เลขา กับท่านประธาน

2065 Words
ติ๊ติด ติ๊ติด ติ๊ติด นิราตื่นมาคว้านมือหานาฬิกาปลุกที่แผดเสียงดัง อยู่หัวเตียง ก่อนจะเพ่งสายตาที่เหนื่อยอ่อนไปดูเวลา “อร้ายยย สายแล้ววว งานวันแรกของช้านนนน” นิราแผดเสียงร้องเมื่อมองนาฬิกา ตอนนี้มันบอกเวลา 07.30 อีกครึ่งชม.เธอจะต้องไปอยู่ที่ทำงาน มันจะทันได้ไง กับเวลาครึ่งชั่วโมง แค่อาบน้ำก็เกินแล้ว “อ๊ะ อร้าย เจ็บ” นิราที่ลุกจากเตียงเพื่อจะไปอาบน้ำทรุดตัวลงนั่งที่พื้นคอนโดทันที นี่เธอเมาแล้วไปลากใครเข้าห้อง ร่างกายถึงมีสภาพนี้ “บ้าเอ้ย ทำบ้าอะไรลงไปเนี้ย” นิราไม่มีเวลาคิดเรื่องเมื่อคืนว่าเกิดอะไรบ้าง เธอกำลังจะพลาดงานสำคัญ นิราลุกขึ้นไปอาบน้ำอย่างรวดเร็ว เจ็บแค่ไหนก็ต้องอดทน งานนั่นสำคัญยิ่งกว่าชีวิต เพราะมันคือรายรับที่เธอจะใช้จ่ายในสิ้นเดือนนี้ “ชุดอะไรวะเนี้ย” นิราออกมาจากห้องน้ำค้นหาชุดที่เจนจิราเลือกให้เมื่อวาน มันใช้ไม่ได้สักชุด เธอต้องการชุดที่มันสามารถปกปิดรอยแดงเป็นจ้ำๆ ที่เธอเห็นตามตัวตอนอาบน้ำ “ไปสภาพเดิมก็ได้วะ” ตอนนี้เหลือเวลาแค่ 5 นาที นิราจึงเดินไปหยิบเชิตสีขาวในตู้กับกางเกงขายาวมาใส่ ผมสีดำปล่อยมันให้สยายไปเต็มแผ่นหลัง เพื่อปิดรอยที่คอ ส่วนหน้าไม่แต่งมันแล้ว เวลาหมดแล้ว เธอสายตั้งแต่ทำงานวันแรก “พี่วิน ไปซอย 57 ด่วนเลยค่ะ” นิราเดินมาโบกวินหน้าคอนโด ก่อนจะก้าวขาขึ้นมอไซด์ด้วยความลำบาก เพราะเจ็บตรงจุดอ่อนไหวที่มันบวมเจ่อ เธอรู้สึกว่ามันยังมีเลือดไหลซึม เธอจึงใส่แผ่นซึบซับไว้ด้วย นี่เธอโดนอะไรไปเนี้ยทำไมมันระบมขนาดนี้ “พี่วิน เร็วค่ะ หนูสายแล้ว” เอ่ยเร่งวินมอไซด์ทั้งที่พี่เขาขับเกือบ80ไปแล้ว ในเมืองหลวงแบบนี้ต่อให้เร่งแค่ไหนมันก็มีไฟแดงอะ “น้อง พี่เป็นวินนะ ไม่ใช่นักบิน จะได้เหาะได้ แหม๋ รีบขนาดนี้ไม่มาตั้งแต่เมื่อวานละ” วินหันหน้ามาแขวะ ตอนติดไฟแดง ก่อนจะขับต่อเมื่อไฟเขียวแล้ว “พี่วินอะ” นิราจึงนั่งเงียบๆ ซอยที่เธออยู่ กับที่ทำงาน มันไกลกันทีเดียว คงต้องทำใจน้อมรับคำด่าตั้งแต่วันแรกแล้วละนิราเอ้ย …….. เสือที่หนีออกมาจากคอนโดนิรา ตอนตี5 มานั่งทำงานด้วยอาการง่วงหง่าวหาวนอน กว่าเขาจะข่มใจได้ ก็ตี4 หรือแทบจะไม่ได้นอนเลย เพราะนิราที่หลับอยู่ข้างกาย “พี่เสือ เลขาคนใหม่ยังไม่มาเหรอครับ ฝ่ายบุคคลแจ้งแล้วใช่ไหม ว่าเมื่อวานผมรับเลขามาให้พี่แล้ว” สิงค์ที่รอประชุมเดินเข้ามาถามพี่ชายที่นั่งง่วงอยู่ในห้องทำงาน “เหรอ ยังไม่เห็นใครมาเลย นี่ถ้ามาสายเกินชั่วโมงไม่ต้องให้เข้ามานะ” เสือบอกอย่างหงุดหงิดก่อนจะหลับตาลงเอนหลังไปกับเก้าอี้ทำงาน พลางคิดถึงร่างที่เขานอนกอดเมื่อคืน “อ่า หรือคุณนิราเกิดเปลี่ยนใจ” สิงค์พูดแค่นั้นก่อนเดินออกไป เสือจึงเลิกคิ้วข้างนึง เลขาใหม่ชื่อเหมือนยัยคนเมื่อคืนเลยแฮะ “คนชื่อนิรามีเยอะแยะว่ะ” เสือพูดกับตัวเองก่อนจะหลับตาลงอย่างเหนื่อยอ่อน เขายังไม่อิ่มจากยัยนั่นเลย เสียดายชะมัด ............ นิราเมื่อมาถึงก็รีบเดินมากดลิฟทันที ตอนนี้ 08.49 ไปแล้ว เธอต้องโดนเพ่งเล็งแน่ๆ ที่มาสายตั้งแต่วันแรกแบบนี้ “คุณเจน นิรายังมีโอกาศไหมคะ” นิราเดินมาถึงโต๊ะก็เห็นเจนจิรานั่งทำงานอยู่แล้ว เจนจิราเพียงแต่ยิ้มให้นิรานิดๆ ก่อนจะมองสำรวจนิราอีกครั้ง “ไม่ผ่านค่ะ คุณไม่ใส่ชุดที่เจนเลือก แต่ตอนนี้เรื่องนั้นเอาไว้ก่อน ท่านประธานกำลังรออยู่ในห้องค่ะ รีบไปเถอะค่ะเพราะเหลืออีกแค่5นาที ก่อนจะหมดโอกาศที่ท่านให้ไว้” เจนจิราบอกพลางชี้ไปที่ห้องขนาดใหญ่ที่อยู่ห่างออกไปนิดเดียว นิรารีบวิ่งมาที่ห้องดังกล่าว ก่อนจะจัดชุดของตัวเองอีกครั้งแล้วรวบรวมความกล้า ยกมือเคาะประตูเบาๆ ก๊อก ๆ ๆ “เข้ามา” เสียงทรงอำนาจเอ่ยออกมาจากในห้อง นิราจึงเปิดประตูเข้าไปแล้วปิดลงอย่างเบามือ ก่อนจะก้มหน้าลงอย่างนอบน้อม ไม่ได้มองไปทางโต๊ะที่มีใครสักคนนั่งหันหลังอยู่สักนิด “สวัสดีค่ะ ดิฉันเป็นเลขาคนใหม่ที่เพิ่งเข้ามาวันแรกค่ะ” เธอพูดเท่าที่จำเป็นเท่านั้น “หึ ถ้าช้ากว่านี้ 1 นาทีผมไม่เอามาใช้งานหรอกนะ วันแรกก็สายขนาดนี้ แล้วงานสำคัญของผมจะไม่พังหมดเหรอ” เสือยังคงหันหลังให้คนที่เข้ามาในห้อง เขาไม่ชอบคนไม่ตรงต่อเวลา คงจะมัวแต่นอนกกกอดผัวละสิ วัยรุ่นสมัยนี้ก็แบบนี้ “ดิฉันขอโทษค่ะ” นิราเอ่ยเสียงเบา “ผมจะสัมภาษณ์ใหม่ ถ้าไม่ผ่านก็ไม่ได้ทำ” เสือพูดก่อนจะหันเก้าอี้กลับมา เป็นจังหวะเดียวกันกับที่นิราเงยหน้าขึ้นมาพอดี “แต่คุณนรสิงค์บอกว่ารับฉันทำงานแล้วนะคะ” นิราเถียงกลับ เธอถูกนรสิงค์นัดเข้าทำงานแล้วนะ แม้เธอจะมาสาย1 ชั่วโมงในวันแรกก็ตามเถอะ เธอควรได้ทำต่อสิ ไม่ใช่เริ่มใหม่หมดแบบนี้ “แต่ผมเป็นคนจ่ายเงินค่าจ้าง” เสือมองนิราที่วันนี้ดูแปลกตา เขาจำหน้าเธอได้ แม้ตอนนี้หน้าเธอจะไร้เครื่องสำอางบนใบหน้าเหมือนเมื่อคืน แต่ความสวยยังคงฉายชัด เขารู้ว่าเธอคือคนที่เขาคิดถึงเมื่อครู่แน่ๆ “ฉัน” นิราพูดอะไรไม่ออกเลย เธอจะทำยังไงดีถ้าเขาสัมภาษณ์เอง