2
พวกเราเก้าคนพากันมารอฟังข่าวจากบีไอที่รังของผู้ชายพันธุ์เถื่อน ระหว่างนี้ฉันก็เห็นพวกเขาทั้งสี่คนนั่งกดโทรศัพท์หาใครก็ไม่รู้ยิกๆแต่หน้าตาดูเครียดกันมากเลยทีเดียว บางทีอาจจะเป็นคนของพวกเขาที่กระจัดกระจายอยู่ตามที่ต่างๆในประเทศไทยก็ได้ ก็เจ้าพวกนี้น่ะอิทธิพลแทบจะคับฟ้า เพิ่งรู้ว่าการมีอิทธิพลมันมีประโชยอย่างนี้นี่เอง และฉันที่เป็นแฟนของผู้มีอิทธิพล ก็จะมีอิทธิพลตามไปด้วย เอ่อ…ทุกคนเข้าใจสิ่งที่ฉันกำลังจะอวดใช่มั้ย =__=;;
ครืด…ครืด…
รุ่นพี่สโนว์ไวท์กดรับโทรศัพท์ที่โทรเข้ามาก่อนจะปลีกตัวไปคุยอีกทาง ระหว่างนี้พวกผู้ชายพันธุ์เถื่อนคนอื่นๆก็คุยโทรศัพท์เสร็จพอดี พวกเขาเดินเข้ามานั่งร่วมกลุ่มกับพวกเราด้วยสีหน้าไม่ค่อยสู้ดีนัก มันพลอยทำให้ฉันวิตกกังวลไปด้วย บีเอ็มเดินมานั่งลงข้างๆฉันพร้อมกับจับมือฉันเอาไว้ทั้งสองข้าง
“ตัวเองไม่ต้องกังวลนะ เค้ากำลังพยายามหาทางช่วยเนียร์กับฟาเลย์อยู่” ฉันพยักหน้ารับ
ฉันรู้ว่าตอนนี้บีเอ็มก็คงจะคิดหนักอยู่ไม่น้อย เพราะเบาะแสที่พวกเราหาไม่ได้ตอนนี้มันน้อยเกินไป น้อยมากจนพวกเราเดาไม่ถูกเสียด้วยซ้ำว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับเนียร์และฟาเลย์กันแน่
“แล้วยัยสโนว์แมนล่ะ” บีโอถามพลางกลอกตามองไปทั่วห้อง
“ออกไปคุยโทรศัพท์น่ะ นั่นไง มาพอดีเลย”
รุ่นพี่ออโรร่าตอบพร้อมกับชี้ไปที่รุ่นพี่สโนว์ไวท์ที่เดินเข้ามาพอดี สีหน้าดูมีความหวังแต่ก็ดูมีเรื่องกังวลใจ ใครโทรมากันนะ? ต้องมีเรื่องอะไรแน่ๆเลย
“เป็นอะไร -_-“ บีเอถามเมื่อรุ่นพี่สโนว์ไวท์กลับมานั่งที่ของตัวเอง
“บีไอโทรมาน่ะ เขาบอกว่าโทรเข้าเบอร์พวกนายไม่ติดเลยสักคน”
ถ้าติดก็แปลกแล้วล่ะ เพราะเมื่อกี้พวกเขาสี่คนเองก็กำลังโทรศัพท์อยู่เหมือนกันนี่นา
“แล้วได้เรื่องอะไรบ้างหรือเปล่าคะ?” มู่หลานรีบถาม
“บีไอบอกว่า…ทางตำรวจเองก็สืบมาได้พอๆกับพวกเราคือนักเรียนหญิงพวกนั้นเรียนโรงเรียนกวดวิชาเดียวกัน แต่วิชาอะไรนั้น...ทางตำรวจเองก็ยังไม่ทราบ" รุ่นพี่สโนว์ไวท์ตอบ
“ถ้าอย่างนั้น...ตอนนี้จุดเชื่อมโยงที่เราพอจะรู้ก็คือ นอกจากนักเรียนหญิงที่หายไปทั้งหมดจะเรียนอยู่ที่โรงเรียนกวดวิชาเดียวกัน แต่ว่าทางผู้ปกครองไม่ทราบเลยว่าบุตรหลานของตัวเองลงเรียนภาษาอะไรไว้” บีโอเริ่มประมลเรื่องราวทั้งหมดเป็นคนแรก
“แสดงว่าจุดเชื่อมโยงคือทุกคนไปเรียนพิเศษภาษากันหมด งั้นที่พวกเราสงสัยกันน่าจะเป็นเรื่องจริง เอาอย่างงี้ พวกเราห้าคนแยกย้ายกันไปลงเรียนพิเศษภาษากันคนละภาษา ถ้าจำไม่ผิด โรงเรียนนั้นเปิดสอนสี่ภาษาใช่หรือเปล่า” บีวายเริ่มเปิดประเด็นขึ้นแผนการ
“ใช่ มีอังกฤษ ฝรั่งเศษ เกาหลีแล้วก็ญี่ปุ่น -_-” บีเอตอบ
แล้วก็ถึงเวลาฉันต้องกลายร่างเป็นอะไรสักอย่างที่คอยประกอบฉากเฉยๆ เพราะไม่รู้จะพูดอะไรดี สมองของฉันก็ไม่ได้อัจฉริยะพอที่จะคิดแผนอะไรต่อมิอะไรออกมาได้เหมือนพวกเขา T_T
“บีเอ ถ้างั้นแกก็ไปญี่ปุ่นด้านที่แกถนัดละกัน ส่วนแกบีโอ ภาษาอังกฤษฉันยกให้ละกัน เอาไอ้บีไอไปด้วย แกมันพวกอารมณ์ร้อน ให้เจ้าพ่ออารมณ์เย็นอย่างไอ้บีไอตามไปคอยประกบ น่าจะไปรอด และแกไอ้บีเอ็ม...ภาษาเกาหลีเป็นของแก ส่วนฉันจะลงเรียนฝรั่งเศสเอง ฉันเชื่อว่าต้องมีเบาะแสอยู่ในวิชาที่พวกเรากำลังจะไปเรียนแน่ๆ =_=” บีวายร่ายยาวมาเป็นชุด
ฉันลอบสังเกตสีหน้าของบีโอตอนที่โดนบีวายหลอกด่า เขาขมวดคิ้วมองหน้าบีวายจนคิ้วแทบจะหายเข้าไปในเบ้าตาอยู่แล้ว ฮ่าๆๆ
“นี่พวกนายคิดจะแฝงตัวเข้าไปสืบคดีในโรงเรียนนั้นกันจริงๆ เหรอ” ราพันเซล สีหน้าเต็มไปด้วยความกังวล
“อยากได้ลูกเสือก็ต้องเข้าถ้ำเสือ จริงมั้ยล่ะ!”
พูดได้เข้าหูฉันมากเลยบีโอ! นานๆทีหมอนี่จะพูดจาเข้าหูฉันนะ เพราะทุกทีเราจะถล่มน้ำลายใส่กันตลอด
“ถ้าอย่างนั้นติดเครื่องดักฟังและเครื่องส่งสัญญาณเอาไว้ที่ตัวด้วยสิ เผื่อเกิดเหตุผิดพลาดอะไรพวกฉันจะได้แจ้งตำรวจแล้วตามไปช่วย” ราพันเซลพูดต่อ
“ผมว่าอย่าดีกว่าครับ ถ้าเกิดโรงเรียนนั้นมีส่วนเกี่ยวข้องกับการหายตัวไปของนักเรียนหญิงจริงๆ มันน่าจะมีคนคอยแอบจับตามองรอบๆ โรงเรียนเพื่อดูความเคลื่อนไหวของตำรวจ ดีไม่ดีมันอาจจะมีเซ็นเซอร์ตรวจจับเครื่องดักฟังหรือเครื่องส่งสัญญาณไว้ด้วยก็ได้ ผมว่าเพื่อความปลอดภัย พวกผมจะเข้าไปแต่ตัวเหมือนนักเรียนคนอื่นๆ น่าจะเวิร์คกว่านะครับ -_-“
“ไอ้บีเอพูดถูก การที่มันสามารถจับตัวนักเรียนหญิงไปได้เป็นยี่สิบคนโดยที่ตำรวจยังไม่สามารถสาวไปถึงตัวบงการได้แบบนี้ แสดงว่ามันต้องระมัดระวังและรอบคอบมาก ขืนสุ่มสี่สุ่มหาทำอะไรบุ่มบ่าม มันอาจจะส่งผลเสียต่อพวกเรามากกว่าผลดีก็ได้”
ฉันมองหน้าอีตาบีวายที่พูดออกมาได้เป็นฉากๆอย่างเหลือเชื่อ ถึงหมอนี่จะปากปีจอ ชอบจิกกัดเวลาเผลอ แต่เวลามีปัญหาเกิดขึ้น เขาก็เอาจริงเอาจังและดูเป็นคนที่พึ่งพาได้เหมือนกันนะ ต่างจากไอ้คนที่นั่งอยู่ข้างๆฉันราวฟ้ากับเหวเลย หน้าสิ่วหน้าขวานสถานการณ์ตึงเคีรยดขนาดนี้ยังมีอารมณ์หยิบกระจกขึ้นมาส่องดูหน้าตัวเองอีกนะ - -*
“ยังไงก็คงห้ามพวกนายไม่ได้สินะ เอาไงก็เอากัน ระวังตัวให้มากๆก็พอ -_-“
รุ่นพี่สโนว์ไวท์ยอมรับแผนการในที่สุด
“ถ้าอย่างงั้นก็ตกลงตามนี้เลยนะคะ เราคงมีเวลาไม่มาก ต้องเร่งมือหน่อยแล้ว” มู่หลานพูดขึ้น
“หือ? ตกลงอะไรกันเหรอ ขออีกรอบสิ เมื่อกี้มัวแต่บีบสิวอยู่อ่ะ >___3<”
“เฮ้ๆ พวกเธออย่ามาทำหน้าเศร้ากันสิ กำลังใจสำคัญที่สุดของพวกฉันคือพวกเธอนะ ถ้าพวกเธอเป็นแบบนี้ พวกฉันก็กังวลแย่น่ะสิ”
คำพูดของบีโอทำให้ฉันที่กำลังจะเปิดปากร้องไห้บ้างหยุดชะงักไป
“ใช่ครับ ถ้าระหว่างที่กำลังหาเบาะแสแล้วผมเกิดนึกถึงสีหน้าของคุณหนูที่เป็นกังวลแบบนี้ขึ้นมา ผมคงเสียสมาธิแย่ และนั่น...อาจจะเป็นสาเหตุทำให้ผมโดนจับได้ก็ได้นะครับ -_-“
“จริงด้วย พวกเธอคือจุดอ่อนของพวกเรา แต่ขณะเดียวกัน พวกเธอก็สามารถกลายเป็นจุดแข็งของพวกเราได้ เพราะงั้น...ยิ้มไว้นะ ยิ้มเยอะๆ พวกฉันจะได้สบายใจไง ^^”
“หึ ยิ้มแบบนายน่ะเหรอ ยิ้มเทวดา ยิ้มทำลายล้างโลก”
“แล้วไม่ชอบเหรอ ยิ้มของฉันน่ะ ^^”
รู้สึกว่าจากฉากดราม่ากำลังจะกลายเป็นฉากกุ๊กกิ๊กระหว่างบีไอกับรุ่นพี่สโนว์ไวท์ซะแล้วนะเนี่ย
“แฮ่มๆ ปากนายจะชนแก้มสโนว์ไวท์แล้วย่ะ” ราพันเซลขัดจังหวะขึ้น
รอก่อนนะเนียร์ ฟาเลย์ พวกเรากำลังจะไปช่วยเธอแล้ว อดทนรอฉันก่อนนะ...