วันรุ่งขึ้น
พลอยลลินณ์เดินทางมาถึงบ้านภูริชตั้งแต่ 8 โมงเช้าซึ่งเธอนั้นมาก่อนเวลานัดหนึ่งชั่วโมง เพราะเธอเกรงว่าถ้าหากมาช้าอาจจะโดนเจ้านายป้ายแดงกระแนะกระแหนเอาได้
พลอยลลินณ์อยู่ในชุดเสื้อยืดสีฟ้าอ่อนที่มีขนาดตัวใหญ่กว่าตัวเธอพอสมควร กางเกงยีนส์รัดรูปสีเข้ม รองเท้าผ้าใบสีกรมท่า มัดผมสูงปล่อยเป็นหางม้าลงมาทำให้หน้าของเธอดูอ่อนกว่าวัยพอสมควร ชุดที่เธอเลือกใส่มานี้มาเพื่อจะคล่องในการเดินทางไกลกับนายจ้าง ร่างเล็กลงจากรถแท็กซี่หน้าประตูรั้วคฤหาสน์ เมื่อจ่ายเงินค่าโดยสารเรียบร้อยหญิงสาวก็เดินไปท้ายรถเพื่อหยิบกระเป๋าล้อลากใบโตและใบขนาดย่อมออกมาจากกระโปรงท้ายรถ เมื่อหยิบสัมภาระทั้งหมดออกมาแล้วเธอก็เดินไปกดออดหน้าประตูเพื่อรอให้คนงานในบ้านมาเปิดประตูให้
"มาแต่เช้าเลยลูก กินอะไรมาหรือยัง?" คุณนายภาวรรณเอ่ยถามเมื่อเห็นว่าผู้ช่วยคนใหม่ของลูกชายเดินลากกระเป๋าเข้ามาในตัวบ้าน
"สวัสดีค่ะคุณป้า" พลอยลลินณ์รีบปล่อยกระเป๋าในมือทั้งสองข้างยกมือพนมไหว้ผู้สูงวัยกว่า
"จ่ะ กินอะไรมาหรือยัง? เดี๋ยวป้าให้แม่บ้านตักข้าวต้มให้นะ" คุณนายภาวรรณพยักหน้ารับการแสดงความเคารพจากหญิงสาวก่อนจะถามเรื่องอาหารการกินซ้ำอีกครั้ง สายตาสาดส่ายมองหาแม่บ้านซึ่งน่าจะกำลังเก็บโต๊ะอยู่ เพราะท่านและลูกชายเพิ่งจะรับประทานอาหารเช้าเสร็จ
"ไม่เป็นไรค่ะ หนูกินมาแล้วค่ะ" พลอยลลินณ์รีบพูดเร็วก่อนที่คุณนายจะจัดแจงให้
"งั้นไปนั่งรอตาภูกับป้าในห้องนั่งเล่นก่อน ป้ามีอะไรคุยด้วยนิดหน่อย" เมื่อเห็นว่าหญิงสาวจัดการตัวเองเรียบร้อยแล้วท่านจึงชวนไปยังห้องนั่งเล่นขณะที่รอลูกชายท่านเตรียมตัว
"ป้าฝากหนูเป็นธุระให้ด้วยนะ"
เสียงผู้เป็นแม่แว่วขึ้นในห้องนั่งเล่นทำให้ภูริชที่ลงมาจากชั้นบนเดินเลี้ยวไปตามเสียง และเขาก็ได้เห็นผู้ช่วยสาวคนใหม่ซึ่งแม่ของเขาได้ฝากเข้าทำงาน จะว่าฝากก็ไม่เชิง พูดว่าบังคับให้เขารับจะถูกต้องกว่า คิดแล้วก็ต้องถอนใจเฮือกใหญ่อย่างหงุดหงิดที่จู่ ๆ ก็ได้ผู้ช่วยโดยไม่จำเป็น เธอคนนั้นกำลังนั่งคุยกับแม่ของเขาด้วยท่าทีที่สงบเสงี่ยม รอยยิ้มสดใสที่เขาเพิ่งเห็นครั้งแรกทำให้เขาต้องเผลอหยุดมองโดยไม่ได้ตั้งใจ
"โอ๊ะ.. สวัสดีค่ะคุณภูริช" พลอยลลินณ์ที่เหลือบไปเห็นร่างสูงก่อนทำหน้าตะหนกราวกับเห็นผีสางก่อนจะรีบยกมือขึ้นไหว้ชายที่อายุมากกว่าเธอสิบกว่าปี ใบหน้าเรียบเฉยของเขาทำให้เธอรู้สึกเกร็ง ๆ อยู่ไม่น้อย
"เตรียมของเสร็จแล้วเหรอลูก" หญิงสูงวัยหันไปถามลูกชาย
"ครับ"
"นี่หนูพลอย เรียกพี่เขาว่าพี่ก็ได้ จะคุณอะไรกัน" หลังจากที่หันไปทักลูกชาย คุณนายภาวรรณก็หันมาพูดแนะนำหญิงสาวในเรื่องการใช้สรรพนามเรียกชื่อ
"ไม่ได้หรอกค่ะ หนูไม่ได้สนิทกับคุณภูริชขนาดนั้น อีกอย่างเขาเป็นนายจ้างจะให้หนูเรียกสนิทสนมแบบนั้นคงไม่ดีแน่เลยค่ะ" พลอยลลินณ์ส่ายหน้าเพียงนิดเพื่อปฏิเสธขณะที่อธิบายเหตุผลเธอก็ตวัดสายตามามองคนที่ตีหน้ายักษ์อยู่ที่ประตูห้องนั่งเล่น