เธอจะได้งานไหม คนตรงหน้าดูไม่ได้ใจดีเลยสักนิด “เตรียมตัว5 นาที แล้วมาเริ่มสัมภาษณ์กัน” เสือพูดอย่างหงุดหงิด ตอนนี้เขาต้องโฟกัสเรื่องงาน มากกว่าเรื่องที่เธอทำเหมือนว่าจำเรื่องเมื่อคืนไม่ได้ “ฉันพร้อมแล้วค่ะ ไม่ต้อง5 นาทีหรอกตอนนี้เลย” เมื่อเธอไม่มีทางเลือก เธอก็ต้องพุ่งชนกับเขาตรงๆ นี่ละ “ดี! หวังว่าไอ้สิงค์คงไม่เอาเด็กบ้านนอกมาย้อมแมวเป็นเลขาผมหรอกนะ” เสือบอกออกไป ไม่คิดว่านั่นจะเป็นการดูถูกคนตรงหน้าสักนิด ดูยังไงเธอก็แตกต่างจากเมื่อคืนลิบลับ ผิวคล้ำที่โผล่พ้นเสื้อเชิตสีขาวนั่น ไหนจะใบหน้าสดๆ ที่หมองคล้ำนั่นอีก ทาครีมบ้างไหมเนี้ย หรือยัยนี่จะเป็นแฝดกับคนเมื่อคืนวะ ​ “อย่าดูถูกคนเพียงแค่เห็นภายนอกสิคะ มันดูไม่เป็นผู้นำเลย” นิราพูดออกไปอย่างนึกตำหนิ ตอนนี้เธอยังไม่ใช่พนักงานของที่นี่ “นี่เธอ / เริ่มเถอะค่ะ เสียเวลา” เสือกำลังจะอ้าปากต่อว่า นิราก็สวนกลับทันที เธอไม่ค่อยยอมใครซะด้วยสิ “แนะนำตัว กับนำเสนอแผนงานเล่มนั้นมาเป็นภาษาจีนสิ” เขารู้ว่าเธอได้ภาษาจีน เพราะดูจากเรซูเม่ที่วางแหมะอยู่บนโต๊ะนั่นแหละ ตอนแรกเขาไม่ได้สนใจมอง แต่พอก้มหน้าลงไปที่โต๊ะ ก็เห็นมันวางอยู่บนสุดเลยนะสิ ดูสิภาษาจีนหรือภาษาอะไรที่เธอพูดได้ “แผนการขยายยอดการส่งออกปีหน้าในจีน ที่มันลดลงเพราะคู่แข่งตลาดรถในจีนที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้การส่งออกและนำเข้าในปีหน้ามีแนวโน้วว่าจะลดลง แต่ตามการคาดการณ์ในตลาดหุ้นปีนี้ ยอดการนำเข้าก็ยังสูงอยู่ แม้ลูกค้าจะลดลงแต่ก็ไม่ถึงกับขาดทุน” นิราพูดภาษาจีนด้วยความชำนาญ ทันทีที่อ่านแผนการวิเคราะห์ตลอดส่งออกล่วงหน้าหนึ่งปีของบริษัทแบบคร่าวๆ “แต่ถ้าลองขยายการส่งออกไปในประเทศที่กำลังพัฒนาศักยภาพทางด้านการเงินอยู่ตอนนี้ น่าจะดีกว่า อย่างประเทศที่เปิดเสรีด้านการค้าน่าจะมีโอกาศขาดทุนน้อยกว่า แม้ยอดการนำเข้าจะสูงกว่าส่งออก แต่กำไรจากการนำเข้าก็น้อยนิด เพราะฉะนั้นการเปลี่ยนแผนงานจากการนำเข้ารถแพงๆ มาขายให้คนไทยด้วยกัน มาเป็นการผลักดันรถที่คนไทยทำไปขายในต่างประเทศ ด้วยราคาสูงกว่าที่นี่นิดหน่อยยังไงก็น่าจะได้กำไรมากกว่า” นิราสรุปแผนงานทั้งหมดต่อ “และสุดท้าย ถ้าทั้งนำเข้าและส่งออกรถยนต์จะได้กำไรขาดทุนไม่คุ้มเงินที่ลงไป ก็น่าจะเอาเงินที่มีไปลงกับธุรกิจอื่น เช่น ธุรกิจท่องเที่ยว แม้จะกำไรน้อย แต่คนก็ยังมาเที่ยวจากทุกประเทศทั่วโลก หรือธุรกิจสีเทา