ตั้งแต่เกิดเรื่องวันนั้นเนี่ยเฟยก็มาทำงานตามปกตินางเลี่ยงที่จะไม่เจอไป๋อิงถ้าเป็นไปได้นางขี้เกียจมาต่อล้อต่อเถียงกับเขาอีกแล้วถึงอธิบายอะไรออกไปเขาก็ไม่เชื่อนางอยู่ดีเนี่ยเฟยที่กำลังจมอยู่กับความคิดก็เกิดอาการไอขึ้นมา
''แค่ก แค่ก แค่ก''
รีบหยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาปิดปากของตัวเองเอาไว้เลือดไหลออกมาเช่นเคย แต่วันนี้น้อยกว่าปกติเนี่ยเฟยไม่ได้สนใจอะไรนัก เป็นปกติที่นางจะไอแล้วมีเลือดออกมา
วันนี้งานเยอะมากจนเกือบถึงช่วงเย็นร่างบางได้เดินออกมาเตรียมตัวที่จะกลับบ้านก็ได้เดินมาเจอกับไป๋อิงเข้า เขามองตรงมาที่นางเช่นกัน ทำให้เนี่ยเฟยเลี่ยงที่จะไม่สนใจแล้วเดินตรงผ่านไปข้างหน้า
แต่กำลังจะเดินผ่านไปก็ได้ถูกมือหนาจับแขนไว้เสียก่อนทำให้ร่างบางได้หันหน้าไปตามแรงจับ
ไป๋อิงที่เห็นว่าตัวเองจู่ๆ ก็คว้ามือของนางเอาไว้ก็ได้รีบทำการปล่อยทันที
''ขะ..ข้าขอโทษเจ้าในวันนั้นด้วยข้าเข้าใจเจ้าผิดไป''
เนี่ยเฟยถอนหายใจเบาๆ ''ข้าเข้าใจท่านที่ท่านจะคิดเช่นนี้แต่ก่อนข้าเคยกลั้นแกล้งนางก็จริงอยู่ แต่ตอนนี้ข้าไม่คิดที่จะทำเช่นนั้นแม้แต่น้อย อ๊ะ! แล้วอีกอย่างข้าก็ต้องขอโทษท่านที่แต่ก่อนข้าชอบไปวุ่นวายทำให้ท่านรำคาญใจเสมอมาแต่ตอนนี้จะไม่เป็นเช่นนั้นอีกต่อไปแล้วเจ้าค่ะ ท่านวางใจได้''
เนี่ยเฟยได้เอ่ยจบกำลังที่จะเดินออกไปก็ถูกเสียงทุ่มเอ่ยออกมา
''เจ้าหมายความว่าอย่างไร''
ไป๋อิงมองตรงไปที่หลังของร่างเล็กที่กำลังจะเดินหนีเขาออกไป ใบหน้าของนางในยามนี้แสดงออกมาอย่างไม่โกหกเลยสักนิด ทำให้เขานั้นรู้สึกแปลกๆ
''ข้าหมายความว่าต่อจากนี้ข้าจะไม่ไปขวางทางท่านกับแม่นางเจียวแล้วเชิญพวกท่านตามสบาย'' เนี่ยเฟยเอ่ยจบพร้อมกับเดินออกไปทันที
ปล่อยให้ไป๋อิงไม่เข้าใจคำพูดของนางแม้แต่น้อยนางบอกว่านางจะไม่ขวางทางข้ากับแม่นางเจียวแล้วอย่างนั้นหรือ ข้ามิได้ชอบแม่นางเจียวเสียหน่อย!
หนึ่งเดือนต่อมา
หญิงสาวเริ่มคุ้นชินและเริ่มรู้จักคนในสำนักแล้ว บางคนก็เริ่มที่จะไม่มีอคติกับนาง ในคราแรกใครๆก็ต่างรับรู้อยู่แล้วว่านิสัยของนางนั้นเป็นเช่นไร เลยไม่มีผู้ใดกล้าที่จะเข้ามายุ่งวุ่นวายนักแต่ไม่นานมานี้หญิงสาวได้เปลี่ยนไปทำให้ผู้คนเริ่มที่จะเปิดใจให้นางมากขึ้น แม้ว่าจะไม่ทั้งหมดก็ตาม
เนี่ยเฟยนางตั้งใจที่จะไปทำอาหารเตรียมไว้ให้พวกลูกศิษย์ในสำนักนั้นได้ทานหลังเลิกเรียน ช่วงนี้นางว่างอยู่แล้วไม่มีอะไรให้ทำนัก เลยอาสาช่วยทำอาหารด้วยอีกแรง
''หุงข้าวเสร็จแล้ว''
''วันนี้ทำหมูแดงอบน้ำผึ้งดีกว่า''
หญิงสาวได้บ่นออกมาพรึมพรำอยู่คนเดียวก่อนที่จะมองหาวัตถุดิบแล้วเริ่มลงมือทำอาการอย่างตั้งอกตั้งใจ
เนี่ยเฟยจัดการเตรียมวัตถุดิบก่อนที่จะลงมือหันหนังของหมูสามชั้นออก จากนั้นล้างให้สะอาด ก่อนที่จะลงมือหมักหมูด้วยเครื่องปรุงรสน้ำผึ้งแล้วก็ขิง แล้วทำการคลุกเคล้าให้เข้ากันหมักทิ้งไว้ประมาณ สองเค่อ
ก่อนที่จะเอาเข้าเตาอบไว้ประมาณสองเค่อ พอใกล้ที่จะสุกแล้วทำให้กลิ่นหอมนั้นลอยออกไปจากในครัวทำให้เด็กๆที่เรียนเสร็จกันแล้วนั้นจึงได้พากันรีบวิ่งมาดู
''นี่ๆ พี่สาวต้องทำอาหารอร่อยๆอีกแน่เลย'' ตงตงลูกศิษย์ตัวน้อยได้จูงแขนสหายของตนเดินมาแอบมองที่ครัว
''หอมมาก!!'' จือจือ เด็กสาวก็ได้เอ่ยตอบสหายออกไปพร้อมกับน้ำลายจะไหลออกจากปากน้อยๆได้ทุกเมื่อ
เนี่ยเฟยที่สังเกตเห็นว่ามีเหล่าลูกศิษย์ตัวน้อยทั้งหลายมาแอบดูนางอีกเช่นเคย สงสัยคงจะได้กลิ่นอาหารลอยออกไปแน่ๆ
''ใกล้จะเสร็จแล้ว พวกเจ้ารีบไปล้างมือเถิดประเดี๋ยวพี่สาวคนนี้จะยกออกไปรอดีหรือไม่''
''ดีขอรับ! / ดีเจ้าค่ะ!''
เหล่าลูกศิษย์ตัวน้อยที่ได้ยินเช่นนั้นก็ถึงกับดีใจออกมาทันทีแล้วรีบพากันออกไปล้างมือก่อนที่จะตรงไปที่โต๊ะนั่งประจำ
''วันนี้เหนื่อยหน่อยนะแม่นางเนี่ยเฟย''
''ไม่เหนื่อยหรอกเจ้าค่ะข้าเต็มใจที่จะทำเอง''
''งั้นรึ เช่นนั้นให้ข้าช่วยเถิด'' อ้ายเสินรีบเข้าไปยกอาหารช่วยหญิงสาวก่อนที่จะเดินออกมาพร้อมกัน เขาอดที่จะสูดดมกลิ่นอาหารที่ลอยออกมาโดนปลายจมูกไม่ได้ ช่างหอมยิ่งนัก!
สหายของเขานั้นตอนนี้หากรู้ว่าหญิงสาวที่เคยชอบนั้นได้เปลี่ยนไปแล้วแถมยังเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นอีกด้วยคงจะรู้สึกเสียดายไม่น้อย นึกแล้วก็อดที่จะหัวเราออกมาไม่ได้
นางในยามนี้ช่างแตกต่างกับเมื่อก่อนอย่างมาก ในยามนี้นางทั้งทำอาหารเป็นแถมยังอร่อยมากอีกด้วยจนเหล่าลูกศิษย์ตัวน้อยๆของเขานั้นกำลังจะโดนนางแย่งไปเลยด้วยซ้ำ
ทำให้เนี่ยเฟยนั้นแปลกใจเหตุใดจู่ๆเขาถึงหัวเราะออกมาแต่ก็ไม่ได้เอ่ยถามอะไรออกไปสงสัยเขาคงจะหิวข้าวแหละมั้งนะ