"ไปกันได้แล้วเดี๋ยวถึงนู่นค่ำ" พูดจบร่างสูงก็หันขวับกลับหลังไปโดยไม่รอว่าคนที่เขาพูดด้วยจะขยับตัวทันหรือเปล่า ทำให้พลอยลลินณ์ต้องลนลานหยิบกระเป๋าสะพายขึ้นพาดบ่าแล้วลุกขึ้นขึ้นยืนทันที
"เดี๋ยวป้าเดินไปส่ง" คุณนายภาวรรณพูดขึ้นแล้วค่อย ๆ ลุกขึ้นอย่างระมัดระวังเพราะหากว่าท่านรีบเกินไปอาจจะทำให้หน้ามืดเหตุเพราะเลือดขึ้นไปเลี้ยงสมองไม่ทันได้
สองหญิงต่างวัยเดินออกมาจากตัวบ้านพร้อมกันเพื่อมายังรถยนต์อเนกประสงค์คันใหญ่ที่มีภูริชกำลังยกกระเป๋าขึ้นรถอยู่
พลอยลลินณ์ลากกระเป๋าไปใกล้จุดที่คนตัวโตยืนจัดของที่ท้ายรถเพื่อที่จะเก็บกระเป๋าของเธอบ้าง แล้วเธอก็ใจหายวูบเพราะมือหนาได้เอื้อมมาดึงกระเป๋าที่เธอถือออกไปโดยไม่บอกไม่กล่าวทำให้ฝ่ามือร้อนมาโดนมือนุ่มของเธออย่างไม่ตั้งใจทำให้เธอปล่อยมือออกจากหูกระเป๋าอัตโนมัติ
"อ๊ะ!"
"ผมยกเก็บให้" ภูริชยอมเปิดปากพูดเสียงเข้มเมื่อเห็นอาการตะหนกของหญิงสาว เขายัดกระเป๋าใบย่อมเสร็จก็หันมาคว้ากระเป๋าล้อลากใบใหญ่ขึ้นไปเก็บอีกใบก่อนจะกระแทกลมหายใจหนัก ๆ ให้กับท่าทางรักนวลสงวนตัวของคนตัวเล็ก โตขนาดนี้ทำราวกับว่าไม่เคยถูกเนื้อต้องตัวกับผู้ชาย ภูริชได้แต่คิดกระแนะกระแหนในใจ เขาจะพูดออกมาตามใจคิดได้อย่างไรก็ในเมื่อแม่ของเขายืนยิ้มมองอยู่ ไม่รู้ว่าแม่ของเขาถูกอกถูกใจอะไรผู้หญิงคนนี้นักหนาถึงต้องตามออกมาส่งขนาดนี้
"ขอบคุณค่ะ" พลอยลลินณ์พูดพลางขยับถอยหลังเมื่อชายหนุ่มยกมือขึ้นเพื่อดึงประตูหลังรถให้ปิดลง
ภูริชไม่ได้พูดอะไร ได้เพียงเดินผ่านร่างบางไปยังฝั่งคนขับทำให้พลอยลลินณ์ต้องขยับตัวเดินไปฝั่งที่นั่งข้างคนขับทันทีก่อนจะโดนนายจ้างหงุดหงิดใส่ ยอมรับว่าตั้งแต่เห็นอารมณ์ร้อนของเขาเมื่อวานเธอก็ออกจะเกรงเขาอยู่ไม่น้อย
"ดูแลน้องด้วยนะตาภู อย่าให้แม่ต้องเสียหน้ากับน้าพิณเขา" ผู้เป็นแม่เดินมาใกล้ภูริชที่นั่งประจำที่คนขับแล้วพร้อมทั้งเอ่ยฝากฝังลูกสาวของเพื่อน ให้ชายหนุ่มดูแลทุกข์สุขของหญิงสาวราวกับเธอเป็นน้องสาวของเขาก็ไม่ปาน นั่นทำให้ภูริชต้องลอบถอนหายใจอย่างเบื่อหน่าย จู่ ๆ แม่ก็หาภาระมาให้เขาเสียอย่างนั้น
"ครับ ๆ ผมไปแล้วครับ สวัสดีครับ" ภูริชรับปากส่ง ๆ อย่างไม่เต็มใจจากนั้นจึงเอ่ยลาพร้อมทั้งพนมมือไหว้มารดาเพื่อตัดบทก่อนที่คุณนายภาวรรณจะสั่งการอะไรให้เขาต้องหนักใจอีก จะขัดใจมากก็ไม่ได้เดี๋ยวท่านจะเกิดน้อยใจขึ้นมาเป็นเขาที่จะเหนื่อย
"สวัสดีค่ะคุณป้า" พลอยลลินณ์เปล่งเสียงหวานพร้อมทั้งยกมือไหว้ การที่หญิงสูงวัยยืนทางฝั่งคนขับทำให้เธอต้องทำความเคารพโดยการข้ามตัวของคนตัวโต
"จ้ะ เดินทางปลอดภัยกันนะลูก เดี๋ยวป้าโทรหานะ" คุณนายภาวรรณยิ้มอบอุ่นให้ก่อนจะก้าวถอยหลังเพื่อให้ลูกชายปิดประตูรถ แต่ก่อนที่ชายหนุ่มจะปิดสนิทมารดาของเขาก็ชะเง้อไปพูดกับหญิงสาวตัวเล็กข้างเขาเป็นคำสุดท้าย
***************************
รำคาญเข้าไป หงุดหงิดเข้าไป แล้วอย่าให้เห็นนะว่าตามตูดน้องต้อย ๆ น่ะ แม่จะฟาดให้555555