี้ใช่ว่าเพิ่งเคยเห็น ซ่งเว่ยเหลียงเป็นเช่นนี้กับภรรยาตลอดอยู่แล้ว เพียงแต่ในใจซ่งเว่ยเหลียงตอนนี้เขาแทบอยากจะผลักหลี่ซื่อออกไปให้พ้นอก พยายามข่มกลั้นอยู่หลายครั้ง เรื่องทุกอย่างที่นี่เขารู้หมดแล้วและรู้มานานแล้วว่าซีเสวี่ยไม่ใช่สตรี!           เมื่อหลี่ซื่อรู้ว่าหญิงแก่จุ้นจ้านทั้งสองจัดแจงให้อิ๋นจื่อตามสามีตนไปเมืองจวี้ลู่ด้วยก็ได้แต่กดข่มความไม่พอใจ แต่มีหรือที่ฮูหยินผู้เฒ่ากับซ่งฮูหยินจะดูไม่ออก กับสะใภ้ใหญ่คนนี้ที่แต่งเข้ามาในครานั้นเพราะทั้งสองเหมาะสมกันจริงๆ หนึ่งหญิงงาม หนึ่งบุรุษหล่อเหลามากความสามารถ คนทั้งเมืองหลวงเลยชอบจับคู่พวกเขากันจนนำพาให้สองครอบครัวตกลงเรื่องบุตรหลานแต่งงานกัน เพียงแต่หลายปีมานี้นอกจากกินดื่มและใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่ายแล้วหลี่ซื่อไม่ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันเลยนอกจากตามหึงหวงสามี แต่ถึงกระนั้นซ่งเว่ยเหลียงก็ให้เกียรตินางอยู่ไม่น้อย เพราะยังไม่อยากแตกหักกันบ้านเดิมของนาง เขาจึงต้องทนเล่นละครสามีรักใคร่ภรรยาให้ผู้อื่นเห็นอยู่แทบทุกวัน           คนสองกลุ่มแยกจากกันตามเวลาเดินทางเดิมของฮูหยินผู้เฒ่า นอกจากอิ๋นจื่อที่ต้องตามซ่งเว่ยเหลียงไปแล้ว ยังมีอี้หงที่ติดตามไปคอยดูแลนางอีกหนึ่งคน เมื่อส่งรถม้าของฮูหยินผู้เฒ่าออกจากประตูเมืองแล้วซ่งเว่ยเหลียงมุ่งหน้าขึ้นเหนือทันที จากเยี่ยเฉิงไปจวี้ลู่อย่างน้อยๆ ต้องใช้เวลาสี่ถึงห้าวัน           ซ่งเว่ยเหลียงนั่งบนหลังม้าคู่กับอิ๋นจื่อ นางกระอักกระอ่วนใจยิ่ง แต่รู้ว่าเขาเร่งเดินทาง จะเรื่องมากขอรถม้าไม่ได้           “ข้าขี่ม้าไปกับอี้หงก็ได้”           “เงียบเถอะ” เขาตอบเสียงสะบัดน้อยๆ ขณะที่กระชับสองแขนโอบอิ๋นจื่อให้แนบแน่นขึ้น           อิ๋นจื่อก็เงียบเสียงตามที่เขาบอก นางนั่งไม่สบายสักนิดเพราะอยู่ในท่าตะแคงข้าง สองมือจับอกเสื้อเขาไว้ขยับสะโพกพยายามหาท่าทางที่ไม่ทำให้ตัวเองเหน็ดเหนื่อยนัก           ซ่งเว่ยเหลียงชะลอฝีเท้าม้าพร้อมทั้งตะโกนบอกสองคนที่ตามมาด้านหลัง “เสี่ยวเส้า! พวกเจ้าล่วงหน้าไปก่อน” รอจนคนทั้งสองควบม้าผ่านไปจนลับตาแล้วเขาจึงพาม้าเข้าข้างทาง กระโดดลงจากหลังม้า จูงมันไปผูกใต้ต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่งและตวัดร่างอิ๋นจื่อขึ้นพาดบ่า           “คุณชาย! ท่านจะทำอะไร”           ซ่งเวยเหลียงไม่พูดแต่ก้าวสวบๆ เข้าไปในพงหญ้าสูงถึงเอวถอดผ้าคลุมไหล่ปูลงไปและผลักอิ๋นจื่อให้นอนทันที หญิงสาวตื่นตะลึงสองมือยันอกเขา           “ข้ากำลังรีบ!” เขาปลดสายรัดอกชุดของอิ๋นจื่อและก้มลงไปซุกไซ้ซอกคอหอมกรุ่นทันที ขบเม้มติ่งหูเล็กเรื่อยลงมาที่ปลายคาง ต่ำอีกนิดก็เนินอกนุ่มและวกขึ้นไปประกบริมฝีปากบดจูบคลอเคล้าขยับริมฝีปากพัวพันกับนาง ปลายลิ้นชำแรกแทรกเข้าไปกวาดไล้ฟันขาวที่เรียงตัวเป็นระเบียบและสอดลึกไปกระหวัดเกี่ยวพันกับลิ้นเรียวเล็กหอมหวาน เพราะในป่าบริเวณนั้นเงียบมาก เสียงดูดดึงของริมฝีปากทั้งสองจึงดังไม่น้อย จังหวะการหายใจของคนทั้งสองถี่เร็วขึ้น           “อือ ข้า...” อิ๋นจื่อรู้ว่าเขารีบ รีบแล้วมาทำกับนางอย่างนี้ทำไม นางไม่ได้เรียกร้องให้เขาทำสักหน่อย พยายามผลักเขาออกยังไงก็ไม่เป็นผล จนต้องล้มเลิกความคิดเพราะนางถูกจูบจนวิงเวียนแทบจะเป็นลมอยู่แล้ว           ซ่งเว่ยเหลียงถลกเสื้อตัวยาวขึ้นและรั้งกางเกงสองชั้นลงต่ำเล็กน้อยให้ท่อนเนื้ออวบใหญ่ออกมาอวดความผงาดง้ำอยู่ตรงหน้า อีกมือรั้งด้านบนของชุดสีฟ้าอ่อนให้ลงไปอยู่ใต้ราวนมนุ่มขาวราวหิมะแรกฤดู ผลอิงเถา[5] เล็กๆ สีแดงกำลังยั่วยวนตาเขาให้มองแล้วมองอีก เขาเหมือนคนกระหายหิวมานาน จึงก้มลงไปครอบครองอิงเถาสีแดงขบกัด ปาดลิ้น รัวเลีย ดูดดื่มเต็มกำลัง           “อ๊ะ คุณชาย เบาหน่อย เบาๆ เจ็บ” อิ๋นจื่อหดกายเล็กน้อยเมื่อเขาลงฟันกับยอดอก แต่ถูกมือใหญ่ดันหลังให้นางแอ่นอกกลับขึ้นมาอย่างเดิม           เสื้อผ้าทั้งสองหลุดลุ่ย แต่ก็ยังติดกายอยู่ครบ กระโปรงสีฟ้าอ่อนถูกถลกขึ้น ตามมาด้วยกางเกงตัวในถูกรั้งลงและรูดออกให้พ้นปลายเท้า นอกจากนั้นเสื้อผ้าส่วนอื่นก็ยังคงติดกายอยู่ เขาจับสองขานางแยกออก แทรกกายเข้าไปบดเบียดลำเนื้อกับความอ่อนนุ่ม   [5] ผลอิงเถา คือ ผลเชอรี่ ที่เริ่มชื้นแฉะ ปลายนิ้วลูบไล้บนเนินเนื้อและติ่งกระสัน ถูไถอยู่ไม่นานร่องหลืบก็หลั่งรินเปียกเปื้อนปลายนิ้วเพิ่มขึ้น           ซ่งเว่ยเหลียงขยับกายอีกครั้ง เขานั่งคุกเข่า ตรึงสะโพกของอิ๋นจื่อให้สูงขึ้นและสอดแทรกความอวบใหญ่เข้าไปในร่องเล็กคับแคบ ดันพรวดเดียวจนหมดลำอวบ           “อา!”           สองเสียงครางออกมาพร้อมกัน สะโพกสอบเริ่มขยับโยก เขาก้มลงไปหาเนินอกที่หลงใหล ดูดเม้มสลับสองข้าง อิ๋นจื่อก็แอ่นให้เขาด้วยความหลงลืม อาจเพราะห่างหายกันมาเกือบเดือน เมื่อเจอกันแล้วย่อมมีอารมณ์กระหายอยากมากกว่าปกติ เสียงเนื้อกระทบเนื้อดังตับๆ พร้อมกับพงหญ้าสั่นไหวรุนแรงและเสียงครางที่เล็ดลอดออกไปครั้งแล้วครั้งเล่า           “คุณชาย” เสียงเรียกอ่อนนุ่มแหบสั่น เพราะถูกกระแทกจนเจ้าตัวหัวสั่นหัวคลอนไปหมด           “ข้าต้องรีบ” เขาเอ่ยเสียงแหบพร่า เพิ่มแรงอัดกระแทกจนเกิดความกระสันเสียวถึงขีดสุด ภายในอุ่นคับแน่นบีบรัดเขาจนแทบหยุดหายใจ ธารน้ำหลั่งรินจากจุดเชื่อมประสานไม่หยุด           “อ๊าส์ คุณชาย ไม่ไหว ไม่เอาแล้ว อ๊ะๆ” อิ๋นจื่อตัวเกร็งกระตุกเสร็จสมไปด้วยเวลาอันรวดเร็ว นางถูกเขากระทุ้งจนเอวแทบหัก แต่ถึงกระนั้นก็สุขสมเปรมปรีดิ์ใบหน้าเคลิ้มลอย           ซ่งเว่ยเหลียงอัดกระแทกรัวเร็ว เน้นย้ำต่ออีกหลายครั้งและดึงท่อนลำออกมาปลดปล่อยน้ำกามใส่พงหญ้าด้านข้าง เพราะเขาไม่อยากให้อิ๋นจื่อเลอะเทอะ ลมหายใจเขาเหนื่อยหอบ กลิ่นฝนวสันต์อบอวลรอบกาย เขาก้มลงไปตรงหว่างขาเรียวงาม มองบุปผาฉ่ำแดงและหยาดน้ำที่หลั่งริน เขาไม่คิดอะไรมากก็ก้มลงไปดูดร่องลึก ดื่มกินอย่างกระหายอยาก ปาดลิ้นเลียทำความสะอาดทุกซอกมุม อิ๋นจื่อแทบกรีดร้อง สองมือดันศีรษะเขาเพื่อให้หยุด นางเพิ่งสุขสม เขาก็ลงมืออีกแล้ว ปลายลิ้นร้อนชื้นตวัดเลียไปมาจนนางทนไม่ไหวกายสั่น ภายในบีบรัดกระตุกตอดครั้งแล้วครั้งเล่า หลั่งรินน้ำหวานให้เขาดื่มกินเพิ่มขึ้นอีกหลายอึก           “พอแค่นี้ก่อน” เขาลุกขึ้น ใช้หลังมือเช็ดริมฝีปากและดึงนางขึ้นนั่ง ช่วยจัดเสื้อผ้าให้ จัดแจงทุกอย่างเสร็จแล้วก็อุ้มนางขึ้นม้า อิ๋นจื่อแข้งขาสั่น อ่อนแรงไปหมด เขาจับนั่งท่าไหนก็ท่านั้น ไม่นานก็ผล็อยหลับไปโดยไม่รู้ตัว  
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD