- 10 -
หวั่นไหว (2)
ทั้งสามคนนั่งพูดคุยกันจนเวลาล่วงเลยไปถึงสองชั่วโมง ท้องฟ้าในตอนนี้เปลี่ยนสีไปจากเวลาแรกเริ่มที่คุยกัน ผู้คนมากมายก็อยู่เต็มพื้นที่สวนสาธารณะของมหาวิทยาลัย เนื่องจากที่ตรงนี้เป็นพื้นที่ส่วนรวม ที่นิยมมาออกกำลังกายทั้งคนในและคนนอก
"ฉันไปก่อนนะอัน บ๊ายบาย"
"บายยย"
"หนุ่มมารับล่ะสิ ไปดีกว่า ไปกันเถอะสายขิม"
สองสาวอย่างอิมและสายขิมแยกย้ายกันกลับหลังจากที่ใช้เวลาอยู่ด้วยกันมาหลายชั่วโมง ส่วนอันดามันเองก็นั่งรออยู่ที่โต๊ะม้าหินตัวเดิม ขณะที่มือก็กดส่งข้อความไปหาไนท์ ที่บอกว่าจะมารับเธอหลังจากพูดคุยกับเพื่อนเสร็จ
เธอไม่รู้ว่าเวลาที่ล่วงเลยไปมากกว่าสองชั่วโมงจะทำให้ไนท์ยังคงรอเธออยู่หรือเปล่า แต่เธอเองก็ไม่ได้มีปัญหาถ้าหากจะต้องกลับเองเพราะลึก ๆ แล้วเธอเองก็เกรงใจ ที่จะต้องให้เขาไปส่งเธอถึงที่บ้านในช่วงเย็นจนเกือบหัวค่ำแบบนี้
ขณะที่มือเล็กกำลังกดส่งข้อความหาไนท์อยู่นั้นก็มีรถมอเตอร์ไซค์ทรงสูงขับมาจอดเทียบฟุตพาทบริเวณเดียวกันกับที่อันดามันนั่งอยู่ คนที่ขึ้นคร่อมรถคันใหญ่ถอดหมวกกันน็อกออกและเอ่ยเรียกหญิงสาวที่กำลังนั่งก้มหน้าจดจ้องกับจออิเล็กทรอนิกส์ยิก ๆ ช่วงเวลาสองชั่วโมงเขากลับไปเปลี่ยนรถจากรถยนต์มาเป็นมอเตอร์ไซค์ ที่ไม่รู้ว่าเธอจะยอมซ้อนท้ายเขาหรือเปล่า
"อัน เราอยู่นี่"
"อ้าวไนท์" คนตัวเล็กลุกขึ้นและเดินเข้าไปหาชายหนุ่มด้วยความตกใจ เธอได้ยินเสียงรถที่จอดอยู่ตรงหน้าแต่ก็ไม่คิดจะเงยหน้าขึ้นมอง แต่พอเจ้าของรถเป็นไนท์ก็ทำให้ตกใจจนตาโต
"เรากลับบ้านไปเปลี่ยนรถมา ป๊าเราบอกจะเอารถไปเช็กให้น่ะ ช่วงนี้เราเลยต้องขี่มอเตอร์ไซค์มาเรียนแทน"
ตั้งใจว่าจะกลับไปหาป๊ากับม้าที่บ้านเพราะเขานั้นออกมาอยู่ที่คอนโดฯ ลำพัง อีกทั้งยังไม่ได้กลับบ้านมาหลายสัปดาห์ ถึงแม้ว่าบ้านของเขาจะอยู่ไม่ไกลจากมหาวิทยาลัยมากนัก แต่ไนท์เองก็อยากที่จะออกมาอยู่ส่วนตัวคนเดียว พอกลับถึงบ้านผู้ให้กำเนิดแทนที่จะออกปากคิดถึงกลับบ่นเขาจนหูชา แถมยังยึดกุญแจรถแล้วบอกว่าจะเอาไปเช็กที่อู่เพื่อตรวจสอบว่าเขาแอบเอารถยนต์ไปแต่งเติมอะไรที่ผิดกฎหมายหรือเปล่า นั่นจึงทำให้เขาต้องได้รถมอเตอร์ไซค์คันใหญ่คันนี้ติดตัวกลับมาด้วยแบบนี้
"งั้นเหรอ..."
"อันซ้อนได้ไหม ขอโทษทีนะ มันเหลือแค่คันนี้จริง ๆ"
อันดามันรีบโบกไหวมือและส่ายหน้าพัลวัน มันไม่ใช่การปฏิเสธแต่กลับเป็นคำตอบที่ว่าเธอสามารถซ้อนท้ายเขาได้อย่างเต็มใจ
"ซ้อนได้สิ แค่นี้สบายมาก เราเองก็ซ้อนท้ายเพื่อนออกตั้งบ่อย"
อันดามันซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์ของเพื่อนอยู่ตลอดเหตุด้วยเธอขับรถไม่เป็น หากแต่รถมอเตอร์ไซค์ทรงสูงแบบนี้เธอเองก็ยังไม่ค่อยลองเหมือนกัน
คนตัวเล็กจับที่บ่าแกร่งของไนท์เอาไว้เพื่อยึดหลัก ขณะที่ขาก็ก้าวเหยียบกับพนักเท้าเพื่อทรงตัวขึ้นนั่งซ้อนท้ายบนรถมอเตอร์ไซค์ กระทั่งเธอนั่งอยู่บนเบาะได้สำเร็จ รอยยิ้มบนใบหน้าหล่อเหล่าก็ปรากฏชัด ก่อนจะยกนิ้วโป้งเป็นการยกยอว่าเธอน่ะเก่งสุด ๆ
"เก่งมากอัน"
"ไนท์ขับรถเร็วรึเปล่า" หญิงสาวเอ่ยถามตาแป๋ว พอรู้อยู่บ้างว่าคนที่ขับรถแบบนี้จะชื่นชอบความเร็วอยู่ในตัว
"ก็เร็วอยู่นะ แต่วันนี้เราจะขับช้า ๆ จะขับให้ปลอดภัยที่สุดโอเคไหม" ราวกับล่วงรู้ว่าเธอกำลังกลัวอยู่ลึก ๆ เขาจึงเอ่ยบอกเพื่อให้เธอสบายใจ หากเธอซ้อนท้ายเขาเมื่อไหร่ก็จะประคองตัวรถให้ดีและปลอดภัยที่สุด
"ขอบคุณนะ"
"ก่อนกลับเราแวะไปกินปังเย็นกันก่อนไหม เราเห็นร้านเปิดใหม่อยู่แถวหลังมอ คิดว่าอันน่าจะชอบนะ"
พอจะได้เวลากลับก็ทำให้ชายหนุ่มอยากยื้อรั้งให้เธออยู่ต่ออีกสักหน่อย อย่างน้อย ๆ ก็ไปนั่งกินปังเย็นด้วยกันก่อนก็ยังดี
"ปังเย็นเหรอ..."
"อื้ม สนใจเปล่า" ใบหน้าหล่อเหลาหันมองคนด้านหลังที่ตอนนี้กำลังครุ่นคิดไปชั่วครู่
หญิงสาวพยักหน้าแทนคำตอบเป็นการตกลงในการเชิญชวนของเขา รถมอเตอร์ไซค์จึงขับเคลื่อนออกไปตามทางที่เรียกได้ว่าเป็นการขับช้าที่สุดเท่าที่เขาเคยทำ
ส่วนหนึ่งก็ไม่อยากให้คนตัวเล็กกลัว แต่ใจจริงเขาอยากใช้เวลาอยู่กับเธอนาน ๆ หวังให้สายลมที่พัดผ่านช่วยทำให้ความสัมพันธ์ของสองคนต่อติดกันให้ไวขึ้น
"ไนท์ขับไวกว่านี้ก็ได้นะ เราโอเค" เสียงเล็กเอ่ยพลางชะเง้อหน้ามองดูไมล์บริเวณหน้าปัดที่ขึ้นเพียงสี่สิบกิโลเมตรต่อชั่วโมงเท่านั้น
"เราอยากอยู่แบบนี้นาน ๆ น่ะ" ไนท์ตอบกลับไปด้วยรอยยิ้มทั้งที่ใบหน้ายังคงสนใจกับหนทางตรงหน้า
ทว่าคำตอบนั้นกลับทำให้อันดามันชะงักและแน่นิ่งไปในทันที ใบหน้าหวานเห่อร้อนและออกสีแดงระเรื่อ แถมหัวใจดวงน้อยก็ยังเต้นระส่ำไม่เป็นจังหวะที่แสดงออกว่าเธอกำลังหวั่นไหวกับเขาเป็นที่สุด
เธอเขิน...เธอกำลังเขินเขาที่เอ่ยคำคำนั้นออกมา!
ปิดใจมานานนับปี แต่พอเจอหนุ่มตี๋เข้าไปก็ทำให้เสียอาการซะงั้น!