อย่างผับบาร์ร้านเหล้าที่แม้ภาษีจะแพงแต่ก็มีกำไรมหาศาล” นิราจบทุกอย่างลงด้วยภาษาอังกฤษสำเนียงที่ฟังแล้วรื่นหู “และท้ายที่สุด คุณควรไปนอนค่ะ ถ้าไม่มีความสามารถในการทำงาน” นิราพูดกระทบร่างสูงที่มองเธอด้วยสายตาหยาดเยิ้ม ผู้ชายคนนี้ง่วงนอนแน่ๆ ดูจากใบหน้าหล่อเหลาที่อิดโรย ไหนจะขอบตาคล้ำๆ อย่างคนอดนอนนั่นอีก “คุณไม่มีสิทธิมาวิจารณ์เจ้านาย” เสือบอกด้วยเสียงนิ่งๆ “คุณยังไม่ใช่เจ้านายค่ะ ตอนนี้ฉันแค่สัมภาษณ์งาน ยังไม่ใช่ลูกน้องคุณ ไม่ต้องมาใช้อำนาจข่มขู่ค่ะ” ทุกอย่างมันเป็นความจริงตามที่เธอพูด เธอเริ่มไม่อยากได้งานนี้แล้ว เพราะคนตรงหน้านี่แหละ สงสัยต้องรีบไปสมัครงานใหม่แล้วละ “ใครบอกคุณว่าผมไม่ใช่เจ้านาย ตอนนี้ผมรับคุณแล้ว เพราะอย่างนั้นก็เชื่อฟังด้วยละ คุณนิรา” เสือพูดด้วยเสียงที่ทรงพลังกว่าเดิม หวังข่มให้เธอกลัวเขา สักนิดก็ยังดี “ฉันเป็นเลขาค่ะ ไม่ใช่เมีย ฉันฟังได้เท่าที่ขอบเขตของงานกำหนดเท่านั้น ถ้าเกิดกว่านั้นฉันคงทำไม่ได้ ถ้าคุณไม่พอใจ ไม่ต้องรับฉันก็ได้ค่ะ เพราะฉันไม่อยากทำแล้ว” นิราพูดจบก็ลุกขึ้นทันที “นี่ จะไปง่ายๆ ได้ไง ฉันเสียเวลาสัมภาษณ์เธอตั้งนานนะ” เสือรีบพูดดักหน้าคนที่ทิ้งงานของเขาไปอย่างไม่ใยดี คนอื่นมีแต่อยากได้งานนี้ ยัยบ้านี่เป็นใครถึงได้กล้าเดินหนีทั่งที่เขารับเข้าทำงานแล้ว “ถ้าคุณเสียดายฉัน คุณควรจะเสียดายตั้งแต่เมื่อวานค่ะ ที่ทิ้งการสัมภาษณ์ฉันไป ที่จริงวันนี้ฉันควรเริ่มงานแล้วด้วยซ้ำ เพราะคำพูดพวกนั้นที่คุณถาม ฉันน่าจะได้ตอบมันตอนสัมภาษณ์เมื่อวาน แต่คุณกลับทิ้งมันไปหาคู่หมั้นคุณ แล้ววันนี้กลับมาบอกให้ฉันเริ่มสัมภาษณ์ใหม่ เจ้านายแบบนี้ฉันไม่อยากมีหรอกค่ะ ไม่มีความรับผิดชอบ” นิรามีแววตาวูบไหวกับคำสุดท้าย ใช่ ผู้ชายคนนี้ไม่มีความรับผิดชอบ เขาทิ้งเธอไว้ในห้องคนเดียวหลังจากช่วงชิงครั้งแรกของเธอไป ซ้ำยังทำเหมือนจำเธอไม่ได้อีก เธอที่นั่งสังเกตรูปหน้าหล่อเหลาของเขามาพักใหญ่ๆ เริ่มประติดประต่อความทรงจำเลือนลางเมื่อคืนจนมันชัดเจน ชัดเจนว่าเขาคือคนที่เธอนอนด้วยเมื่อคืน เธอต้องพาตัวเองหนีไปจากที่นี่โดยเร็ว เธอยังไม่ได้กินยาคุม เพราะรีบตื่นมาที่นี่ เธอต้องรีบกินก่อนที่ชีวิตจะพลาดให้กำเนิดเด็ก เด็กที่พ่อไม่มีความรับผิดชอบ เธอจำได้ว่าเมื่อคืนเขาปล่อยข้างในตัวเธอก่อนเธอจะหลับไป และเขามีคนรักแล้ว
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD